นายขี้เก็กกับยัยปากร้ายตอนที่4/2

    ตอนที่ 4
                      แล้วความคิดนึงก็แว็บเข้ามาในสมอง “ฆ่าตัวตาย”
                      ชนกนาพูดพึมพำกับตัวเอง“กระโดดน้ำตายดีไหม อืม...ไม่เอาดีกว่าศพขึ้นอืด ผูกคอตาย ไม่เอาทรมาน กระโดดตึก ยิ่งไม่เอาใหญ่ศพไม่สวย ทำไงดี...(นี่ฆ่าตัวตายน่ะเกิดเป็นสุนัขห้าร้อยชาติน่ะ) จริงอ่ะ งั้นไม่เอาดีกว่ายังไม่อยากเกิดเป็นหมา  เออใช่ลืมสนิทเลย บริษัทที่ยึดบริษัทเรามันของนายขี้เก็กนี่น่า ไปอ้อนวอนดีไหมน่ะ(ลืมแล้วเหรอว่าทำอะไรกับเขาไว้) เอ...หรือว่านายนั่นแกล้งเราหว่า...โอ๊ยขี้เกียจคิดแล้ว หิวยังไม่ได้กินข้าวเลยตั้งแต่กลางวัน”
                       และแล้วชนกนาก็ลงมาที่ห้องครัวต้มมาม่ากิน กินเสร็จก็กลับขึ้นไปนอน ลืมหมดว่าเมื่อกี้ตัวเองคิดจะทำอะไร(ทำไมมันลืมง่ายอย่างนี้อ่ะ หรือที่ผ่านมาเพราะความหิวอารมณ์เลยพาไป)
                       เช้าวันต่อมาชนกนาเข้าบริษัทด้วยใบหน้าแจ่มใส ทำเหมือนเมื่อวานไม่มีอะไรเกิดขึ้น เดินขึ้นมาบนห้องทำงานอย่างสบายใจ แต่แล้วกลับไม่ได้สบายใจอย่างที่คิด เพราะเมื่อเปิดประตูเข้าไปก็เจอตัวต้นเหตุทำให้เธอทุกข์ใจเมื่อวานทั้งวัน
                       “คุณมาทำอะไรที่นี่หา !” ชนกนาร้องขึ้นทันที
                       เอริคมองหน้าคนเดินเข้ามาอย่างทำเหมือนคนไม่รู้จัก และพูดขึ้นว่า
                       “ผมผู้บริหารจากบริษัทอาร์มาดากรุ๊ปจะมาบอกคุณว่า เราตกลงเปลี่ยนใจมายึดบริษัทคุณเร็วขึ้นหนึ่งวัน ซึ่งก็คือวันนี้ ขอเชิญคุณเก็บข้าวของออกจากบริษัทนี้ทันทีก่อนเที่ยง”
                       ชนกนางงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกอย่างดูกระทันหันไปหมดจนไม่รู้ว่าจะทำยังไง เพราะเมื่อวานก็ทีนึงแล้ว
                      “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณหมดหน้าที่ในบริษัทนี้ คุณเข้าใจแล้วใช่ไหม”
                       ชนกนามองคนตรงหน้าด้วยความแค้น แต่สุดท้ายก็คิดได้ว่าไม่อยากจะทะเลาะด้วยอีก จึงตัดสินใจที่จะไป โดยไม่โต้แย้งใดๆ
                       “ขอเชิญคุณออกไปข้างนอกหน่อยค่ะ ดิฉันจะเก็บของ”
                       ชนกนาพูดจบ แต่เหมือนว่าคนตรงหน้าจะไม่สนใจที่จะขยับเขยื้อนไปไหน เพียงแต่พูดตอบมาว่า
                      “ผมคงออกไปไม่ได้ เพราะถ้าเกิดคุณแอบหยิบเอกสารภายในบริษัทนี้ออกไป ผมก็คงไม่รู้หรือไม่เห็น ผมว่าอยู่ในนี้ดูคุณเก็บจะดีกว่า”
                       ชนกนาได้แต่กำมือแน่น พยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง ค่อยๆเก็บของลงกล่องทีล่ะชิ้น ทีล่ะชิ้น อย่างอารมณ์เสีย เพราะแค่ไม่สามารถที่จะรักษาบริษัทนี้ได้นี้ก็แย่พออยู่แล้ว นี่ยังมาโดนไล่ออกจากบริษัทอีก
                       ชนกนาใช้เวลาเก็บของไม่นานนัก เมื่อเก็บเสร็จเธอก็เดินออกจากห้องไปทันที แต่ถ้าเธอหันมาสักหน่อยจะเห็นว่าผู้ชายคนหนึ่งกำลังเศร้าอย่างมาก
                        เอริคนึกว่าชนกนาจะเถียงเขากลับ และไม่ยอมออกจากบริษัทนี้ง่ายๆ  แต่เขากลับคิดผิด เพราะชนก-นายอมไปแต่โดยดี ไม่ตอบโต้เขาสักคำ เอริคไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป ที่จะทำให้ชนกนาหันมาสนใจเขาหรือรู้สึกรักบ้าง
                         ชนกนาล้มตัวลงบนที่นอนอย่างเหนื่อยอ่อน เพราะเธอเที่ยวไปหางานตามบริษัทต่างๆมาสองอาทิตย์แล้ว แต่ก็ไม่มีบริษัทใดที่ติดต่อกลับมาเลย ชนกนาคิดแล้วเกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย จึงหยิบโทรศัพท์หาเพื่อนรัก
                         “ฮัลโหล...ประธานเหรอไปเที่ยวกันหน่อยสิ อืมๆๆๆ แค่นี้น่ะ แล้วเจอกัน”
                         ที่ผับแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ชนกนานั่งอยู่ที่เคาเตอร์สั่งSPYมานั่งกินระหว่างรอประธาน แต่ชนกนาเป็นคนไม่กินอะไรที่เป็นแอลกอฮอล์อยู่แล้ว และชนกนาเองก็คิดว่ากินSPYนิดเดียวคงไม่เมา (นิดเดียวของคุณเธอนี่6ขวดน่ะค่ะ) กินไปแล้วก็เริ่มหน้าแดง ฟุบหลับไป
                         ชนกนารู้สึกตัวอีกครั้งรู้สึกว่าตัวลอยๆๆ รู้สึกเหมือนอยู่ในอ้อมแขนใครสักคนแล้วก็ได้ยินเสียงคุ้นๆๆพูดว่า
                         “เป็นยังไงบ้างมึนหัวไหม”
                         ชนกนาพยายามลืมตา แต่ก็ง่วงเหลือเกิน แล้วก็รู้สึกอบอุ่นจึงซุกตัวกับอ้อมแขนนั้นอย่างมีความสุข
                    ชนกนาตื่นขึ้นมารู้สึกอ่อนเพลีย พยายามลืมตามองไปรอบๆๆตัวเอง และแล้วก็รู้สึกมีอะไรบางอย่างมารัดอยู่ที่เอวของตน จึงเอามือควานหา
                         “เอ มีขนด้วย มีนิ้วด้วย อะไรอ่ะ(เออก็มือน่ะสิ) อ้าว...เหรอ แล้วมือใครล่ะ”ชนกนาพึมพำ
                         พอหันไปมองข้างๆๆ แล้วก็ร้อง
                         “กรี๊ด...............กรี๊ด.....................................ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”    
    .........................................................
    โปรดติดตามตอนต่อไป

    จากคุณ : แก้วใส - [ 14 ม.ค. 47 20:11:36 A:202.133.165.161 X: ]