ยอดชีวาไวน์ บทที่6

    บทที่6

    ในห้องนอนส่วนตัวของภาวินทร์ ขณะนี้ เจ้าของห้องกำลังอึดอัดใจนัก!!

    ดาหวันเจ้ากี้การกับเขา จุ้นจ้านสารพัด แทนที่จะให้เขานอนพัก หลังจากที่กินยาเข้าไปแล้วเจ้าหล่อนกลับตั้งท่าจะเช็ดตัวให้เขาอีก...

    “เช็ดตัวเสียก่อนนอนจะได้สบายตัวไงคะ”

    หล่อนบอกเขาด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน แต่ภาวินทร์ปฏิเสธทันที

    “ไม่ต้องหรอกหวัน เดี๋ยวตอนเย็น ป้ามิ่งจะข้ามาเช็ดตัวผมเอง คุณไม่ต้องลำบากหรอก”

    “อุ้ย ไม่เห็นจะลำบากเลย ทำเพื่อคนที่เรารักทั้งคน...หวันเต็มใจอยู่แล้วค่ะ”

    ไม่เพียงเสียงหล่อนจะหวานสุดฤทธิ์ นัยน์ตาคมสวยนั่นก็ทอดหวานมองเขาเหมือนกับจะหยด

    แทนที่ชายหนุ่มจะรู้สึกหลงใหล เขากลับรู้สึกขนลุกชอบกล!

    ภาวินทร์ไม่ได้เกียจหญิงสาวตรงหน้า เขาคบกับหล่อนอย่างเพื่อน อย่างคนรู้จักที่สนิทสนม แต่ไม่คิดจะรักและแต่งงานกับดาหวันมาก่อนเลย...

    นี่หากว่าเขาไม่ต้องการใช้หลบ่อนเป็น”โล่”กันขวัญชีวา ชายหนุ่มคงจะไม่กระอักกระอ่วนใจอยู่อย่างนี้...

    รำคาญเหลือเกิน แต่จะไล่ก็ไล่ไม่เต็มปาก ขืนเขาแสดงออกเต็มที่ยายขวัญจะได้รู้หมดสิ ว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับดาหวัน

    และหญิงสาวข้างๆตัวตอนนี้ก็เหมือนจะรู้แกว พอได้ทีก็ยิ่งเอาใหญ่เชียว...


    “อย่า...อย่าเลยนะ...ผมไม่อยากให้หวันต้องลำบาก ...” เขาพยายามห้ามดาหวันไม่ต้องการให้หล่อนเข้ามาใกล้เขานัก ยอมรับว่าไม่ค่อยไว้ใจหญิงสาวเท่าไหร่ แต่อีกฝ่ายหรือจะยอมทิ้งโอกาส “ทำคะแนน” งามๆ

    “ไม่ลำบากจริงๆค่ะ เชื่อหวันสิ นะคะ ให้หวันเช็ดตัวให้...”

    หญิงสาวไม่พูดเปล่า ยังชะโงกหน้าเขามาใกล้หน้าของชายหนุ่ม ริมฝีปากของหล่อนฉียดปลายจมูกเขาไปนิดเดียวเท่านั้น

    ภาวินทร์เกร็งตัว เมินหน้าไปอีกทางทันที ดาหวันฉวยจังหวะนั้นไล้ปลายนิ้วเรียวของตัวเองไปตามท่อนแขนของชายหนุ่มอย่างยั่วยวน ทำเอาอีกฝ่ายถึงกับพูดไม่ออก!!

    ยายหวันนี่ท่าจะบ้าหนัก !!

    เขาเจ็บไม่มีแรงขนาดนี้ ยั่วยังไงก็ไม่มีปัญญาทำอะไรหล่อนได้อยู่แล้ว จะยั่วไปทำไม??

    “หวัน ...”

