+++ พี่ชาย กับ ยัยขี้แย +++ <2>

    -------------------------------------------------
         +++ พี่ชาย กับ ยัยขี้แย +++
    -------------------------------------------------

    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
                            แด่... พี่ชาย
    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ๒.

    เดินดูร้านอยู่สักพัก 'เอ็ม เค? แหวะ เอียนเป็นบ้า! พิซซ่า? บรึ๋ย กินจนหน้าจะ
    แบนอยู่แล้ว! โออิชิ? เฮ้อ! อยากกินแต่เบื่อ! แม็คฯ? เคเอ็ฟซี? โอ๊ย! ผ่านทุกวัน
    ไม่เคยกินก็แย่!' สรุปว่า แต่ละร้านไม่ถูกใจยัยดาวคนนี้เลยสักร้านเดียว
    เดินต่ออีกหน่อยไปเจอะ ร้านอาหาร สไตล์ หวาน ๆ ของ อิตาเลี่ยนเข้า!
    ชื่อ อิล มาเร่ อ่านดูก็คล้ายชื่อหนังที่เคยดูแฮะ แต่ช่างมัน ก็น่ากินดี
    ภายนอกร้านตกแต่งด้วยวัสดุราคาแพง ในสไตล์ติดท้องทะเลสีคราม

    ใครไม่รู้จักเธอดี ก็คงไม่รู้ว่ายัยนี่ เลือกร้านอาหารที่จะกินนานแค่ไหน
    ว่าจะกินข้าวกลางวัน กลายเป็นข้าวบ่ายไปได้ซะนี่ เคยออกมากินกับนายกรณ์
    อยู่ครั้งหนึ่ง เถียงชนะไว้เข้าว่า

    'อ้าว! ไม่รู้เรอะ ว่าเดี๋ยวนี้เค้ากินควบกันแล้ว! ข้าวกลางวัน + ข้าวเย็น
    มันจะได้สมการว่า ข้าวกลางวัน + ข้าวเย็น = ข้าวบ่าย โดยปริยาย
    ฮึ! ตกเลขมาล่ะสิท่า ต้องให้ดาวสอน! เชยจริง ๆ!'
    เล่นเอาตากรณ์เหงื่อตกแทบตาย แถมต้องส่ายหัวอย่างใคร่เอ็นดูหญิง
    สาวตรงหน้าไว้ก่อน แล้วค่อยยอมรับสมการบ้า ๆ บอ ๆ นั่นไปตามยถากรรม

    แถมหญิงดาวคนนี้ ยังต้องเลือกมุมโต๊ะที่ถูกใจอีกต่างหาก อะไรช่างเลือกมาก
    ปานนี้.. แต่คราวนี้ เข้าไปในร้านอาหารนั่น ไม่รีรอ เลือกที่นั่งซึ่งติดกับหน้าต่าง
    ข้าง ๆ เป็นภาพฝนตก น้ำไหลติดหน้าต่างลงมา ให้ความเหงาอย่างบอกไม่ถูก
    ก่อนจะสั่งอาหารจานโปรดมานั่งทาน

    "อะแฮ่ม ๆ โถ.. น่าสงสาร ต้องมาฉลองวันเกิดคนเดียว เหงาแย่เลย"
    เสียงทุ้ม ๆ ดังมาจากข้างหลัง นึกแค้นในใจ คนบ้าที่ไหนมาแซวกันยังงี้!
    แล้วค่อยหันหน้าไปมองคนใจร้ายนั่น!

    "พี่กรณ์!!!! ตาพี่บ้า! มายังงี้คนเค้าตกกะใจหมด"
    ที่ว่าจะสาปจะแช่ง จะแก้แค้นเมื่อตะกี้ หายไปจากหัวสมองหมด
    นึกตกใจไม่หาย เมื่อสองชั่วโมงที่แล้วยังคุยโทรศัพท์กันอยู่ดี ๆ ไหงมา
    เจอกันที่นี่ได้?

    "อ้าว! ถ้าไม่มายังงี้ จะเซอร์ไพรส์ เหรอไง? แหม มานั่งติดหน้าต่างยังงี้
    ท่าทางจะเหงาจัดแฮะ!"

    "เฮอะ! ฉลองคนเดียว ยังดีกว่ามานั่งกับคนใจร้ายแบบนี้!?"

    "ใจร้าย? อ๋อ.. งั้นพี่ไปก่อนละ มีงานด่วน มาทักทายแค่นี้แหละ"
    ยังไม่ทันได้ชี้แจงอะไร คนที่ถูกกล่าวหาว่าใจร้าย ก็รีบเดินออกไป
    นอกร้านทันที ยังไม่ได้บอกเลย ว่ารู้ได้ไง ว่าเราจะมากินอะไรที่นี่
    ร้านนี้ก็ยังไม่เคยมาอีกต่างหาก หน้าตาของคนที่นั่งอยู่คนเดียวบอกว่า
    ทั้งงอนทั้งน้อยใจ เฮอะ! จะอยู่เป็นเพื่อนหน่อยก็ไม่ได้!
    โอ๊ย! ยิ่งคิดก็ยิ่งเซ็ง!

    ไฟในร้านดับสนิท! ทีนี้ล่ะ ทั้งโวยวาย ทั้งหงุดหงิด
    "นี่ คุณ บริกรแถวนี้อยู่มั้ย ห๊า?? ทำไมไฟดับยังงี้ ทางออกข้างนอก
    ทำไมไม่เปิดไฟล่ะเนี่ย! โอ๊ย! ชั้นก็ลูกค้านะ!"
    ทำไมต้องมาเกิดในวันเกิดของเราด้วยเนี่ย!?

