กรี๊ด...............กรี๊ด.....................................ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เอริคตื่นขึ้นทันทีตกใจเสียงร้อง ลุกขึ้นมามองคนข้างๆด้วยความเป็นห่วง ซึ่งคนที่นั่งข้างๆก็ยังคงกริ๊ดไม่หยุดสักที เอริคเหลียวซ้ายมองขวาดูว่ามีอะไรผิดปกติไหมก็ไม่มี จึงถามชนกนาขึ้นมาว่า
นา! เป็นอะไรไป
เอริคถามขึ้นมาคนข้างๆก็เงียบเสียงทันที หันมาจ้องหน้าด้วยสายตาแบบกินเลือดกินเนื้อ เอริคได้แต่งงไม่เข้าใจ ยังไม่ทันที่จะเอ่ยถามว่าเรื่องอะไร ชนกนาก็เอาหมอนมาปาใส่หน้า และก็หยิบอะไรต่ออะไรมาปาใส่ไม่หยุด ทั้ง หมอนข้าง กรอบรูป ผ้าห่ม นาฬิกา ฯลฯ(คือเธอคว้าอะไรได้ก็ปา) เอริคต้องคอยเอามือ รับ ปัด ของที่ชนกนาโยนมาตลอดไม่หยุด จนไม่มีอะไรจะให้ชนกนาปา ทั้งสองคนก็ได้แต่เหนื่อยหอบ
นา คุณ...(หอบ) ปาของใส่ผมทำไม
แล้วทำไมฉันจะปาของใส่คุณไม่ได้ ไอ้คน{^_^} ชนกนาตะโกนใส่หน้า
เอริคไม่เข้าใจ ว่าตัวเองไปทำอะไรไว้ จึงพยายามถามอย่างใจเย็น
ผมไปทำอะไรให้คุณ มาโกรธผมทำไม
ไอ้คนบ้า ยังไม่รู้ตัวเองอีกหรือไง ฮือๆๆๆๆๆๆๆ แล้วชนกนาก็ร้องให้ทันที
เอริคทำอะไรไม่ถูก หันรีหันขวา แล้วก็เลยดึงชนกนาเข้ามากอดปลอบใจ
ไม่ร้องน่ะครับคนดี ไม่ร้องน่ะ
ชนกนาไม่ได้ปัดป้องอะไร จนเมื่อเอริคเอามือค่อยๆมาลูบศีรษะอย่างปลอบใจ จึงรู้สึกตัวผลัก
เอริคออกทันที
ถือดียังไงมากอดฉัน หา!
ก็คุณร้องไห้ จะให้ผมทำยังไงหละ
ชนกนาก็ได้แต่ทำหน้าบูดบึ้ง ไม่น่าเผลอเลยเรา เฮ้อๆๆๆ ชนกนาพึมพำ
ตกลงคุณโกรธอะไรผมกันแน่ เอริคกลับมาถามเรื่องที่ยังสงสัยอยู่
ก่อนอื่นฉันถามก่อนดีกว่า ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ชกนาถามอย่างพยายามระงับอารมณ์
อย่าเชื่อในสิ่งที่คุณไม่รู้ เพราะสายตาของเธอมันลุกเป็นไฟ แทบจะเผาคนที่อยู่ตรงหน้าให้เป็นจุล
เอริคเห็นอย่างนั้นก็เริ่มรู้สึกขนลุก แต่ก็พยายามค่อยๆๆเล่าอย่างระมัดระวังที่สุด
ขอย้อนความเดิมในผับ
ขณะที่ชนกนารอประธานอยู่ในผับ เธอก็ได้กินSPYไปหกขวด ก็ฟุบหลับไป
เอริคซึ่งมาเลี้ยงลูกค้าที่นี่ด้วยความบังเอิญ ขณะที่เดินมาสั่งเหล้าก็พบว่าชนกนานอนฟุบหลับอยู่
