หลายท่านอาจจะสังเกตได้อย่างผม..สองสามวันมานี้..ลมพัดแรงเป็นพิเศษ..ราวกับจะโชยพัดพาความชุ่มชื่นไปสู่หัวใจที่แห้งผากของผู้คน..ที่ผิดหวังต่อความรัก..ต้อนรับวันแห่งความรักที่ใกล้จะมาถึงนี้..
แม้ผมเองจะไม่ใช่หนึ่งในจำนวนนั้น..ก็ยังสามารถรับสัมผัสนี้ได้เป็นพิเศษ..โดยเฉพาะช่วงเวลาเดินทางกลับบ้าน ซึ่งบางครั้งผมจะใช้เรือด่วนเจ้าพระยาเป็นยานพาหนะเดินทาง..สายลมที่พัดผ่านโดยปราศจากสิ่งกีดกั้น..นำความเย็นฉ่ำของลำน้ำมาปะทะผิวกาย..อีกทั้งแสงสีส้มกลมโตทางทิศตะวันตก..สาดกระทบท้องน้ำเป็นประกายล้อคลื่น..ธรรมชาติเหนือลำน้ำเจ้าพระยายามนั้น..งดงามสุดจะบรรยาย
แทบทุกครั้งที่ผมลงเรือ ผมมักจะยืนรับลมอยู่บริเวณริมหน้าต่างด้านใดด้านหนึ่งที่อยู่ใกล้กับห้องเครื่อง แม้เสียงเครื่องยนต์จะดังไปสักนิด หากใช้เวลาไม่กี่นาทีก็จะชินกับมัน..สายตาทอดนิ่งไปยังลำน้ำ สลับกับทิวทัศน์ริมฝั่ง..ปล่อยความคิดล่องลอยไปตามอารมณ์..ความรู้สึก..และสิ่งที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้น
ผมยังจำได้..ในเวลานั้น
ข้างกายของผมเป็นดรุณน้อยนางหนึ่ง..เธอมายืนใกล้ ๆ ผมตั้งแต่เมื่อไรผมก็ไม่ได้ทันสังเกต ชุดเสื้อขาวกระโปรงน้ำเงินแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นนักเรียนระดับมัธยมคนหนึ่ง ผมสั้นแค่คอ เสื้อผ้าสะอาดเรียบร้อย ถือกระเป๋านักเรียนใบบาง ๆ ที่บางครั้งก็ถือไว้ บางครั้งก็กอดแนบอก เธอเลือกที่จะยืนตรงนั้นก็คงเป็นเพราะคนมาก
อาจจะเป็นเพราะตรงกับวันศุกร์ ที่ผู้คนพากันหลีกหนีความคับคั่งของการจราจรทางบก มาใช้ทางน้ำเป็นทางสัญจรเป็นส่วนใหญ่
ผิวพรรณของเธอขาวใส ลำคอระหงส์นั้นทำให้ผมต้องแอบชำเลืองมองบ่อย ๆ ผมชอบปอยผมปอยนั้นของเธอ มันระเรี่ยอยู่บริเวณคอและสันคางที่โค้งมนได้รูป รับกับริมฝีปากแดงอิ่ม จมูกคม และหางตาที่งอนยาว วงคิ้วที่โค้งเรียว ประกอบเป็นโครงดวงตาที่สุกใสดำขลับ..เธอเหม่อมองทัศนียภาพริมฝั่ง..โดยปราศจากความรู้สึกใดออกมาให้อ่านได้
น่าแปลกที่ความชุ่มฉ่ำหัวใจ..ที่ผมได้จากสายลมช่วงเปลี่ยนฤดูนี้ แม้จะมากเท่าใดแล้ว แต่กลับไม่สามารถเทียบได้กับครานี้ ที่ได้มามากกว่าร้อยล้านเท่า
จากเธอผู้แปลกหน้าคนนี้
