คนหลังพุ่มไม้พอถูกเรียกจึงก้าวเท้ายาวๆออกมา เห็นฝ่ายตรงข้ามเป็นเด็กหนุ่มรูปร่างสันทัดใบหน้าขาวคมคายประกายตาแจ่มใส สวมใส่เสื้อกางเกงชุดฝึกซ้อมยูโดสีขาว คาดรัดเอวด้วยสายรัดสีดำ
ที่แท้อีกฝ่ายวิ่งออกกำลังกายตอนเช้า พอดีผ่านมาพบเจอการต่อสู้เมื่อครู่นี้ ตอนแรกเห็นมาซาอิถูกสามรุมหนึ่งความจริงคิดยื่นมือเข้าช่วยเหลือ แต่พอเห็นเขาลงมือชกต่อยอย่างแคล่วคล่อง ไม่มีท่าทีเป็นรอง ดังนั้นจึงเปลี่ยนเป็นแอบซุ่มดูอยู่หลังพุ่มไม้แทน
ฝีมือคุณเยี่ยมมากๆเลยนะ ไม่ทราบว่าคุณเป็น ศิษย์สำนักไหนกันเหรอ..?
เสียงทักถามกระตือรือร้น สีหน้าเลื่อมใสจริงใจเต็มไปด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร สองพี่น้องดูออกว่าอีกฝ่ายไม่มีแววประสงค์ร้าย คาดว่าคงผ่านทางมาจริงๆ ท่าทีแข็งกร้าวในตอนแรก จึงค่อยๆผ่อนคลายลง
ผมไม่เคยเห็นพวกคุณเลย ท่าทางคงไม่ใช่คนแถวนี้ใช่มั้ยครับ วางใจเถอะน่า.. ผมไม่ใช่คนร้ายหรอก อย่ามองผมด้วยสายตาแบบนั้นสิ.. อ้าว...แนะนำตัวก่อนก็ได้ ผมชื่อ..เองาดะ ชินตะ พวกคุณจะเรียกชื่อผมตรงๆว่า ชินตะเลยก็ได้เป็นกันเองดี บ้านของผมอยู่ไม่ไกล นั่นไง..ที่เชิงเขาตรงโน้นน่ะ เอาละนะ ผมแนะนำตัวเสร็จแล้ว.. คราวนี้ก็ถึงทีพวกคุณบ้างล่ะ..?
รอยยิ้มซื่อๆเปี่ยมมิตรภาพ ทำให้สองพี่น้องเผยอยิ้มตอบรับไมตรีจิตจากอีกฝ่ายอย่างลืมตัว
ผมชื่อ มาซาอิ..
ไม่รอให้พี่ชายพูดต่อ ซายูริก็ชิงแนะนำตัวเอง
ฉันชื่อซายูริค่ะ พวกเรามาเที่ยวและอยากจะดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน ..ที่นี่วิวสวยนะคะ
อ๋อ..แล้วมาจากไหนกันรึครับเนี่ย...?
โตเกียวค่ะ..
ฮ้า... ชินตะอุทาน ..นี่อุตส่าห์มาดูพระอาทิตย์ขึ้นถึงที่นี่เลยเชียว ?..
แล้วไง.. ? มาซาอิชักฉุนนิดๆ ขมวดคิ้วแค่นเสียงถาม
ชินตะกลอกตามองเด็กหนุ่มสาวทั้งสอง ในใจเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างผิดไป ยิ้มพลางรีบสั่นศีรษะไม่ได้ถามต่ออีก ซายูริก็ไม่ได้ฉุกใจคิดว่าโดนเข้าใจผิดเป็นอย่างอื่น
จริงสิ..คุณเป็นคนแถวนี้คงทราบสิว่า ใกล้ๆนี้มีร้านอาหารที่ไหนบ้าง ?
หิวแล้วเหรอ..? มาซาอิเอียงหน้ามาถามน้อง
เด็กสาวทำปากเบ้ พยักหน้าหงึกๆแล้วเอามือลูบท้องตนเองแทนเสียงตอบ
งั้นเอายังงี้ก็แล้วกัน ชินตะเอ่ยชวน ถ้าไม่รังเกียจก็ขอเชิญที่บ้านผมมั้ย พวกคุณเดินทางมาไกลจะได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วทานข้าวที่บ้านผมนะ ไม่ต้องเกรงใจหรอก คุณพ่อกับพี่สาวผมใจดี...
มาซาอิชวนเพื่อนคนใหม่ขึ้นรถ ขับไปตามเส้นทางที่ชินตะชี้บอก ระหว่างนั่งกันมาในรถ ชินตะชวนพูดมาก ด้วยนิสัยร่าเริงขี้เล่นอีกทั้งมีน้ำใจ ดังนั้นทั้งสามจึงสนิทสนมพูดคุยถูกคอกันอย่างรวดเร็ว
จากคำบอกของชินตะ ที่แท้เขาเป็นลูกชายคนเล็กของอาจารย์เองาดะ โกริสึแห่งสำนักชูริว ซึ่งเปิดสำนักสอนวิชาการต่อสู้ป้องกันตัวอยู่ภายในเมืองนี้
ซายูริสนใจเรื่องนี้มานานแล้ว จึงซักถามอย่างกระตือรือล้น ชินตะก็บอกให้ฟังโดยไม่ปิดบัง ว่าสำนักชูริวเป็นสำนักที่ถ่ายทอดศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวประจำชาติญี่ปุ่น สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน พ่อของเขาเป็นเจ้าสำนักคนปัจจุบันรุ่นที่สิบสอง ส่วนบรรพชนของเขาเคยเป็นซามูไรคนสนิทของโชกุนคนหนึ่งทีเดียว
เรื่องของเธอสนุกจังเลย
ซายูริเอ่ยชื่นชมอย่างสนใจ มาซาอิไม่ได้พูด หากแต่นึกหมั่นไส้ปนขำอยู่ในใจ
เสียก็แต่ขี้โม้มากไปหน่อย
.
เธอเป็นถึงลูกชายเจ้าสำนัก คงมีฝีมือไม่เบาใช่มั้ย..
เด็กสาวคนเดียวในรถถามต่อ ชินตะตอบแบบเขินๆ
ก็ไม่เท่าไหร่หรอก ผมยังต้องฝึกอีกนานกว่าที่ตามทันพี่สาวและศิษย์พี่คนอื่น อ้อ..ลืมบอกไป พี่สาวผมชื่อเอริ เห็นสวยๆอ้อนแอ้นยังงั้นนะ แต่ฝีมือ..ฮึ่ม.. รับรองว่าเฉียบขาดไม่เป็นรองใคร จนป่านนี้ก็เลยยังไม่มีผู้ชายหน้าไหนมากล้าจีบสักราย.. พวกคุณเชื่อไหม
ซายูริหัวเราะ นี่เธอชมรึว่านินทาพี่สาวกันแน่ฮึ คอยดูนะฉันจะบอกพี่เอริ..
เฮ้ย..! อย่านะ.... ชินตะเผลอร้องเสียงหลง
มาซาอิพลอยหัวเราะขำออกมาด้วยอีกคน....!
-----------------------------------------
จากคุณ :
kjb
- [
28 ม.ค. 47 06:41:02
]