+++ พี่ชาย กับ ยัยขี้แย +++ <1>

    คุยกันก่อน

    อันที่จริงเรื่องสั้นเรื่องนี้เขียนเสร็จตั้งแต่ ปลายเดือน พฤศจิ นู่นแน่ะ
    เพราะตั้งใจเขียนให้เป็นของขวัญปีใหม่กับพี่ชาย
    <ก็ให้พี่ชายอ่านก่อน> แล้วจึงนำเรื่องนี้มาลงไว้ที่นี่ค่ะ ^^

    ป.ล. ไม่ได้ลงเรื่องทั้งหมดรวดเดียวนะคะ แบ่งเป็น สามตอนจบ ค่ะ

    -------------------------------------------------
          +++ พี่ชาย กับ ยัยขี้แย +++
    -------------------------------------------------

    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
                             แด่... พี่ชาย
    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ๑.

    เย็นวันเสาร์ ขณะที่ปุยเมฆสีขาวบนพื้นหลังสีคราม
    เคลื่อนที่ไปกระทบกับแสงอาทิตย์สีทองซึ่งทอจากดาวฤกษ์ขนาดใหญ่
    ที่ห่างไกลเกือบร้อยล้านไมล์มายังชั้นบรรยากาศของโลก
    หญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ จากสีหน้าบ่งบอกถึงอารมณ์เซ็งสุดขีด
    ลมเย็น ๆ ทำเอาต้นไม้ใบหญ้าแถวนั้นไหวเอนไปตามแรงที่กระทบ
    ต้นหญ้าลู่ชัน ก่อนจะโชยผ่านหน้าต่างของห้องสีครีมเข้ามา

    ไม่ว่าเธอจะต้องมนตร์วิเศษจากลมนั่น หรือเพราะอย่างใด..
    มันก็ทำให้เธอฟุบหลับคาโต๊ะนั่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    หน้าจอยังคงเปิดสว่าง ภายในห้องค่อย ๆ มืดลงเรื่อย ๆ
    ไม่มีแสงไฟในห้องเปิดไว้อยู่แม้แต่ดวงเดียว คาดว่าเธอคงประหยัดไฟกระมัง

    ~ ติ๊ด ๆ .. ติ๊ด ๆ .. ติ๊ด ๆ .. ~
    เสียงเรียกจากโปรแกรมตรวจเช็คอีเมลล์ดังขึ้นพร้อมสัญญาณสีส้มบนหน้าจอ
    เจ้าโปรแกรมแสนฉลาดไม่รีรอให้เจ้าของเครื่องตื่นขึ้นมากดปุ่มนั้นปุ่มนี้
    มันขึ้นข้อความว่า ‘You have got a message from someone.’
    สักห้านาทีต่อมา เจ้าโปรแกรมไม่รออีกต่อไปแล้ว รีบรันอีเมลล์ที่ถูกส่งมานั่นในทันที

    สวัสดีจ้ะ น้องสาวผู้น่ารัก, (แหวะ! เขียนเองยังแทบจะอาเจียน)

    ไม่มีอะไรมาก พี่ว่าเราคงจะลืมไปแล้วแน่ ๆ เลย ว่าวันนี้เป็นวันอะไร
    (แน่ะ กำลังคิดอยู่ล่ะสิ ว่าเป็นวันเสาร์..) อืม งั้นพี่จะบอกกับเราว่า
    สมองของเราน่ะ รีบไปตรวจได้แล้ว พี่คิดว่าคงจะเป็นอัลไซเมอร์เข้าสักวัน
    อ๊ะ! หรือไม่จริง? ทีนี้จำได้หรือยัง? ยังไม่ได้อีกล่ะสิ.. เอ?! แต่พี่คิดว่าเราคง
    ยังไม่ได้จำอะไรเลยสักนิด เพราะเราหลับอยู่ พี่คงจะส่งเมลล์ฉบับนี้มาผิดเวลา
    เออ.. จริงด้วยแฮะ ยังไม่ห้าโมงเลย คงหลับอยู่ เอาเป็นว่า สุขสันต์วันเกิดมาก ๆ
    นะ มีความสุขเยอะ ๆ คืนนี้ถ้าไปฉลองที่ไหน อย่าลืมส่งเค้กมาให้พี่ด้วย!

