เมนูผัก

    เมนูจานผัก
    วันนี้เลิกเรียนกลับบ้านพกความหิวมาเต็มพิกัด  เชื่อไหมว่าวันนี้ทั้งวันท้องผมยังไม่ได้แตะข้าวสักเม็ด  (แต่สำหรับขนมผมซื้อจนเงินค่าขนมเกลี้ยงกระเป๋าเลย)   เมื่อเช้ากว่าจะตื่น กว่าคุณแม่จะลากผมลงไปอาบน้ำแปรงฟันได้ก็สายซะแล้ว  กะว่าจะกินข้าวแต่ก็ทำไม่ได้    เพราะคุณแม่เร่งๆอยู่บอกว่าเดี๋ยวคุณแม่จะไปทำงานไม่ทัน  
    แปลกใจจังที่ผมไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้คุณแม่ไปทำงานไม่ทัน หรือว่าเหตุที่ทำให้ผมไม่ได้ทานข้าวเช้าเลย  ความจริงต้องโยนความผิดให้กับคุณแม่  เพราะเดี๋ยวนี้ความสามารถในการปลุกผมเริ่มลดลง  อาจจะเป็นเพราะว่าความเบื่อหน่ายหรือว่าความอดทนที่สูงขึ้นของผมก็เป็นได้    ช่วงนี้คุณแม่ต้องใช้เวลาฉุดผมออกจากเตียงไม่ต่ำกว่ายี่สิบนาที     และยี่สิบนาทีนั้นก็เป็นเวลาทานข้าวผมซะด้วยสิ
    อยู่บนรถก็หลับตลอดทาง  ไปถึงโรงเรียนธงชาติก็กำลังถูกชักรอกขึ้นเสาอยู่  สายอีกแล้วครับผม   ต้องไปยืนเข้าแถวพิเศษ แถวที่ผมคุ้นเคยเป็นประจำ คนที่ยืนข้างๆก็คุ้นเคยกันเป็นประจำ  หน้าเดิมๆ  คนเดิมๆ  และคุณครูคุมแถวก็คนเดิม
    คุณครูชอบถามอยู่เรื่อยเลยว่าทำไมผมมาสายบ่อยจัง  ผมละเซ็งกับคำตอบนี้มาก จะต้องให้อธิบายสักกี่ครั้งคุณครูถึงจะเข้าใจว่ารถมันติด คุณแม่ผมก็แต่งตัวช้า  ผมนี่นะต้องนั่งรอคุณแม่อาบน้ำแต่งตัวตั้งแต่ไก่โห่  คุณครูน่าจะเห็นใจผมบ้างนะ  บางวันผมต้องทำอาหารเช้าให้คุณแม่ผมทานด้วย  เพราะคุณแม่ตื่นสายเป็นประจำ  วันนี้ก็เหมือนกัน  คุณแม่ผมตื่นสายอีกแล้ว  แต่ผมก็ไม่ได้โกรธคุณแม่นะ  เพราะคุณแม่ต้องทำงานหนักและที่สำคัญคุณแม่ก็ใจดีกับผมม๊าก  มาก
    วันนี้ต้องอธิบายให้คุณครูฟังอีกหนึ่งรอบ  ไม่รู้ว่าทำไมคุณครูต้องทำหน้าเอือมๆด้วยน้า  ผู้ใหญ่นี่เข้าใจยากจริงๆ
    นั่งเรียนเพลินๆ   พอถึงตอนพักเที่ยงผมกลับได้ไปกินข้าวช้ากว่าเพื่อนๆ    เพราะคุณครูวิชาภาษาไทยนั้นแหละ  คุณครูสมรไม่ให้ผมไปทานข้าว อ้างว่าผมไม่ยอมเขียนเรียงความให้เสร็จ  ทั้งที่เพื่อนๆเขียนกันเสร็จหมดแล้ว  คุณครูสมรไม่เข้าใจอารมณ์ศิลปินของผมอีกแล้ว  ผลงานดีๆเรียงความดีๆใครกันจะเขียนให้เสร็จได้ภายในชั่วโมงเดียว  ผมต้องกลั่นกรองความคิดมากนะครับคุณครูสมร  