. . . เปอร์เซโปลิส . . . ( Persepolis) . . . ๑๙

                                                 ถือศีล

    เพื่อให้เราลืมเลือนส่ายังอยู่ระหว่างสงคราม อิรัคเลือหใช้นโยบายใหม่...

    "ผมได้ยินว่าพวกมันตกลงจะใช้หัวรบกับเรา"เพื่อนคุณพ่อกล่าวขึ้นในวงสนทนาเมื่อ
    มาเยี่ยมเราพร้อมภรรยา

    "คุณพูดอะไรน่ะ? เราไม่ได้อยู่ในสงครามกัยโซเวียตนะ ผมไม่เชื่อว่าอิรัคมีอาวุธ
    พรรค์นั้น" คุณพ่อค้าน

    "จากชายแดนอิรัคถึงเตหราน มันเป็นระยะทางไกลนับพัน ๆ ไมล์ จรวดมิสไซล์ ที่
    ยิงไปไกลได้อย่างนั้นต้องใช้เงินมหาศาลเชียวนะ"คุณพ่อเสริม

    "เออ ก็แค่ข่าวลือน่ะ"

    "เราชาวอิหร่านเป็นแชมป์เรื่องซุบซิบเสมอล่ะค่ะ" ฉันออกความเห็น

    "เธอพูดถูก เราชอบพูดเกินจริง" คุณพ่อสนับสนุน

    "อาการคุณน่ะเป็นตรงข้ามนะคะ" คุณแม่ว่าอย่างล้อเลียน

    "ทำไมคุณพูดอย่างนั้นล่ะ?"

    "แม้แต่เมื่อคุณเห็นอะไรมากับตาคัวเอง คุณยังต้องมีบีบีซีมายืนยัน"

    "ผมมองโลกในแง่ดีโดยธรรมชาติอยู่แล้วแต่ก็อดระแวงไม่ได้"

    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    การมองโลกในแง่ร้ายไม่ช้าก็มีชัยเหนือการมองโลกในแง่ดีของคุณพ่อ ปรากฏว่าอิรัค
    มีมิสไซล์จริง พวกมันมีชื่อว่า"จรวดสกัด"และแล้วเตหรานก็กลายเป็นเป้าโจมตีของมัน

    เมื่อเสียงหวอดังขึ้น มันหมายความว่าเรามีเวลาสามนาทีที่บอกให้เรารู้ว่าวาระสุด
    ท้ายมาถึงแล้ว

    "เราไม่ไปชั้นใต้ดินหรือคะ?" ฉันถามคุณพ่อคุณแม่

    "ไม่ต่างอะไรกันหรอก"คุณพ่อบอก

    "ลองนึกดูถึงความเสียหายไม่ส่าเราอยู่ใต้ดินหรือบนหลังคา ก็เหมือนกันน่ะ"คุณแม่ออกความเห็น

    เวลาสามนาทีนานราวกับสามวัน เป็นครั้งแรกที่ฉันตระหนักว่าเราอยู่ในอันตรายเพียงใด

    ตูม!!

    "หนูยังไม่อยากตาย"ฉันโผเข้ากอกคุณแม่ระล่ำระลักบอก

    "ไม่หรอกจ๊ะลูกรัก แม่สัญญา"

    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    ตอนนี้เมื่อเตหรานถูกโจมตีหลาย ๆ คนหนี  เมืองร้าง สำหรับเราเรายังอยู่ ไม่ใช่แค่
    หมดศรัทธา หากส่าจะมีอนาคต ในสายตาของคุณพ่อคุณแม่ อนาคตนั้นเกี่ยวข้อง
    กับการศึกษาของฉันที่ฝรั่งเศส และมีแต่ที่เตหรานเท่านั้นที่ฉันจะสามารถทำได้

    "คนบางคนที่รอบคอบมากก็จะหลบภัยในชั้นใต้ดินของโรงแรมใหญ่ ๆ ที่ขึ้นชื่อ
    เรื่องความปลอดภัย เห็นกันชัด ๆ ว่าโครงสร้างคอนกรีตเสริมแรงน่ะป้องกันแรง
    ระเบิดได้" ฉันเดินไปก็บ่นไปบนท้องถนนอันว่างเปล่า

