หนทางข้างหน้าราวกับกำแพงขวางกั้นระหว่างความฝันกับความจริง..

    หนทางข้างหน้าราวกับกำแพงขวางกั้นระหว่างความจริงกับความฝัน มันเป็น
    ปราการของขุนเขาที่สูงตระหง่านชี้ขึ้นไปบนฟากฟ้า สายหมอกลอยอ้อยอิ่งดุจ
    ว่าจะคลุมปกอยู่อย่างนั้นชั่วนิจนิรันดร ช่องว่างที่พอจะลอดตัวไต่สิงขรขึ้นไป
    ได้บัดนี้ยังคงมืดครึ้มด้วยความรกเรื้อของพืชป่าพันธ์ไม้ บ้างยืนต้นสูงใหญ่
    แข่งยอดเขา บ้างเป็นพุ่มเตี้ยหนาแน่นไปด้วยกิ่งก้านที่ชี้ชูไปรอบทิศทาง
    ท่ามกลางความหนาวเย็นของอากาศยังคงปรากฏเสียงสรรพมวลหมู่แมลงที่
    กรีดปีกเปล่งเสียงระงมทั่ว

    กระชับเป้ที่สะพายหลังให้ถนัด ขึ้น หมวกที่ศีรษะละอองน้ำจับจนเปียกชื้นถูก
    ขยับให้เข้าที่ มือขวาเป็นมีดเดินป่าเล่มไม่ใหญ่นัก หากความแหลมคมและ
    คล่องแคล่วกระชับมือทำให้ต้องถือมันไว้ตลอดเวลา มือซ้ายฉวยได้กิ่งไม้
    ขนาดย่อมเหมาะมือ ริดกิ่งก้านส่วนเกินออกเสียก็กลายเป็นไม้เท้าช่วยพยุง
    และแหย่สำรวจล่วงหน้าเวลาก้าวผ่านได้เป็นอย่างดี

    เงยหน้ามองฟ้าอีกครั้ง แสงอรุณรุ่งพุ่งฉาบมาแล้วทางทิศตะวันออก ข้ามขุน
    เขาลูกนี้ลูกเดียวก็บรรลุถึงจุดหมายที่มุ่งมา ความลำบากแห่งการตรากตรำ
    ตลอดเจ็ดวันที่ลุล่วงดูเหมือนจะสำแดงผลให้การทุ่มเทของมันแล้ว หากสิ่ง
    ศักดิ์สิทธิ์ไม่ทอดทิ้งผู้ตั้งมั่นในความศรัทธา ความสำเร็จคงมาถึงในอีกไม่นาน
    ข้างหน้านี้

    หนทางขึ้นเขาเต็มไปด้วยอุปสรรคนานัปการ ทั้งหลุมเล็กใหญ่ราวกับถูกขุดไว้
    ดักรอเท้าผู้พลาดพลั้ง พญารังแดงทะมึนขว้างกั้นให้ต้องลัดเลาะไปอีกทาง
    ขวากหนามจากพันธุ์ไม้หน้าตาแปลกประหลาดทำให้มีดและไม้ที่มือต้อง
    ทำงานหนักยิ่งขึ้น โตรกเหวที่อยู่ ๆ ก็ปรากฏดักตรงหน้าแทบผวาคะมำลงไปสู่
    ก้นหุบ เหงื่อผุดขึ้นเต็มแผ่นหลังและใบหน้าแม้อากาศจะหนาวเย็น ความลาด
    ชัดทวีขึ้นจนล้าไปทั้งแขนเข่า เงยหน้ามองจุดหมายอีกครั้งก็แทบระทดท้อ
    ระทวยกองอยู่บนพื้นป่า

    เลือดซิบปรากฏอยู่ทั่วไปตามร่างกาย ทั้งแสบทั้งคันด้วยขุยของพืชพันธุ์ แต่
    เมื่อเทียบกับหัวใจที่กลัดหนองอักเสบหนักก็ยังไม่เจ็บหรือแสบเท่า สิ่งเดียวที่
    จะช่วยบรรเทาก็คือการก้าวเข้าไปสู่จุดมุ่งหมายอีกครั้งและอีกครั้ง ตราบเท่า
    พละกำลังจะทำได้

    ความหิวโหยจู่เข้ามาสู่ความรู้สึกอย่างรุนแรง สามวันมาแล้วที่ไม่มีอะไรตกถึง

    ท้อง เสบียงกรังซึ่งเตรียมมาร่อยหรอไประหว่างทางจนหมดสิ้น รวมทั้งน้ำใน
    กระติกหยาดสุดท้ายก็ถูกดื่มไปเมื่อชั่วยามที่ผ่านมา เหล่านี้ทำให้ขาสั่นล้า
    และริมฝีปากแห้งผาก ปากทั้งปากมีรสขมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน..สิ่งเดียว
    ที่ความลำบากไม่สามารถริดรอนไปจากหัวใจได้ก็คือความรัก..ความรักเท่า
    นั้นก่อให้เกิดกำลังขาที่จะก้าวเดินต่อไป

    เวลาผ่านไปทีละนาทีทีละชั่วโมง ทั้งสองเท้าและสองมือยังคงส่งตัวเองขึ้นสู่ที่
    สูงตามระนาบชันของภูเขา ที่สุดของที่สุดเท่าที่จะฝืนได้ก็คือพลิกตัวเองขณะ
    หมดแรงล้มคว่ำลง ปล่อยให้กลิ้งสู่ที่ต่ำไปขัดอยู่ในแง่หินก้อน ในท่านอน
    ตะแคงนั้นดวงตายังลืมสู้ สติสัมปชัญญะรับรู้แต่เพียงว่า จะตื่นขึ้นมาเพื่อเดิน
    ต่อไปให้ได้อีกครั้ง ก่อนจะดับวูบลง ณ เพลานั้น

    ……..

    จากคุณ : แทน - [ 13 ม.ค. 47 13:43:40 A:202.5.81.169 X: ]