เพราะบทความเรื่อง  “นักเรียนมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยกันรักษาธรรมชาติ” เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนมาก และผมก็เป็นคนที่ละเอียดอ่อนด้วยสิ       ดูสิทั้งชั่วโมงผมเขียนได้แค่สองสามบรรทัด ไม่รู้ว่าคุณครูสมรจะเชื่อผมไหมว่า สองสามบรรทัดที่ผมเขียนมันลึกซึ้งกว่าหนึ่งหน้ากระดาษที่เพื่อนๆทั้งห้องเขียนซะอีก
    แต่คุณครูสมรไม่เข้าใจ  บังคับให้ผมเขียนให้ได้หนึ่งหน้า  ผมอ้อนวอนอยู่นานแต่ก็ไม่สำเร็จ  เฮ้อ...ผมเลยต้องเขียนบทความแบบไม่เต็มใจจนได้หนึ่งหน้ากระดาษ  กว่าจะเสร็จก็กินเวลาพักเที่ยงของผมไปหลายสิบนาที
    เขียนเสร็จผมรีบกระโจนตัวไปที่โรงอาหาร  ว่างเปล่าครับ ไม่มีเพื่อนๆหลงเหลืออยู่เลย  สงสัยจะไปเล่นกันที่สนามแล้ว ตอนนี้ท้องเริ่มเรียกร้องหาสารอาหาร หิวครับ หิวมาก ยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า
    เดินดุ่มๆไปที่ร้านขายข้าว  ชะโงกดูร้านที่หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า  โอ้โห...ไม่มีอะไรเหลือเลยครับ  หมดทุกร้าน  เดินย้อนกลับมาดูตรวจสอบเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง ร้านข้าวแกงยังพอมีอะไรเหลืออยู่อีกนิดหน่อย     ผมชำเลืองมองในถาดถามป้าคนขายว่ามีอะไรเหลือให้ทานบ้าง  ไอ้สีเขียวๆในถาดนั้นอะไรเหรอ  ป้าคนขายบอกว่าผัดผักจะเอาไหม  ผมเข้าไปก้มมองใกล้ๆ  กลิ่นผักสีเขียวดร๊อกคิกโพรงจมูกผมอย่างแรง   โซเซถอยหลังไปสองก้าว  ไม่เอาครับป้า...ผมอิ่มแล้ว
    รีบชิ่งตัวไปที่ร้านขายขนมเทเงินหมดกระเป๋าซื้อขนมมาสองถุง  แต่เอ๊!!! พี่ครับๆ  ผมขอดูไอ้ถุงสีแดงๆตรงนั้นหน่อยสิครับ  ใช่ครับพี่ถุงนั้นแหละ  พี่คนขายหยิบขนมถุงสีแดงให้ผมดู  อ้าว...มีของแถมด้วยผมอ่านคำโฆษณาข้างถุง  “แถมหุ่นยนต์แปลงร่างในซอง”  เปลี่ยนใจทันทีเลยครับ  ไม่เอาแล้วครับพี่ ผมไม่เอาสองถุงนี้แล้ว ผมขอถุงสีแดงสองถุงเลยครับ   ครับใช่ครับ  ขอบคุณครับพี่  ผมยื่นสตางค์แลกขนม (หุ่นยนต์แปลงร่าง)
