ความคิดเห็นที่ 2
ใครๆ เขาว่ากันว่าวันเวลามักผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน นี่ก็สี่ปีแล้วที่ผมรู้จักยัยกุ้งแห้ง แต่ถึงผ่านมาสี่ปี เธอก็ยังตัวเท่ากุ้งแห้งเหมือนเดิม...ส่วนผมน่ะเหรอ...
หลังจากเข้าคอร์สไดเอ็ทของแม่รุ้งแล้ว ลูกบอลกลมๆ สามลูกตรงพุงผมก็ค่อยๆ อันตรธานหายไป...โธ่...ถ้ารู้ว่ามันจะเป็นอย่างนี้นะ ผมคงเข้าคอร์สไดเอ็ทไปตั้งนานแล้ว ยัยกุ้งแห้งจะได้ไม่เรียกผมว่าหมูอ้วน
แม้ว่าหุ่นของผมจะสเลนเดอร์ไม่สมฉายาหมูอ้วนเอาเสียเลย แต่ยัยกุ้งแห้งยังคงไม่เลิกเรียกผมว่าพี่หมูอ้วนอยู่ดี และมีเธอเพียงคนเดียวด้วยสิที่เรียกผมว่าหมูอ้วน เธอบอกว่าวันนั้นเขากับเธอเสมอกัน เพราะฉะนั้นข้อตกลงทั้งหมดมีอันเป็นโมฆะไป
ฮึ่ม...ก็เพราะเธอนั่นแหละ ผมถึงได้ต้องกลายเป็นพี่หมูอ้วนของเธอต่อไปเรื่อยๆ
ว่าแต่ทำไมเธอยังไม่มาอีกล่ะ รู้หรือเปล่าว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ผมจะได้พบเธอแล้ว เพราะผมกำลังจะไปเรียนต่อที่อเมริกา
ผมก้มมองนาฬิกาสายผ้าของตัวเองด้วยความร้อนใจ แต่ยังไม่ทันที่จะได้บ่นอะไรเพิ่ม เสียงแจ๋วๆ คุ้นเคยที่เอ่ยเรียกฉายาของผมก็ดังมาแต่ไกล
"พี่หมูอ้วน!"
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้มาใหม่เป็นใคร เพราะคนที่เรียกผมอย่างนั้นมีแต่ยัยกุ้งแห้งเพียงคนเดียว ผมเงยหน้ามองเธอที่วิ่งกระหืดกระหอบมาด้วยดวงตาพราวระยับ
"ยัยกุ้งแห้ง ทำไมถึงได้มาช้านัก รู้ไหมว่าเครื่องบินของพี่กำลังจะออกแล้วนะ"
"แฮ่กๆ ขอโทษค่ะพี่หมูอ้วน พอดีลมลืมของขวัญที่ลมเตรียมไว้ให้พี่ ลมเลยต้องให้ป๊าวกรถกลับบ้านไปใหม่ ลมนึกว่าลมจะมาไม่ทันแล้วนะเนี่ย" เธอพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ
"มันสำคัญนักหรือ ถึงได้ต้องวกรถกลับไปเอา ไม่กลัวจะไม่ได้เจอพี่หรอกหรือ" ผมพูดออกไป...แต่...เอ...ทำไมน้ำเสียงของผมถึงได้ดูติดจะน้อยใจอย่างนั้นล่ะ
"พี่หมูอ้วนเปิดดูก่อนเถอะแล้วค่อยมาบ่นลมทีหลัง ลมอุตส่าห์นั่งทำทั้งคืน"
เธอยื่นกล่องกระดาษแบบมีฝาเปิดได้ให้ผม มันเป็นกล่องสีฟ้าประดับด้วยโบว์กระดาษสาสีขาว ผมสงสัยว่าข้างในกล่องจะมีอะไร
"คงไม่ใช่ระเบิดหรอกนะ" ผมแหย่
"งั้นไม่ต้องเปิดมันก็แล้วกัน"
ยัยกุ้งแห้งดึงกล่องของขวัญคืน แต่ผมก็ไม่ปล่อยมือ ยื้อยุดเอาไว้ราวกับเล่นชักเย่อ
"พี่ล้อเล่นน่า อย่างอนไปเลย ส่งมาให้พี่ดูเร็วๆ อีกยี่สิบนาทีเครื่องพี่ก็ออกแล้วนะ"
เท่านั้นล่ะครับ ยัยกุ้งแห้งถึงได้ปล่อยมือออก
ผมเปิดฝากล่องด้วยความตื่นเต้น ข้างในมีฝอยกระดาษสีขาวเต็มไปหมด ผมไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร มือข้างที่ว่างล้วงลงไปควานหาของสิ่งนั้น
มันเป็นสมุดปกแข็งสีฟ้าแบบเดียวกันกับกล่อง หน้าแรกเขียนว่า...ถึงพี่หมูอ้วน จากยัยกุ้งแห้งปลิวลม...มีรูปหมูสีชมพูตัวอ้วนกำลังวิ่งไล่กุ้งตัวเล็กอย่างเอาเป็นเอาตาย มันทำให้ผมอดยิ้มออกมาไม่ได้
