คุณไม่ต้องใช่คำพูดสวยหรูกับผมหรอกนะ ผมชอบแต่ความจริง
แต่..ฐิตาสีชมพูอ้าปากขยับจะพูด
งานที่ดีของผมเกิดจากใช้เวลาทุ่มงบทั้งเงินและกำลังสมอง สุดกำลังสุดความคิด
ชีวิตของผมไม่ได้ดีเพราะคำพูดที่ดีเลิศหรู
ไร้สาระ นอนเซนส์
เพราะการทำอย่างนั้นทำให้ผมประมาณการปัญหาต่ำกว่ามาตรฐาน
แต่..ฐิตาพูดไม่ออก
เฮ้อ พูดอย่างนี้คนสวยรูปอย่างคุณคงไม่เข้าใจหรอก
เขาวางกระดาษที่อ่านแบบสกีนจบ
ที่เธอกำลังมองว่าเขาทั้งพูดทั้งอ่านไปพร้อมกันได้อย่างไร
แต่..ฐิตาอึ้งกิมกี่ เธอรู้สึกฉุนมาก
สีหน้าของฐิตาเริ่มแดงและอารมณ์ของเธอกำลังลุกโชติช่วง
เป็นไฟ บรรลัยกัลป์ ที่จ้องจะเผาผลาญภาดลให้ไหม้เป็นจุน
เธอไปทำอะไรเขาตั้งแต่เมื่อไร
และทำไม เธอต้องถูกดูถูกอย่างแรง
ทั้งๆที่เธอมาที่นี่เพื่อช่วยพี่สาวเธอเท่านั้น
คุณไม่ต้องมารยาหญิงกับผมหรอกนะ ผมไม่ใช่ผู้ชายใจง่าย
เขาวางกระดาษทั้งปึกตอกหน้าฐิตากลับ
เธอสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ใช้มารยาหญิงที่มีนาแนะอีกเลย
ถ้าคุณคิดว่าคุณหล่อ จนนาอยากหว่านเสน่ห์กับคุณ ผิดถนัด
นาแค่อยากรู้:-)ของผู้ชายเท่านั้น
แค่หน้าตาไม่สำคัญมากกว่าความเป็นสุภาพบุรุษด้วย และฉันไม่คิดว่าคุณมีเลย
คุณภาดล คุณก็เป็นผู้ชายดาษดื่นที่พบได้ทั่วไป
ขี้โมโหเอาแต่ใจตัวเอง
หวังผลประโยชน์ของตัวเองมากที่สุด
ความจริงฐิตาไม่ต้องการว่าเขาแต่
เพราะคำพูดที่รุนแรงและดูถูกเธอทำให้ความดันพุ่งสูงกระทันหัน
และตอบโต้ไปอย่างรุนแรง
ตอบได้เก่ง
ผมคิดว่าจะเห็นแต่มีนาที่โปรยเสน่ห์เท่านั้น
ไม่คิดว่า คุณจะโต้คารมได้เก่งไม่แพ้นักพูด
คุณน่ะ เถียงเก่งไม่พอ หวังว่าคุณจะเเสดงเก่งเหมือนที่คุณพูดนะ
แน่นอนนาทำได้
เธอรับปากทั้งๆที่เธอไม่รู้สึกเธอสามารถทำได้เลยสักนิด
เอาล่ะ เราเข้าเรื่องกันเลยนะ
ผมไม่อยากเสียเวลาในเรื่องไร้สาระ
เขาทิ้งแฟ้มบนโต๊ะลงโครม
เหมือนทิ้งกระดาษทิสชูใช้แล้วใส่ชักโครก
ก็ว่าเรื่องของคุณมาซิ
เธอเกร็งคอจนเอ็นขึ้นและหน้าแดงด้วยความโกรธ
โอเค ผมเข้าใจเสมอ ผู้หญิงเป็นยังไง
เขายักไหล่
สมองของเขาที่ปราดเปรื่องเหมือนกำลังควบคุมสถานการณ์บางอย่างอยู่
สายตาของเขามีแววบังคับให้เธอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
สีหน้าเขาดูถูกเธอชัดๆ
คุณคิดว่านักแสดงทุกคนปัญญาอ่อนหรือไง
