อยากฟังเรื่องรักซึ้งๆไหมละ ( ภาค 2 )

    สืบเนื่องจากคราวที่แล้ว

    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2653353/W2653353.html

    มาต่อกันคะ

    หลังจากวันนั้น เราก็คบกันเป็นเพื่อน แต่เราก็ยังไม่ได้มีทีท่าว่าจะรักกันสักที นั้นอาจจะเป็นเพราะว่าเราต่างยังไม่แน่ใจในกันละกัน เนื่องจากเราอยู่ห่างกัน ทุกคนอาจจะงงว่า เอ๊ะ อยู่ห่างกันได้ไง  คือว่า ที่ฉันไปอยู่อเมริกากับคุณพ่อเนี้ย ฉันจะไปอยู่แค่ตอนปิดเทอม ซัมเมอร์ และ เทอมสอง เนื่องจากตอนนั้นฉันเรียนอยู่ที่เมืองไทย เลยไม่สามารถย้ายไปที่นู้นได้ เราสองคนก็ได้แค่ติดต่อกันทางเมล์และ ICQ

    จวบกระทั่ง ปิดเทอมใหญ่ผ่านมาอีกครั้ง ฉันก็มีโอกาสไปหาคุณพ่อที่อเมริกาอีกรอบ  ฉันได้มาเจอพ่อเจ้าปะคุณอีก เขาก็ยังคงยิ้มแย้มทักทายและพูดมากเหมือนเดิม ช่วงที่ฉันไป เขากำลังยุ่งมากๆ พ่อแม่เขาเพิ่งย้ายบ้าน ไปอยู่ Cystal City และเขาจะต้องเตรียมตัวกลับไปที่ Florida เนื่องจากเขาจะต้องไปเข้ามหาลัยที่นั้น ( Florida State University)

    มีอยู่อาทิตย์นึง เขาหายไปเลย จนฉันรู้สึกกระวนกระวาย คนเคยพูด เคยเจอกันทุกวัน อยู่ดีๆก็มาหายไป ตอนนั้นใจมันร้อนรุ่มอย่างบอกไม่ถูก และแล้ววันนึง เขาก็โทรมาหาฉันด้วยเสียงอันอ่อนเพลีย ฉันถามเขาว่า ทำไมถึงหายไป สิ่งที่ฉันได้รับ คือ เขาเกิดอุบัติเหตุ เลยต้องไปนอนโรงพยาบาล

    ฉันใจหายมาก แต่พอได้ฟังถึงที่มาของอุบัติเหตุ ก็อดสมน้ำหน้าไม่ได้ คุณชายของฉันเขาไปเลี้ยงฉลองก่อนลาไป  florida กับเพื่อนๆ แล้วนั่งแท๊กซี่กลับบ้าน แต่ด้วยความเมา ผสมกับความสะเพร่าของแท๊กซี่ เขายังไม่ทันจะออกมาจากรถดี คนขับแท๊กซี่ก็ขับออกไป ความเมาทำให้เขาไม่สามารถจะเกาะอะไรได้อยู่ หัวเขาเลยไปกระแทกกับขอบรถ จนแตกและเป็นรอยบาดลึกยาว เขาเสียเลือดไปมาก เลยต้องไปนอนที่โรงพยาบาล

    เขานัดเจอฉัน เขาบอกว่าอยากเจอฉันจังเลย ไปอยู่โรงพยาบาลมันเหงาจะตายอยู่แล้ว ฉันก็ไปเจอเขา ตอนที่เห้นเขา อยากจะหัวเราะออกมาให้ฟันหลุด แต่เกรงใจคนรอบข้าง ก็ที่หัวของเขามีผ้าพันแผลพันไปมาลงมาถึงครึ่งหน้าผาก มันดูตลกยังไงชอบกล

    วันนี้เขาดูแปลกๆไป เขาพูดน้อยและไม่กล้าสบตาฉัน ฉันก็ไม่ได้ติดใจอะไรนัก จนมาถึงเวลาที่เราจะจากกัน เรามาถึงที่ Metro Station วันนี้เรากลับไม่ดึกมาก ฉันเลยให้เขามาส่งแค่เชิงบันไดเลื่อนของสถานีรถไฟใต้ดิน บันไดเลื่อนของสถานีรถไฟใต้ดิน จะยาวมากๆ แบบมีเป็นร้อยๆขั้น ถ้าใครพอจะนึกออก