ร่างของเธอสูงใกล้เคียงกับผม..ผมซึ่งจัดเป็นผู้ชายที่สูงคนหนึ่ง..คะเนอายุคงน้อยกว่าผมสี่ห้าปี..เธอคงจะอยู่มัธยมปลาย..โรงเรียนใดโรงเรียนหนึ่งริมฝั่งน้ำนี้..ปกติที่ผมนั่งเรือกลับบ้าน..ผมไม่เคยเห็นเธอ..วันนี้คงเป็นวันพิเศษสำหรับผม
ผมสูดลมหายใจรับลมแห่งความรักนั้นเข้าเต็มปอด..กริยานั้นคงทำให้เธอผิดสังเกต เธอชำเลืองมายังผมเล็กน้อย..อันเป็นจังหวะเดียวกับที่ผมตั้งใจจ้องดวงตาของเธออยู่แล้ว..จึงทำให้สายตาประสานกัน..ในทันใดนั้น
ราวกับโลกหยุดหมุน..ลมหยุดพัด เรือหยุดแล่น..ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดอยู่กับที่ เพียงเสี้ยววินาทีที่ล่วงพ้น..เธอรั้งสายตากลับไปที่เดิม..ริ้วเลือดแผ่ซ่านจากแก้มขาว..จนผมสังเกตได้..แม้เธอจะปั้นหน้าเฉยไว้..แบบไม่ใยดีและสนใจ
ประกายตานั้นยังตรึงอยู่ไม่รู้สิ้น..แม้ผมจะผินหน้าจากวงหน้าของเธอมาอย่างสุดฝืน..หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ.. ความรู้สึกดื่มด่ำแทบสำลักออกมา..เธอช่างสวยกระไรเช่นนี้..ดวงตาคู่นั้นของเธอช่างมีมนต์ขลังกระไรเช่นนี้??
เวลาล่วงผ่าน..การเดินทางล่วงพ้น..เธอขยับกายต่อแถวเพื่อจะทยอยขึ้นจากเรือเมื่อเทียบท่า..ผมถูกรั้งด้วยแรงดึงไร้สภาพ เดินตามเธอไปด้วยหัวใจที่ระรัวแทบทะลุออกมานอกอก
เรือลำนั้นแล่นไปแล้ว..มันคงต้องผ่านอีกหลายท่ากว่าจะถึงท่าที่ผมจะลง..แต่ไม่เป็นไร..จากท่านี้ผมก็หารถเมล์กลับบ้านได้..สายตาชำเลืองมองหลังของเธอคนนั้น..เห็นเดินตัวตรงออกจากท่าตรงไปยังลานจอดรถ..เธอคงมีคนมารับ..เท้าย่ำตามเธอไปช้า ๆ ..เปล่า..เธอเดินออกไปที่ถนนใหญ่..ข้ามฟาก..ตรงสู่สวนสาธารณะที่อยู่ฝั่งตรงข้าม..
ยามเย็นวันนั้นยังคงมีแสง..แม้จะรอนแรงไปมากอยู่..เหลือบมองนาฬิกาใกล้จะหกโมงเย็นแล้ว..เหตุใดเธอจึงไม่กลับบ้าน..หรือเธอนัดใครไว้ที่สวนสาธารณะแห่งนี้??
เห็นเธอทรุดนั่งลงมาม้าหินอ่อน..ใต้ต้นจามจุรีต้นใหญ่..ลมยังโชยพัด หอบเอาความหอมของมวลดอกไม้มาด้วย..เธอหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน..ผมกลั้นใจเดินผ่านหน้าเธอไปเพื่อไม่ให้มีพิรุธ
ลมหายใจแทบขาดห้วง..ระยะทางดูจะไกลกว่าที่คิด..เครียดเค้นน้ำเหงื่อให้หยาดพราวเต็มแผ่นหลัง..เดินลับโค้งไปได้พักหนึ่ง..ค่อยหันกลับไปมองเธอ..เพียงแว่บเดียวก็รู้..ว่าเธอก็แอบมองอยู่เช่นกัน..