    วิ่งไปที่สนามฟุตบอล เพื่อนกลุ่มใหญ่กำลังม่วนกับลูกบอลพลาสติกสีจาง  แต่ละคนเหงื่อไหลซก เสื้อผ้าขาวสะอาดในตอนเช้าแปรเป็นสีขุ่นมัว  ผมเป็นคนที่ชอบเล่นฟุตบอลเหมือนกันนะ แต่วันนี้คงไม่อะครับ ไม่มีแรงวิ่ง          ร้อนก็ร้อน อีกอย่างผมกำลังเพลิดเพลินหุ่นยนต์แปลงร่างสองตัวในมือ  ส่วนขนมในถุงไม่ได้กินเลยครับ ทิ้งไปหมดเลย  ใครกันอยากจะกิน อร่อยก็ไม่อร่อย จืดก็จืด  ผมอยากได้หุ่นยนต์แปลงร่างมากกว่า
    นักเล่นหุ่นยนต์ได้สักพักเสียงกริ่งเข้าเรียนตอนบ่ายก็ดังทะลวงแก้วหู  ที่สนามเพื่อนๆต่างพากันหยุดมหกรรมฟุตบอล  ส่วนผมก็เก็บหุ่นยนต์ไว้ในกระเป๋า เดี๋ยวโดนแย่งเล่น  ไม่ได้หรอก หลายคนหลายมือเดี๋ยวพังกันพอดี  เพื่อนผมคนหนึ่งเดินเข้ามาคุย  ตัวมันเนี่ยมอมมาเชียว เหม็นเปรี้ยวๆด้วย ถามผมว่าเล่นอะไรอยู่เหรอ เมื่อกี่เห็นนั่งจับๆคลำๆอยู่   เปล่านิ!!!ผมปฏิเสธทันควัน  ไม่ได้ทำอะไรนี่เมื่อกี้ก็นั่งดูพวกแกเล่นฟุตบอลอยู่นั้นแหละ  ไปเหอะรีบขึ้นห้องเรียน หมดเวลาแล้วเดี๋ยวเข้าห้องสายคุณครูจะเอ็ดเอา  ผมตัดบททันควัน
    ช่วงบ่ายผมเรียนไม่รู้เรื่องเลย  หิวก็หิว ง่วงก็ง่วง ใจได้แต่จดจ่อรอว่าเมื่อไหร่จะเลิกเรียนสักที  หิวครับหิวมากเลย  ถ้าหุ่นยนต์แปลงร่างในกระเป๋าเสื้อกินได้ผมจะหยิบขึ้นมาเคี้ยวกินซะเลย  
    จนแล้วจนรอดผมก็หิ้วท้องกิ้วข้ามเวลาจนถึงเวลาเลิกเรียน  ตั้งหน้ารอว่าเมื่อไหร่คุณแม่จะมารับสักที  วันนี้ผมรู้สึกว่าคุณแม่มารับช้ากว่าทุกวัน  ช้าจริงๆ  หิวแล้วนะ  พอคุณแม่มาถึงผมว่าจะอ้อนกินลูกชิ้นปิ้งสักหน่อย แต่คุณแม่นี่ใจแข็งจริงๆ ไม่ยอมควักกระเป๋าซื้อให้ผมเลย  บอกแค่ว่าวันนี้แม่ซื้อกับข้าวมาแล้ว ให้กลับไปกินข้าวที่บ้าน  เฮ้ออออออออออ....อดอีกแล้วเรา

    ผมพกความหิวกลับบ้านมาเต็มพิกัด  ถึงบ้านก็วิ่งเข้าครัวเลย ถุงเท้าก็ยังไม่ได้ถอด  คุณแม่ก็ไล่ผมไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วค่อยลงมากินข้าวข้างล่าง  ผมต้องรออีกแล้วหรือนี่  ต่อรองกับคุณแม่ว่าแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าได้หรือเปล่า คุณแม่ส่ายหน้าทำตาดุ  ก็ได้ครับอาบน้ำ  เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วค่อยกินข้าว
    ใช้เวลาไม่นานในฝ่าด่านกิจกรรมที่น่าเบื่อ รีบวิ่งเข้าไปหาข้าวทานในครัว หิวครับ หิวมาก  