    ฉันกล่าวลาเขาแล้วจะหันจากไป แต่แล้วเขาก็เข้ามาจับแขน พร้อมกับบอกว่า Sweety ( เขาชอบเรียกฉันว่า หวานใจ)…..I think I fall in love with you ตอนนั้นฉันงงมากๆ หันมามองเขาเหมือนเจอผี เขาทำหน้าเจี๋ยนๆลงไป เขาบอกว่า เขาอยากจะบอกฉันมานานแล้วแต่กลัวว่าฉันจะรับไม่ได้ เขาบอกว่า เขาไม่ต้องการจะรู้คำตอบตอนนี้หรอก เขาแค่อยากที่จะบอกฉันถึงความรู้สึกของเขา ก่อนที่หัวใจเขาจะแตกตายไปก่อน ฉันก็ได้แต่เพียงยิ้ม แล้วตอบกลับเขาไปว่า ขอบคุณ ….. ขอบคุณที่หลงรักฉัน  เขาก็ยิ้มรับและกล่าวลา ฉันมองเขาลงบันไดเลื่อนจากหายไป แต่ในขณะนั้นฉันรู้สึกสับสนในใจขึ้นมาอย่างจัง เพียงแต่ตอบตัวเองไม่ได้ว่ารู้สึกยังไง

    นับแต่วันนั้นเขาก็เพียงแค่โทรมาคุยด้วยสักครึ่งชัวโมง และวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เขาจะต้องบินไป  Florida แล้ว เขาอยากให้ฉันไปส่งด้วย จะให้พ่อกับแม่แวะมารับ  ฉันไม่อยากไปเลย ช่วงเวลานั้น ฉันรู้สึกแย่ๆยังไงไม่รู้ ไม่อยากให้เขาไปเลย

    เวลาก็ผ่านไปรวดเร็ว วันที่จะต้องจากกันก็มาถึง ฉันไปส่งเขา พร้อมกับพ่อแม่ และน้องสาวเขา เราไปถึงก่อนเวลาเครื่องออก 40 นาที ่พอเวลาเริ่มกระชั้นชิด มันรู้สึก ใจหายยังไงไม่รู้ ฉันเริ่มตัวสั่นๆ น้ำตาเริ่มเอ่อ ไม่อยากให้เขาไปเลย เห้นคนขึ้นเครื่องไปทีละคนๆ ใจมันเริ่มแป้ว ฉันหันไปมองหน้าเขา เขาหันกลับมามองหน้าฉัน พร้อมทั้งยิ้มแบบที่ให้รู้ว่า เขาสบายดีน่า

    เวลาขึ้นเครื่องก็ใกล้จะมาถึงแล้ว เขาจะต้องเดินไปขึ้นเครื่องแล้วสินะ ถึงตอนนี้น้ำตาที่สะกดไว้นาน มันเริ่มไม่รักดี พาลออกมาให้เห็น เขาหันมาบอกฉัน แล้วบอกว่า ร้องไห้ทำไม เดี๋ยวก็โทรคุยกันแล้ว แค่นั้นแหละ ฉันปล่อยโฮ ออกมาอย่างดัง น้ำตาก็ไหล ขี้มูกก็พราก เป่าออกเป้นลูกโป่งจากจมูกก็มี  เขามองหน้าฉันอย่างเอ็นดู แล้วดึงฉันเข้าไปกอดอย่างแน่นที่สุด แล้วเขาก็หันไปหาพ่อแม่ น้องสาว และกอดลากัน

    เขาเดินจากไปช้าๆ และหันมาโบกมือลาอีกครั้งก่อนที่จะหายเข้าไปในอุโมงค์เข้าเครื่อง ฉันมองเห็นเขาเดินจากไป อะไรบางอย่างในใจก็เริ่มที่จะเผยคำตอบออกมา ฉันหลงรักเขาแล้วงั้นเหรอ และตอนนี้ผู้ชายที่ฉันได้หลงรักเข้าแล้วอย่างจัง กำลังเดินจากไป หัวใจมันเบาๆยังไงก็ไม่รู้ ใครเคยรู้สึกว่าหัวใจมันไม่ได้อยู่ตรงที่มันเคยอยู่ไหม ตอนนั้นฉันคิดแบบนั้นแหละ