"จนถึงวันสุดท้ายเราก็ยังไม่เลิกล้อเลียนพี่นะ" ผมโยกศีรษะที่ปกคลุมด้วยเส้มผมอ่อนนุ่มด้วยความเอ็นดู
"ไม่ได้วันสุดท้ายสักหน่อย เดี๋ยวเรียนจบพี่หมูอ้วนก็กลับมา"
เธอเถียงน้อยๆ ทำหน้ามุ่ยพร้อมทั้งปัดมือของผมออก
ผมไม่ต่อความยาวกับยัยกุ้งแห้งหรอก เพราะรู้ดีว่าเธอคงชนะอีกตามเคย มือของผมพลิกหน้ากระดาษ ข้างในนั้นมีรูปของเราสองคนตลอดระยะเวลาสี่ปีที่รู้จักกัน หน้ากลางเป็นรูปเดี่ยวของเธอและมีประวัติเล็กน้อยของเธอประกอบ หน้าต่อไปเป็นเพลงๆ นึง เป็นเพลงที่ผมรู้จักดี มันเป็นเพลงที่เธอชอบมาก
Made a wish, I can dream I can be what I want to be Not afraid to live my life and fulfil my fantasies
I learnt a lot of tricks to help me live my life You helped me find my paradise When you came, I saw
* Sunshine through my window that's what you are my shining star (Sunshine) Making me feel like I'm on top of the world telling me I'll go far
Reaching out, for the highs you inspired me to try I felt the magic inside and I felt that I could fly I'm looking at the world in an optimistic light You made me appreciate my life 'Cos when you came you were my
เพลง Sunshine ของ Gabrielle...ผมก็ชอบมันมากเช่นกัน เวลาเราสองคนไปร้องคาราโอเกะ เพลงนี้จะต้องเป็นหนึ่งในเพลงที่เราเลือก
หน้าถัดไป มีตัวอักษรเล็กๆ เขียนด้วยลายมือของเธอถึงผม
ถึง...พี่หมูอ้วน
...พี่หมูอ้วนรู้ไหมทำไมลมถึงชอบเพลง Sunshine ลมขอมอบเพลงนี้ให้พี่หมูอ้วนเพราะพี่หมูอ้วนเป็นคนสำคัญของลม พี่หมูอ้วนเหมือนดาวที่คอยส่องแสงให้ลม และลมก็รู้สึกเหมือนอย่างในเพลงเมื่อมีพี่ลมอยู่ใกล้ๆ ยังไงลมก็ขอให้พี่หมูอ้วนประสบความสำเร็จในการเรียนนะ จะได้กลับมาหาลมไวๆ...
จะรอพี่หมูอ้วนกลับมา...อย่าลืมยัยกุ้งแห้งคนนี้นะ
จาก...ยัยกุ้งแห้งปลิวลม
ป.ล. หน้าสุดท้ายยังว่างเพราะลมจะรอพี่หมูอ้วนกลับมาถ่ายรูปคู่กับลม
ผมปิดบันทึกหน้าสุดท้าย เงยหน้ามองยัยกุ้งแห้งด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
"ลมให้พี่หมูอ้วนเก็บไว้ดูที่โน่น จะได้ไม่คิดถึงลมไง"
เธอไม่ได้ร้องไห้ แต่มองผมด้วยสายตาเศร้าๆ
ผมลูบหัวของเธออีกครั้งและปลอบว่า "พี่จะลืมยัยกุ้งแห้งคนตั้งฉายาให้พี่ได้ยังไง พี่สัญญาว่าจะรีบเรียนแล้วรีบกลับมา"
นิ้วก้อยทั้งสองเกี่ยวประสาน เราทั้งคู่ต่างยิ้มให้กัน
"มาร์ค เขาประกาศเรียกเป็นครั้งที่สองแล้วนะ"
พ่อชากระโกนเรียก
ผมจำต้องผละจากยัยกุ้งแห้ง เธอโบกมือให้ผมหยอยๆ ผมโบกมือตอบก่อนที่จะหมุนตัวกลับและออกเดิน ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้หันไปมอง ผมก็รู้สึกได้ว่าเธอกำลังมองตามผมไปจนลับตา
...นี่แหละครับ ยัยกุ้งแห้งของผม...
