..
ผมมารู้อีกทีว่ายีติดโรคมาจากไอ้บัbซบนั่น ไอ้บัbซบที่เห็นแก่ตัวอย่างเป็นที่สุด เสียดายที่มันตายจากไปก่อนแล้ว ไม่งั้นผมคงต้องหาทางตะบันหน้ามันสักตั้ง..
ผมได้แต่นึกเสียใจที่กลับมาช้าเกินไป นี่ถ้าผมกลับมาเร็วกว่านี้อีกหน่อย ผมคงไม่ปล่อยเธอให้ดูโทรมจนได้ขนาดนี้..
..
ยีถูกผมพาเข้าพักฟื้นในโรงพยาบาลอยู่เกือบอาทิตย์จนสุขภาพเธอดีขึ้นมาก ผิวหน้าที่แม้จะซูบตอบ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะมีเลือดฝาดระเรื่อ สภาพจิตใจเธอก็ดีขึ้นอย่างเป็นลำดับ โดยซึ่งมีผมคอยให้กำลังใจเธออยู่ข้าง ๆ ..
ระยะแรก เธอราวกับยังเมินเฉยต่อความเพียรพยายามของผม เหมือนกับยังหวาดระแวงและทำใจไม่ได้ที่จู่ ๆ ผมมาทำดีกับเธอขนาดนี้ ทั้งที่เมื่อก่อนเธอทำร้ายผมไว้มาก.. ทำร้ายอย่างเจ็บแสบที่เกินกว่าคนทั่วไปจะอภัย..
เธอยังไม่ให้อภัยตัวเอง และยังทั้งพยายามผลักไสไม่ยอมรับไมตรีผมอยู่ตลอดเวลา
แต่ผมเข้าใจความรู้สึกนี้เป็นอย่างดี เพราะเวลานี้ยิ่งผมทำดีต่อเธอเท่าไหร่ เธอยิ่งรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น..
แต่จะให้ผมทิ้งเธอไปอย่างงั้นหรือ??.
ผมคงจะทำไม่ได้แน่ เพราะนั่นก็เท่ากับทิ้งให้เธอเผชิญกับโลกคนเดียวอีกหน ซึ่งมันโหดร้ายเกินไปสำหรับเธอในเวลานี้จริง ๆ...
ยีร้องไห้กับผมในค่ำวันหนึ่ง เธอบอกให้ผมเลิกทำดีกับเธอได้แล้ว เธอรู้สึกทำใจไม่ได้ยิ่งเมื่อผมดีต่อเธออย่างงี้..
และยิ่งรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งเวลาเห็นผม..
ผมคิดไม่ถึงว่าความหวังดีของผมจะกลับกลายเข้าทำร้ายเธออย่างไม่รู้ตัว มันเหมือนอะไรบางอย่างจุกอยู่ที่คอหอยทำเอาผมพูดไม่ออก ผมนิ่งฟังเธอพูด เธอบอกกับผมอีกหลายอย่าง เธอบอกว่าคนอย่างผมน่าจะเจอคนที่ดี ๆ ความรู้สึกระหว่างเราสองมันก็แค่อดีต อดีตที่ผมยังลืมไม่ได้มันก็เพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น..
เธอต้องการให้ระหว่างเราพบหน้ากันเป็นครั้งสุดท้าย กรามผมขบกรอดแน่น คิดทบทวนสิ่งที่เธอพูดมาทั้งหมด..
และก่อนที่ด้ายเส้นสุดท้ายนี่จะขาดลง...
ผมก็ได้พรั่งพรูความรู้สึกที่จุกล้นนี่ออกมาทั้งหมด ผมบอกกับยีว่าผมไม่เคยแคร์ว่าต่อไปจะเป็นยังไง ผมไม่สนว่าวันนี้หรือวันไหน ผมไม่สนว่าจะตายร้ายดียังไง ไม่ว่าต่อไปเธอจะเป็นคนหรือผี ผมรู้อยู่อย่างเดียว วันนี้ผมจะขาดเธอไม่ได้ เธอใจร้ายกับผมมาพอแล้ว ...
ผมระส่ำวิงวอนขอร้องให้เธออย่าได้ใจร้ายกับผมต่อไปอีก..