    "ตัวอย่างหนึ่งก็คือเพื่อนบ้านของเรา ครอบครัวบาบา-เลวี พวกเขาเป็นครอบครัว
    ชาวยิวจำนวนน้อยทียังอยูาหลังจากการปฏิวัติ คุณบาบา-เลวีบอกว่าบรรพบุรุษเขา
    มาอยู่ที่นี่ตั้งสามพันกว่าปีแล้ว อิหร่านก็คือบ้านของพวกเขา"

    ...เนดาลูกสาวของเขา ที่ไม่ค่อยชอบเล่น แต่ชอบคุยฟุ้งเรื่องเพ้แฝันตลอดเวลา

    "...วันหนึ่งเจ้าชายผมบลอนด์ นัยน์ตาสีฟ้าจะมาพาฉันไปอยู่ที่ปราสาทเขา" นาดาว่า

    "ใช่เลย ฉันด้วย"

    แต่ ชีวิตก็ยังดำเนินต่อไป...

    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    ...วันหนึ่ง ที่เหมือนวันอื่น ๆ

    "แม่ขาหนูขอสตังค์หน่อยนะคะ? หนูจะไปซื้อยีนส์ กะรองเท้าแตะ"

    "เท่าไหร่ล่ะ"

    "เออ สักพันนึง พันสอง "

    "ตั้งพันนึง" คุณแม่ทวนเสียงหลง

    "ค่ะ นั่นราคาของมัน"

    "เข้าใจล่ะ"

    ค่าเงินของเราตกตลอดเวลา ตอนชาห์ยังอยู่ สี่ ตูมานต์อลกได้หนึ่งดอลลาร์ สี่ปีให้
    หลัง หนึ่งร้อยสิบตูมานส์แลกได้แค่หนึ่งดอลลาร์  สำหรับคุณแม่แล้วอัตราแลกเปลี่ยนรวดเร็วเกินกว่าท่านจะตั้งตัวทัน

    ฉันไปกับเพื่อนชื่อ ชาดี

    "ดูเป็นไงบ้าง" ฉันถามความเห็นขณะลองกางเกงยีนส์

    "ดูเยี่ยมเลย"

    "ตกลงฉันซื้อยีนส์ตัวนี้ แล้วตุ้มหูคู่นี้ด้วย" ฉัยบอกพนักงานขายที่เคาน์เตอร์

    "ฉันเอาแหวนวงนั้น นั่นน่ะ" ชาดีชี้

    เรากำลังจับจ่ายอย่างเปรมปรีดิ์ทันใดนั้นก็ ...

    ตูม

    "จรวดมิสไซล์เพิ่งลงที่ละแวกทาวานีร์"เสียงประกาศจากวิทยุ

    "อะไรนะ" ฉันอุทานตกใจ

    ทาวานีร์เป็นถิ่นที่ฉัยอาศัยอยู่

    ไม่รอช้าฉันถลันออกจากร้านโดยไม่สนใจอะไร

    "ยีนส์ครับ"เสียงคนขายไล่หลังมา

    หากมีใครมาจับเวลา ฉันคงลบสถิติความเร็วโลก

    "แท็กซี่"

    ไมื่ออยู่ในรถฉันพร่ำแต่บอกคนขับว่า " เร็วๆ ค่ะ เร็วกว่านี้หน่อย"

    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    ฝูงชนมาออกันบนถนนหน้าบ้านฉัน ระเบิดลงที่ถนนบ้านฉัน

    "คุณคะ ตึกไหนที่โดนระเบิด"ฉันเดินเข้าไปถามผู้หญิงคนหนึ่ง

    "มันระเบิดที่ปลายถนนจ๊ะ" เธอตอบ

    ตึกที่ฉันกับพวกบาบา-เลวีอาศัยอยู่ปลายถนน

    "ให้ฉันไปหน่อย" ฉันร้องขอทางพลางแทรกตัวผ่านฝูงชน

    มีโอกาสหนึ่งในสองที่จะเป็นตึกที่ฉันอยู่

    "ให้ฉันไปหน่อยเถอะค่ะ"

    "เธอไปต่อจากนี้ไม่ได้แล้ว" เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่คุมสถานการณ์อยู่บอก

    "...ฉันอาศัยอยู่ที่นี่ค่ะ..."