จะด้วยเป็นเพราะไม่คาดคิดหวัง..ไม่เชื่อว่าเธอจะสนใจแม้แต่จะมองด้วยหางตา..แต่เมื่อรู้ว่าเธอแอบมองด้วยเช่นนี้..ความสุขล้ำก็ตีเข้าหัวใจจนต้องยืนพิงกับต้นไม้ต้นหนึ่ง..ซึ่งออกดอกพราวไปทั้งต้น..
มันเป็นดอกที่ผมไม่รู้ชื่อ..คล้ายลั่นทมแต่ขาวใส..หอมเย็นอ่อนรับกลับกลีบดอกที่บอบบาง..ที่พื้นมีดอกแก่ที่ร่วงหล่นตามอายุ ผสมกับดอกใหม่ที่ถูกลมกระโชกพัดร่วงหล่น..ผมหยิบดอกใหม่ขึ้นมา..มันยังคงมีกลิ่นหอม..มันยังคงสดชื่น..เหมาะสำหรับกำนัลกับใครบางคน..ที่แสนสวยและบอบบาง..อย่างเหลือเกิน
ลอบชำเลืองไปที่เธออีกครั้ง ที่ยังไม่มีเปลี่ยนกริยาก้มหน้าอ่านหนังสือในมือนั้น..จะเป็นอะไรไหม? จะบ้าเกินไปหรือเปล่า?..ถ้าผมจะเดินทื่อตรงเข้าไป..ยื่นดอกไม้นี้ให้เธอ..
ความกล้าและความบ้าบิ่น..หาไม่ได้ ณ เวลานั้น..ความประหม่าว้าวุ่นกลับมีเต็มปรี่ท้วมท้นร่างกาย..ปล่อยดอกไม้นั้นหลุดจากมือ..แล้วก็ถือขึ้นมาอีกครั้ง งุ่นงานเดินย่ำไปมา..ราวกับเสือติดจั่น..หากเป็นคนติดใจ..ติดใจในรสรักแรก..หล่นหลุมรักอย่างสุดตัวสุดหัวใจ
ขณะสู้ฝ่าระหว่างความบ้ากับความอายของตัวเอง..เธอก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง..มีชายคนหนึ่งมารับเธอ..คงเป็นคุณพ่อของเธอ..คงนัดกันเอาไว้ทุกเย็น..ผมมองเธอจนลับตา..
สาวเท้าเข้าใกล้ม้าหินอ่อนตัวนั้น..ระโหยหาวงหน้าที่หวานชื่นนั้นอย่างที่สุด ความรักเป็นเช่นนี้เองหนอ..เกิดปุ๊บปั๊บกัดกร่อนใจ
สุขใจที่ได้เห็นหน้า โหยหาที่พลัดพราก..ผมอยากจะตามเธอไป..ไม่ว่าเธอจะไปที่แห่งไหน..แต่สุดจะทำได้..รถยนต์ที่คุณพ่อของเธอขับมาเคลื่อนออกไปแล้ว..ทิ้งไว้แต่ความถวิลหวน
ทรุดกายลงนั่ง..มิกล้าซ้ำที่รอยเธอ..ความหอมที่เจือจาง อุปทานว่าเป็นกลิ่นกายนาง..ขอเพียงได้นั่งเคียงข้าง.. แม้ฟ้าสางก็ยังเร็วเกินไป..
กลับบ้านโดยหัวใจไม่อยู่กับตัว..เข้าห้องแล้วทรุดหมอบนอนหมอนนุ่ม..วงหน้าขาวสวยนั้นยังลอยล่องแทบจับต้องได้..พลิกกายกระส่ายสับ..ไม่อยากแม้แต่จะลุกขึ้นมาอาบน้ำทานข้าวปลา..เวลาเคลื่อนผ่านความคิดถึงเป็นร้อยเป็นพันล้านคำ..
