คิม ไวลด์
หนึ่งปีต่อมาหลังจากที่คุณลุงตาย ชายแดนก็เปิดอีกครั้ง คุณพ่อคุณแม่แล่นไปทำ
หนังสือเดินทาง
"ดูที่หน้าสุดท้ายนี่สิ 'ห้ามเดินทางไปปาเลสไตน์โดยเด็ดขาด'"คุณพ่อกล่าวแก่คุณแม่
"ตายแล้ว ดูหน้าตาฉันในรูปนี่สิ ตอนมีผ้าโพกหัวอยู่" คุณแม่บ่น
"ให้หนูดูหน่อยสิคะ"
ท่านดูหน้าตาไม่เป็นสุขเลย จริงแล้ว ๆ จำแทบไม่ได้
"เมื่อไหร่ที่พ่อได้พาสปอร์ต เราจะเดินทางครั้งใหญ่กัน"คุณพ่อบอก
ฉันยิ้มอย่างมีความหวัง
"เออ จริง ๆ แล้ว..."คุณพ่อพูดต่อแล้วชะงักไป
"เราต้องการอยู่กันตามลำพังสองคนบ้างน่ะจ๊ะ ซักสองสามวัน"คุณแม่ต่อให้
"ที่ไหนคะ?"ฉันถามด้วยหน้าตาผิดหวัง
"ตุรกีจ๊ะ"
"เชอะ...ตุรกีเหมาะกับพวกนกมากกว่า คนเจ๋ง ๆ ไม่ไปหรอกตุรกี ถ้าพ่อกะแม่จะไป
เที่ยว ทำมั๊ยไม่ไปยุโรปนะ หรือสหรัฐก็ดี?"
"ถ้าลูกอยากได้อะไรเป็นของฝากก็บอกมานะ"คุณพ่อถาม
"พ่อจะเอาอะไรมาฝากหนูได้ shish-kebab(*ก้อนเนื้อหมักปรุงบนกะทะพร้อมผัก)
งั้นรึ?" ฉันประชด
"ฟังนะมาร์จี ลูกคิดว่าพวกของทันสมัยต่าง ๆของลูกมันมาจากไหนกัน" คุณแม่ถาม
ระหว่างสงคราม ไม่มีการนำเข้าสินค้าจากตะวันตก
"เสื้อแจ็ตเก็ตยีนส์ ช็อคโกแล็ตโปสเตอร์สักใบ ไม่ใช่ค่ะ สองใบ คิมไวลด์ใบหนึ่ง
และไออ้อนเมดเด้นอีกใบ"ฉันบอก
"ไออ้อนเมดเด้น เจ้าสัตว์ป่าเถื่อนสี่ตัวนั่นน่ะหรือ" คุณแม่ถาม
"พวกเค้าไม้ใช่สัตว์ป่าเถื่อน ผมก็ชอบที่เค้าเล่นนะ"คุณพ่ออกรับ
"คุณชอบหรือคะ?"
"ผมชอบ"
"เห็นไหมคะแม่"
888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888
สิ่งแรกที่ท่านทั้งสองทำเมื่อไปถึงอีสตันบูล คือไปซื้อโปสเตอร์
"ชั้นดีใจที่หาของที่ลูกชอบได้"
"แน่นอน ยากเย็นเหลือเกินสำหรับเด็ก ๆ อิหร่าน ที่น่าสงสาร"
"บอกชั้นมานะคะว่าคุณชอบไออ้อนเมดเด้นจริง ๆ น่ะ?"
