ความจริงตั้งใจจะแต่งเรื่องเศร้า
ไปๆมาๆไหงออกมาเป็นงี้ไม่รู้เหมือนกัน..สงสัยเพราะอารมณ์ซึ้งยังไม่ปรากฎ 555 เรื่องนี้จะจบประมาณ3ตอน
แต่ถ้ายืดก็คงไม่เกิน 5 ตอนแน่นอนค่ะ (เป็นเรื่องสั้นนี่นา) ^^
ขอโทษเถอะ ผมเกลียดเธอ!
ตอนที่ 1
ถ้ามีใครสักคนชี้หน้าผมว่าอย่างผมน่ะตายไปต้องตกนรกผมจะไม่ปฏิเสธเลยสักคำ
แต่ที่แน่ๆไอ้คนพูดนั้นคงได้ขึ้นไปเยี่ยมชมสวรรค์ที่ผมไม่มีโอกาสได้ไปก่อนเลย ผมรับรอง
ผมกล้าตะโกนดังๆว่าผมน่ะมันเลว! เพราะผมรู้น่ะสิว่าไม่มีใครได้ยินหรอก ตราบใดที่ผมยังมีเงินอยู่
แต่ เธอ กลับได้ยินมัน
.
วันนั้นมันเป็นวันที่ประหลาดผมผ่านสนามเด็กเล่นเล็กๆเก่าๆ ที่มีแค่ชิงช้าเก่าๆอยู่อัน กับไม้กระดก
และก็กระดานเลื่อนแค่นั้นเอง
..
แต่ผมที่กำลังหาที่พักหย่อนอารมณ์ก็จอดรถจากต่างประเทศราคาหลักล้านของผมและเดินลงคลุกดินทรายหลังจากเหยี
ยบบนพรมในบริษัทมานาน
มีเด็กไม่กี่คนเล่นฟุตบอลกันอยู่กับ
.เธอ
วินาทีแรกที่ผมเห็น ผมรู้สึกว่าผมเกลียดเธอเสียจริงๆ!
ตอนแรกผมก็ไม่ค่อยจะเข้าใจนัก จนเธอเบือนหน้ามาสบตากับผมน่ะแหละ
อย่านึกน่ะว่าจะมีไฟฟ้าช็อตให้ผมหลงรักเธอแบบในนิยายน่ะ ไม่มีหรอกครับ แต่มันดึงดูดผมได้จริงๆ
ดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นของเธอที่นั่งบนชิงช้าน่ะมีแววที่ทำให้ผมเกลียดเธออย่างรุนแรงเลย
มันเหมือนเธอมองทะลุอะไรสักอย่างในตัวผม ทำให้บางอย่างในตัวผมเคลื่อนไหวได้
อะไรบางอย่าง
ผัวะ!!!
ผมได้ยินแค่นี้ก่อนจะมึนไปหมด ก่อนจะรู้ว่าลูกบอลของเจ้าเด็กพวกนั้นมันลอยมาที่ศีรษะผมเข้าเต็มรัก
แรงโมโหโกรธาทำให้ผมขว้างไปที่เจ้าเด็กพวกนั้นก่อนทำหน้าดุๆให้พวกเขาวิ่งหนี และหันไปมองเธอต่อ
แต่เธอมายืนต่อหน้าผมแล้ว!
ตัวเองเลวก็เลวไปสิ ทำไมต้องไปพาลให้เด็กคิดว่าตัวเองเลวด้วยล่ะ
เธอพูดอย่างเฉยชาก่อนเดินผ่านผมไปอย่างไม่ไยดี
แต่คนอย่างผมน่ะหรือ จะยอมให้เธอมาทำท่าที เชิด ใส่ผม อย่าฝันเลย
ถ้าเป็นงั้นผมก็ไม่ใช่ผมแล้วล่ะครับ
ผมคว้าข้อมือกลมกลึงของเธอได้โดยแลกกับกระเป๋าสะพายของเธอที่ผัวะเข้าให้ทีหนึ่งก่อนเธอจะเอ้อระเหยไปจนได
้
..