    เขาพยายามปรามหล่อนด้วยเสียงแหบๆเพราะพิษไข้ของตนเองก่อน แต่ดาหวันไม่คิดฟัง หล่อนเข้าใจไปว่าเขาก็มีอารมณ์ร่วมไปกับตัวเองด้วย เลยยิ่ง ”รุก” หนักเข้าไปอีก

    ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีสดนั่นปัดผ่านแก้มของภาวินทร์และคงไล่เรื่อยลงไปจนเกือบถึงริมฝีปากของชายหนุ่มหาก ใครคนหนึ่งจะไม่เดินทื่อเข้ามาหยุดอยู่ข้างๆ และมองหญิงสาวตาปริบๆ โดยไม่คิดหลบ

    ทีแรกดาหวันไม่ทันสนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น ชั่วแว่บที่ปลายหางตาปัดผ่าน หล่อนเห็นปลายเท้าของผู้ชายแต่เป็นใครก็ช่างปะไร...

    ตอนนี้ภาวินทร์กำลังตกอยู่ในกำมือของหล่อน เรื่องอะไรจะปล่อยให้เขาหลุดมือไปง่ายๆ!!?

    คนเจ็บเป็นฝ่ายที่ใจไม่ด้านพอ ต้องกัดฟันยกมือดันใบหน้าของหญิงสาวให้เงยถอยออกไปเสียเอง


    “ไอ้วีมา หวัน!”

    ภาวินทร์เตือน ดาหวันหันควับไปมองหน้าหนุ่มผู้มาใหม่ด้วยความเกรี้ยวกราดทันที

    นายปฐวีตัวแสบ เพื่อนรักเพื่อนเกรอของภาวินทร์ เป็นคนที่หล่อนไม่ชอบหน้ามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่รู้สึกว่าวันนี้จะเป็นวันที่ไม่ชอบหน้าหมอนี่ที่สุด ไม่รู้จะจุ้นจ้านเข้ามาทำไมเวลานี้...

    หมูเขาจะหาม ดันยื่นหน้าเข้ามาสอด!!

    “เข้ามาทำไมไม่รู้จักให้สุ้มให้เสียงเลย คุณไม่รู้รึไงว่านี่เป็นห้องส่วนตัวของคุณไวน์เขา?”

    หล่อนตำหนิปฐวีว่าไร้มารยาท ทว่าฝ่ายนั้นยักไหล่ไม่แยแส

    “ก็เพราะรู้ว่าเป็นห้องนอนของไวน์มันสิ ผมถึงไม่เคาะประตู ผมมาทีไรก็ไม่เคยเคาะ ไม่เคยได้เห็นอะไรเด็ดๆ อย่างวันนี้มาก่อนเลย รู้สึกเป็นบุญตามากเลยครับ”

    คนกระแนะกระแหนหน้าระรื่นเสียจนดาหวันอยากตบ!!

    แต่เขาเป็นเพื่อนของภาวินทร์ หญิงสาวจึงจำต้องอดใจเก็บกักความโกรธเอาไว้แค่ในอก

    “ก็เป็นธรรมดาแหละค่ะ คนรักกันมันก็ต้องมีบ้าง...อย่าบอกนะคะว่าคุณวีอิจฉา ...เพราะตัวเองก็ยังไม่มีแฟน”

    “โอ้ย...ถ้าหมายถึงผู้หญิงควงเล่นๆ น่ะ ผมจะมีทั่วราชอาณาจักรเลยก็ยังได้ แต่ผมไม่อยากมีเอง มันน่ารำคาญ ว่าไหมไวน์”

    เพื่อนโยนกลองมาให้คนป่วยที่นอนทำตาปริบๆอยู่ ทำเอาภาวินทร์ถึงกับยิ้มเฝื่อน

    “หวัน...เอ่อ...หวันกลับไปก่อนเถอะนะ ผม...ผมมีเรื่องอยากคุยกับเจ้าวีมัน “

    คนป่วยเอ่ยหลังจากที่นิ่งเงียบอยู่อึดใจ เขาต้องหาทางทำอะไรซักอย่าง ไม่เช่นนั้นแทนที่จะหายป่วยเร็วๆ มันจะยิ่งพาลเป็นหนักขึ้น