    แล้วเขาก็ยอมปล่อยให้ฉันผ่านไป

    ฉันไม่อยากแหงนหน้ามอง ฉันมองที่ขาอันสั่นเทา ฉันไปต่อไม่ไหวแล้ว มันเหมือนฝันร้าย

    "ขอให้ท่านมีชีวิตรอดด้วนเถิด  ให้ท่านมีชีวิตรอด ให้ท่าน..."

    "มาร์จี"เสียงคุ้นเคยเรียกชื่อฉัน

    "มาร์จี"

    "แม่" ฉันร้องทั้งน้ำตาแล้ววิ่งโปเข้ากแดคุณแม่


    "คุณแม่สบายดีนะคะ? คุณพ่อสบายดีใช่ไหม? คุณย่าสบายดีหรือเปล่า?"

    "ทุกคนสบายดี แมาอยู่แค่คนเดียวที่บ้าน"

    "โอ้ แม่ขา"

    "..."

    "ระเบิดลงที่ไหนคะ"

    "บ้านพวกบาบา-เลวี"

    "อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ได่อยู่บ้าน"

    "..."

    "แม่คะ พวกเค้าไม่อยู่บ้สนใช่ไม๊คะ?"

    "เออ แม่ไม่รู้จ๊ะ มันเป็นวันเสาร์ ลูกก็รู้ ๆ อยู่นี่"

    "หนูรู้ค่ะว่าวันเสาร์ แล้วไงคะ"

    "วันเสาร์เป็นวันถือศีลของพวกยิว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน พวกเขาต้องกลับบ้าน"

    "...แม่คิดว่าอย่างนั้นหรือคะ...?"

    "จริงอยู่ว่าพวกเขาไม่ค่อยฉลาดเฉลียว  แต่แม่ว่าหนูอาจจะพูดถูก  พวกเขาคงพักที่
    โรงแรมฮิลตัน" คุณแม่พูดปลอบ

    "ลูกจำได้ไหมเทปที่แม่ติดไว้ตามหน้าต่างน่ะ? มันใช้ได้ปลเยี่ยม หน้าต่างแตกทุก
    บานแต่ไม่มีกระจกแตกเกลื่อยบ้านสักชิ้นเลยล่ะ"

    ฉันรู้ว่าคุณแม่พยายามเปลี่ยนแรื่องคุย

    เมื่อเราเดินผ่านบ้านพวกบาบา-เลวี ที่พังพินาศสิ้น ฉันรู้สึกได้ว่าท่านพยายามดึงฉันออกมาให้ไกล ๆ  มีอะไรบอกฉันว่าพวกบาบา-เลวีอยู่บ้าน มีบางสิ่งเรียกความสนใจฉัน

    ฉันเห็นสร้อยคอเทอคว้อยซ์ มันเป็นของเนดา คุณป้าของเธอให้เธอตอนวันเกิดครบสี่ปี

    สร้อยคอยังติดอยู่กับ...

    ฉันไม่รู้ว่าอะไร...


    ฉันปิดปากไม่ให้หลุดอะไรออกมา

    ฉันปิดตาเพื่อไม่ให้เห็นภาพนั้น

    ไม่มีเสียงกู่ร้องใดในโลกที่จักบรรเทาความเจ็บปวดและเครียดแค้นของฉันได้

    แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 47 23:49:48

    แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 47 14:47:27

    แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 47 14:46:42

    จากคุณ : ส.ค.ศ. ๔๙๑๔ - [ 2 ม.ค. 47 14:40:31 ]