    ตอนดึกคืนนั้น ฉันนอนร้องไห้คนเดียวเงียบๆ แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้เงียบอย่างที่คิด เพราะมันส่งเสียงร้องข้ามฟ้าไปหาเขา ทำให้เขาโทรมาฉัน ฉันดีใจมากๆ เขาบอกว่า เห็นฉันร้องไห้ขนาดนั้น เลยเป็นห่วง และอยากจะโทรมาบอกด้วยว่า ถึงที่ florida แล้ว ทุกอย่างโอเค  แค่นั้นแหละ ฉันปล่อยโฮออกมา อย่างจัง พูดฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ฉันบอกเขาไปว่า ทำไมต้องจากกันด้วย ทำไมต้องไปละ อยู่อีกนิดจนกว่าฉันจะกลับเมืองไทยไม่ได้เหรอ เขาก็หัวเราะชอบใจเหมือนคำพูดของฉันตลกมากอย่างงั้นแหละ ฉันเลยโมโห เลยด่าลงไปว่า หัวเราะอะไร  ตลกนักเหรอ เขาแกล้งยั่วกลับมาอีกว่า ตอนที่ไปส่ง เห้นฉันร้องไห้ ตลกดี ไม่เคยมีใครไปส่งเขาแล้วร้องไห้ขนาดนี้เลย แล้วเขาก็ถามว่า อะไรที่ทำให้ฉันร้องไห้ได้ขนาดนั้น ฉันอึ้งไปสักพัก เขาก็แกล้งแหย่ปนจริงจังว่า อย่าบอกน่ะ ว่ารักผมเข้าแล้ว ถึงตอนนี้ หน้าฉันแดงไปหมดเลย อายจังเลยอะ เขาก็ขยั้นขยอให้ตอบว่า ใช่ไหม ๆๆ อยู่นั้น ฉันเลยโพล่งออกไปอย่างเหลือทนว่า ใช่ ฉันรักเธอ รักมากจนใจจะขาดอยู่แล้ว แล้วไงล่ะ แล้วก็กระแทกหูลงไปดังโครม  อ่า…หมดกันฉัน

    จากวันนั้น เขาก็ไม่ได้โทรมาอีก และอีก 4 วันข้างหน้าก็วันเกิดฉันแล้ว ฉันเกิดเดือนพฤษภาคมค่ะ มาถึงตรงนี้ ทุกๆคนก็คงจะเดาออก เพราะคนที่อ่านห้องนี้ จินตนาการไกล คุณคงจะต้องคิดว่า มันจะต้องมีอะไรแบบว่า เขาโผล่มา surprise เอาของขวัญมาให้แน่ๆ ทายถูกคะ

    ฉันก็ไม่คิดเหมือนกันว่า เขาจะเพี้ยนได้ขนาดนั้น วันเกิดฉันก้มาถึง ฉันออกไปข้างนอกแล้วก็กลับมาเย็นมากแล้ว พอมาถึงที่อพาร์ตเมนท์ พนักงาน frontdesk ที่อพาร์ทเมนท์ ซึ่งสนิทกับฉันบอกว่า มีคนมารอฉันตั้งนาน แต่ตอนนี้เขาเดินออกไปไหนไม่รู้ ออกไปได้สัก 30 นาที  ฉันก็ถามว่าเขาเ็ป็นใคร พนักงานบอกว่า เป็นผุ้ชาย สูงๆ ผมสีน้ำตาล bla bla bla มาคนเดียว และถือดอกไม้ช่อโตด้วยแหละ แค่นั้นแหล่ะ รู้เลย ฉันวิ่งออกจากอพาร์ทเมนท์ออกไปตามหาเขาเลย