"แน่นอน"
"คุณมันคนหน้าไหว้หลังหลอก"คุณแม่ว่า
ทันทีที่ถึงโรงแรม ทั้งสองห็คิดหาทางกัน
"เราเราพับแล้วซ่อนไส้ใต้ซับในของกระเป๋าเอินทางดีไหมคะ" คุณแม่หารือ
"พับมันงั้นเหรอ? ก็เป็นรอยหมดกัน ลูกคงผิดหวัง"คุณพ่อติง
"เราน่าจะถือไว้ใต้แขนแล้วทำตัวปกติไม่มีพิรุธ"
"ใต้แขนเราน่ะนะ เหลวไหลน่ะ"
ครั้นแล้วคุณแม่ก็เกิดปิ๊งไดียเจ๋ง ๆขึ้นมา
"ถอดเสื้อคลุมมา"
"เฮ้ย คุณกำลังจะทำอะไร น่ะ" คุณพ่อท้วงเมื่อเห็นคุณแม่เอาเสื้อคลุมไปทึ้ง
"รอเดี๋ยวก็เห็นเอง" คุณแม่ตอบ
ท่านถลกซับในออกมา
แล้ววางโปสเตอร์ทั้งสองใบใส่ไว้ข้างหลัง
...แล้วเย็บกลับคืน
เมื่อคุณพ่อลองสวมดู ท่านถามว่า
"คุณว่ามันดูปกตินะ"
"คุณก็แค่ดูเหมือนใส่ชุดที่หนุนไหล่แค่นั้นน่ะ ดูเข้าแฟชั่นดีนะ"
เมื่อมาถึงสนามบินเมฮ์ราบัด ของกรุงเตหราน
"ผมเดินเหมือนแฟรงเก็นสไตน์เลย" คุณพ่อบ่น
"ไม่หรอกค่ะ คุณดูธรรมชาติออกจะตายไป"
"วางกระเป๋าลงบนโต๊ะ"เจ้าหน้าที่ต.ม.สั่ง
"นิ่ง ๆ ไว้ " คุณพ่อพีมพำ
"ไง คุณเอาอะไรติดมาด้วย? อัลกอฮอล์? ไพ่ ดนตรี? หนัง? ชุดหมากรุก? นิตยสาร?"
"ไม่มีอะไรครับแค่ของใช้ส่วนตัว"
"คุณแน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดกฏหมายนะ?"
"ไม่"
"ไม่มี ๆ ค่ะ"
"คุณรู้นะถ้าผมเจอะอะไรที่ผิดกฏหมายผมจะ..."
" ท่านคะ เราดูเหมือนพวกลักลอกขนของเถื่อนนักหรือคะ?"
"............"เจ้าหน้าที่นิ่งไปอึดใจก่อนจะปริปากว่า "...เอาล่ะ เอากระเป๋าไปได้"
"คุณพ่อคุณแม่"ฉันร้องเรียกเมื่อเห็นท่านผ่านออกมาจากต.ม. มีคุณย่ายืยอยู่ข้าง ๆฉัน
888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888
เมื่อกลับมาถึงบ้าน...
"นี่ของหนู รองเท้าไนกีรุ่นล่าสุด"
ฉันตาลุกวาวเมื่อเห็นสิ่งที่คุณแม่ยื่นส่งมาให้
"แล้วนี่..."
"ว๊าว ไมเคิล แจ็คสัน"
"แล้วนี่เสื้อแจ็คเก็ตยีนส์ของลูก"
"เจ๋ง"ฉันอุทาน
"แล้วโปสเตอร์ของหนูล่ะคะ?"
"อีไบเอาเสื้อตฃุมคุณมาหน่อยสิคะ"
"?" ฉันไม่เข้าใจว่าคุณแม่พูดอะไร
"ระวังหน่อยนะ"คุณแม่เตือน
"หนูต้องการโปสเตอร์ ไม่ใช่รูปภาพ"
"รออีกนิดเถอะลูก"คุณพ่อปลอบ
"คุณแม่รับเสื้อคลุมมาแล้สทึ้งซับในออกดังแควก
"เจ๋งเบ้งเลย"ฉันอุทานด้วยความตะลึงในสิ่งที่มองเห็นหลังเสื้อ คือโปวเตอร์ คิมไวล์ด
"พ่อขาฉลาดจริง ๆ เลย" ฉันโผเข้ากอดรัดคุณพ่อแล้วพร่ำสรรเสริญท่าน
"ขอบคุณคุณแม่เถอะ เป็นคส่มคิดของแม่เค้าน่ะลูก"
"ขอบคุณค่ะแม่ แล้วเป็นไงบ้างคะที่ตุรกี"ฉันเข้าไปกอดท่าน
"ดีจ๊ะ ถึงหนาวไปนิดแต่ก็ดี"
ฉันรักตุรกี
888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888
ฉันติดโปสเตอร์บนผนังห้องฉัน
ฉันสวมรองเท้าไนกีรุ่นปี๑๙๘๓...