หลังจากนั้นนานนับอาทิตย์..ที่ผมตกอยู่ในอาการที่ว่าอย่างถอนตัวไม่ขึ้น..ท่าน้ำทุกท่าที่น่าจะเป็นไปได้ ถูกผมดักสำรวจจปรุโปร่ง..แม้แต่โรงเรียนใกล้เคียง..ผมก็ตะลุยหาเธอ..แต่แม้เงาก็ไม่พบ..ราวเธอจะสูญสลายไปกับสายลม..
สิ้นหวังจนโหวงเหวงไปทั้งหัวใจ..ตราบสิ้นวาระของการฝึกงาน..การเรียนปีสุดท้ายในสายวิชาชีพของผม คงจะสำเร็จได้ในเร็ววันเมื่อได้ใบผ่านงานใบนี้..แต่จากนี้เล่า..ผมจะได้พบเธออีกหรือไม่..เธอเรียนอยู่โรงเรียนใด..บ้านของเธออยู่ที่ไหน..แม้เธอมีชื่อว่าอะไรผมก็ยังไม่รู้เสียสิ้น..
วันสุดท้ายของการทำงาน..การทำงานที่มีโอกาสใช้เส้นทางผ่านท่าน้ำล่องเรือเช่นนี้..เป็นวันสุดท้ายที่ผมตั้งใจจะตามหาเธออีกครั้ง..หากไม่พบ..ก็จนใจ..เก็บงำสิ่งในใจเอาไว้ให้ลึกถึงก้นบึ้ง..หากบุพเพสันนิวาสมีจริง..เราคงได้พบกันอีกครั้ง สานฝันของผมอีกหน..
แล้วทุกอย่างก็สูญเปล่า..ผมกลับบ้านด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง..เธอคงเป็นดอกฟ้าที่ถูกลมพัดพามาระดิน..ได้เวลาก็ผินสู่สรวงอันดั้งเดิม..
สายลมแห่งความรักในปีนี้..เริ่มพัดมาอีกครั้งแล้ว..แม้เวลาจะล่วงผ่านมาหนึ่งปีเต็ม..แต่ในหัวใจของผมก็ยังมีความหวัง..หวังว่าจะได้พบเธออีกสักครั้ง ขอแค่ได้เห็นหน้าอีกสักครา..หัวใจที่ร่ำร้องเรียกหา..คงถึงเวลาจะสุขสม
ผมเรียนจบแล้ว..และได้กลับไปทำงานที่นั่นอีกหน..ผมยังคงใช้เส้นทางเดิมในการเดินทางกลับบ้าน..นั่นคือลงเรือด่วนเจ้าพระยาที่ท่าน้ำท่าเดิม เวลาเดิม ยืนอยู่ที่เดิม..และรอเธอมายืนเคียงข้างอย่างวันนั้น..
อีกไม่นานจะถึงวันแห่งความรัก..สายลมแรงยังคงพัดพาความรู้สึกเดิม ๆ มาให้ ผมลงที่ท่านั้นทุกวัน..เป็นท่าเดียวกับวันที่ผมขึ้นจากเรือมาพร้อมเธอ..ผมนั่งรออยู่ที่ม้านั่งหินอ่อนนั้นทุกวัน จนตะวันลับหายไปจากขอบฟ้า..ก่อนจะเดินทางกลับบ้านเพื่อจะรอวันต่อไป
พรุ่งนี้..ผมหวังว่าจะได้พบเธอ..หรืออย่างน้อย..ผมก็ยังได้กระซิบกับสายลมที่พัดผ่านที่แห่งนั้น....ว่าให้ไปบอกเธอ..ว่าผมรักเธอ..สุดหัวใจ..
และหากว่าผมไม่พบ..ก็ใช่ว่าจะไม่มีวันพรุ่งนี้ของวันต่อไป.เพราะความรัก..ไม่เคยแพ้พ่ายต่อกาลเวลา..
เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ
.
จากคุณ :
บุรุษร้อยนาม..ตามหารัก
- [
7 ก.พ. 47 00:03:35
A:202.57.178.132 X:
]