คำลา

    ตอนนี้หัวใจของผมกำลังจะตาย ก้อนเนื้อบีบรัดสูบฉีดเชื่องช้าจนผมรู้สึกได้ ความเหนื่อยอ่อนเกาะกินทั่วทั้งร่างกาย ลมหายใจที่รวยริน ดวงตาที่พร่ามัวไปด้วยของเหลวใสๆ  หยาดน้ำพรั่งพรูออกมาโดยผมไม่รู้สึกตัว มันแทรกตัวอยู่ระหว่างขนตา บางส่วนไหลอาบแก้มทั้งสองข้างของผม ร่างกายผมหยุดนิ่งราวกับว่าโลกนี้ได้แช่แข็งตัวตนผมไว้แล้ว
    ผมนิ่งสงบปล่อยให้สายลมแทะโลมผิวกาย แม้ว่าอากาศตอนนี้จะไม่หนาวสักเท่าไหร่ แต่ความร่างกายผมกลับรู้สึกหนาวสั่นไปจนถึงขั้วกระดูก
    ความว่างเปล่าและความสับสนแวะเวียงเข้ามาในสมองอยู่ตลอดเวลา  ริมฝีปากของผมประกบกันราวกับถูกพันธนาการไว้  คำพูดที่ผมต้องการระบายดังกึกก้องอยู่ในหัว  แม้อยากจะเปล่งออกมาเป็นน้ำเสียง แต่ตอนนี้มันก็ยากเกินไป
    ขณะนี้แม้ว่าผมจะสถิตร่างกายอยู่กลางสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง แต่ใจของผมกลับลอยเคว้งไปจนลับตา
    ...ใจผมกำลังจะตาย
    ผมเคยคิดว่าชีวิตเป็นสิ่งสวยงาม การดำเนินชีวิตอยู่ก็เพื่อแสวงหาสิ่งสวยงามที่กำเนิดขึ้นบนโลกใบนี้
    แต่การแสวงหากลับทิ่มแทงชีวิตที่สวยงามของผมเสียเอง
    ผมไม่เคยคาดหวังว่าในชีวิตจะต้องได้สิ่งที่สวยงามที่สุดมาไว้ในกำมือ  
    ผมไม่เคยคาดหวังว่าชีวิตจะต้องสวยหรู
    ผมรู้ดีว่าชีวิตจะต้องดำเนินไปตามครรลอง   ตามเส้นทางที่ถูกลิขิตไว้  แต่ครั้งนี้ผมไม่อาจทำใจกับความจริงที่เกิดขึ้นได้
    ...ผมไม่อาจกล่อมใจให้รับรู้และยอมรับกับความปวดร้าวนี้ได้เลย
    ดวงอาทิตย์ปลายตากำลังเคลื่อนตัวต่ำลงเรื่อยๆ มันกำลังจะลับของฟ้า จุดจบย่อมมีกับทุกสรรพสิ่งเสมอ จะช้าจะเร็ววันนั้นก็ต้องมาถึง  
    แสงสีทองกำลังบอกลาช้าๆ   ราวกับเธอที่กำลังเดินออกจากชีวิตผมไป
    ผมไม่อาจกลับไปแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นได้   สิ่งที่ผิด เรื่องที่ไม่ดีเป็นแค่เพียงข้ออ้างที่ถูกหยิบยกขึ้นมา
    จะมีประโยชน์อะไร เมื่อปลายทางสุดท้ายเธอได้กำหนดมันไว้แล้ว
    ปลายทางที่มีแค่เธอ
    ส่วนผมยังคงวนเวียนอยู่ในเส้นทางที่เธอขีดเขียนไว้    ทางเดินที่วกวนจนทำให้ผมไม่สามารถหลุดออกมาได้
    ผมถูกขังอยู่ในเขาวงกตของจิตใจ    จมอยู่กับความทรงจำเดิมๆ   ความสุขเก่าๆ  ที่ไม่สามารถเรียกมันกลับคืนได้
    สำหรับผมความรักเป็นสิ่งที่มีค่ามาก   และเธอเปรียบเสมือนสิ่งมีค่าที่สุดในชีวิตของผม  
    ผมรักเธอ
    แต่ความรักไม่เคยสมบูรณ์แบบ      ความรักมีจุดบกพร่อง     มีจุดอ่อนอยู่เสมอ
    และจุดอ่อนครั้งนี้คือตัวผมเอง
    ผมรู้ว่าตัวว่าผมเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง  ไม่เคยหล่อ ไม่เคยรวย   ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมต้องมาอยู่ตรงจุดนี้ก็เป็นได้
    ความรักสำหรับผมมีองค์ประกอบที่ไม่สับซ้อน  มีแค่คนสองคนรักกันเข้าใจกัน  เท่านั้น  ผมขอแค่นั้นจริงๆ
    แต่ความรักสำหรับเธอ  ความต้องการของเธอ  มันซับซ้อนเกินที่ผมจะหยั่งถึง  
    ผมไม่เคยเข้าใจเธอเลย  หลายครั้งที่เราพูดคุยกัน  เธอกลับสร้างความประหลาดใจให้  เธอไม่เคยหยุดกับสิ่งไหน  เธอไม่เคยถามว่าพอไหม เท่าไหร่  คำพูดที่หลุดออกมาจะมีแค่ว่า    ผมให้ได้แค่นี้เองเหรอ
    เสมือนความพอใจที่เติมเท่าไหร่ก็ไม่เคยเต็ม
    ทุกครั้งที่ผมเหนื่อย ผมท้อแท้กับความรัก ผมจะปลอบตัวเองอยู่เสมอว่า ผมรักเธอ และเธอก็รักผม
    ผมเล็ดเสียงทางริมฝีปาก ผมรักเธอ เธอรัก...
    ...เธอรักเธอ
    อาจจะใช่  ผมรักเธอนี่คือความจริง ความจริงที่ราวกับว่าเป็นสัจธรรมของชีวิต เป็นความแน่นอนที่ไม่ดับสูญ มีความรักที่พร้อมจะสละได้ทุกอย่าง
    และอาจจะเป็นสัจธรรมอีกข้อของชีวิตผม  เธอรักเธอ  ความรักที่ไม่เคยหวังจะให้ใครนอกจากตัวเธอเอง  เธอกับมันไว้ หวงแหนราวกับว่าถ้าขาดมันเธอจะสิ้นลมหายใจไป
    ใช่ผมยอมรับ ว่าเธอต้องรักตัวเธอเอง ถ้าไม่รักตัวเองแล้วใครจะมารักเรา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับผม สิ่งที่ผมได้รับจากเธอมันไม่ใช่อย่างนั้น
    ความรักคือการให้ ผมคิดอย่างนั้นเสมอ แต่ที่ผมรู้จักกับเธอ ได้คบเธอได้ให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับเธอ  เธอไม่เคยให้ผมเลยแม้สักเศษเสี้ยว
    เธอไม่เคยรักผมเลย
    รู้ทั้งรู้แล้วทำไมผมยังต้องไปรักเธอละ
    ผมตอบไม่ได้ ความรักก็คือความรัก ความรักคือการให้ ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และนี้ก็คือบทพิสูจน์ความรักที่แท้จริง  
    บทเรียนราคาแพง

    จากคุณ : maleesawan@hotmail.com - [ 14 ม.ค. 47 08:48:16 A:203.144.143.250 X:203.118.84.195 ]