...และสวมเสื้อแจ็คเกตยีนส์ มีเข็มกลัดไมเคิลแจ็คสันติด และแน่นนอนโพกศีรษะ
ด้วยผ้าคลุม
"คุณแม่ว่าไงคะ"ฉันถามเมื่อแต่งกายเสร็จ ไปยืนอวดคุณแม่
"ดีจ๊ะ น่ารักมาก"
"ดีล่ะหนูจะไปข้างนอก"
"ไหน"
"ไปซื้อเทปค่ะ"
"ที่ไหน"
"ไม่ไกลหรอกค่ะ แค่ถนนคานธี"
"แล้วรีบกลับมาในชั่วโมงล่ะ"
"หนูคงกลับมาในสองชั่วโมง"ฉันต่อรอง
เปรียบเทียบกับมารดาชาวอิหร่าน คุณแม่ฉันค่อนข้างขออนุญาตง่าย ฉันรู้จักเด็ก
ผู้หญิงอีกสองหรือสามคนที่จะไปไหนมาไหนนอกบ้านคนเดียวได้เอง
888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888
เป็นเวลาหนึ่งปีมาแล้วการขาดแคลนเรื่องอาหารถูกเก้ไขโดยตลาดมืด แต่การหา
เทปค่อนข้างซับซ้อนกว่ามาก ที่ถนนคานธีคุณอาจหาได้ในบางครั้ง
"น้อง ๆ สตีวี่ วันเดอร์ไม๊"
"แอบบ้า บีจีส์เปล่า"
"ยาซู มะ"
"ฮูลิโอ อิเกลเซียส"
"พิงค์ฟอยด์"
"ไมเคิล แจ็คสันละเปล่า"
"วิดีโอ ดนตรี ไพ่ ลิปสติก ยาทาเล็บ ชุดหมากรุก กางเกงชั้นใน ช็อคโกแลต... ..."
ฉันซื้อเทปสองตลับ คิมไวล์ดกับคาเมล
"เท่าไหร่"
"110ทูแมนส์"
ฉันจ่ายเงินแล้วรับของ หันรีหันขวางดูลาดเลาว่าจะไม่ใครเห็นแล้วเอาเทปซ่อนไป
ฉันเดินฟังเพลงที่ได้มาใหม่อยู่ อย่างสบายใจ ไม่รู้เลยว่ามีคนสะกดรอยตามมา
"หยุดเดี๋ยวนี้นะ" สตรีสามนางในชุดแต่งกายออมครอมตามธรรมเนียมนิยมออกมา
จากรถ ส่งเสียงร้องตามาาห้ามฉัน
มีพวกผู้คุ้มกฎคณะปฏิวัติ ที่เป็นกลุ่มผู้หญิง กลุ่มนี้มีเพิ่มเข้ามาในปีค.ศ.๑๙๘๒ เพื่อ
จับกุมสตรีที่สวมผ้าคลุมไม่เหมาะสม(อย่างฉันเป็นต้น)
งานของพวกเขาคือทำให้เรากลับไปปฏิบัติตัวเคร่งครัดตามแบบสตรีมุสลิมที่ดี
"เธอทำไมใส่รองเท้า"พั๊งค์"อย่างนั้น"
"รองเท้า"พั๊งค์"อะไรคะ" ฉันถาม
"โน่นไง""
"แต่นี่มันรองเท้ากีฬานะคะ"
"หุบปาก นั่นน่ะมันพั๊งค์"
เห็นชัด ๆ ว่า เธอไม่รู้หรอกว่าพั๊งค์เป็นอย่างไร
"หนูใส่มันเพราะต้องเล่นบาสค่ะ"
ไม่มีทางเลือก ฉันจำต้องพูดปด
"หนูอยู่ในทีมของโรงเรียน"
"อ๋องั้นเหรอ เห็นความสูงก็บอกได้แล้ว" คนหนึ่งบอก