    ฉันวิ่งไปที่สถานีรถไฟ ก็ไม่เจอใคร ฉันวิ่งไปที่ร้านอาหารจีนที่อยู่ใกล้ๆ เพราะเขาชอบไปนั่งกิน แต่ก็ไม่มี ฉันจึงเดินกลับอย่างหมดหวัง  ขณะที่ฉันเดินกลับอพาร์ทเมนท์อย่างเงียบๆ ฉันก็เหลือบตามองไปเห้นผุ้ชายคนนึงอยู่ที่ม้านั่งในสวนของอพาร์ทเมนท์ เขาถือดอกไม้ช่อโต มันเป้นดอกทิวลิปสีชมพู 6 ดอก ซึ่งดอกทิวลิปนี้ เป้นดอกไม้โปรดของฉันเลย  ฉันยิ้มจนแก้มปริ เขายังอยู่ เขายังไม่ได้กลับไป ไชโย !!

    ฉันย่องเข้าไปใกล้ เขาหันมาพอดี ฉันแกล้งถามเขาไปว่า มานั่งรอใครเหรอ เขาหัวเราะ แล้วก็บอกว่า มานั่งรอแฟนของเขาอยู่ วันนี้วันเกิดแฟนของเขา โอวว์… ฉันอายมากเลย เขาเรียกฉันว่าแฟนแล้วเหรอเนี้ย ฉันกวนกลับไปอีกว่า แล้วเจอหรือยังละ

    เจอแล้ว อยู่ตรงหน้านี่ไง เขาบอกขณะลุกขึ้นส่งดอกไม้มาให้  แล้วเขาก็เดินเข้ามากอดฉันแน่นมาก แน่นจนร่างกายอุ่นซ่านไปหมด เขาผลักฉันออกห่าง และบอกว่า ที่เขามาวันนี้ เขาไม่ได้แค่อยากจะมาให้ของขวัญวันเกิดน่ะ แต่เราอยากที่จะมาขออะไรเราสักอย่าง

    ฉันงงมากๆ จึงถามกลับไปว่า อยากได้อะไรละ เขายิ้มกว้างอย่างมีเลศนัย ก่อนบอกว่า ก็ขอให้พูดคำสุดท้ายก่อนที่จะกระแทกหูใส่เขาเมื่อวันก่อนนู้นไง โอ้ยยยย ฉันอยากหน้าแดงเป้นก้นลิงจริงๆ เขาก็ทำตาแบบว่า ซึ้งสุดขีด อีกแล้วค่ะท่าน อยากเอาหัวมุดดินเป้นนกกระจอกเทศ ในที่สุดก็ทนสายตาเรียกร้องนั้นไม่ไหว จนปากมันทรยศตัวเอง แล้วเอ่ยกับเขาว่า  ฉันรักเธอ

    เขายิ้มกว้างไปถึงใบหู  แล้วก็ดึงฉันไปกอดอีกครั้ง ก่อนที่จะบอกว่า วันที่ฉันบอกรักเขาทางโทรศัพท์ เขาอึ้งจนตกใจ ปนดีใจ มันทำอะไรไม่ถูก เขามีความสุขมากๆเลย จากนั้นเขาก็เร่งเคลียร์ทุกอย่างที่มหาลัยเพื่อที่จะมาหาฉันในวันนี้ อยากมาได้ยินกับหูตัวเองว่า มันไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป   : )

    จากวันนั้นเราเป้นคบกันเป็นแฟนมา 4 ปี ก่อนที่จะเลิกกันไป  ทุกวันนี้เรายังคุยกันทาง ICQ แลกเปลี่ยนเรื่องราวเก่าๆ เขาเป้นทั้งเพื่อนที่ดีและคนรักที่โรแมนติกที่สุด ฉันดีใจนะที่เคยเป้นแฟนกับเขา และดีใจที่ได้รู้จักเขา

    ก็มีแค่นี้แหละค่ะ คราวนี้เขียนยาวไปหน่อย ที่จริงมีอีกมาก แต่นึกไม่ออกว่ามีอะไร เอาแต่เหตุการ์ณที่เด่นๆอะค่ะ

    ยังไงคราวนี้ ติชมกันมาอีกเยอะๆน่ะค่ะ ขอบคุณค่ะ

    จากคุณ : uluvme - [ 5 ก.พ. 47 14:47:18 ]