เธอเยาะหยันหรี่ตาจับจ้องในกระดาษที่อยู่ในมือเขา
ผมไม่ได้ว่านะ คุณว่าตัวเองเอง เขาทำเป็นขบขันกับสิ่งที่เธอพูด หยิบเอกสารที่เป็นกระดาษ ก่อนโยนปึกกระดาษต่อหน้าเธอ
เอ๊าอ่านและทำความเข้าใจสคิป
ผมจะเล่าคร่าวๆ จำไว้ให้ดีนะ
เป็นเด็กสาวอายุประมาณสิบแปดปี
พ่อของเธอหย่าร้าง มีภรรยาใหม่ที่พยายามเฉกหัวเธอออกจากบ้าน
เธอจึงต้องไปอยู่แมนชั่นของป้าในฐานะคนดูแลเธอต้องผจญภัยกับชีวิต
ผมมองว่าเธอเป็นผู้หญิงที่กำลังเดินโซเซอยู่บนขอบชีวิต
เธอต้องดิ้นรนในการส่งตัวเองให้เรียนจบมหาวิทยาลัยด้วยการเดินแฟชั่น
การเป็นนางแบบคือความฝันของลูกเป็ดขี้เหร่อย่างเธอ
หญิงสาวร้อนวูบ
เมื่อเขามองมาอีกครั้ง มันเป็นความรู้สึกกึ่งโมโหกึ่งไร้เหตุผล
บางทีเป็นเพราะครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นลูกเป็ดขี้เหร่
เธอโดนเพื่อนๆล้อเพียงเพราะเธอเป็นคนยิ้มยาก ชอบเก็บตัวเงียบ
ในขณะที่พี่สาวของเธอ-มีนา เป็นดังนางฟ้าในสรวงสวรรค์
ที่มีรอยยิ้มดังดอกกุหลาบแรกแย้ม
เพราะเด็กชายคนหนึ่งทำให้นิสัยเธอเปลี่ยนไป พอล คือชื่อของเขา
ฐิตาดูเธอทำคะแนนได้ดีมากนะ
เขาเป็นเพื่อนชายบ้านที่มีอายุมากกว่าเธอ 2 ปี
ตอนนั้นเธออายุราว 6 ขวบ
เธอจำเขาได้แม่นยำ
ในวันเกิดของเธอและมีนา
เขาซื้อเค้กให้เธอได้เป่าเค้กกับมีนา
ซึ่งมันทำให้เธอมีความสุขมาก
แต่ในเวลานั้นเธอรู้ความจริงว่าเธอไม่เหมือนมีนาเลย
เขาชื่นชมกับมีนาพี่สาวของเธอด้วยสายตาที่แตกต่าง
สักวันผมจะขอคุณแต่งงาน
เป็นคำพูดของเด็กชายวัย 8 ขวบ
มีนา ผู้มีจิตใจบอบบางและอ่อนไหวครอบครองใจเขาทั้งดวง
จนในที่สุดฐิตาผู้มีความพยายามต้องแอบไปร้องไห้
และบอกกับตัวเองว่าเธอต้องมีคุณค่า
ดังนั้นเธอจึงขยันและตั้งใจเรียนและไม่สนใจความสวยงามและการแต่งตัวอีกเลย
เจ้าหล่อนช่างไร้เดียงสา เธอไม่รู้ว่าเธอกำลังเล่นกับไฟเสียงพูดของภาดลทำให้เธอหลุดออกจากภวังค์
เธอไม่รู้ว่าโลกภายนอกเป็นอย่างไรภาดลหยุดราวกับเล่นเกมอะไรบ้างอย่าง
เขากำลังว่าเธออยู่หรือไร
ฐิตาไม่สนใจ
และบอกตัวเองว่าเขาไม่รู้อะไรเรื่องอะไรเกี่ยวเรื่องราวลูกเป็ดของเธอใดๆทั้งสิ้น
เขาพูดต่อ
ช่างซื่อบริสุทธิ์เสียจริงๆ แม้เธอจะสามารถส่งตัวเองให้เรียนจบได้
แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าเธอจะรอดพ้นจิ้งจอกของสังคม