สิ่งที่ผมพูดออกมายิ่งรังให้เธอร้องไห้หนักขึ้น ผมโอบกอดเธอเข้าไว้แนบอก ซับน้ำตาที่ยังไหลลงมาไม่ขาดสายให้เธอเบา ๆ ..
แต่งงานกับผมนะ
เธอคงแทบจะช็อคกับคำพูดผมในขณะนั้น แต่ผมตระหนักดีว่าเวลาของเราสองคนเหลือไม่มากแล้ว ฉะนั้น ผมย่อมไม่ปล่อยเวลาให้มันผ่านไปเปล่า ๆ แน่ ทุกนาทีของผมในขณะที่ได้อยู่ใกล้ชิดเธอจึงมีค่านับยิ่ง..
ไม่มีอะไรที่เป็นสื่อบ่งบอกแทนที่ความรักในขณะนั้นของผมได้นอกจากขอบฝาของคอขวดน้ำเปล่าขวดนึงที่วางอยู่ใกล้ ๆ ผมรีบถอดแกะขอบฝาที่คอขวดนั่นออกมา ก่อนจะค่อย ๆ บรรจงสวมลงนิ้วนางข้างซ้ายของยีอย่างแผ่วเบา..
หลวมไปหน่อยนะ
แต่ผมสัญญาว่าจะหาอันที่เหมาะกับนิ้วคุณให้โดยเร็วที่สุด
เธอเหมือนสะอึกอะไรบางอย่างจุกล้นคอหอย สีหน้าอุทานเธอตื่นตระหนกราวยิ่งเหลือเชื่อ ผมบรรจงจรดริมฝีปากตัวเองลงบนปากบางเรียวน้อยของเธออย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะบดขยี้ลิ้มรสจูบกับเธออย่างหนักหน่วง..
จูบแรกที่ผมผมโหยหามาชั่วชีวิต...
....
..
ช่วงเวลาแห่งความสุขเราเริ่มจากนั้น ผมไปเลือกชุดวิวาห์พร้อมกับยี สีหน้าของเราสองคนเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ฝันร้ายผ่านพ้นไปแล้ว เวลาที่เหลือของเรานี้ จักมีแต่วันที่ฟ้าใสสวยงามต่อ ๆ ไป ไม่มีอะไรที่มันสายไปสำหรับผมกับยีจริง ๆ และนี่คือผลของการที่ผมได้พิสูจน์ตัวเอง...
ค่ำวันนั้น เราฉลองการแต่งงานเงียบ ๆ
กันแค่สองคนในห้องสูทหรูบนโรงแรมแห่งหนึ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา..
..
....
ผมกอดเอวยีไว้อย่างหลวม ๆ จากทางด้านหลัง สายตาสองเรามองผ่านออกกระจกกั้นด้านหน้าอย่างมีความสุข แสงไฟยามค่ำคืนระยิบระยับดาษดื่นไปทั่วเมืองกรุง ราวกับเหมือนจะมาร่วมอวยพรให้กับคืนแห่งความชื่นมื่นนี้..
ผมรักคุณจัง
ผมกระซิบอย่างแผ่วเบาที่ริมข้างหูยี หน้าที่แดงระเรื่อของเธอจากฤทธ์ไวท์ยิ่งแดงกล่ำเร้าอารมณ์ผมมากขึ้นไปอีก ..
ขอโทษนะค่ะ
เธอพูดเหมือนพึมพัมกับผมอย่างแผ่วเบา แต่ผมกลับเอื้อมมือค่อย ๆ ไปวางแตะริมฝีปากเธอไว้..
ชู่ว!!
ห้ามพูดอะไรทั้งนั้น
ผมก้มกระซิบพูดต่อเบา ๆ ที่หู ก่อนที่จะละไล้ลิ้นพรมระดมสูดกลิ่นกายเธอไปทั่วซอกแก้ม เธอหันหน้าเอนข้างขึ้นรับฝีปากของของผม ลิ้นสองเราถูกเกี่ยวกระหวัดแลกราวเป็นเนื้อเดียวกัน..
...
