สวัสดีครับ คุณชนกนา เอริคเอ่ยทักชนกนาอย่างอารมณ์ดี
หวัดดี ชนกนาเห็นหน้าคนข้างหน้าร่าเริงก็รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
เชิญนั่งครับ
ไม่ต้องมาเชิญหรอก ฉันไม่อยากนั่ง ฉันไม่ได้มาสมัครงาน อย่าเข้าใจผิด
ก็คุณบอกพนักงานข้างล่างไม่ใช่เหรอครับ ว่ามาสมัครงาน เอริคถามด้วยความแปลกใจ
ฉันไม่ได้มาสมัครงาน ฉันแค่ถูกบังคับให้มา แค่นี้แหละไม่มีอะไรแล้ว สวัสดี ชนกนาพูดเสร็จก็หันหลังเดินออกจากห้อง แต่เอริคยังไม่ต้องการให้ชนกนาไปจึงลุกขึ้นเดินก้าวยาวๆคว้าแขนเธอเอาไว้ คนที่ตั้งท่าจะเดินไม่ทันระวังเมื่อเขารั้งเอาไว้จึงเซถลามาปะทะตัวเขา ทำให้ล้มลงไปทั้งคู่
ว๊าย...เอริค ทำอะไรกันค่ะเนี่ย
เสียงแหลมปรี๊ดที่กรีดออกมาจากปากสีแดงสด คล้ายกับแม่มดที่ไปกินเลือดมา เสียงนั้นทำให้คนที่กอดกันกลมอยู่ผละออกจากกันทันที
เอ่อ...ลิซ่า...นี่ที่ปรึกษาคนใหม่ของผมเอง
คราวนี้ผู้ถูกอุปโลกน์ขึ้นมาสดๆร้อนๆต้องอ้าปากค้างตาโตเท่าไข่ห่านทันที
ที่ปรึกษาเหรอค่ะ...ทำไมลิซ่าไม่เห็นรู้เรื่องมาก่อนเลยค่ะเอริค แล้วเป็นที่ปรึกษาต้องเนี่ยกอดกับเจ้านายด้วยเหรอค่ะ
เอริควางหน้าเฉยไม่สนใจ พลางยื่นมือมาจูงมือคนข้างตัวที่ยืนตกตะลึงอยู่ข้างๆ
คนนี้คนพิเศษครับ
เมื่อลิซ่าได้ยินดังนั้นก็เดินตรงเข้ามาแยกชนกนาแล้วก็ฟาดฝ่ามือลงบนแก้มนวลทันที
เพี๊ย
แต่ก่อนที่เอริคจะทำอะไร คนที่ถูกตบไปหมาดๆก็ซัดคืนทันที
เพี๊ย
เรื่องไม่จบง่ายๆ เมื่อลิซ่าทำท่าจะโผนเข้าใส่ชนกนาอีก แต่เมื่อเห็นท่าทางที่ไม่ยอมแพ้ บอกว่า เข้ามาสิเจอดีแน่ ลิซ่าจึงไม่กล้าเข้าไป
งั้นเราเลิกกันเถอะค่ะ เอริค
ลิซ่าหวังว่าจะให้เอริคงอนง้อ แต่ความเข้าใจผิดไปเสียแล้ว เมื่อเธอได้ยินคำตอบกลับมาว่า
ครับ
เอริค
ลิซ่าพูดได้เพียงเท่านี้ก็กรีดร้องขึ้นมา และวิ่งออกไปจากห้องไปทันที เมื่อลิซ่าไปแล้ว เอริคก็ยืนเฉยไม่สนใจคนที่วิ่งออกไป
หลังจากที่ชนกนายืนมองเหตุการณ์ข้างหน้ามานานก็หันมาตบหน้าคนข้างๆทันที
คุณมาตบผมทำไม
ชนกนาเตรียมตัวจะฟาดมือลงไปยังหน้านั้นอีกครั้ง ดีที่เอริคจับข้อมือคนตรงหน้าทัน
ก็จะได้เลิกพูดบ้าๆสักทีไง
ผมพูดบ้าๆเรื่องอะไร
ฮึ ! ก็เรื่อง ที่ฉันจะเป็นที่ปรึกษาของคุณน่ะสิ