    พี่ชาย

    หน้าจอถูกเปิดทิ้งไว้ยังงั้นจนกระทั่ง ตอนเช้าที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
    หากเป็นเวลานอนที่ประเทศไทย เวลาของเกมโชว์สุดโปรดของเธอพอดี

    ~ กริ๊งงงงง! กริ๊งงงงง!... ~
    โทรศัพท์บ้านที่วางอยู่ไม่ห่างจากคอมพิวเตอร์มากนักดังขึ้นอย่างไม่ปรานี
    หญิงสาวรูปร่างบางสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างหงุดหงิด
    ใครกัน..? บังอาจมารบกวนเวลานอนในตอนค่ำของยัยดาวคนนี้? ห๊า?
    ช่างน่าเบื่อเสียจริงเลย!
    ไม่ทันได้หันไปมองอีเมลล์พื้นหลังสีฟ้าบนหน้าจอ
    แต่กลับเดินอย่างคนซึม ๆ ไปยังโทรศัพท์ที่ดังอย่างไม่ขาดสายนั่น

    “ฮาโหล?? ใครคะ” พยายามทำเสียงให้ใสสุดฤทธิ์แต่ยังไงก็เหมือนคนเพิ่งตื่นนอน

    “ฮึ! ยัยน้องตัวแสบ เพิ่งตื่นล่ะสิท่า คิดไว้แล้วไม่มีผิด อย่างเราน่ะรึ!?”
    คนทางโน้นกรอกเสียงมาอย่างรู้ทันน้องสาวตัวแสบของตัวเอง

    “อ้าว! พี่กรณ์เองเหรอ? ก็ว่า ใครช่างบังอาจมาปลุกดาวเนี่ย?! ก็นอนอยู่น่ะ”
    ทักชื่อไป แสดงว่ายังจำได้ แม้จะไม่ได้ติดต่อไปเกือบหนึ่งปี
    คำสุดท้ายน้ำเสียงแผ่วลง เหมือนกับถูกจับได้คาหนังคาเขา

    “ไม่ต้องบอกก็รู้ ว่าแต่ทำอะไรอยู่? ทำไมไม่เห็นตอบเมลล์ที่ส่งไป?
    แล้ววันนี้ออกไปไหนบ้างหรือเปล่า หรือว่าเที่ยวที่บ้านแทน?”
    คนที่ถูกเรียกว่า พี่กรณ์ โยนคำถามทั้งหมดใส่ตัวยัยดาวที่เพิ่งตื่น
    ทำให้เธอเปรยออกมาอย่างหงุดหงิด ‘ฮึ! นึกว่าจะอะไร ที่แท้ก็ถามแค่นี้
    แล้วจะโทรมาให้เสียกะตังค์ทำไม!?’

    “แล้วพี่ส่งอะไรมาล่ะ? ไม่ยักจะรู้ ตะกี้ก็อยู่หน้าคอม ไม่เห็นมีอะไร”
    หญิงสาววัยจะยี่สิบแล้วแก้ตัวไปได้อย่างน้ำขุ่น ๆ ก็จริงไหมล่ะ?
    เธออยู่หน้าคอมตลอดเลย เว้นแต่เธอไม่ได้บอกไปอย่าง
    ว่าที่อยู่หน้าคอมน่ะ กำลังหลับอยู่

    “ยังจะมาแก้ตัวน้ำขุ่นๆ อีก ที่ว่าอยู่หน้าคอมน่ะ หลับอยู่หรอกน่า”
    คนที่เป็นพี่รีบพูดอย่างรู้ทัน ยัยดาวอ้ำอึ้งอยู่นาน แต่ก็ไม่ทันที่จะได้
    แก้ตัวเป็นรอบที่สอง นายจิตตกรณ์ หรือพี่กรณ์ของเธอก็รีบตัดบท
    ชิงพูดในสิ่งที่อยากพูดและสาเหตุที่ทำให้โทรมาครั้งนี้เสียก่อน

    “เอ่อ ๆ อยู่นั่นแหละ ไม่ต้องพูดแล้ว โทรจากอเมริกานะ! แล้วพี่มี
    งานรออยู่ พี่แค่จะโทรมาบอกว่า สุขสันต์วันเกิดมาก ๆ เท่านั้นแหละ
    แล้วก็หวังว่าเราเองคงไม่ลืม.. เอ๊ะ รึเปล่าก็ไม่รู้ ก็รู้อยู่ว่าเป็นคนยังไง
    อืม แค่นี้แหละ” จากนั้นคนทางโน้นที่ว่าโทรจากอเมริกาก็ตัดสายไป
    ทันที ทิ้งให้เธอพูดส่งอยู่เพียงคนเดียว

    “วันเกิดเหรอ? เฮ้! เดี๋ยวสิ พี่กรณ์!...”

