*~*~*ดาราฝั่งทะเล*~*~*
บทนำ
เข้ามาเถิด..สหาย
เสียงลมรำพึง ยามรำเพยพัดเเนวยอดพร้าวหวิดหวีว
คล้ายกับจักเอ่ยถ้อยชวนเชิญ..
ให้ผู้ใดสักผู้หนึ่งที่กำลังย่างเท้าเลียบเเนวหาดโค้ง
เข้ามาทรุดกายนั่งลงบนเนินทรายเเก้ว ที่ราวกับว่าถูกทาทับไว้ด้วยประกายสีเงินยวง..ใต้เงาสลัวเเห่งเเสงจันทรา
ขยับ เข้ามา ..ณ ราตรีนี้ ข้ามีเรื่องราวที่จักเล่าให้เจ้าฟัง..
คืนค่ำ
คลื่นน้อยคำรามครางครวญ ก่อนที่จักคลายเกลียวซัดกระทบฝั่งทรายเเละโขดหินก้อนมน ..พรายละอองฟองขาว ลงบนผืนทรายยะเยียบ ปานเสียงกระซิบซาบเเผ่วเบา บอกเล่าเรื่องราวจากท้องทะเลลึก
ซึ่งโอบล้อมด้วยขุนเขาสูงทะมึน ที่ทอดตัวเหยียดยาวรับกับหาดเว้าดั่งวงเดือน..
ใต้หล้ามีเรื่องเล่าขานมีมากมาย..ทว่าก็มิใช่ทุกเรื่องเสมอไป..ที่จักกลายเป็นตำนาน
..ลมรำเพยละม้ายทอดถอนใจ
...
ดวงเดือนเด่นฟ้า
ประดับดาริกาพริบพราย..เเต่งเเต้มรัศมีนวลบุหลันฉาย
ที่เส้นปลายขอบเเห่งรัตติกาล ตัดกับท้องธารอันกว้างใหญ่..เวิ้งว้าง..
จนเเลดูเสมือนว่า..ดวงดารากับท้องทะเล
ช่างอยู่ใกล้กันเหลือเกิน..
ดาวน้อยวิบวับจากขอบหนึ่งของเบื้องฟ้า..ร่วงลิ่วทิ้งปลายเเสงหรี่รางเพียงชั่วครู่..ก่อนที่จักดับลับลงเลือนหาย..ราวกับจักตกหล่นลงสู่มหาสมุทร..
...เรื่องราวของดาว กับ ทะเล ก็เช่นกัน
ประหนึ่งเเนบใกล้..เพียงปลายตา
เเต่ทว่า..ห่างไกล..กัน นิรันดร์..
ละลอกริ้วกระเเสธารา..เอ่ยรำพึงเเผ่วโผย ก่อนที่จักซัดฟองขาวเเละเปลือกหอยทะเลสีสวยอันน้อยฝากไว้บนหาดทรายเนียน
พลางกระซิบเล่าตำนาน..ซึ่งเคยเกิดขึ้น ณ ที่นี้
เมื่อกาลครั้งหนึ่ง
.
..สดับเถิด
สหาย
..ราตรีนี้ยังอีกยาวไกล..นัก
เเล้วคลื่นละลอกน้อยจึ่งค่อย ๆ คลายม้วนเกลียวสีเงิน เพื่อเอ่ยถ้อย..ร้อยเรียงคำขับขานเป็นลำนำเรื่องหนึ่ง เเห่งท้องทะเล
แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 47 09:24:28