ผมพูดจริง
ถึงคุณจะพูดจริง ฉันก็ไม่สนที่จะทำหรอก ไม่มีอะไรแล้วฉันกลับล่ะ สวัสดีอีกครั้ง หวังว่าจะไม่ต้องเจอหน้ากันอีก ชนกนาพูดจบก็เดินออกจากห้องไปทันที
เอริคได้แต่นั่งลงบนเก้าอี้อย่างเหนื่อยใจ เพราะจะทำยังไงก็คุณเธอก็ไม่ยอมใจอ่อนสักที สงสัยงานนี้ต้องลงทุนทำอะไรสักอย่างซะแล้ว
อีกด้านหนึ่ง ชนกนาเดินออกมาจากบริษัท มองหารถของเพื่อนตัวแสบที่ทำให้เธอเดือดร้อน แถมยังโดนตบฟรีอีก ชนกนาเดินมาได้สักพักก็เจอรถพร้อมเจ้าตัวนั่งอยู่ในรถ เธอจึงเดินไปเปิดประตูรถและเข้าไปนั่ง ระหว่างขับรถประธานพยายามชวนคุยยังไง เธอก็เงียบอย่างเดียวไม่สนใจ จนถึงบ้าน
นา โกรธเรามากเหรอ ประธานดึงแขนชนกนาไว้ก่อนจะลงจากรถ
นายคิดว่าฉันสมควรโกรธมากไหมล่ะ ชนกนาตอบอย่างกระชากเสียง
เราขอโทษน่ะนา อย่าโกรธเราเลย เราแค่อยากให้เธอได้งานดีๆ ประธานพยายามอ้อนวอน
ไม่รู้สิ แต่ตอนนี้ วันนี้ฉันโกรธนาย ไว้ค่อยคุยกันวันหลังแล้วกัน ชนกนาพูดจบก็ลงจากรถเดินเข้าบ้านทันที
ประธานก็ได้แต่มองจนชนกนาเดินเข้าบ้านไป จึงขับรถออก
เช้าวันรุ่งขึ้น ชนกนาก็แต่งตัวไปทำงานปกติระหว่างลงบันไดก็ได้ยินเสียงพูดคุยในห้องรับแขกดังมา จึงเกิดความสงสัย เมื่อลงมาถึงข้างล่างจนเห็นแขกที่นั่งอยู่เป็นใครก็ร้องขึ้นทันที
คุณมาทำอะไรที่นี่ ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้น่ะ
คุณจงกลเมื่อเห็นลูกสาวลงมา ก็ตกใจที่ลูกตะโกนใส่แขกซึ่งนั่งอยู่ จึงพูดปราม
ยัยนา ทำไมพูดกับแขกแบบนี้หละลูก
ป๋าให้เขาเข้าบ้านมาได้ไงค่ะ ชนกนาหันมาถามผู้เป็นพ่อ
ก็เขามาขอป๋าให้อนุญาตให้ลูกไปทำงานกับเขาไงล่ะ คุณจงกลก็ตอบคำถามลูกสาวอย่างไม่รู้เรื่องอะไร
ชนกนาได้ยินดังนั้นก็ตกใจ หันไปถลึงตาใส่คนที่เป็นแขกทันที นายนี่เล่นแผนสูงมาพูดกับป๋า ชนกนาก็ได้แต่คิดแค้น เพราะทำอะไรไม่ได้ต่อหน้าป๋า
เอริคก็ยิ้มอยู่ในใจตั้งแต่เห็นเธอลงมา และเริ่มอารมณ์เสียเมื่อเห็นเขา และเขาก็คิดว่าเธอต้องไม่ปฏิเสธแน่นอน เพราะมีคนบอกเขามาว่าเธอกลัวและเกรงใจพ่อของเธอมากที่สุด
คุณเอริค จะให้ลูกสาวผมเริ่มงานเมื่อไหร่ครับ
เอริคหันมามองหน้าชนกนา และตอบกลับไปว่า
