จดหมายจากเด็กน้อยในสงคราม ..เรื่องสั้น.. (โหดหน่อยนะ ระวังน้ำตาท่วมจอ)

    วันที่  30  มักกะลาคม  2547

    เขียนที่ฟามของพ่อจ๋า  

    หวัดดีฮะ  อย่างแรกต้องขอโทดพี่ๆ ที่กำลังอ่านอยู่   คือว่าผมลายมือไม่สวยเรยฮะ  และก็เขียนผิดๆ ถูกๆ  ตามปะสาเด็กบ้านนอกเรียนมาน้อยน่ะฮะ  อย่าถือโกรดกันเลยนะฮะ

    คือว่าผมมีอะไรอยากจาเล่าให้พวกพี่ๆ ฟังฮะ  แต่ว่าผมคงต้องรีบเล่า  เวลาผมมีน้อยฮะ  
    เพราะอีกไม่นานต่อจากนี้  ผมก็ต้องรีบเก็บเสื้อผ้าออกจากบ้านแล้ว
    เพราะพวกคนใจร้ายกำลังจาค่าผม  และก็คอบครัวที่เหลืออยู่ของผมด้วย
    แต่พี่ๆ ไม่ต้องกังวนไปหลอกฮะ  ยังไงเสีย  แม่จ๋าคงพาผมและน้องๆ หลบหนีไปได้แน่ๆ

    เรื่องมันมีอยู่ว่า  ตอนนี้เราอยู่ในช่วงสงคามฮะ
    สงคามมันเริ่มมาได้เกือบเดือนแล้ว
    แต่พวกผู้ใหย่ก็เห็นว่ามันกำลังจาจบลงในเร็วๆ นี้แหละ
    เพราะเราสู้กับสัดตูที่มาโจมตีเราไม่ได้เลย
    พวกมันเข้มแข็งกว่าเรามากๆ  โหดมากๆ
    ตัวโตกว่าปะชาชนในปะเทดของเรามากๆ
    และมันมีเทกโนโลยี่สูงกว่าเราด้วย

    พวกมันมากันแบบไม่ให้เรารู้เน้อรู้ตัวเรย
    วันนั้นผมกับน้องๆ พี่ๆ กำลังวิ่งเล่นกันอยู่ในฟาม
    อ้อ  ผมลืมบอกไป  คือว่าคอบครัวผมมีพี่น้องเยอะฮะ
    พ่อจ๋ามีเมียเยอะมาก  พี่น้องคนละแม่จึงมีเพียบเรย
    งานในฟาม  หรือบ้านของพ่อส่วนใหย่จึงเป็นหน้าที่แม่ๆ แทน
    ส่วนพ่อจ๋านะเหรอฮะ  
    ก็คงไปเมา  หรือไม่ก็ไปหาสาวๆ ที่ไหนเป็นประจำนั่นแหละฮะ
    กับบ้านมาเมื่อไหล่ก็ทุบตีแม่จ๋าเป็นประจำ
    ผมเลยไม่ค่อยชอบพ่อจ๋าสักเท่าไหล่
    แต่ผมรักแม่จ๋ามากฮะ
    แม้แม่จ๋างานยุ่ง  แต่แม่จ๋าก็แวะมาเล่น  แวะมาคุยกับผมบ่อยๆ เรย

    ว้า  ผมนอกเรื่องไปเยอะเรย  ทั้งๆ ที่มีเวลาน้อยอยู่แท้ๆ  ผมขอเล่าต่อดีกว่าฮะ
    ขะน่ะที่ผมกำลังวิ่งเล่นกับพี่ๆ น้องๆ อยู่นั้น
    พวกผู้ใหย่ก็มาต้อนพวกเรากับเข้าบ้าน  แต่ละคนดูท่าทางตกกะใจกันยกใหย่
    พออยู่ในบ้าน  น้าก็บอกกับแม่จ๋าว่า

    “แย่แล้วๆ พวกรัดถะบานผะเด็ดกานปะเทดข้างๆ มันก่าวหาปะเทดของเราล่ะ”

    “หา%!! ก่าวหา!! ก่าวหาอะไรล่ะ”  แม่จ๋าถาม

    “พวกมันก่าวหาว่าพวกเราเป็นแล่งแพ่เชื้อของโลกระบาดที่เกิดขึ้นในโลกขะน่ะนี้”