แต่ถ้ามันจบแค่นี้ก็คงดีสิครับ
.
วันต่อมาผมที่พกพาความขุ่นเคืองอัดไว้ในตัวเองเกิน120เปอร์เซนต์ก็เข้าไปทำงานในบริษัทตามตำแหน่งประธานเห
มือนเช่นทุกวัน
วันนี้ผมต้องอยู่ดูแลเด็กที่จะมาฝึกงานที่บริษัทของผมด้วย
..ปกติผมไม่ชอบนักหรอก เพราะรำคาญ
คิดดูเถอะขนาดคู่ควงผมแต่ละคนที่ผมควงสามวันเป็นสถิติสูงสุดน่ะ ผมเคยควงเด็กซะที่ไหนล่ะ
ไม่ใช่อะไรหรอก ผมรำคาญเด็กที่ชอบพร่ำเพ้อถึงความรัก เอาเซ็กส์ที่มีๆกันไปปนเปกับความรักน่ะสิ
ทั้งๆที่ตัวผมก็ไม่รู้เหมือนกันไอ้ความรักที่เขาพร่ำเพ้อนั่นน่ะ
แต่คราวนี้ผมไม่คิดจริงๆว่า1ใน เด็ก จะเป็น เธอ
ผู้หญิงที่สนามเด็กเล่นคนนั้นที่ผมเกลียด!
เธอก็มองมาที่ผมเหมือนกัน แต่ผมไม่คิดว่าเธอจะสนใจ ชื่นชม
อะไรก็ตามที่เป็นความรู้สึกแง่บวกแบบที่เพื่อนสาวๆหลายคนของเธอกำลังมีให้ผม
ผมคิดว่าคงไม่มีในเธอแน่นอน
ในเมื่อดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้นมันว่างเปล่าเหลือเกิน
เหมือนเธอมองมาที่ก้อนกรวดหรืออะไรสักอย่างก็ตามที่ชาวโลกเห็นว่าไม่มีค่า
เธอเห็นเจ้าสิ่งนั้นเป็นผม!
ผมรู้ดีว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายบุคคลต้องอธิบายให้เด็กพวกนี้ฟังก่อน ว่าพวกเขาต้องทำอะไร
ดวงตาหลายคู่ของนักศึกษาสาวๆมักจับจ้องมาที่ผมเสมอๆ แถมบางคนมีการทอดสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กมาให้อีก
.
แต่ไอ้ลูกตาสีน้ำตาลเข้มอันเฉยเมยนั้นมันขวางหูขวางตานัก!
ไอ้ความขวางหูขวางตานี่แหละครับ ที่ทำให้เธอได้มาอยู่ในตำแหน่งเลขาณุการิณีของผม!
เธอเองก็ไม่มีทีท่าแปลกใจอะไร
จนผมชักสงสัยว่านอกจากหน้าเย็นๆกับรยยิ้มหวานๆที่ดูเชือดเฉือนนั้นเธอทำหน้าแบบไหนเป็นอีก
ไอ้หน้าแบบที่ทำให้ผมไม่เกลียดเธออย่างตอนนี้น่ะ เธอจะทำเป็นไหม?
เอาอีกแล้วล่ะสิ ผมเริ่มคิดฟุ้งซ่านไปถึงเรื่องไหนต่อไหนแล้ว
ว่าอันที่จริงคนอย่างผมน่ะ
เรื่องผู้หญิงที่ผมคิดมันต้องต่ำกว่าสะดือลงไปหน่อยประมาณนั้นแหละ ผมถึงจะมีสมาธิกับมันได้
มันชวนให้คิดจริงๆว่าแม่สาวน้อยหน้าห้องคนใหม่ของผมสดๆร้อนๆ เบ็ญจภา คนนี้
.จะเป็นอย่างไรหนอ ใน
เรื่องนั้น
ผมมันคนเลวอยู่แล้ว เพราะงั้น แค่หลอกจัดการพาเธอเข้าโรงแรมสักทีสองทีคงไม่เสียหายอะไร
มันคงจะเพิ่มเกียรติความเป็น เสือผู้หญิง ของผมที่ร่ำลือกันด้วย
ผมเกลียดเธอหรอก ผมถึงจะทำน่ะ!