    ...แฮปปี้ เบิร์ดเดย์ ทู๊ยู   แฮปปี้ เบิร์ดเดย์ ทู๊ยู   แฮปปี้ เบิ๊ร์ด..เดย์   แฮปปี้ เบิร์ด..เดย์   แฮปปี้ เบิร์ด เดย์ ทูยู...

    เสียงเพลงคุ้นหูดังมาแต่ไกล หญิงสาวฉลาดพอที่จะคาดการณ์
    ถึงต้นตอของเรื่องบางเรื่องได้อย่างดี แน่นอนเธอรู้ ว่า ..ใคร
    แสงสว่างจากเปลวเทียนนั่น ทำให้ไฟในร้านสลัว ๆ ขึ้นมานิดหนึ่ง
    เงาของคนถือเค้กขนาดปอนด์กว่า ๆ เป็นชายรูปร่างใหญ่สูงร้อยเจ็ดสิบกว่า ๆ
    เดินมายังคนที่กำลังบ่นอย่างไม่ขาดสาย

    ไฟในร้านค่อย ๆ สว่างขึ้น.. สว่างขึ้น..
    ทำให้เห็นใบหน้าของคนตรงหน้าชัดเจน
    "มาแล้วครับ กรุณาหลับตาอธิษฐาน แล้วเป่าเทียนด้วย"
    ชายตรงหน้าอยู่ในชุดของบริกร ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นนายจิตตกรณ์
    ที่เพิ่งกลับมาจากอเมริกาเมื่อตะกี้นี้ วาจาสุภาพแสดงออกเป็นบริกร
    ที่จะบริการหญิงสาวตรงหน้าด้วยใจ

    หญิงสาวในความปากจัดตะกี้ หายไปพร้อมกับไฟที่ดับนั่น
    พร้อมทำตามอย่างที่นายกรณ์บอก

    ฟู่ววว!
    แสงสว่างจากเทียนดับลง พร้อมน้ำตาที่เอ่อล้นจากนัยน์ตาใสของหญิงสาว
    ผู้เพิ่งจะบรรลุนิติภาวะในวันนี้

    "แน่ะ! ยังจะมาขี้แยแบบนี้อีก เฮ้อ! เดี๋ยวก็กลับซะเลย
    โธ่ อุตส่าห์ เสียตังค์นั่งเครื่องบินมาเพื่อวันนี้โดยเฉพาะเลยนะเนี่ย!
    เลยอดเห็นน้องสาวของพี่แต่งตัวสวย ๆ ออกมาฉลองวันเกิดเลย"
    นายกรณ์ เมื่อได้ที ก็จะบ่นบ้าง

    "ก็ไม่ใช่ นางแบบ นางสาวไทย ที่ไหนนี่? แล้วนี่ก็ไม่ได้ไปงาน
    เลี้ยงโรงแรมไหน แล้วจะแต่งตัวสวยไปทำไม?" เจ้าตัวยังยืนกรานคำเดิม

    "ก็วันเกิดเราเอง ถึงจะไม่ใช่งานเลี้ยงที่ไหนยังไงก็เถอะ!"

    "ช่างเถอะน่า แค่นี้ ดาวก็ซาบซึ้ง จนแทบจะกราบเท้าพี่เข้าแล้ว"

    "อ๊ะ! ไหน ๆ ลองดูซี่ พี่ก็อยากเห็น"

    "เฮอะ! ใครจะทำ ก็แค่เปรียบเทียบให้ดูเท่านั้น ไม่เห็นต้องทำจริง ๆ"

    "กินก่อน ๆ ก็ได้ ไม่ต้องมานั่งเถียงกับพี่หรอกน่า"
    คนเป็นพี่เตือนน้องสาวที่ตะกละ กินเค้กนั่นกับอาหารด้วยความมูมมาม
    อดยิ้มกับภาพตรงหน้าไม่ได้ เป็นปีที่ไม่ได้ทะเลาะกับน้องสาว
    ตัวแสบคนนี้ แต่เวลาจะยังไง ยัยตัวร้ายก็ยังร้ายเหมือนเดิม ..ไม่เปลี่ยน

    พอทานอะไรกันเสร็จ ..พี่ชายอาสาพาไปส่งที่บ้าน
    ระหว่างทาง บทสนทนาก็เกิดขึ้น

    "พี่กรณ์ รู้ได้ไงว่าดาวจะมาฉลองที่ร้านอิตาเลี่ยนนั่น"

    "ทำไมจะไม่รู้ เราน่ะเลือกร้านอาหารจะตาย อะไรกินบ่อย
    จะไม่เข้า ก็เห็นมีแต่ร้านนี้ที่เรายังไม่เคยเข้าไป พี่เคยไปครั้งหนึ่ง
    ว่ามันอร่อยดี ก็คิดว่าร้านนี้แหละ"

    "อ๊อ เรอะ! แสนรู้จัง" คำนี้ถูกเปลี่ยนให้เป็นคำกระซิบแทน
    ใช่ว่าคนฟังจะไม่ได้ยิน หากได้ยิน แต่ไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียง
    ด้วย ยี่สิบแล้วแต่ในสายตาก็ยังเป็นเด็กวันยันค่ำ.

    "แล้ว พี่กรณ์มาที่นี่ได้ไง"

    "ก็ขับรถมา"

    <ติดตามตอนสุดท้ายเจ้าค่ะ>

    จากคุณ : invisible_TJ - [ 6 ม.ค. 47 17:01:43 ]