ค่อนข้างเลือนรางในความทรงจำซึ่งสับสนยุ่งเหยิง อะไรต่อมิอะไรรอบๆตัวมันเหมือนกับสัมผัสอันอ่อนนุ่มแห่งสีน้ำเงินคอยประคับประคองร่างกายแห้งเหี่ยวเต็มไปด้วยรอยย่นบนใบหน้า ผมสีดอกเลาพลิ้วไสวดุจดั่งขนปักษาที่เจ้านกโชคร้ายบังเอิญถูกลูกธนูของนายพรานมือฉมังยิงล่วงลงจากผืนนภากว้างสู่พื้นพสุธาคับแคบของเหล่าสัตว์บกทั้งหลาย เมื่อมีใครสักคนถามขึ้นว่าเวลาใดที่รู้สึกว่าควรค่าแก่การหยุดยั้งบทบาทของตนเองต่อโลก ต่อสังคมแห่งนี้ อย่างไม่ลังเลเลยข้าพเจ้าจะตอบว่ามันคือเวลานี้ วารแห่งการอวสานชั่วนับอสงไขย
ชั่วการตัดสินใจเพียงสั้นๆข้าพเจ้าดำดิ่งลึกลงไปเรื่อยๆสู่สายธารแห่งห้วงมหารณพอันสุดแสนจะน่าประหลาดใจต่อความไพศาลที่เห็นราวกับว่ามันเป็นอีกโลกหนึ่ง โลกที่ปลีกหนีความจริงสากลและแอบตัวแฝงเร้นอยู่ในมิติพิศวง ภาพที่สุดจะบรยายเหล่านั้นรอบๆตัวข้าพเจ้ามันช่างวิจิตรตระการตาเกินกว่าศิลปินเอกไม่ว่าจะยุคเรนาซองซ์หรืออิมเพรสชั่นนิสม์คงไม่สามารถแต่งแต้มสีสันออกมาได้ด้วยเพียงพู่กันหรือเกรียงที่แม้พระวิษณุจะประทานมาให้ก็ตาม จิตใจข้าพเจ้าก็ช่างล่องลอยไปกับความน่าชื่นชมปีติอย่างเพลิดเพลินได้อะไรปานนั้นทั้งๆที่ตามจริงข้าพเจ้าควรจะตื่นตระหนกต่อเจ้าสายน้ำที่จะพัดพาร่างกายแก่ๆนี้ไปแห่งใดก็ยังไม่อาจรู้ได้ . . . แต่ช่างมันเถอะ ปล่อยมันไว้ก่อนสำหรับเรื่องนั้น ดูสิ ดอกไม้ภายใต้ผืนสมุทรนั่นมันไม่งดงามหรอกหรือ ? มันขึ้นมาจากไหนกันเล่า ? จู่ๆมันก็ระบัดใบขึ้นท่ามกลางหมู่สาหร่ายและต่อสู้กับพลังอันแรงกล้าของสายน้ำเบื้องลึก กระนั้นด้วยลำต้นที่แสนจะบอบบางของมันยังอุตส่าห์ต้านเอาไว้และงอกเงยขึ้นอยู่ชั่วนาตาปีเพื่อแพร่เกสรออกไปทั่วท้องบาดาลจนกลายเป็นทุ่งแห่งบุปผชาติ ลูกหลานของมันเองก็พากันเต้นระบำโบกสะบัดลำตัวเอื่อยๆอย่างท้าทายต่อพลังแห่งสายน้ำเบื้องลึกนั้นเช่นกัน เจ้าความลึกได้พาข้าพเจ้าดิ่งลงไปเรื่อยๆอีกครั้ง ปล่อยให้ข้าพเจ้าอาลัยต่อภาพมวลดอกไม้ที่เห็นซึ่งดูเหมือนมันจะโบกลำต้นอ่อนๆของมันเป็นการบอกลาและตะโกนแบบกระซิบๆมาว่า เจ้าโง่!
ร่างของข้าพเจ้าจมลงๆจนไกลเกินกว่าระยะสายตาจะมองเห็นพวกมันได้อีกแล้ว . . .
จากคุณ :
Yourturn
- [
8 ม.ค. 47 19:14:46
]