    ยายดาหวันเข้ามาพันตูเมื่อกี้ ยังทำเอามึนศีรษะไปหมดเลย

    “มีเรื่องคุยกันก็คุยไปสิคะ หวันอยู่ด้วยก็ได้นี่ ไม่เห็นต้องให้หวันกลับเลย”

    หญิงสาวอิดออดไม่ยอมถอยห่างเขาไปง่ายๆ ด้วยคิดว่า เวลานี้แหละ คือโอกาสทองของหล่อนที่จะทำคะแนนให้เขายิ่งรักหล่อนมากขึ้น

    ได้ดูแลเขายามเจ็บไข้ได้ป่วย หล่อนเห็นมานักต่อนักแล้วในนิยาย ว่าพระเอกจะต้องรักนางเอกตอนนี้

    ถึงแม้ว่ามันจะดูน้ำเน่าไปนิด แต่เชื่อไว้ก็ไม่เสียหลายมิใช่หรือ?

    “กลับไปก่อนเถอะคุณ ถ้าอยากเฝ้าไข้ไวน์มันนัก พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ก็ได้ มันคงยังไม่มีปัญญาหนีคุณไปไหนอีกหลายวัน ไม่ต้องรีบทำคะแนนนักก็ได้หรอก ให้เวลาไอ้ไวน์มันตั้งสติบ้างก็ได้”

    ดาหวันส่งค้อนตาเขียวขุ่นคลั่กไปให้เพื่อนของภาวินทร์ทันทีที่ชายหนุ่มเอ่ยออกมาเช่นนั้น เป็นทำนองว่าไม่ต้องมาสั่งมาสอนฉันหรอกย่ะ!

    ปฐวียิ้มหวานรับความขุ่นเคืองของหญิงสาวสวยตรงหน้าไม่สะทกสะท้าน แถมยังสั่งสอนหล่อนต่ออีก

    “ผมเตือนให้เพราะความหวังดีนะคุณหวัน ผู้ชายบางคนน่ะ เขาไม่ชอบผู้หญิงตามจิกตามทึ้งตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงหรอก มันต้องมีเวลาให้เพื่อนฝูงกันมั่ง”

    “หวัน...คุณกลับไปก่อนเถอะนะ ผมขอร้อง”

    ภาวินทร์ช่วยไล่หล่อนอีกแรง ดาหวันแม้ไม่อยากจากก็ยังต้องจำใจ...

    ลองเขาออกปากขนาดนี้ ขืนหล่อนยังดื้ออยู่ภาวินทร์อาจจะโกรธขึ้นมาได้...อย่างน้อยๆ บรรยากาศหวานๆเมื่อกี้นี้ก็คงจะทำให้เขารู้สึกดีๆ กับหล่อนขึ้นมาอีกมากทีเดียว...

    ถ้าหล่อนยอมถอยตอนนี้เพื่อรุกคืบในวันหน้าให้มากกว่านี้ ก็เป็นการสมควรมิใช่หรือ?

    “ก็ได้ค่ะ หวันจะไป เห็นแก่คุณนะคะไวน์”

    หญิงสาวสะพายกระเป๋าถือหันมายิ้มทอดสะพานหวานหยดให้คนเจ็บที่นอนหน้าซีดหน้าเซียวบนเตียงก่อนจะปรายตาดุสุดๆส่งมาให้เพื่อนคนเจ็บ พอเห็นปฐวีก้มศีรษะยิ้มให้หล่อนอย่างท้าทายดาหวันก็สะบัดหน้าพรืด! ก้าวฉับๆออกไปอย่างรวดเร็ว


    สองหนุ่มที่อยู่ในห้องต่างพากันถอนหายใจโล่งอกออกมาพร้อมกันที่เจ้าหล่อนกลับไปได้เสียที...