    “เป็นไปได้ยังไงกัน  พวกเราก็ทำมาหากินกันตามปกตินี่  ไม่ได้เจ็บไข้ได้ป่วย  มีโลกระบาดอะไรเรย”  แม่จ๋าโวยวายเสียงดัง

    “ก็ช่าย  พวกมันหาข้ออ้างบ้าๆ บอๆ เพื่อให้ปะเทดอื่นๆ เห็นด้วยกับพวกมันจาได้มายึดปะเทดของพวกเรายังไงล่ะ  พวกปะเทดอื่นๆ ก็เลยบ้าตามพวกมันไปด้วย   สะหนับสะหนุนกันยกใหย่” น้าตะโกนบอกให้พวกผู้ใหย่คนอื่นๆ ได้รู้  พวกเด็กๆ ที่ยืนอยู่แถวๆ นั้นก็พลอยตกกะใจกัวไปด้วย

    “แล้วตอนนี้พวกมันบุกมาหรือยัง”  แม่ของน้องจิ้บถาม

    “ยังๆ พวกมันพึ่งจาล้อมปะเทดเราไว้  ไม่ให้ใครบินหนีออกนอก  แต่อีกไม่นานพวกมันก็จาบุกเข้ามาแน่ๆ “ น้าบอก

    “ฮือๆ แม่จ๋า  หนูกัว” ผมร้องไห้เสียงดัง  จนแม่จ๋าต้องมากอดผมไว้

    “แล้วนี่พ่อตัวดีของชั้นไปไหนล่ะเนี่ย” แม่จ๋าถามน้า

    “เอ่อ  คือว่า  พ่อโต้งพอรู้เรื่องก็ไปสะหมักทะหานทันทีเรย  ป่านนี้คงอยู่ที่กองบันชากานแล้วล่ะ  แล้วนี่อีกเดี๋ยว  พวกที่เหลือก็จาไปสะหมักเหมือนกัน”  น้าบอก  พางถอนหายใจ

    “หนูจาหาพ่อจ๋า  หนูหาพ่อจ๋า”

    “โถ  ลูกแม่” แม่จ๋าร้อง  กอดผมแน่น

    ช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา  พวกเราอยู่ในฟามอย่างหลบๆ ซ่อนๆ  พอได้ยินเสียงหวอๆ ดังลั่น
    พวกเราก็จาอบพะยบกันหนีลงไปในหลุมหลบพัย  พ้อมๆกับพวกแม่ๆ และพี่น้อง
    แรกๆ ก็กัวอยู่เหมือนกันฮะ  กว่าจาหนีลงหลุมกันได้ก็ทุลักทุเลกันมาก  
    แต่หลังๆ มานี่พวกเราชักชินแล้ว  พอได้ยินเสียงปุ๊บ  เราก็วิ่งกันปั๊บ  เผ่นแนบลงหลุมตามกันเป็นพวนเรยฮะ  

    และแล้ววันนี้เอง   ขะน่ะที่พวกผมกำลังช่วยแม่จ๋าเลี้ยงน้องๆ  
    อ๊ะ  ผมลืมบอกไปอีกอย่าง  คือว่าวันนี้น้องของผมถึงกำหนดคอดแล้วล่ะ
    คือแม่จ๋าท้องฮะ  น่ายินดีจังเรย  ผมจากมีน้องแล้ว  น้องจากแม่เดียวกันซะด้วย
    ตั้งแต่เช้า  ผมมีความสุกมากๆ เรยฮะ  กะโดดโลดเต้นไปรอบๆ ฟาม  พ้อมๆ กับพี่ๆ น้องๆ คนละแม่
    แต่พอสายๆ ก็มีผู้ใหย่มาหา  เป็นน้านั่นเอง  เค๊าดูสะบักสะบอมมากๆ   มีบาดแผลเต็มตัวเรย
    แม่จ๋าพาน้าไปนั่งในบ้าน  แล้วก็ถามอย่างกังวนว่า

    “เกิดอะไรขึ้น”

    “เราสู้มันไม่ไหวแล้ว   พวกเราล้มตายกันมากเหลือเกิน  น่ากัวมากๆ ตายไปสักสิบล้านได้แล้วมั้ง  และจายิ่งเพิ่มขึ้นมากกว่านี้อีก” น้าบอก  ขะน่ะกำลังดื่มน้ำที่แม่ของจิ้บเตียมให้