ชุดวิวาห์เธอถูกผมปลดลงช้า ๆ ทุกอย่างภายใต้เสื้อผ้าของเธอเด่นเป็นสง่าตรงหน้า ผมอุทานเบา ๆ ถึงเรือนร่างที่ยังสวยงามล้นของเธอ แม้จะดูซูบตอบไปสักนิด แต่สำหรับผมแล้ว เธอเหมือนราวเทพธิดาน้อย ๆ ที่คงสวยงามเหลือยิ่งค่าที่สุด...
ผมเริ่มปล่อยอารมณ์ไปตามจังหวะ ทุกสิ่งไล้ราวเหมือนกับธรรมชาติ เสียงเธอครางกระเส่าเบา ๆ ยิ่งเร้าปลุกความกำหนัดผมให้ถึงขีดสุด และก่อนที่จะ...
ไม่ได้ค่ะ
ยีจะเห็นแก่ตัวไปมากกว่านี้ไม่ได้
ผมรู้แล้วว่าเธอต้องห้ามผมอย่างแน่นอน ผมหยิบอะไรบางอย่างออกจากระเป๋ากางเกงที่วางไว้ด้านข้างออกมา และเอ่ยกับเธอว่า..
คุณวางใจเหอะ
ผมชูกล่องถุงยางอนามัยนั่นให้เธอดู ก่อนจะทำเหมือนฉีกถุงออกและจัดการสวมอย่างรวดเร็ว..
ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้วนะ
ผมค่อย ๆ ชำเหลือบแรกเข้าไปอย่างช้า ๆ สิ่งที่ผมเฝ้าตามหามาชั่วชีวิต บัดนี้ผมได้ครอบครองมันแล้ว ผมกอดเธอแนบแน่นไว้กับอ้อมกอดพร้อมขยับตัวละไล้อย่างเป็นจังหวะ เล็บเธอจิกเกร็งกดแน่นลงบนหลังผม ตัดกับเสียงเธอร้องครางระส่ำที่ก้องอยู่ในโสตประสาตของผมไปทั่งคืน..
......
...
เป็นอะไรไปนะ
ผมกอดกระหวัดร่างอันเปล่าเปลือยของเธอจากทางด้านหลัง จากที่เสียงเธอร้องสะอื้นไห้ไม่อยุดได้ปลุกผมตื่นเมื่อกี้..
นึกเสียใจเหรอที่เป็นของผมแล้ว
เธอส่ายหัวก่อนจะระร่ำระส่ำพูดกับผมว่า..
เมื่อคืนคุณไม่ได้ป้องกันใช่ไหม
ผมยิ่งโอบเธอแน่นขึ้นอย่างอ่อนโยน ก่อนจะพูดขึ้นเบาๆกับเธออย่างอารณ์ดี..
เป็นผัวเมียกันแล้ว ถ้าผมยังมัวป้องกันอยู่ก็เหมือนไม่ให้เกียรติกันนะสิ
เธอปล่อยโฮมาอีกระลอก โผหันกลับมาซบกอดผมแน่บแน่น ปากพร่ำบอกหาว่าผมโง่.. ด่าว่าผมอีกสารพัดนานา.. แต่ผมกลับยิ้มกริ่มพร้อมกอดเธอไว้แน่น ไอ้ที่ผมอาจจะโง่จริงหรือเปล่า ผมไม่รู้นะ .. ผมรู้เพียงอย่างเดียวว่าชั่ววินาทีนี้ผมรักเธอเป็นที่สุด..
รักเธอคนเดียว....
.....
...
---
ผมย้อนมองดูร่างอันสงบของเธอบนเตียงอีกครั้ง ตาเธอปิดลงสนิทแล้ว ยังคงเหลือเพียงคราบน้ำตาแห้ง ๆ บนปื้นตานั่น สองมือผมยังกุมเธอไว้แนบแน่น ความรักของเราฟันฝ่ามาหลากเยอะเหลือเกิน ..
แต่สำหรับยี เธอจะมีเพียงความทรงจำดี ๆ เหลือไว้ให้ผมเท่านั้น..
ความรักของเรายังจะคงอยู่...
. . . ต ร า บ นิ รั น ด ร . .
อุทิศความรักนี้แด่ ยี และ ผม ในเรื่อง
---- 5 มกราคม 2547 -------
จากคุณ :
เหว่ย
- [
5 ม.ค. 47 11:19:01
A:203.209.117.6 X:
]