นายขี้เก็กกับยัยปากร้ายตอนที่3 (มาแล้วจ้า)

    ตอนที่ 3
                “ว่าไงยัยนาเพิ่งว่างมาเจอฉัน ถ้าไม่มีอะไรก็คงจะลืมเพื่อนคนนี้ไปแล้วมั้ง” นายประธานลูกชายเสี่ยใหญ่เจ้าของร้านทองชื่อดัง เอ่ยทักเพื่อนสาวเขาอย่างอารมณ์ดี
                “โธ่! ก็คนมันไม่ว่างนี่ นายก็เหมือนกันแหละไม่โทรมาหาฉัน ไอ้เราก็คิดถึงนึกว่าจะโทรมาหาสักนิดก็ไม่มี  เฮ้อ!น่าเศร้าจริงๆ” ชนกนาแกล้งทำเสียงเป็นน้อยใจ
                “ไม่ต้องแกล้งทำเป็นเศร้าเลยยัยนา ที่ว่าคิดถึงทำไมเธอไม่โทรมาหาฉันเองเลยล่ะ ทำไมต้องรอให้ฉันโทรหา กลัวเปลืองค่าโทรศัพท์ล่ะสิ ”
               “โธ่ รู้แกวซะแล้ว” ชนกนาทำหน้าบึ้ง แต่ดวงตาเป็นประกาย
               “ว่าไงมีอะไรจะเล่าให้กระผมฟัง”
               “คืองี้...” พอชนกนาเล่าจบ ประธานก็พูดสวนขึ้นมาทันที
               “แกโง่เปล่าเนี่ย เงินเดือนก็ได้ตั้งเยอะ งานก็สบาย แกจะได้ไม่ต้องไปหางานทำให้เหนื่อยอีกต่างหาก ไปเลย ไปกับฉันเดี๋ยวนี้” พอประธานพูดจบก็ลากชนกนาออกจากร้านอาหารจับใส่รถ(ยัดย่ะไม่ใช่จับ)
               ภายในรถสงครามเล็กๆกำลังจะเกิดขึ้น
               “ไอ้ประธาน แกจะพาฉันไปหนาย....”ชนกนาร้องขึ้นหลังจากที่ถูกยัดใส่รถ
               “ไปถึงเดี๋ยวก็รู้เองแหละแก ตอนนี้ฉันไม่บอกแกหรอกยังไม่อยากตาย” ประธานพูดกับชนกนาเสร็จก็หันกลับไปขับรถไม่สนใจคนข้างๆว่าจะหน้างอยังไง
               “เฮ้ย ! ไอ้ธาน แกพาฉันมาที่นี่ทำไม” ชนกนาร้องขึ้นมาทันทีที่เห็นป้ายบริษัทอาร์มาดากรุ๊ป          
               “ก็พามาให้แกไม่ต้องเสียงานดีๆไปไงเล่า ไปลง” ประธานเมื่อจอดรถเสร็จก็ลงไปเปิดประตูที่ชนกนานั่งอีกข้าง แต่คนที่นั่งอยู่ไม่มีทีท่าว่าจะขยับ
               “ลงเดี๋ยวนี้ยัยนา !” ประธานพูดเสียงแกมบังคับเพื่อนสาว แต่เพื่อนสาวของเขาก็ไม่ขยับอีกประธานเลยตัดสินใจลากกกกกกแทน
               “ไม่ไปฉันไม่เข้าไปบริษัทนี้ ฉันไม่ปาย.......ไอ้ประธานปล่อยฉันน่ะ” ชนกนาพยายามสะบัดมือจากประธาน แต่ก็สะบัดไม่ออก (ก็มือนายนี่อย่างกับตุ๊กแกแน่ะ)
               ในที่สุดนายประธานของพวกเราก็ลากชนกนาเข้าไปในบริษัทเป็นผลสำเร็จ แต่กว่าจะลากเข้าไป  เหนื่อยแทบตาย
               ประธานลากชนกนาไปที่ประชาสัมพันธ์ มือจับชนกนาไว้แน่นกลัวหนี และรีบกล่าวบอกกับพนักงานสาวที่นั่งอยู่ทันที
              “ขอโทษครับ ผมอยากจะขอพบผู้บริหาร มิสเตอร์ เอริค หน่อยครับพาคนมาสมัครงาน”
              “รอสักครู่น่ะค่ะ” พนักงานโทรศัพท์ขึ้นไปถึงชั้นบนพูดอะไรบางอย่างก่อนจะหันหน้ามาถาม
             “ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรค่ะ”
             “บอกว่าคนที่ชื่อชนกนามาขอพบครับ”
