พรนี้เพื่อใคร...

    ชายคนหนึ่งนั่งหน้าดำคร่ำเครียดอยู่ที่โต๊ะอาหารซึ่งใช้ได้ทั้งทำงานและรับแขก เป็นโต๊ะที่พอรองรับคนได้ประมาณ 4 คนเท่านั้น ห้องที่เขาอยู่มีเพียงห้องเดียวเพียงแต่ใช้ม่านขึงพอให้รู้ว่าส่วนนี้ใช้นอน อีกส่วนก็ใช้ทำกิจกรรมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นทานอาหาร ทำงานหรือนั่งพักผ่อน เขาอาศัยอยู่กับลูกสาวเพียงสองชีวิตเท่านั้น  และวันนี้เขายังคงคิดถึงเรื่องหนี้สินที่ประดังกันเข้ามาเหมือนสายน้ำที่ไม่เคยหยุดไหล  ไหนจะค่าเช่าบ้าน  ค่าเล่าเรียน และหนี้สินอื่นๆ ที่เขากู้มาเพื่อกิจกรรมเหล่านี้ เขาคิดมากจนไม่สามารถที่จะหาลูกค้าประกันฯได้แม้แต่รายเดียว
    "ก็ในเมื่อชีวิตตัวเองเป็นอย่างนี้ยังจะทำให้ใครเชื่อถือได้อีก..." เขานั่งเอามือกุมขมับ และคิด...คิดมานานนับชั่วโมงแล้ว
    "โอ้ย!!!ตูอยากตายโว้ย!..." เขาเคยคิด... "แต่ว่า...ลูก...ลูกเราล่ะจะทำอย่างไร? จะอยู่จะเรียนได้ยังไง ไม่...ไม่เราให้เขาลำบากอย่างนี้ไม่ได้...ได้โปรดเถิดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย..."
    เพราะลูกเขาจึงยังมีชีวิตอยู่... เขาไม่เคยปล้น ไม่เคยโกงใคร ยามมีเขายังพาลูกสาวของเขาไปทำบุญไม่ว่าจะเป็นวันเกิด หรือในวันสำคัญทางศาสนาต่างๆ เท่าที่จะทำได้ตามอัตภาพ เขามีความเชื่อว่าผลบุญทั้งหลายที่ได้เคยทำอาจจะย้อนกลับมาหาไม่เขาก็ลูกสาวของเขาในสักวันหนึ่ง... แต่ว่ามันนานมากเหลือเกินจนเดี๋ยวนี้ผลบุญทั้งหลายนั้นก็ยังไม่ได้ทำให้ชีวิตของเขาดีขึ้น ชีวิตของเขากลับทรุดลง เขาคิดถึงสิ่งที่มองไม่เห็นและหวังในผลบุญ... งานก็แย่ลง... ยังต้องกินอยู่ ค่าเช่าบ้าน ค่าใช้จ่ายในงานที่ทำ ค่าเล่าเรียนของลูก จนทำให้เขาต้องกู้เงิน ยิบยืม จากที่ต่างๆ จนเจ้าหนี้ทั้งหลายเริ่มมาทวงคืนและหยิบยืมจากใครไม่ได้อีกแล้ว... แต่เรื่องเหล่านี้ลูกของเขาไม่รู้เลย ยังคงเรียนและเล่น มีความสนุกไปกับเพื่อนๆ ต่อหน้าลูกเขาไม่เคยแสดงความกลัดกลุ้มให้ได้เห็น อาจจะมีบ้างเมื่อตอนลูกถามหาค่าเล่าเรียนแต่ก็เพียงเดี๋ยวเดียวเท่านั้น "พ่อขาครูเขาทวงค่าเทอมแล้วนะคะ" ... "เหรอลูก... บอกครูว่าอีก 2-3 วัน แล้วพ่อจะไปจ่ายนะตอนนี้พ่อติดงานสำคัญอยู่ยังไม่มีเวลาเลยนะลูก" เขาต้องตอบอย่างนี้ไปทุกครั้ง แต่ว่าคราวนี้เขาจะไปหาที่ไหนได้ล่ะ ไม่มีใครเขาจะให้กู้ให้ยืมอีกแล้ว มีแต่จะมาเอาคืน ของก็เอาไปขายจนไม่เหลืออะไรที่พอจะขายได้แล้ว... เขานั่งจมอยู่กับความคิดจนลืมเวลาแม้แต่ความหิวเขาก็ไม่รู้สึก และในที่สุดเขาเงยหน้าขึ้นพร้อมกับดวงตาที่มีความหวังอีกครั้งหนึ่ง