คิดได้ดังนั้นแล้วพอเวลา5โมงครึ่งปุ๊บ
ผมก็ลุกออกจากโต๊ะทำงานตามวิสัยเจ้านายที่ดีเตรียมเดินออกมาจากห้องทำงาน
แต่ก่อนที่ผมจะได้ออกไปจากโต๊ะและกองงานมหึมา
ประตูก็เปิดผัวะออกมาพร้อมๆกับที่ร่างอวบอิ่มของคู่ขาคนล่าสุดของผมสาวิตาเดินเข้ามาเกาะแขนลากผมไปโดยที่
ผมได้แต่เดินออกมาอย่างปฏิเสธไม่ออก
ก็หัวอกชายหนุ่มโสดน่ะ
มีหน้าอกนุ่มๆขอสาวเซ็กซี่อย่างสาวิตามาเบียดอยู่ที่แขนจะให้อยู่เฉยๆมันก็กระไรอยู่
แต่กระนั้นผมนายเทพบดินทร์มีหรือจะล้มเลิกความตั้งใจ จัดการคนที่เกลียด อย่างเธอไปได้
ผมเลยเดินออกมาหยุดอยู่ที่โต๊ะทำงานของเลขาฯสาวที่ผมมองดูต้องยอมรับว่าสวยจริงๆ
.
ถ้า
ผมไม่เกลียดเธอผมก็คงยอมรับได้มากกว่านี้
ไปกินข้าวกับผมเถอะ
.แพร์
ผมถือโอกาสเรียกชื่อเล่นของเธอด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มที่ผมรู้ดีว่าใช้เมื่อไรสาวๆละลายกันเมื่อนั้นแหละ
และทำให้สาวที่ไม่รับคำพูดนั้นจากผมอย่างสาวิตาที่อยู่ข้างๆออกอาการที่เรียกกันแต่โบราณว่า
ลมเพชรหึง
ลูกแก้วสีเข้มคู่นั้นตวัดมองผมพร้อมรอยยิ้มแบบที่สองของเธอที่เธอทำเป็น ไอ้แบบที่ผมเกลียดนักหนา
รอยยิ้มหวานๆแต่เชือดใจคนดู!
ผมล่ะอยากรู้นักว่าใครมันสอนเธอ ผมจะได้จัดแจงหาคนส่งไปชมสวรรค์เสียเลย มันน่าขัดตาน้อยเมื่อไร
และที่สำคัญ ไอ้เสียงหวานเย็นแบบเดียวกับที่ผมได้ยินมาเมื่อวานเลย ผิดกันแต่ประโยคเท่านั้นแหละ
ขอโทษค่ะ ดิฉันจะทานข้างล่าง
ก่อนที่หล่อนจะลดเสียงลงแต่น้ำเสียงยังราบเรียบแบบเดิม
ทานกับคนหลงตัวเองดิฉันทานไม่ลงหรอกค่ะ ขอบคุณที่ชวนค่ะ
ผมไม่ทันได้โต้ตอบวาจาเผ็ดร้อนตรงข้ามกับท่าทีของเธอสาวิตาก็จัดแจงลากผมไปเสียก่อน
ทิ้งไว้แต่แม่สาวหน้าห้องที่มีนัยน์ตาสีน้ำตาลอันรู้เท่าทันที่ผมเกลียดมองมาก็เท่านั้น
.
ผมเกลียดเธอจริงๆเลย เบ็ญจภา คอยดูเหอะ วันหนึ่งผมจะจัดการเธอให้ได้แน่!!
แต่ตอนนี้ผมคงต้องเก็บแรงไว้สำหรับกิจกรรมในที่ร่มผ้าของผมกับสาวิตาก่อนสิเนี่ย
เฮ้อ
.เกิดเป็นคนเนื้อหอมนี่ลำบากจริงเลย
+ + + + + + +
จากคุณ :
อมราวตี
- [
28 ธ.ค. 46 01:40:19
A:203.113.45.101 X:
]