             แล้วพนักงานก็หันไปพูดโทรศัพท์ต่อ และวางโทรศัพท์หันมาบอกว่า
             “เชิญเลยค่ะ เดินตรงไปลิฟท์ตัวในสุดค่ะ”
             “ขอบคุณมากครับ” ประธานพูดยิ้มกับพนักงานสาว และก็ลากชนกนาไปที่ลิฟท์
             “คุณประธานขา....ปล่อยนาน่ะค่ะ น่ะน่ะ อย่าพาเพื่อนคนนี้ไปเลย” ชนกนาพยายามอ้อน
             “ไม่ต้องมาทำเสียงหวานเลย จะขึ้นไปดีๆหรือว่าจะให้ฉัน บอกป๋าแกดีว่า บริษัทแกกำลังจะล้มละลาย และแกก็กำลังจะตกงานฮะ” ประธานหันมาขู่ขณะที่ยืนรอลิฟท์
              ชนกนาหน้าซีดเผือดลงทันที  
             “อย่าน้า....ขอร้องล่ะ อย่าบอกป๋าน่ะเรายังไม่อยากโดนเชือด น้านายธานน่ะ”
              ชนกนาคิดในใจ ถ้าป๋ารู้น้า...ไม่ตายดีแน่เลย ก็รู้อยู่ว่าป๋าดุยิ่งกว่าอะไร(หนูไม่ได้ว่าป๋าน่ะค่ะ) ไอ้เพื่อนบ้า เล่นไม้นี้เราจะทำยังไงได้
              ประธานพอเห็นชนกนาร้องขึ้นมา ก็เข้าแผนของกระผมสิครับ5555 แต่ก็พยายามตีหน้าขรึมไม่ให้คนข้างๆสงสัย
              เสียงสัญญานของลิฟท์ดังขึ้น ประธานเดินเข้าไปก่อนที่จะพูดกับชนกนาที่ยืนอยู่หน้าลิฟท์
             “ยัยนาจะเข้ามาดีๆหรือจะให้ฉันโทรบอกป๋าแกตอนนี้ฮะ” คนที่พูดไม่พูดเปล่าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมโทร “อ๋า...อย่าน่ะ ไปแล้วจ้า ไปแล้ว” และแล้วชนกนาก็ต้องยอมไป
             ภายในลิฟท์ไม่มีการพูดจาอะไร ต่างคนต่างเงียบ คนหนึ่งคิดว่าจะทำยังไงดีไม่ไปเจอหน้านายเอริค แต่ถ้าไม่ ก็ต้องโดนเพื่อนตัวแสบเอาเรื่องบริษัทไปบอกคุณป๋า แต่ถ้าไปนายนั่นก็ต้องเยาะเย้ยแน่ว่าในที่สุดก็ไม่มีที่ไป คิดไม่ออกทำไงดี(ไม่ต้องคิดแล้วเจ้ ขึ้นลิฟท์มาแล้วจะหนีไปไหนได้) ส่วนอีกคนเงียบลูกเดียว ไม่คิดกังวลอะไรเพราะกำลังสบายใจแบบสุดๆที่ได้แกล้งเพื่อน
              เสียงสัญญานลิฟท์ดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่ประตูจะเลื่อนเปิดออก ประธานเดินจูงมือชนกนาออกมาจากลิฟท์เดินตรงไปที่โต๊ะเลขาหน้าห้อง ขณะที่ชนกนามองรอบตัวก็พบว่า ชั้นนี้เป็นชั้นส่วนตัวไม่มีใครเลยนอกจากเลขาหน้าห้องที่กำลังลุกขึ้นยืนต้องรับ
               “เชิญเลยค่ะ มิสเตอร์เอริคกำลังรออยู่ค่ะ”
               เลขาเดินนำไปที่ประตูห้อง ก่อนจะเคาะประตูเปิดเข้าไป
               “มาแล้วค่ะมิสเตอร์ เอริค”
               “เชิญเข้ามาเลย” เสียงนุ่มๆที่ดังกังวาน ส่งเสียงมาให้คนยืนหน้าประตูได้ยิน
               เลขาจึงเปิดประตูให้กว้างขึ้น และถอยออกไป ชนกนาก็กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น เพราะเพื่อนข้างๆก็ดีจนน่าใจหาย ผลักเธอเข้าไปอย่างไม่เกรงใจ ส่วนตัวเองก็ปิดประตูไม่เข้ามาด้วย ทิ้งให้เธออยู่คนเดียว
             

    จากคุณ : แก้วใส - [ 2 ม.ค. 47 13:58:23 A:203.144.143.250 X:202.133.144.149 ]