    "ใช่แล้ว...เรารู้แล้วว่าจะต้องทำอย่างไรมันมีทางนี้ทางเดียวเท่านั้น" มันเป็นความคิดเดียวที่แล่นเข้ามาในความคิดเขาขณะนี้ มันทำให้เขามีความหวังขึ้นมาอีกแม้จะน้อยนิดก็ตามที แต่เขาก็จะต้องทำลองทำในสิ่งที่เขาไม่เคยคิดมาก่อนเพื่อตัวเขาและลูก
    "ลูกวันนี้เราไปทำบุญที่วัดกันนะใกล้จะปีใหม่แล้ว..." เขาพูดกับลูกในเช้าวันหนึ่ง
    "ค่ะพ่อ" ลูกสาวมองหน้าเขาอย่างสงสัย
    "ก็...อีกสองสามวันนี้พ่อมีงานสำคัญต้องทำด้วยอาจไม่มีเวลาเลยอยากทำบุญซักหน่อย" เขาไขข้อข้องใจให้ลูกสาว
    "และอีกอย่างถ้าพ่อเสร็จงานนี้แล้ว..." เขานั่งลงจับที่หัวไหล่ของลูกสาวแล้วมองเข้าไปที่ดวงตาของเด็กหญิงแล้วพูดต่อ "เราจะได้ไปเที่ยวปีใหม่กันสองคนนะลูกนะ" เขายิ้มหลังจากพูดจบ
    "พ่อพูดจริงนะคะ" ... "จ่ะ" ... "...ดีใจจังเราไปกันเลยนะคะพ่อ" ลูกสาวตอบอย่างร่าเริง  แต่ว่าเขากลับยิ้มอย่างหงอยๆ
    หลังจากที่สองพ่อลูกได้ถวายสังฆทานและเพลแล้ว ก็ได้พาตัวมาอยู่ที่หน้าพระประธานและจุดธูปเทียนสักการะพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายแล้วทั้งคู่ก็ได้ตั้งจิตอธิษฐานขอพรเนื่องในวันปีใหม่ที่จะมาถึง...
    "ข้าแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งมวล ผมมุ่งกระทำแต่ความดีไม่เคยคิดร้ายต่อใครไม่เคยคดโกงใคร เมื่อยามมีก็หมั่นทำบุญกุศล มาบัดนี้มีแต่หนี้สิน ความทุกข์และหมดสิ้นหนทาง... ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครด้วยมีกันแค่สองคนพ่อลูกเท่านั้น ขอได้เห็นแก่ผลบุญทั้งหลายที่ผมได้กระทำมานั้นขอได้โปรดประทานพรให้ผมได้หมดหนี้หมดสินมีกินมีใช้โดยไม่ขัดสน การงานสำเร็จลุล่วงไปโดยดี  และมีความสำเร็จในสิ่งที่จะกระทำในครั้งนี้ ไม่ว่าจะแลกกับอะไรผมก็ยอม...สาธุ" เขาขอพรในสิ่งที่ต้องการเสร็จแล้วก็ก้มลงกราบพร้อมกันกับลูกสาวของเขา แล้วทั้งสองก็ออกมาจากวัดแห่งนั้นโดยที่เขาก็ไม่ได้ถามว่าลูกสาวของเขานั้นขอพรอะไรในวันขึ้นปีใหม่ครั้งนี้ เขาจมอยู่ในความคิดและมุ่งมั่นในสิ่งที่ต้องการจะทำในครั้งนี้
    เด็กหญิงหลับไปแล้วเหลือแต่เขาที่นอนกระสับกระส่ายไม่ยอมหลับ คิดถึงเรื่องที่ต้องไปกระทำในวันพรุ่งนี้ว่าจะสำเร็จหรือไม่ เขากังวนว่าเงินที่ยืมเพื่อนมาจะสูญเปล่า เพราะกว่าจะได้มานั้นเขาอ้อนวอนแล้วอ้อนวอนอีก และสัญญาว่าจะคืนให้ในวันทำงานหลังหยุดปีใหม่นี้พร้อมทั้งเงินที่ยืมมาในครั้งก่อนด้วย แล้วยังจะมีของคนอื่นๆอีก...เขาคิดจนเพลียและหลับไป...