จึงพยายามปลุก แต่ก็ไม่เป็นผล จึงโทรศัพท์ไปฝากลูกค้ากับคมสรร แล้วก็จัดการพยุงชนกนาไปขึ้นรถของตนเอง
แล้วโทรศัพท์ของชนกนาก็ดังขึ้น ติ๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆ เอริคไม่รู้จะทำยังไงจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับ
ฮัลโหล ยัยนาเหรอ นี่ฉันประธานน่ะ ฉันไปหาไม่ได้ ป๋าฉันกักตัวไว้ ขอโทษน่ะ ฮัลโหลๆยัยนา
เอริคตัดสินใจพูดตอบกลับไป
เอ่อ...คุณนาหลับอยู่น่ะครับ
คุณเป็นใคร แล้วเพื่อนผมอยู่ที่ไหน ประธานเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวลอย่างมาก
ผม คือคนที่คุณเคยพาคุณนามาสมัครงานไงครับ ผม เอริค เอริคได้ยินอีกฝ่ายถอนใจอย่างโล่งอก แต่เสียงต่อมาก็ยังแฝงไปด้วยความไม่ไว้วางใจเช่นกัน
คุณคงไม่ทำอะไรเพื่อนผมหรอกใช่ไหม เพราะผมรู้มาว่าคุณคิดกับเพื่อนผมยังไง
เอริคได้ยินดังนั้นก็งงว่าอีกฝ่ายรู้ได้อย่างไร แต่ก็เหมือนมีกระแสจิต อีกฝ่ายตอบทันที
คุณไม่ต้อง งง หรอก ว่าผมรู้ได้ไง ก็เพื่อนของคุณน่ะมาบอกผมเอง ให้ผมช่วย เอาอย่างนี้แล้วกัน
เอริคเมื่อรู้ใครเป็นคนบอกก็ได้แต่เข่นเขี้ยวไว้ในใจ อย่างฝากเอาไว้ก่อน
คุณ เอริค คุณดูแลเพื่อนผมดีๆๆน่ะ ผมเชื่อใจคุณ ว่าคุณมีความเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่ทำอะไรเพื่อนผม เดี๋ยวผมจัดการเรื่องทางบ้านของเธอเอง ดูแลเธอให้ดีหละ ถ้าผมมารู้ทีหลังว่าคุณทำอะไรเพื่อนผมล่ะก็ ผมเอาคุณตายแน่
เอริคก็รับคำอย่างหนักแน่น แต่ไม่รู้เหมือน กันว่าจะเผลอทำอะไรหรือเปล่า เพราะก็ไม่ค่อยแน่ใจ
เหมือนกัน(อ้าว ! ทำไมเป็นงี้อ่ะ)
ประธานก็วางใจ(ทำไมวางใจง่ายอย่างนี้อ่ะ)เมื่อคุยเสร็จก็ไปจัดการธุระของตัวเองต่อ
เอริค ขึ้นรถขับออกไปจากผับ ระหว่างขับรถไปก็หันมามองหน้าคนข้างๆที่หลับสบาย ซึ่งผิดกับใบหน้าที่เห็นทุกครั้ง เพราะทุกครั้งที่เห็นก็จะมีแต่หน้าบึ้งๆๆ เอริคจอดรถเข้าข้างทาง(จะทำอะไรอ่ะ) หันหน้ามามองคนที่นั่งข้างๆชัดๆ ค่อยๆเอามือปัดผมที่ปรกหน้าผากของชนกนาเบาๆ ก้มลง(จะทำอะไรอ่ะ...อย่าน้า...)
