รักครั้งแรกกับความรักที่เธอลืม short version3 30 ธค46

    “ คุณไม่ต้องใช่คำพูดสวยหรูกับผมหรอกนะ ผมชอบแต่ความจริง”
    “แต่..”ฐิตาสีชมพูอ้าปากขยับจะพูด
    “งานที่ดีของผมเกิดจากใช้เวลาทุ่มงบทั้งเงินและกำลังสมอง สุดกำลังสุดความคิด
    ชีวิตของผมไม่ได้ดีเพราะคำพูดที่ดีเลิศหรู
    ไร้สาระ นอนเซนส์
    เพราะการทำอย่างนั้นทำให้ผมประมาณการปัญหาต่ำกว่ามาตรฐาน
    “แต่..”ฐิตาพูดไม่ออก
    “เฮ้อ พูดอย่างนี้คนสวยรูปอย่างคุณคงไม่เข้าใจหรอก”
    เขาวางกระดาษที่อ่านแบบสกีนจบ
    ที่เธอกำลังมองว่าเขาทั้งพูดทั้งอ่านไปพร้อมกันได้อย่างไร
    “แต่..”ฐิตาอึ้งกิมกี่ เธอรู้สึกฉุนมาก
    สีหน้าของฐิตาเริ่มแดงและอารมณ์ของเธอกำลังลุกโชติช่วง
    เป็นไฟ บรรลัยกัลป์ ที่จ้องจะเผาผลาญภาดลให้ไหม้เป็นจุน
    เธอไปทำอะไรเขาตั้งแต่เมื่อไร
    และทำไม เธอต้องถูกดูถูกอย่างแรง
    ทั้งๆที่เธอมาที่นี่เพื่อช่วยพี่สาวเธอเท่านั้น
    ” คุณไม่ต้องมารยาหญิงกับผมหรอกนะ ผมไม่ใช่ผู้ชายใจง่าย”
    เขาวางกระดาษทั้งปึกตอกหน้าฐิตากลับ
    เธอสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ใช้มารยาหญิงที่มีนาแนะอีกเลย
    “ถ้าคุณคิดว่าคุณหล่อ จนนาอยากหว่านเสน่ห์กับคุณ ผิดถนัด
    นาแค่อยากรู้:-)ของผู้ชายเท่านั้น
    แค่หน้าตาไม่สำคัญมากกว่าความเป็นสุภาพบุรุษด้วย และฉันไม่คิดว่าคุณมีเลย
    คุณภาดล คุณก็เป็นผู้ชายดาษดื่นที่พบได้ทั่วไป
    ขี้โมโหเอาแต่ใจตัวเอง
    หวังผลประโยชน์ของตัวเองมากที่สุด”
    ความจริงฐิตาไม่ต้องการว่าเขาแต่
    เพราะคำพูดที่รุนแรงและดูถูกเธอทำให้ความดันพุ่งสูงกระทันหัน
    และตอบโต้ไปอย่างรุนแรง
    “ตอบได้เก่ง
    ผมคิดว่าจะเห็นแต่มีนาที่โปรยเสน่ห์เท่านั้น
    ไม่คิดว่า คุณจะโต้คารมได้เก่งไม่แพ้นักพูด
    คุณน่ะ เถียงเก่งไม่พอ หวังว่าคุณจะเเสดงเก่งเหมือนที่คุณพูดนะ“
    “แน่นอนนาทำได้”
    เธอรับปากทั้งๆที่เธอไม่รู้สึกเธอสามารถทำได้เลยสักนิด
    “เอาล่ะ เราเข้าเรื่องกันเลยนะ
    ผมไม่อยากเสียเวลาในเรื่องไร้สาระ”
    เขาทิ้งแฟ้มบนโต๊ะลงโครม
    เหมือนทิ้งกระดาษทิสชูใช้แล้วใส่ชักโครก
    “ก็ว่าเรื่องของคุณมาซิ”
    เธอเกร็งคอจนเอ็นขึ้นและหน้าแดงด้วยความโกรธ
    “โอเค ผมเข้าใจเสมอ ผู้หญิงเป็นยังไง”
    เขายักไหล่
    สมองของเขาที่ปราดเปรื่องเหมือนกำลังควบคุมสถานการณ์บางอย่างอยู่
    สายตาของเขามีแววบังคับให้เธอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
    สีหน้าเขาดูถูกเธอชัดๆ