    ..เออ ใช่ วันนี้วันเกิดเรานี่นา โอ๊ย! สมองนะสมอง ทำไมขี้ลืมยังงี้นะ?!
    ไม่บ่นเปล่าเอากำปั้นเล็ก ๆ ทุบสมองด้านขวาไปด้วย นึกได้ว่าตะกี้พี่กรณ์
    พูดถึงเมลล์ที่ส่งมา เลยเดินดุ่ม ๆ ไปยังโต๊ะคอมพิวเตอร์ เปิดหน้าจอที่
    สแตนด์บายไว้ออกมา พบจดหมายหนึ่งฉบับเปิดทิ้งไว้อยู่โดยที่ยังไม่ได้
    ผ่านตาเลยแม้สักครั้ง

    ‘เมื่อสองสามชั่วโมงที่แล้วนี่ เฮ้อ! คนอาไร้ ตื่นตั้งแต่ไก่ยังไม่ทันได้ขัน’

    อ่านจดหมายนั่นจบ คิดไปก็น้อยใจ ไม่ได้ทะเลาะด้วยตั้งหนึ่งปี
    ทำไมมันน่าเบื่อ และก็ เซ็ง ยังงี้ก็ไม่รู้ ฮึ! ยังจะโทรมาปลุกเราตอนเย็นอีก
    จากนั้นค่อยคิดถึงโปรแกรมที่จะไปฉลองวันเกิดคนเดียวที่ไหนดี
    ก็ทำยังไงได้ แม่กับพ่อไปดูงานที่ต่างจังหวัด ตาพี่กรณ์ ก็ไปศึกษางาน
    อีก ตั้งสองปี นี่ก็เพิ่งผ่านไปปีเดียวเอง

    นายจิตตกรณ์ที่ดาวินันท์น้อยใจนักน้อยใจหนา ไม่ใช่พี่ชายแท้ ๆ อย่างที่ว่า
    ทั้งสองรู้จักกันในงานเลี้ยงรุ่นของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จากนั้นก็ได้
    เรียนรู้กันและกันผ่านโปรแกรมออนไลน์ ค่อยแปรจากคนรู้จักกลายเป็น
    พี่น้องกันในที่สุด คนเป็นพี่มักจะมาที่บ้านของดาวบ่อย ๆ ..บ่อยเข้าก็สนิท
    กันไปโดยไม่รู้ตัว  

    ทั้งสองเป็นคู่กัดกันมาตั้งแต่ยัยดาวอยู่ปีหนึ่ง เป็นที่รู้จักกันทั้งคณะที่เรียน
    อยู่ เพราะเธอช่างแสบเหลือเกิน แสบเกินคำจะบรรยาย

    เธอเข้าไปในห้องแต่งตัวได้ไม่ถึงห้านาที ก็รีบพรวดออกมา โดยที่ยังแต่ง
    ตัวไม่เรียบร้อย นี่ถ้าแม่มาเห็นเข้า คงได้บ่นกระเจิงไปแล้ว!

    จัดแจงจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางเสร็จ ออกมาเป็นหญิงสาวในชุดเสื้อยืด
    ตัวโปรดกับกางเกงยีนส์ นี่แหละน๊า สไตล์การแต่งตัวที่ไม่เคยเปลี่ยนของเธอ
    ออกจากบ้านแล้วคว้ากุญแจรถออกมา ก่อนที่จะขับรถ วีออส คันหรูออกไป
    ยังห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน

    <่ติดตามกันอีกนิดนะคะ>

    แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 47 09:37:08

    แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 47 19:58:30

    แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 47 19:07:31

    แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 47 19:04:52

    จากคุณ : invisible_TJ - [ 2 ม.ค. 47 19:03:41 ]