    “แล้วพ่อล่ะ  พ่อเป็นไงบ้าง” แม่จ๋าถาม  เสียงของแม่จ๋าเกือบๆ จาร้องไห้

    “ตายแล้ว  ตายในหน้าที่อย่างสมเกียด  ชั้นเห็นโต้งสู้สุดชีวิด  แต่ก็สู้พวกมันไม่ได้  มันจับคอโต้งไว้  แล้วก็เอามีดปาดคอ  เลือดทะลักออกมาเรย  พวกมันโหดมากๆ  ชอบเล่นสะหนุกกับชะเลยที่จับได้  
    ไม่ค่าด้วยวิทีทำมะดา  ต้องการให้ทอระมานเสียก่อน  ปล่อยให้โต้งค่อยๆ ตาย  ให้เลือดไหลออกตัวจนหมด   นี่ดีนะ  ระหว่างรอถึงคิวขอชั้น  พวกมันปะหมาด  ชั้นเลยสะบัดตัวหลุด  แล้วหนีมานี่แหละ”

    แม่จ๋าปิดปากแน่น  น้ำตาไหล  พายายามไม่ส่งเสียงร้องออกมา  
    แล้วแม่ของจิ้บก็เข้ามาถามน้าว่า

    “หนีมานี่  งั้นก็แสดงว่าพวกมันอยู่ใกล้ๆ เรานี่เองน่ะสิ”

    น้าพะยักหน้าช้าๆ เป็นคำตอบ  พวกที่เหลือต่างกีดร้องลั่น  กัวกันลนลาน  ซักพักน้าก็พูดว่า

    “ตอนนี้พวกมันมุ่งหน้ามาที่ฟามแห่งนี้แล้ว  พวกเราเตียมเก็บข้าวของกันเถอะ  เดี๋ยวชั้นจาพาหนีเอง”

    พวกเราเรยช่วยกันเก็บข้าวของเงียบๆ  แต่ว่าบ้านนี้เราอยู่กันมานาน  ข้าวของเรยเยอะมาก  ต้องให้เวลาสักพักใหย่จึงจาเก็บได้หมด  ผมว่างๆ อยู่เลยมาเขียนจดหมายนี่แหละ  
    อ๊ะ  ดูเหมือนว่าพวกแม่ๆ จาเตียมกันเส็ดแล้ว  ผมต้องไปแล้วฮะ  ผมจาวางจดหมายนี่ไว้ที่บ้านนี่แหละ  เผื่อว่าบางที  อาดมีใครมาอ่านจดหมายของผม  แล้วเล่าถึงความเลวร้ายที่เกิดขึ้นในปะเทดของเราให้โลกได้รับรู้   รู้ถึงความจิงที่เกิดขึ้น  ที่พวกปะเทดสัดตูก่าวหาว่าพวกเราเป็นโลกระบาด  ต้องกำจัดทิ้งให้หมด  พวกเราไม่ได้เป็นอย่างที่พวกมันก่าวหาหลอกนะ  พวกเราแข็งแรงดี  
    ทำไมพวกมันไม่สงสานเราบ้างนะ  พวกเราบอริสุด  

    อ้อ  โลกที่พวกมันก่าวหาพวกเรา  มันชื่อว่า โลกหวัดนกฮะ   ผมไม่เข้าใจเรยว่าพวกเราไปเหมือนนกตงไหน  พวกเราบินไม่ได้สักหน่อย   นี่ผมสงสานก็แต่แม่จ๋านี่ล่ะ  แม่จาเดินทางไหวหรือป่าวก็ไม่รู้  ต้องคอยอุ้มน้องของผมที่อยู่ในไข่ไปด้วย  และผมได้ยินน้าบอกด้วยนะว่า  แม้แต่น้องเจี้ยบในไข่  พวกมันก็ไม่ละเว้น  โหดจิงๆ เรย พวกมะนุดเนี่ย

    ไปล่ะคับ   หวังว่าคงจาได้พบกัน  ถ้าผมไม่ถูกเชือดเสียก่อน

    จาก

    เจี้ยบ  
    ลูกคนที่  154  ของแม่จ๋า



    แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 47 19:03:36

    จากคุณ : ณัฐกร - [ 31 ม.ค. 47 18:59:12 ]