    ”คุณคิดว่านักแสดงทุกคนปัญญาอ่อนหรือไง”
    เธอเยาะหยันหรี่ตาจับจ้องในกระดาษที่อยู่ในมือเขา
    “ผมไม่ได้ว่านะ คุณว่าตัวเองเอง” เขาทำเป็นขบขันกับสิ่งที่เธอพูด หยิบเอกสารที่เป็นกระดาษ ก่อนโยนปึกกระดาษต่อหน้าเธอ “
    เอ๊าอ่านและทำความเข้าใจสคิป
    ผมจะเล่าคร่าวๆ จำไว้ให้ดีนะ
    เป็นเด็กสาวอายุประมาณสิบแปดปี
    พ่อของเธอหย่าร้าง มีภรรยาใหม่ที่พยายามเฉกหัวเธอออกจากบ้าน
    เธอจึงต้องไปอยู่แมนชั่นของป้าในฐานะคนดูแลเธอต้องผจญภัยกับชีวิต
    ผมมองว่าเธอเป็นผู้หญิงที่กำลังเดินโซเซอยู่บนขอบชีวิต
     เธอต้องดิ้นรนในการส่งตัวเองให้เรียนจบมหาวิทยาลัยด้วยการเดินแฟชั่น
    การเป็นนางแบบคือความฝันของลูกเป็ดขี้เหร่อย่างเธอ”
    หญิงสาวร้อนวูบ
    เมื่อเขามองมาอีกครั้ง มันเป็นความรู้สึกกึ่งโมโหกึ่งไร้เหตุผล
    บางทีเป็นเพราะครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นลูกเป็ดขี้เหร่
    เธอโดนเพื่อนๆล้อเพียงเพราะเธอเป็นคนยิ้มยาก ชอบเก็บตัวเงียบ
    ในขณะที่พี่สาวของเธอ-มีนา เป็นดังนางฟ้าในสรวงสวรรค์
    ที่มีรอยยิ้มดังดอกกุหลาบแรกแย้ม
    เพราะเด็กชายคนหนึ่งทำให้นิสัยเธอเปลี่ยนไป “พอล” คือชื่อของเขา
    “ฐิตาดูเธอทำคะแนนได้ดีมากนะ”
    เขาเป็นเพื่อนชายบ้านที่มีอายุมากกว่าเธอ 2 ปี
    ตอนนั้นเธออายุราว 6 ขวบ
    เธอจำเขาได้แม่นยำ
    ในวันเกิดของเธอและมีนา
    เขาซื้อเค้กให้เธอได้เป่าเค้กกับมีนา
    ซึ่งมันทำให้เธอมีความสุขมาก
    แต่ในเวลานั้นเธอรู้ความจริงว่าเธอไม่เหมือนมีนาเลย
    เขาชื่นชมกับมีนาพี่สาวของเธอด้วยสายตาที่แตกต่าง
    “สักวันผมจะขอคุณแต่งงาน”
    เป็นคำพูดของเด็กชายวัย 8 ขวบ
    มีนา ผู้มีจิตใจบอบบางและอ่อนไหวครอบครองใจเขาทั้งดวง
    จนในที่สุดฐิตาผู้มีความพยายามต้องแอบไปร้องไห้
    และบอกกับตัวเองว่าเธอต้องมีคุณค่า
    ดังนั้นเธอจึงขยันและตั้งใจเรียนและไม่สนใจความสวยงามและการแต่งตัวอีกเลย
    “เจ้าหล่อนช่างไร้เดียงสา เธอไม่รู้ว่าเธอกำลังเล่นกับไฟ”เสียงพูดของภาดลทำให้เธอหลุดออกจากภวังค์
    ”เธอไม่รู้ว่าโลกภายนอกเป็นอย่างไร”ภาดลหยุดราวกับเล่นเกมอะไรบ้างอย่าง
    เขากำลังว่าเธออยู่หรือไร
    ฐิตาไม่สนใจ
    และบอกตัวเองว่าเขาไม่รู้อะไรเรื่องอะไรเกี่ยวเรื่องราวลูกเป็ดของเธอใดๆทั้งสิ้น
    เขาพูดต่อ…
    “…ช่างซื่อบริสุทธิ์เสียจริงๆ แม้เธอจะสามารถส่งตัวเองให้เรียนจบได้
    แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าเธอจะรอดพ้นจิ้งจอกของสังคม