    ปฐวีเดินมานั่งบนเตียงนอนของภาวินทร์ เอี้ยวหน้ามองเพื่อนยิ้มทะเล้น

    “ไงวะ ดูท่าทางกำลังมีความสุขเลยเชียวนะ โทษทีที่ขัดจังหวะ เผอิญฉันมันเป็นพวกไม่ชอบเห็นคนอื่นเขามีความสุขน่ะ”

    “สุขกะผีแกอะดิ่”คนถูกเหน็บแนมทำหน้าบูดบึ้ง “ความดันพุ่งกระฉูดเกือบตายสิไม่ว่า...ยายหวันเล่นอย่างงี้สงสัยไม่มีหวังหายแน่ๆ...มีแต่ตายกับตายแหงๆ “

    คนไข้บ่นเสียงแหบๆ ที่จริงก็น่าสงสารอยู่บ้าง แต่ความที่คบหากันมานานจนรู้ใส้ว่ามีกี่ขดกี่ขด ปฐวีจึงสงสารอีกฝ่ายไม่ค่อยลงนัก

    ที่ปกติล่ะทำเก่งสารพัด มาตอนนี้ล่ะไร้น้ำยากะอีแค่ผู้หญิงคนเดียว

    “ทำไมนายไม่เคยบอกฉันว่ามีคู่หมั้นแล้ว? “

    จู่ๆก็ถูกเพื่อนถามเช่นนั้นทำเอาภาวินทร์ถึงกับอึ้ง ทำหน้าไม่ถูกไปชั่วขณะ

    “ก็ไม่คิดว่าจะสลักสำคัญอะไร...ตัวฉันเองยังลืมไปตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ...ว่าแต่...นายรู้จักกับขวัญชีวาเมื่อไหร่? “

    “เมื่อกี้ ตอนที่จะขึ้นมาหานาย...คุณขวัญเป็นเด็กน่ารักนะ ฉันว่าเขาเหมาะกับนายมากกว่ายายดาหวันตั้งเยอะ”

    ปฐวีเชียร์เด็กสาวคนที่เขาถูกชะตา หากแต่เพื่อนกลับเมินหน้าหนีไปเสียอีกทางอย่างทนระคายหูในสิ่งที่ได้ยินไม่ค่อยได้

    “ฉันไม่อยากแต่งงานกับเด็กนั่น “

    “ทำไม?”ทนายความหนุ่มถามด้วยความฉงน ในเมื่อรู้ๆ กันอยู่ว่าภาวินทร์ไม่ได้รักชอบดาหวันอะไรมากมายจริงจัง แล้วทำไมกับขวัญชีวาที่น่ารักกว่าดูดีกว่า แถมยังเป็นว่าที่เจ้าสาวของตัวเอง หมอนี่กลับทำท่าว่าจะถูกลากไปผูกคอตายเมื่อเอ่ยถึงเด็กสาวคนนั้น

    “ก็...ฉันไม่ได้รัก” คนป่วยหาทางออกเสียงไม่ค่อยมั่นคงนัก อีกฝ่ายขมวดคิ้วอย่างฉงน

    “ไม่รักแล้วไปขอเขาแต่งงานทำไม? “

    “ตอนนั้นมันก็แค่อารมณ์ชั่ววูบของวัยรุ่น ไม่ได้คิดนี่หว่าว่ายายขวัญจะเอาจริงเอาจังเสียขนาดนี้”

    “อ้อ...นายก็เลยคิดมากเรื่องของคุณขวัญจนถึงกับล้มเจ็บ ต้องนอนแบบหมดน้ำยาอย่างงี้  เพราะกรรมมันตามสนองที่ริอ่านไปหลอกเด็ก”

    ปฐวีต่อให้เสร็จสรรพ คนที่นอนแผ่หลาบนเตียงไปตอบในทันทีหากแต่ใบหน้าคมเข้มที่ซีดเซียวอยู่นั้นเริ่มแดงขึ้นมา

    “ไม่เกี่ยวเลย ฉันต่างหากที่ซวยเพราะยายนั่น ตั้งแต่ยายนั่นเข้ามาชีวิตฉันก็ผิดพลาด ซวยไปหมด แถมยังต้องมาติดแหงกกับยายหวันอย่างนี้ ก็เพราะเด็กนั่นคนเดียว อย่างนี้แล้วก็จะให้ฉันรักยายขวัญเข้าไปลงอีกหรือ? “

    “อ๋อ...ที่ยอมให้ยายหวันเข้ามาวุ่นวายเนี่ย เพราะต้องการให้เขาเข้ามาเป็นเกราะป้องกันนายจากคุณขวัญหรอกรึ มิน่า...”

