บอกให้ทราบกันก่อนนะคะว่าเป็นบทความที่เขียนลงในนิตยสารหมอชาวบ้าน คอลัมน์ชุมชนสร้างสุข โดยเป็นข้อมูลที่ได้มาจากสำนักงานปฏิรูประบบสุขภาพแห่งชาติ (สปรส.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบในการผลักดันให้เกิด พ.ร.บ. สุขภาพแห่งชาติ (ตอนนี้เป็นแค่ร่าง พ.ร.บ. อยู่ค่ะ) สามารถติดต่อกับ สปรส. ได้ที่ 02-5902483 ค่ะ
นอกจากเรื่องบ้านสามวัยนี้แล้ว ยังมีเรื่องดีๆ น่ารักๆ จากการรวมพลังสร้างสุขของอีกหลายชุมชนเลยค่ะ จะทยอยเขียนมาให้ได้อ่านกันนะคะ หรือติดตามอ่านจากนิตยสารหมอชาวบ้านก็ได้เหมือนกันค่ะ
อีกทางหนึ่งที่จะได้รับรู้การสร้างสุขขึ้นในชุมชน ก็สามารถติดตามฟังได้ในรายการชีพจรชุมชน ทุกวันเสาร์ เวลา 6 โมงเย็นถึง 1 ทุ่ม ทาง FM. 92.5 MHz ค่ะ
ต่างวัย แต่สุขใจในบ้านสามวัย
ครอบครัวที่จะพาไปรู้จักกันในวันนี้ เป็นครอบครัวใหญ่ ต่างวัย ต่างสายเลือด ที่อยู่ร่วมชายคาบ้านเดียวกันได้อย่างมีความสุข น่ารักน่าอิจฉามากๆ เลยค่ะ
สมาชิกในครอบครัวก็ประกอบด้วยปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา พี่ น้อง และหลานๆ ในชุมชนที่มา รวมตัวกันอยู่ในบ้านสามวัย ซึ่งเป็นบ้านของอาจารย์กาญจนา เกตุแก้ว ลูกสาวคนโตของครูจองกับแม่อุดม ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ใจดีเป็นครอบครัวใจบุญที่ทุกคนในชุมชนให้ความเคารพรัก
มัวแต่เกริ่นนำทาง เดี๋ยวหน้ากระดาษจะไม่พอ ตามเข้ามาดูกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าในบ้านเขาทำอะไรสนุกๆ กันบ้าง อ๊ะ
นั่นไงคะ เสียงดนตรีไทย เพลงค้างคาวกินกล้วยค่ะ .. ตึง ตื้อดึง ตื่อดึง ตื้อดึง ตื่อดือดื๊อดือดื่อดึงดึงดึ้งดึงดึ่ง ทั้งซอ ขิม จะเข้ ระนาด ครบวงเลยค่ะ เด็กๆ เขากำลังซ้อมดนตรีไทยอยู่บนบ้านกันค่ะ
ที่นี่เขาสอนดนตรีไทยให้กับเด็กๆ โดยไม่คิดสตางค์ สอนกันมาตั้งแต่สมัยครูจองยังมีชีวิตอยู่ กว่า 20 ปีแล้วค่ะ เรียกว่าให้วิชาความรู้กันด้วยใจ เด็กๆ ที่มาเรียนก็มาด้วยใจเหมือนกันค่ะ ด้วยใจรักอยากจะเรียน รักดนตรีไทย และรักที่จะรักษาสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมอันดีงามของชาติไทยไว้ให้คนรุ่นหลังได้สืบทอดกันต่อไป นี่แหละค่ะที่เป็นจุดเริ่มต้นของบ้านสามวัย
แน่ะ