    เขายืนลังเลอยู่หน้าบ่อนการพนันแห่งหนึ่งมือหนึ่งจับกระเป๋าเงินไว้ อีกมือก็เกาหัวทั้งที่มันไม่ได้คันเลยซักนิดเดียว เขายืนมานานมากแล้วเกินชั่วโมงด้วยซ้ำไป เหงื่อก็เปียกเต็มเสื้อด้วยยืนตากแดดอยู่ แต่ว่าเขาไม่รู้สึกว่ามันร้อนเลยสักนิด ผู้คนที่ผ่านไปมาก็มองด้วยความแปลกใจ...
    "เราทำไม่ได้เงินมันต้องสูญแน่นอน ก็เราไม่เคยเล่นเลยนี่..." เขาคิดแล้วคิดอีกไปมาหลายรอบแล้ว
    "แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ..." ขณะที่เขาลังเลอยู่นั้นสายตาก็ได้เหลือบไปเห็นชายพิการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่คนหนึ่ง
    "เหลือชุดสุดท้ายแล้ว รวยครับ...รวย..." คำพูดเชิญชวนนั้นเข้าหูเขาอย่างชัดเจนมากเหมือนโลกทั้งโลกนี้มีเพียงเสียงนี้เท่านั้นที่เขาได้ยิน เขาเดินเข้าไปช้าๆ และซื้อมันทั้งชุด...
    "ยืมเงินมันก็หวังว่าจะไปเข้าบ่อนเผื่อจะโชคดีก็ไม่กล้า แต่ดันไปเหมาล็อตเตอร์รี่ซะนี่แล้วจะทำไงดีวะคราวนี้ ไม่ถูกรางวัลใหญ่ล่ะก็ซวยเลย...โอ้ย!!! อยากจะบ้าตาย..." ขณะที่เขากำลังเซ็งกับชีวิตอยู่นั้น เสียงหนึ่งก็ลอยมาเข้าหูเขา
    "ต่อไปเป็นการออกรางวัลที่หนึ่ง..." ..." รางวัลที่หนึ่ง..." ... "เลขที่ออก..." เขาไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยินแมันเป็นเลขรางวัลที่เขาได้ซื้อมา นี่ไงเขาถือมันอยู่ที่มือนี่เอง เขาตะลึงจนไม่สามารถที่จะขยับเขยื่อนได้เหมือนโลกทั้งโลกนี้มันหยุดหมุน...
    เขาวิ่ง...วิ่ง...และวิ่ง...ออกไปหาลูก นั่นอะไร!! ทำไมคนมากมายขนาดนั้นเขามุงดูอะไรกันอยู่เต็มถนน... "เด็กถูกชน... เด็กถูกรถชน..." เสียงผู้คนตะโกนกันวุ่นวาย ความรู้สึกวูบเข้ามาเขาสั่นไปทั้งตัว หัวใจเต็นแรง ยังเขาไม่ได้เห็นแต่มีบางอย่างมันบอกอยู่ในหัวสมอง "อย่า...อย่า...เป็นอย่างที่คิดเลย..."  ใกล้เข้าไป...ใกล้เข้าไปแล้ว...แล้วเขาก็เห็นร่างเด็กคนหนึ่งนอนจมกองเลือดอยู่... "ไม่นะ !! ต้องไม่ใช่..."  เขาละล่ำละลักออกไป... แต่ร่างที่เขาเห็นนั้นก็คือ...  "ลูกพ่ออออออ!!!..."....