ก็คงจะเป็นพรุ่งนี้แหละครับ เพราะวันนี้ผมคิดว่าคุณนาคงจะต้องไปเคลียร์งานที่บริษัทเก่าก่อนนะครับ จริงไหมครับคุณนา เอริคจงใจแกล้งชนกนาจึงหันมาถามเพื่อยั่วให้เธอโกรธ
ฉัน...ป๋าค่ะ นาไปทำงานก่อนน่ะค่ะ ชนกนาพูดจบก็เข้าไปหอมแก้มป๋าของเธอแล้วเดินออกไปทันที
เอริคเห็นดังนั้นก็รีบลากลับทันที เดินตามออกไปทันคว้าข้อมือชนกนาที่กำลังจะเข้ารถ
นี่คุณปล่อยมือฉันน่ะ ! ถือดียังไงมาจับห๋า ชนกนาพยายามสะบัดมือออก แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะยิ่งดึงก็ยิ่งแน่นเข้าไปใหญ่
ผมไปส่ง
ไม่ต้อง! ฉันก็มีรถ ฉันไปเองได้ ปล่อยได้แล้ว
ไม่ได้คุณต้องไปกับผม เอริคไม่ปล่อยให้ชนกนาได้เถียง พูดเสร็จก็ดึงเธอไปทันที เปิดประตูดันเธอเข้าไปนั่ง ส่วนตัวเองก็รีบเดินไปนั่งข้างคนขับ ไม่ลืมที่จะล็อกประตู และขับออกไปทันที
เอ๊ะ... นี่คุณฟังที่ฉันพูดไม่รู้เรื่องหรือไง... และชนกนาก็บ่นไปตลอดทาง แต่คนที่ขับก็ไม่มีท่าทางว่าจะสนใจ จึงบ่นไปอีกจนเหนื่อยจึงเงียบ จนคนนั่งข้างๆหันมามองและพูดออกมาหลังจากเงียบไปนาน
อ้าว... เหนื่อยแล้วเหรอครับ เงียบเชียว
ชนกนาหันมามองเห็นสายตาล้อเลียนของเขาพอดี ก็หงุดหงิดจึงหันหน้าหนีมองออกไปนอกหน้าต่างรถทันที แต่ก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาดังมาให้ได้ยิน
ตื่นได้แล้วครับ ถึงบริษัทคุณแล้ว
ชนกนาลืมตาขึ้นทันที นึกในใจว่าตัวเองเผลอหลับไปได้ยังไงเนี่ย ชนกนาก็รีบเปิดประตูลงจากรถทันที แต่ไม่ลืมที่จะหันมาพูดว่า ขอบคุณ
เอริคเปิดกระจกแล้วพูดกลับไปว่า เปลี่ยนคำขอบคุณมาเป็นดินเนอร์คืนนี้แล้วกันน่ะครับ เย็นนี้ผมมารับ พูดเสร็จก็ขับรถออกไปทันที ไม่ฟังคำตอบรับหรือปฏิเสธ ปล่อยให้คนที่ได้ยินยืนกระฟัดกระเฟียดอย่างไม่สบอารมณ์ เดินเข้าบริษัทด้วยสีหน้าบูดบึ้ง จนพนักงานในบริษัทต่างพากันหลบเพราะกลัวมรสุมจะหล่นใส่
พูดเอง เออเอง คอยดูเย็นนี้จะแกล้งเสียให้เข็ด ชนกนาได้แต่พูดงึมงำอย่างแค้นใจ(พระเอกของเราแย่แย้ว...)
.................โปรดติดตามตอนต่อไป........................
ขอโทษค่ะที่มาอีกกระทู้ คอมฯมันติดค่ะฮิๆๆๆ
แก้วใส
จากคุณ :
แก้วใส
- [
2 ม.ค. 47 14:23:19
A:203.144.143.250 X:202.133.144.149
]