ผ่านมาสิบปีแล้วสินะ เธอจะลืมพี่หมูอ้วนคนนี้ไหมน้อ
ผมก้าวไปตามทางเดินด้วยใจจดจ่อ สายตาสอดส่ายไปทั่วบริเวณ
...เธอจะเปลี่ยนไปมากขนาดไหนนะ...
"ตามาร์ค"
เสียงของแม่รุ้งตะโกนเรียกผม เธอโถมตัวกอดผมไว้แน่น ผมดีใจที่ได้ยินเสียงของแม่อีกครั้ง
"แม่ครับ"
ผมหันไปอีกทาง พ่อชาเดินเข้ามาตบไหล่ผมเบาๆ อย่างคิดถึง
"ไงนายมาร์ค"
เสียงของพี่กรทักทาย ผมยิ้มให้พี่ชาย
ผมมองไปรอบๆ ความรู้สึกอย่างหนึ่งประดังประเดเข้ามา...เธอไม่อยู่ที่นี่...ทำไมคนที่ผมรอคอยถึงได้ไม่มา ผมอุตส่าห์เขียนเมลล์ไปเตือนเธอตั้งหลายที...ยัยกุ้งแห้งใจร้าย...ผมได้แต่พ้อเธอในใจ
"พี่หมูอ้วน"
เอ๊ะ...นั่นเสียงของเธอใช่ไหม ผมไม่ได้หูฝาดไปเองหรอกนะ
ผมหันไปมองตามทิศทางของเสียงนั่น
ยัยกุ้งแห้ง ยัยกุ้งแห้งจริงๆ
ผมไม่รู้ตัวหรอกว่าริมฝีปากของผมมันฉีกกว้างเพียงไรเมื่อได้เห็นหน้าเธอ ยัยกุ้งแห้งยิ้มหวานให้ผม มันเป็นรอยยิ้มที่สว่างสดใสจนผมละลานตาไปหมด
ใบหน้าของเธอประทับชัดเจนในใจของผม มันไม่ใช่ความทรงจำสีจางอีกต่อไป
จบ โดย มิถุนา 1/1/2004 20.11 ****************************************
สวัสดีค่ะ
แต่งเรื่องสั้นพิเศษให้เป็นของขวัญปีใหม่ ไม่อยากเชื่อเลยค่ะว่ามิถุนาจะแต่งจบ (เพราะว่าเพิ่งแต่งเมื่อเย็นเอง) อยู่ดีๆ มันก็เกิดไฟในการแต่งขึ้นมา ยังขำตัวเองอยู่เลยค่ะ ใครที่เคยขอของขวัญปีใหม่ไว้คงสมหวังแล้วนะคะ
ไม่รู้ว่าชื่อตัวละครบางตัวคุ้นๆ กันบ้างไหม...พ่อชา แม่รุ้ง...ลุงคิม ป้ายู้...ถ้านึกไม่ออกจะแย้มๆ ให้ค่ะ พี่หมูอ้วน ชลมารค หรือ มาร์ค ก็คือลูกชายคนเล็กของรุ้งทรายและชาลี มีพี่ชายชื่อชยากรนั่นเอง...ส่วนยัยกุ้งแห้ง พระพาย หรือ ลม...ลูกสาวคนโตของอุรสาและคิมหันต์ค่ะ
หวังว่าคงจะชอบนะคะ
มิถุนา www.thai.net/mynovel/first.html (คราวที่แล้วพิมพ์ชื่อเวปไซด์ตัวเองผิดค่ะ น่าอายจริงๆ)
จากคุณ :
มิถุนา (ไม่ได้ล็อกอิน)
- [
1 ม.ค. 47 22:51:33
A:202.133.166.145 X:
]
|
|
|