    คุณแม่เตรียมกับข้าวรอผมไว้ในครัวแล้ว  มองบนโต๊ะกินข้าวอะไรกันครับคุณแม่  มีแต่สีเขียวๆทั้งนั้นเลย  แล้วผมจะกินได้ไหมเนี้ย  จากนี้ผักใช่ไหมครับ จานนี้ แล้วก็จานนั้นด้วย  
    “ใช่ ผัดผัก  กินซะมีประโยชน์ทั้งนั้น กินผักซะบ้างสิเรา  วันๆเอาแต่กินขนมไม่มีประโยชน์”คุณแม่ตอบเสียงเรียบ
    ผมอึ้ง  นิ่งเงียบไปสักอึกใจ  กินไม่เป็นนี่ครับ  เคยชิมไอ้พวกใบๆสีเขียวนี่ดู  ขมสุดๆ  อร่อยก็ไม่อร่อยไม่รู้พวกผู้ใหญ่ชอบกินกันได้อย่างไร  ชอบกินไม่พอยังมาเผื่อแผ่ผมอีก  ผมไม่กินหรอก ไม่ชอบ กินไม่เป็น  ไม่เอา ไม่เอา  ผมจะกินหมูทอด
    นั่งนิ่งไม่ยอมแตะจานชาม ช้อนส้อมอ  ทำหน้าแบะอยุ่สักพัก
    “ไม่กินหรือไง  ดีนั้นก็ทนหิวไป” คุณแม่พูดเสียงเรียบเช่นเคย
    ไม่กินหรอก คุณแม่ไม่เข้าใจผม ผมยอมอดตายถ้าจะได้กินไอ้พวกผักใบเขียวพวกนี้   เริ่มจะร้องไห้แล้วครับ น้ำใสๆเริ่มเอ่อล้นออกมาจากสองตา  ท้องก็ร้องจ๊อกๆ งอแง เสียงดังฟังชัด
    ได้ผล ได้ผล คุณแม่เริ่มเห็นใจ
    “ก็ได้ๆ  งั้นเดี๋ยวแม่พาไปซื้อกับข้าวข้างนอกมาให้กินแล้วกัน” ในที่สุดคุณแม่ก็ใจอ่อน  ผมปาดน้ำตาซึมๆตรงหางตา  
    คุณแม่ขับรถพาผมไปซื้อกับข้าวที่ปากซอย  ใจผมนี่สั่นระริก ความอยากกินผสมกับความหิวรุ่นแรงเหลือเกิน  คิดในใจวันนี้ผมจะกวาดให้หมดตลาดเลย  คุณแม่พาผมไปเลือกกับข้าวที่ร้านหนึ่ง  ร้านสีเหลืองๆ  มีธงสีสามเหลี่ยมสีเหลืองๆ ตัวอักษรภาษาจีนยึกยือสีแดงๆ    คนขายก็แต่งชุดสีเหลืองๆ  ผมไม่ได้สนใจกับสีเหลืองๆข้างหน้าหรอกครับ  ตาเริ่มลายแล้ว  
    อาหาร กับข้าวที่ร้านเหลืองนี้นะ เพียบ ขอย่ำว่าเยอะมาก น่ากินทั้งนั้นเลย  ผมชี้หมูทอด กับผัดกุ้ง แล้วก็ผัดปลาหมึก อึ๊ยๆๆๆ  น้ำลายสอ  คุณแม่ตามใจผมสั่งกับข้าวที่ผมเลือกอย่างไม่อิดออด  ผมนี่แทบจะรอกลับไปกินที่บ้านไม่ไหว  ใจอย่างจะแกะกินซะตรงนี้เลย
    กลับถึงบ้านผมพุ่งเข้าครัวพร้อมถุงกับข้าวทันทีหยิบจานชาม แกะกับข้าวใส่อย่างรีบเร่ง  มือสั่นๆแหะ  อาจจะเป็นเพราะความหิวก็เป็นได้
    คุณแม่เดินตามมาอย่างไม่รีบเร่ง  เห็นผมแกะกับข้าวใจจานรอก็ยิ้มที่มุมปาก  เป็นไงละครับคุณแม่  ผมแกะกับข้าวใสจานเองก็เป็นนะ คุณแม่หยิบจานข้าว ซ้อนส้อมทานข้าวพร้อมกับผม