เธอเกือบโดนข่มขืนสองครั้งด้วยเล่ห์กลของเพื่อนนางแบบ
เธอพัวพันกับพระเอก
เพราะเธอมีเพื่อนหญิงที่สนิท ทำตัวเป็นภรรยาน้อยของเสี่ยคนหนึ่ง
ความสัมพันธ์อาจจะสับสน
แต่คุณอาจจะทำความเข้าใจได้ไม่ยาก
ประสบการณ์ที่เกือบถูกข่มขืน
ทำให้เธอมองผู้ชายเป็นหมาจิ้งจอก หรือคุณว่าไง
ใช่ ผู้ชายเหล่านั้น มันรวมถึงคุณด้วย
ฐิตาพูดตอกหน้าด้วยความคุกรุ่นที่ว่าเธอว่าอดีตของลูกเป็ดขี้เหร่
แต่เขากลับทำหน้าเฉยก่อนเปลี่ยนเป็นขบขันจนแทบควบคุมไม่อยู่
คนบ้าขำอะไรหนักหนา
ฐิตาพึมพำอย่างตั้งใจ
เธอค้อนเขาให้เขารู้สึกตัว
เขาจึงพูดขึ้นว่า ผมชอบคำพูดแสบสันต์ของคุณจริงๆ ปากคุณเหมือนใครสักคน
ผมว่าเราคงจะสูสีกันด้านปาก
คมอย่างนี้ถ้าให้ผมทาย
อนาคตของคุณผมว่า คานทองต้องรอคุณอย่างแน่ๆ บางที...
เขาครุ่นคิดก็ที่จะพูดอะไรที่ฐิตาอยากใช้มีดกระซวกที่ท้องเขาจริงๆ
คุณคงคิดว่าผมควรเป็นพระเอกเสียเองมั๊ย
ผมลืมบอกไปว่ามีบทเข้าพระเข้านางด้วย เนื้อขาวๆร่างที่บอบบาง น่ากอด
ถ้าอย่างนั้นนาคงรับแสดงเรื่องนี้ไม่ได้
ฐิตาพูดด้วยความโมโห
เธอไม่เคยโมโหจนควบคุมตัวเองไม่ได้อย่างนี้มาก่อน
เธอลุกยืนและผลุนผลันจะออกนอกห้องให้ได้
ก่อนที่ชะงักเมื่อเขาพูดขึ้นว่า
เราทำสัญญากันแล้ว
และผมไม่คิดว่าคุณจะมีปัญญาจ่ายเงินชดเชยจำนวนนั้นหรอกนะ มีนา วณะนันท์
เขาพูดชื่อเต็มยศของพี่สาวเธอ ดูเขาสนุกที่สามารถหยอกไก่ได้ตามใจชอบ
แต่เธอไม่ใช่ลูกไก่อยู่ในกำมือของใคร
นาไม่ใช่เด็กที่คุณสามารถบังคับอะไรได้ง่ายๆ
ฐิตาจ้องมองเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
ใช่ ไม่มีใครบังคับคุณได้อยู่ๆภาดลก็เออออห่อหมก แต่มุขอยู่ที่ประโยคสุดท้าย
นอกจากกฎหมาย เอเจนซี่ของคุณคงจะคัดชื่อคุณออก
และในที่สุดนางเอกสาวก็ตกกระป๋อง
แต่
ในที่สุดเขาก็ชนะ
คุณมันบ้าๆที่สุด
ฐิตากระแทกตัวนั่งลงตามเดิม
เก้าอี้นั่งตัวเดิมเวลานี้ดูแข็งๆพิกล
เธอไม่สามารถผลักภาระที่ได้รับมอบหมายจากนาไปจากตัวของเธอเองได้
เอาล่ะ โอเคมั๊ย ผมไม่อยากบังคับใคร ตามใจคุณนะ
ภาดลรอคำตอบ
แต่การที่ฐิตาหันหน้ากลับมาเป็นคำตอบที่ดี
อีก 2 วินาทีเธอกลับมากระแทกก้นลงที่เก้าอี้ที่หยาบกระด้างเหมือนเดิม
เอาล่ะ คุณยังเป็นนางเอกสาวที่ฮอตฮิตเหมือนเดิม
จากคุณ :
ฐิตา
- [
30 ธ.ค. 46 19:04:35
A:203.118.69.70 X:
]