เอริคก้มลงกระซิบเบาๆข้างๆหูว่า
Ti Amo (ค่อยยังชั่ว นึกว่าจะทำอะไรซะอีก)
เอริคมองหน้าที่อยู่ข้างหน้าของตัวเองอีกครั้ง ก่อนที่จะหันกลับมาขับรถอีกครั้ง และด้วยความไม่รู้จะทำยังไง เพราะว่าคนที่หลับก็ไม่มีท่าทีว่าจะตื่น เอริคก็เลยพาชนกนาและตัวของเขาเองมายังคอนโดที่พัก
เอริคก็อุ้มชนกนาขึ้นมาบนห้อง วางเธอบนเตียงเบาๆ แล้วก็หาผ้ามาค่อยๆเช็ดที่ใบหน้าอย่างเบามือที่สุด เพื่อไม่ให้รบกวนคนที่นอนอยู่ เช็ดเสร็จก็กำลังจะลุกขึ้นไป ก็มีมือมาดึงไว้พร้อมกับเสียงร้องขึ้นมา
ประธาน แกอย่าทิ้งฉันไปน่ะ อย่าทิ้งฉัน... และแล้วเสียงก็เงียบไป
เอริคพยายาม แกะมือออก แต่ก็ยิ่งแกะยิ่งจับแน่นขึ้นจึงต้องปล่อยเลยตามเลยจึงนั่งลงข้างๆเตียง เฝ้าดูคนนอนหลับด้วยสายตาที่อ่อนโยน และก็ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะตื่นขึ้นมาอีกทีก็เป็นอย่างที่เห็น เอริคเล่าจบ ชนกนาก็ทำหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง จนเอริคต้องเอ่ยขึ้นมาว่า
ผมเป็นสุภาพบุรุษพอ ไม่ทำอะไรคุณหรอกครับ
อย่างกับน่าเชื่อนักนิ ว่าแล้วชนกนาก็กระเถิบไปสุดเตียง
คุณ แล้วทำไมต้องหนีผมไปไกลขนาดนั้นหละครับ
เปล่าสักหน่อย (ส่ายหน้า) ฉันไม่ได้หนี ฉันแค่ไม่อยากอยู่ใกล้ก็แค่นั้น ชนกนาพยายามแก้ตัว
งั้นก็ตามใจ ผมซื้อข้าวมาให้คุณแล้ว คุณอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ออกไปทานได้เลย อยู่ที่โต๊ะ เดี๋ยวผมมา ต้องไปทำธุระนิดหน่อยแล้วเดี๋ยวผมจะไปส่งคุณที่บ้าน เอริคพูดจบก็ลุกเดินออกไปทันทีปล่อยให้คนนั่งฟังที่อ้าปากจะโต้ค้าง
ชนกนาเดินเข้าห้องน้ำก็พบว่า ผ้าเช็ดตัวที่สะอาด วางไว้ให้ พร้อมกับแปรงสีฝันอันใหม่ที่ถูกบีบยาสีฟันทิ้งไว้ให้แล้ว ชนกนาพึมพำ นายนี่ก็น่ารักเหมือนกันเฮะ ชนกนาจัดการอาบน้ำเสร็จใส่เสื้อคลุมออกมาก็เจอชุดใหม่เอี่ยมวางอยู่ที่เตียงนอน เธอเดินเข้าไปหยิบดู เมื่อเห็นก็ต้องชมว่าเลือกขนาดได้พอดีกับเธอมาก รวมถึงเสื้อชั้นในด้วย ว่าแต่เอ๊ะนายนี่รู้ขนาดเราได้ไง อืม แต่ช่างมันเถอะ ไหนไหน ก็ไหนไหนแล้ว ชนกนาคิด
ชนกนาแต่งตัวเสร็จก็เดินออกมาจากห้อง กลิ่นโจ๊กหมูอันแสนอร่อยลอยมาแตะจมูก เธอค่อยๆเดิน(ทำไมต้องค่อยๆเดินอ่ะ)นั่งลงที่เก้าอี้ หยิบช้อนขึ้นมาตักกินอย่างเอร็ดอร่อย อิ่มแล้วก็ยังพอรู้จักบุญคุณคนถือจานเข้าไปเก็บในครัว ล้างให้อย่างสะอาด กลับมานั่งที่ห้องรับแขกมองดูบรรยากาศรอบห้องพัก ด้วยความสงสัย
อยู่คนเดียวได้ไงน่ะ ห้องกว้างอย่างนี้ (อ้า...เริ่มเห็นใจแล้ว) เปลืองเงินจะตายไม่รู้เท่าไหร่(แป่ว) ห้องเนี่ย ขณะที่ชนกนาบ่น ก็มีเสียงกดกริ่งที่หน้าประตู ติง ต่อง ชนกนาก็แปลกใจ แต่ก็ยอมเดินไปเปิดประตู
แต่พอเปิดประตูออกมา ก็ต้องตกใจกับเสียงคนที่อยู่ตรงหน้า
นี่ เธอมาอยู่ในห้องลูกชายของฉันได้ไง หา! (อ้าว...แย่แล้วสินางเอกของเรา)
........................โปรดติดตามตอนต่อไป....................
จากคุณ :
แก้วใส
- [
21 ม.ค. 47 17:16:54
A:202.133.163.22 X:
]