อีกคนว่า "แล้วเธอใส่แจ็คเก็ตนี่เล่นบาสเก็ตบอลด้วยงั้นสิ"
เธอชะโงกศีรษะเข้ามาใกล้แล้สตรวจตรา
"ฉันเห็นอะไรนี่ ไมเคิลแจ็คสัน นั่นมันสัญลักษณ์ของพวกเสื่อมศีลธรรมนี่น่ะ"
"ไม่ใช่ค่ะ มัลคลัม เอ็กซ์ ผู้นำมุสลิมผิสกำในสหรัฐตะหาก"
"อย่ามาหลอกฉันเลย นั่นมันไมเคิล แจ็คสัน"
"ใครกันคะ หนูไม่เห็นรู้จัก"
ย้อนหลังไปตอนนั้น ไมเคิล แจ็คสัน ยังดำอยู่
"เอาผ้าโพกต่ำลงมาหน่อยนังkaหรี่ตัวน้อย" ว่าแล้สเธแก็กะชากผ้าคลุมหัวหนูลงมาปิด
"ช่างน่าไม่อายเลยดูซิสวมยีนส์ซะคับติ้วอย่างนี้น่ะ"
"มันหดน่ะค่ะ"
"ตามพวกเรามา เราจะพาเธอไปหาคณะกรรมการสอบสวน"
คณะกรรมการอยู่ที่สำนักงานใหญ่พวกผู้คุ้มกฎคณะปฏิวัติ
พวกคณะกรรมการ เขาไม่จำต้องแจ้งแก้ผู้ปกครองฉัน พวกเขาอาจกักฉันไว้เป็น
ชั่วโมง ๆ หรือ เป็นวัน ๆฉะนอาจถูกเฆี่ยนถูกโบย สรุปว่า อาจเกิดอะไรขึ้นกับฉัน
มันเป็นเวลาแห่งการพิพากษา
"หนูขอโทษค่ะคุณขา หนูจะไม่ทำอย่างงี้อีกแล้ว"
"เข้าไปในรถ
"คุณขา แม่หนูตาย แม่เลี้ยงก็ใจร้าย ถ้หนูไม่กลับบ้านทันที เธอเอ่หนูตายแน่ ๆ"
"หนูต้องถูกนาบด้วยเตารีด" ฉันบีบน้ำตา
"เธอคงบังคับพ่อให้จับหนูใส่โรงเลี้ยงเด็กกำพร้าแน่เลย" ฉันร้องคร่ำครวญ
บังเอิญเธอเชื่อหนู หรืออาจจะเกล้งทำเป็นเชื่อ แต่อัศจรรย์ที่เธอยอมปล่อยฉันไป
888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888
เมื่อกลับมาถึงบ้าน...
"มาร์จิเกิดอะไรขึ้นนั้นลูกร้องไห้มาหรือเปล่า"
"เปล่าค่ะแม่ หนูแค่เหนื่อย หนูกลับไปห้องนะคะ"
ไม่มีทางดอกที่ฉันจะบอกความจริง ท่านคงไม่ยอมให้ฉันแกไปข้างนอกต่อไหน ๆ
คนเดียวอีกแน่ ๆ
ฉันรอดพ้นมาได้ง่าย ๆ ผู้คุ้มกฏปฏิวัติไม่เจอเทปของฉัน
ฉันใว่เทแนเครื่องแล้วเสียงดนตรีก็ก้องกังวาลออกมา
...เราเป็นเด็กมะกัน โหวว...
แต่ละคนคนก็สงบจิตสงบใจไปคนละแบบ
แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 47 20:01:48
แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 47 19:58:52
จากคุณ :
ส.ค.ศ. ๔๙๑๔
- [
1 ม.ค. 47 19:48:01
]