    ปฐวีคิดออก ราวกับเข้ามานั่งอยู่กลางใจของภาวินทร์ ทำเอาชายหนุ่มที่นอนหมดท่าอยู่บนเตียงถึงกับพูดไม่ออก

    มันเป็นความจริงว่าเขาพยายามดึงเอาดาหวันเข้ามากางกั้นระหว่างตัวเองกับขวัญชีวาอยู่...ถึงเขาจะ”แหกตา” ใครได้ แต่กับปฐวี หมอนี่ดูใจเขาออกโดยไม่ต้องใช้วิชาหมอดูที่ร่ำเรียนมาเลยซักนิด

    “ระวังนะ อีกหน่อยนายอาจสลัดยายหวันไม่หลุด แล้วมันจะยุ่ง ขนาดเมื่อกี้ยังเอาใหญ่เชียว อีกหน่อยมิยิ่งเตลิดเปิดเปิงกว่านี้อีกหรือ? “

    “ที่แรกฉันก็หนักใจเรื่องนี้แหละ ถ้าเป็นตอนที่ตัวเองปกติ มันก็ไม่มีปัญหา แต่ตอนนี้...ฉันยังช่วยตัวเองไม่ได้ คงต้องขอแรงนายช่วยหน่อยว่ะวี”

    “จะให้ช่วยอะไร? “

    ปฐวีถามเป็นการยอมรับที่จะช่วยเพื่อนในตัวโดยดุษฏี แต่พออีกฝ่ายเอ่ยปาก คนที่หน้ายิ้มละไมอยู่เสมอก็พลันหน้าเบ้

    “ฉันจะให้แกช่วยพาฉันหนี”

    “เฮ้ย! “ ชายหนุ่มผู้มาเยี่ยมเพื่อนลุกพรวดจากข้างเตียง มองหน้าภาวินทร์แปลกๆ “คำนั้นเขาใช้สำหรับพาสาวหนีโว้ย ไม่ใช่พาแก”

    “เออน่า...ตอนนี้ฉันขอยืมคำนี้มาใช้ก่อน แกต้องพาฉันหนีนะไอ้วี ไม่งั้นเพื่อนแกคนนี้ไม่มีทางหายไข้แน่ๆ ยายหวันกับยายขวัญรุมฉันตาย”


    เจ้าตัวทำเสียงและหน้าว่าสยดสยอง หากแต่ความจริงแล้วภาวินทร์ตั้งใจจะหลบฉากการรุกอย่างน่าเกียจของดาหวันมากกว่า...กับขวัญชีวา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่อยากเห็นหน้าหล่อน แต่หล่อนก็ไม่เคยอ่อยเหยื่อให้ท่าเขาชวนให้ลำบากใจอย่างดาหวัน

    ปฐวีนิ่งเงียบไปชั่วอึดใจ ทำท่าว่าตรองไม่ค่อยจะตก พอปรายตามองเห็นสภาพโทรมๆ ของเพื่อนก็ต้องถอนหายใจพรืด จำใจพยักหน้ารับในที่สุด

    “เอาไงก็เอากันวะหลวมตัวมาเป็นเหยื่อนายถึงที่แล้วนี่ จะให้พาไปที่ไหนก็บอกมาแล้วกัน”


    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    (ยังมีต่อค่ะ)

    จากคุณ : ลันเตา... - [ 28 ม.ค. 47 10:57:13 ]