    เธอเกือบโดนข่มขืนสองครั้งด้วยเล่ห์กลของเพื่อนนางแบบ
    เธอพัวพันกับพระเอก
    เพราะเธอมีเพื่อนหญิงที่สนิท ทำตัวเป็นภรรยาน้อยของเสี่ยคนหนึ่ง
    ความสัมพันธ์อาจจะสับสน
    แต่คุณอาจจะทำความเข้าใจได้ไม่ยาก
    ประสบการณ์ที่เกือบถูกข่มขืน
    ทำให้เธอมองผู้ชายเป็นหมาจิ้งจอก หรือคุณว่าไง”
    “ใช่ ผู้ชายเหล่านั้น มันรวมถึงคุณด้วย”
    ฐิตาพูดตอกหน้าด้วยความคุกรุ่นที่ว่าเธอว่าอดีตของลูกเป็ดขี้เหร่
    แต่เขากลับทำหน้าเฉยก่อนเปลี่ยนเป็นขบขันจนแทบควบคุมไม่อยู่
    “คนบ้าขำอะไรหนักหนา”
    ฐิตาพึมพำอย่างตั้งใจ
    เธอค้อนเขาให้เขารู้สึกตัว
    เขาจึงพูดขึ้นว่า “ผมชอบคำพูดแสบสันต์ของคุณจริงๆ ปากคุณเหมือนใครสักคน
    ผมว่าเราคงจะสูสีกันด้านปาก
    คมอย่างนี้ถ้าให้ผมทาย
    อนาคตของคุณผมว่า คานทองต้องรอคุณอย่างแน่ๆ บางที...”
    เขาครุ่นคิดก็ที่จะพูดอะไรที่ฐิตาอยากใช้มีดกระซวกที่ท้องเขาจริงๆ
    ”คุณคงคิดว่าผมควรเป็นพระเอกเสียเองมั๊ย
    ผมลืมบอกไปว่ามีบทเข้าพระเข้านางด้วย เนื้อขาวๆร่างที่บอบบาง น่ากอด “
    “ถ้าอย่างนั้นนาคงรับแสดงเรื่องนี้ไม่ได้”
    ฐิตาพูดด้วยความโมโห
    เธอไม่เคยโมโหจนควบคุมตัวเองไม่ได้อย่างนี้มาก่อน
    เธอลุกยืนและผลุนผลันจะออกนอกห้องให้ได้
    ก่อนที่ชะงักเมื่อเขาพูดขึ้นว่า
    “เราทำสัญญากันแล้ว
    และผมไม่คิดว่าคุณจะมีปัญญาจ่ายเงินชดเชยจำนวนนั้นหรอกนะ มีนา วณะนันท์”
    เขาพูดชื่อเต็มยศของพี่สาวเธอ ดูเขาสนุกที่สามารถหยอกไก่ได้ตามใจชอบ
    แต่เธอไม่ใช่ลูกไก่อยู่ในกำมือของใคร
    “นาไม่ใช่เด็กที่คุณสามารถบังคับอะไรได้ง่ายๆ”
    ฐิตาจ้องมองเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
    “ใช่ ไม่มีใครบังคับคุณได้”อยู่ๆภาดลก็เออออห่อหมก แต่มุขอยู่ที่ประโยคสุดท้าย
    “นอกจากกฎหมาย เอเจนซี่ของคุณคงจะคัดชื่อคุณออก
    และในที่สุดนางเอกสาวก็ตกกระป๋อง”
    แต่…ในที่สุดเขาก็ชนะ
    “คุณมันบ้าๆที่สุด”
    ฐิตากระแทกตัวนั่งลงตามเดิม
    เก้าอี้นั่งตัวเดิมเวลานี้ดูแข็งๆพิกล
    เธอไม่สามารถผลักภาระที่ได้รับมอบหมายจากนาไปจากตัวของเธอเองได้
    “เอาล่ะ โอเคมั๊ย ผมไม่อยากบังคับใคร ตามใจคุณนะ”
    ภาดลรอคำตอบ
    แต่การที่ฐิตาหันหน้ากลับมาเป็นคำตอบที่ดี
    อีก 2 วินาทีเธอกลับมากระแทกก้นลงที่เก้าอี้ที่หยาบกระด้างเหมือนเดิม
    “เอาล่ะ คุณยังเป็นนางเอกสาวที่ฮอตฮิตเหมือนเดิม

    จากคุณ : ฐิตา - [ 30 ธ.ค. 46 19:04:35 A:203.118.69.70 X: ]