หัดแปลเป็นครั้งแรกในชีวิต ขอคำแนะนำด้วยค่ะ

    **ในเรื่องได้มีการกล่าวถึงศาสนาคริสต์ในแง่ตลกร้าย หากทำให้ผู้อ่านท่านใดรู้สึกไม่ดี ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ไม่ได้มีเจตนาร้ายใดๆเลยจริงๆค่ะ  ขอบคุณค่ะ

             

    *ต้องขออภัยที่ไม่สามารถให้เครดิตกับผู้เขียนได้..บังเอิญต้นฉบับภาษาอังกฤษหายไปอ่ะค่ะ...


          ชายผู้แต่งงานกับตัวเอง    
    แปลโดย : 1 is the loneliest number


    “ก็เอาสิ”
    เมื่อสาธุคุณซาตาการ์เพื่อนที่แสนดีกล่าวเช่นนี้ ชีวิตช่วงหนึ่งของผมก็เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง  ซึ่งกว่าสาธุคุณจะเอ่ยคำนี้ออกมาได้นั้น ท่านก็ใช้เวลาถึงสองชั่วโมงเต็มไปกับการถกปัญหาแบบ ‘ลึกถึงกึ๋น’ ว่าด้วยเรื่องข้อห้ามและคำสอนต่างๆในพระคัมภีร์ไบเบิลกับท่านบิช็อบเฟลมมิ่ง ซึ่งภายหลังได้แจกแจงอย่างละเอียดว่า ในบทเลวิติกัส มีการห้ามมิให้คริสศาสนิกชนสมรสกับบุคคลอันได้แก่ น้องสาว, ป้า, แม่, แม่ยาย, ลูกสาว หรือแม้แต่หลานสาวของตนเอง (โถ...ถึงไม่ห้าม ผมก็ไม่คิดอยากจะแต่งกับคนพวกนี้หรอก) ทว่าไม่มีบทใด บรรทัดใด หรือคำใดในพระคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์กล่าวห้ามมิให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งสมรสกับ ‘ตัวเอง’  และด้วยเหตุนี้เอง เมื่อผมบอกกับสาธุคุณว่า นั่นล่ะสิ่งที่ผมอยากจะทำ ท่านก็ชี้หนทางแห่งโชคชะตาแก่ผมโดยพูดว่า
    “ก็เอาสิ”

    นอกจากที่กล่าวมาแล้ว พระคัมภีร์ไบเบิ้ลก็ยังไม่มีข้อห้ามใดๆหากคุณจะแต่งงานกับคุณทวด โต๊ะ หรือปลาที่คุณเลี้ยงไว้ดูเล่น  และผมก็คงจะไม่แปลกใจเลย หากวันดีคืนดี ท่านบิช็อบเฟลมมิ่งจะลุกขึ้นมาจัดพิธีวิวาห์ที่มีตัวท่านเองเป็นเจ้าบ่าวและนังหมาพุดเดิ้ลฝรั่งเศสคู่ใจเป็นเจ้าสาว เอ...หรือเจ้าสาวจะเป็นผ้าห่ม! – ในเมื่อท่านบิช็อบก็นอนกับมันมาหลายปีดีดักแล้วนี่  

    อย่างไรก็แล้วแต่ เมื่อสาธุคุณเพื่อนรักอนุญาตให้ผมแต่งงานกับชายในฝันได้แล้ว  บุคคลต่อไปที่ผมจะต้องเกลี้ยกล่อม ก็คือบุพพการีของตัวเอง ซึ่งก็บอกได้เลยว่า ยากกว่าการชักจูงให้โบสถ์ที่อยู่ภายใต้ศาสนาสากลที่ก่อตั้งมานานนับศตวรรษเข้าใจและยอมรับการแต่งงานครั้งนี้หลายเท่าตัวนัก

    ในทีแรกที่ผมบอกกับแม่ ท่านไม่เชื่อ และคิดว่าผมล้อเล่น แต่เมื่อเห็นว่าผมจริงจัง ท่านก็เริ่มยิงคำถามไม่เข้าท่าแบบไม่ยอมหยุด “ จะแต่งไปทำไม? – อยู่ด้วยกันเฉยๆก็ได้นี่” หรือ “แล้วลูกจะใส่ชุดอะไรในวันงานล่ะ?”

             และที่น่าสังเวชใจที่สุดก็คือ พ่อของผมโกรธเป็นบ้าเป็นหลังเมื่อท่านทราบเรื่อง ซึ่งคำว่า”บ้า” ในที่นี้ หมายถึง “บ้า” แบบเสียสติไปจริงๆน่ะ เพราะหลังจากงานแต่ง พ่อก็ใช้เวลาเป็นปีๆไปกับการพิมพ์บทความส่งตามนิตยาสารต่างๆอ้างว่า ท่านเป็นมนุษย์เดินดินคนแรกที่เคยมีเซ็กส์ในอวกาศ และดูเหมือนท่านจะเชื่อเช่นนั้นจริงๆเสียด้วย เว้นแต่ว่า สิ่งที่ใกล้เคียงกับห้วงอวกาศมากที่สุดที่พ่อเคยสัมผัสก็คือปุ่มใหญ่เบ้อเริ่มบนแป้นคีย์บอร์ดของท่านเอง  และหากมีคนถามว่า ท่านมีเซ็กส์กับใครในอวกาศ ท่านก็จะนิ่งไปพักหนึ่งเพื่อสร้างบรรยากาศระทึก แล้วจึงเบิกตากว้างพร้อมตอบด้วยเสียงอันสั่นเครือ “กับตัวฉันเองน่ะสิ!”

           จริงๆแล้วผมน่าจะมั่นใจได้ว่า บรรดาเพื่อนสนิทมิตรสหายจะต้องเข้าใจเจตนาครั้งนี้ของผมเป็นอย่างดี แต่หลังจากพิธีวิวาห์เสร็จสิ้นไป ผมจึงได้ตระหนักว่า สำหรับพวกเขาแล้ว งานมงคลครั้งนี้เป็นเพียงเรื่องขำขันเท่านั้น หลักฐานก็คือ ของขวัญแต่งงานจำพวก หนังสือโป๊ ถุงมือผ้าไหม หรือแม้แต่กระจกติดเพดานที่พวกเขาส่งมาเพื่อล้อเลียน และช่างน่าผิดหวังเหลือเกินที่พวกเขาไม่พยายามควบคุมกิริยาของตนในขณะที่สาธุคุณซาตาการ์กล่าวแก่ผมในระหว่างพิธีว่า “ลูกจะยอมรับตัวเองเป็นสามี จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันราวเป็นหนึ่งเดียว จะรัก ทนุถนอม เชื่อฟัง และให้เกียรติตนเอง ไม่ว่าในยามทุกข์หรือสุข ไม่ว่าจะยากดีมีจน และจะซื่อสัตย์ต่อตนเองตราบชีวิตตนจะหาไม่ หรือไม่” สาบานได้เลยว่า เมื่อถึงตอนนี้ เพื่อนสุดรักคนหนึ่งของผมหัวเราะจนเยี่ยวเล็ดทีเดียว

    จากคุณ : 1 is the loneliest number - [ 16 ม.ค. 47 11:25:36 A:203.113.76.74 X: ]