เสียงตำน้ำพริกโป๊ก โป๊ก โป๊ก กลิ่นเครื่องแกงโชยมาแตะจมูก หอมเชียวค่ะ ฮั่นแน่ะ .. กลืนน้ำลายดังเอื๊อกเหมือนกันหรือเปล่า มาค่ะมา .. ตามมาดูต้นตอของกลิ่นและเสียงชวนกินนี้กัน โน่นค่ะ .. บรรดาแม่ครัวพ่อครัวมือฉมังกำลังหั่นผัก สับหมู ตำเครื่องแกง ผัดกับข้าวกันอย่างสนุกสนานเลยค่ะ และใกล้ๆ กันนั่นก็คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย มีคุณลุง คุณป้าบางคนก็ไปร่วมวงรำไม้พลองกันอย่างคล่องแคล่วกระฉับกระเฉงทีเดียว แหม .. เปิดเทปเพลงกลองยาวแล้วก็ดัดแปลงท่ารำไทยมาใช้กันซะด้วย ไม่ใช่เล่นๆ นะคะเนี่ย กิจกรรมรำไม้พลองกลองยาวของกลุ่มผู้สูงวัยแห่งบ้านสามวัยหลังนี้เคยชนะการประกวดมาแล้วด้วยนะคะ
ส่วนเด็กๆ ก็ไม่เบาเหมือนกันค่ะ มีรายได้จากการรำไทยเล่นดนตรีตามงานต่างๆ แถมยังแบ่งเวลามาช่วยกันเพาะเห็ดขายอีกด้วย เด็กบางคนที่ครอบครัวไม่อบอุ่นก็ชอบที่จะมาอยู่ที่นี่ มาเรียนร้องรำเล่นดนตรีไทยกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ซึ่งพี่ๆ ก็จะคอยช่วยสอนน้องๆ ด้วย ว่างจากซ้อมดนตรีไทย ก็ไปนั่งพูดคุยกับคุณตาคุณยายที่มักจะเล่านิทาน คำพังเพย ร้องเพลงพื้นบ้านเพลงไทยเดิมให้ฟัง บางคนก็ไปช่วยคุณลุงคุณป้าทำขนม จักสานของใช้ต่างๆ เรียนรู้วิถีชีวิตภูมิปัญญาไทยแต่ดั่งเดิมที่สืบทอดต่อกันมา ไม่มีใครเผลอหลับ นั่งเบื่อ หรือแอบหลบโดดร่มหนีเรียนไปจากกิจกรรมที่บ้านหลังนี้เลยสักคน
เอ้า
ได้เวลารวมพลกินข้าวมื้อเย็นร่วมกันแล้วค่ะ อิ่มจากมื้อนี้ก็แยกย้ายกันกลับบ้านนอนหลับฝันดี พรุ่งนี้ค่อยกลับมามีความสุขสนุกร่วมกันในบ้านสามวัยหลังนี้กันใหม่
นี่แหละค่ะ กิจวัตรประจำวันกิจกรรมประจำบ้านของคนสามวัยในครอบครัวใหญ่อันแสนอบอุ่นภายในบ้านหลังนี้ ไม่มีช่องว่างระหว่างวัย มีแต่การถ่ายทอดสิ่งดีๆ ให้ด้วยใจ และการซึมซับรับสิ่งดีๆ นั้นไว้ด้วยใจ เช่นกัน คนที่นี่จึงสุขภาพกายดี สุขภาพจิตเยี่ยม สุขภาพชุมชนก็เลยแข็งแรงตามไปด้วย
ถ้าใครอยากปฏิวัติสุขภาพครอบครัว ปฏิรูปสุขภาพชุมชน ก็ไปเยี่ยมชมหรือพูดคุยปรึกษากับอาจารย์กาญจนา เกตุแก้ว ได้ค่ะ บ้านเลขที่ 128 ม.2 ต.เด่นใหญ่ อ.หันคา จ.ชัยนาท โทร. 056-422075 ค่ะ
จากคุณ :
แม่น้องขวัญ
- [
2 ม.ค. 47 02:10:45
A:203.172.70.102 X:
]