    "ไม่นะ...ม่ายยยยยยยยย...!!!" เขาสะดุ้งสุดตัว...เขาฝันไป...
    "พ่อ!!..." เสียงลูกเขาก็ตะโกนออกมาในเวลาเดียวกัน
    "ลูกพ่อ!!..." เขารีบมองไปที่ลูก แล้วโผเข้ากอดกันแน่น...
    "พ่อขา...ฮือๆๆ..." ลูกสาวเรียกเขาไปและสะอื้นไปด้วยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป
    "ลูก...ลูกพ่อ...ไม่ต้องกลัวนะ...พ่อ...พ่อ...ไม่ไปไหนไกลแล้วนะลูก...ไม่ว่าพรใดๆพ่อก็ไม่ต้องการ...ถ้าสิ่งนั้นได้มาแล้วต้องเสียลูกไป...พ่อไม่เอาอีกแล้ว..."...เขากอดลูกไว้แน่น...พร้อมกับมองขึ้นไปบนฟ้าน้ำตาคลอ...แล้วรำพึงออกมาอีก...
    "พ่อรู้แล้ว...ว่าไอ้สิ่งที่พ่อขอไปนั้นมันเพื่อพ่อคนเดียว...พ่อไม่ได้คิดถึงลูกอย่างจริงใจ หวังให้ตัวเองพ้นจากความอายที่ต้องเป็นหนี้เขา...ขอโดยไม่ได้สนใจว่าจะต้องสูญเสียอะไรไป...และสิ่งนั้นคือลูกของพ่อเขาเอาสิ่งที่พ่อรักมากที่สุดไป...และจากนี้ไปพ่อจะคิดถึงแต่ลูกของพ่อ...พ่อจะตั้งใจทำงาน... ทำทุกอย่างด้วยหยาดเหงื่อแรงกายของพ่อเอง  จะไม่ขออะไรที่ไร้สาระเหมือนเดิมอีกแล้ว... แต่ครั้งนี้พ่อขอเพียงแต่ว่า..." เขากอดลูกแน่นขึ้น ... "ให้ตัวของพ่อมีแรงกายและแรงใจที่จะทำงานและ... ดูแลลูก... ส่งเสียลูกจนกว่าลูกของพ่อจะพบกับความสำเร็จ... เพราะพ่อรักลูกยิ่งกว่าชีวิตของพ่อเอง... ถ้า... ถ้าจะให้เสียลูกไปก็ขอให้มาเอาชีวิตพ่อไปแทนเถิด..." ......
    "ไม่นะคะพ่อ... หนูก็รักพ่อ... และไม่ยอมเสียพ่อไป... มาเอาชีวิตลูกไปเถิด..." ...
    "...ลูกพ่อ..." ... "...พ่อ..." ...ทั้งสองกอดกันแน่น... ร้องไห้และ... ต่างก็นึกอวยพรให้ผู้ที่รักประสบความสำเร็จในสิ่งที่ต้องการ...
    "...แล้วพรนี้ของใครกัน?... เราเลยได้คิด... และเดินในทางที่ถูกต้อง..." ...เขายิ้มทั้งน้ำตา...

    ..........................................................................................
    หวังว่าคงไม่ลืมกันนะครับ  พอดีงานยุ่งเลยไม่ได้เข้ามาอย่างน้อยหวังว่าเพื่อนเก่า คงเข้ามากันอีกบ้างนะครับสวัสดีปีใหม่ทุกคนเลยนะครับ

    จากคุณ : หมี่เกี๊ยว - [ 12 ม.ค. 47 13:41:23 A:203.113.56.12 X: ]