    กับข้าวมื้อนี้อร่อยมาก  อร่อยที่สุดนับตั้งแต่ผมได้กินมา  ดีนะที่ผมยอมฝืนไม่ยอมกินผัดผักของคุณแม่  ฮิฮิฮิ....ดูสิครับคุณแม่ผมกินกับข้าวหมดทุกอย่างเลย  หมูทอดก็อร่อย ผัดปลาหมึก ผัดกุ้งก็อร่อย พรุ่งนี้พาผมไปซื้ออีกนะ มีอีกตั้งหลายอย่างที่ผมอยากกิน  คุณแม่ผยักหน้ายิ้มกรายๆ
    หลังจากกินข้าวเสร็จผมก็ชิ่งไปดูทีวีในห้องนั่งเล่น ปล่อยให้คุณแม่เก็บกวาดบนโต๊ะทานข้าว  สักพักคุณแม่ก็นำของว่างมาให้ผมทาน  วันนี้คุณแม่ใจดีแฮะ  
    คุณแม่เอาแท่งสีเหลืองอร่ามสุดกรอบมาให้ผมทาน  กลิ่นนี้หอมฉุยเลย มีน้ำจิ้มสีแดงๆหวานๆด้วย   ผมถามคุณแม่ว่าอะไรหรือครับ คุณแม่ไม่ตอบ แต่บอกผมว่าลองกินดูสิ  ลองกินดู  อืมมมมม...อร่อยแฮะ  อะไรหรือครับคุณแม่  กรอบก็กรอบ หวานก็หวาน มันคือแท่งอะไรหรือครับ  คุณแม่ไม่ตอบเช่นเคย ไม่เป็นไรไม่บอกไม่เป็นไร อย่างนั้นผมกินให้หมดเลยละกัน  ไม่แบ่งให้คุณแม่ด้วย
    สรุปว่าเย็นนั้นผมได้กินอาหารอร่อยๆซะพุงกางเลย   หลับฝันดีเลยครับ

    ตอนพักเที่ยงวันรุ่งขึ้นผมรีบกระวีกระวาดลงไปที่โรงอาหาร  กลัวว่ากับข้าวจะหมดเสียก่อน  ระหว่างสั่งข้าวก็ถามคุณป้าว่าที่โรงเรียนเราไม่มีร้านอาหารธงเหลืองๆเลยเหรอ  ร้านที่มีธงสีเหลืองๆตัวอักษรภาษาจีนสีแดงๆ ไม่มีหรือครับ
    “ไม่มีหรอกหนู  ที่โรงเรียนไม่ได้ขายอาหารเจหรอก” คุณป้าตอบโดยไม่ได้มองหน้าผม  สองมือก็ระวิงอยู่กับการตักกับข้าว
    อาหารเจ...  เจอะไร...  พี่เจเจตรินหรือเปล่า  อ๊อ...พี่เจคงเปิดร้านอาหารธงเหลืองละมัง  ถึงว่าอร่อยมาก
    อืม   ถามป้าอีกครั้ง แล้วมีแท่งสีเหลืองกรอบๆหรือเปล่าครับ  ไอ้กรอบๆนะครับ  ที่มีใส้สีเขียวๆ เหลืองๆข้างในนะครับ   แล้วต้องจิ้มกับน้ำจิ้มสีแดงๆหวานๆด้วย  คุณป้าหยุดตักอาหาร  ทำหน้างงงงอยู่สักพัก
    “อ๋อ...ผักชุบแป้งทอดนะหรือ  ไม่มีหรอกลูก วันนี้ป้าไม่ได้ทำขาย”

    ผักชุปแป้งทอด  คุณป้าเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า  อร่อยจะตายป้าไม่รู้จักมากกว่า  ของอร่อยๆอย่างนั้นจะเป็นผักชุปแป้งทอดไปได้อย่างไร  ไม่คุยกับคุณป้าแล้ว  วันนี้กลับไปอ้อนคุณแม่ไปร้านธงเหลือง กับ แท่งเหลืองกรอบดีกว่า

    ผมยิ้มกระหยิ่มในใจระหว่างถือจานข้าวออกจากร้านคุณป้า

    จากคุณ : เรือ่ยเปื่อยไปวันๆ - [ 20 ม.ค. 47 20:29:28 A:203.146.112.110 X: ]