เพียงคำเดียว

    ผมกำลังซักชุดชั้นใน

    ที่อยู่ในมือตอนนี้เป็นเศษผ้าลูกไม้สีดำ ที่ผมคิดว่ามีราคาไม่เหมาะสมกับปริมาณของผ้าเลยแม้แต่น้อย แต่เธอก็ยังยินดีที่จะจ่ายเงินเพื่อครอบครองมันโดยให้เหตุผลว่า ถ้าความมั่นใจซื้อได้ด้วยเงิน  มันก็คุ้มค่าไม่ใช่หรือ ก่อนที่จะตบท้ายด้วยประโยคสุดท้ายว่า “ นี่ชั้นทำเพื่อคุณนะ ”

    แล้วผมจะทำอะไรได้นอกจากควักกระเป๋าออกมายื่นบัตรเครดิตให้กับพนักงาน จากนั้นก็รอเวลาเพื่อเซ็นต์ชื่อลงบนสลิป

    เมื่อผ้าโดนน้ำ ก็ดูเหมือนว่าจะหดตัวลงไปอีก ผมขยับมือเบา ๆ เสียดสีไปมาในอ่างที่มีน้ำยาซักฟอก ยกขึ้นบิด แล้วโยนใส่กะละมังที่มีน้ำใสแจ๋วเต็มเปี่ยมใบข้าง ๆ จากนั้นจึงตามไปจัดการชำระผงซักฟอกที่ติดอยู่บนตัวของมัน สุดท้ายจึงยกขึ้นระดับสายตาเพื่อสำรวจดูความสะอาด สิ่งที่ผมเห็นก็คือกรอบหน้าต่างและพุ่มไม้ที่อยู่ข้างนอกบ้าน รวมไปถึงบุรุษไปรษณีย์ที่กำลังแยกจดหมายเพื่อใส่ลงในกล่องไปรษณีย์ที่ติดอยู่กับประตูรั้วเหล็ก ผมสบตาเขาผ่านเศษผ้าสีดำที่มีคุณสมบัติโดดเด่นอีกอย่างคือความบาง

    เขาพยักหน้าให้ผม ใบหน้าสลดลงส่งสารสื่อออกมาเป็นสัญญาณที่ผู้ชายด้วยกันเท่านั้นที่เข้าใจ เพียงแต่ผมไม่มั่นใจว่าเขาจะเข้าใจถูกต้องจริง ๆ หรือเปล่า ชายหนุ่มจากไปหลังจากปฏิบัติหน้าที่เรียบร้อย ผมหันหลังกลับไปเอาผ้าออกจากจากเครื่องซักผ้า ใส่ลงในตระกร้าใบใหญ่ ก่อนที่จะโปะข้างบนด้วยผ้าที่แยกซักด้วยมือ หอบหิ้วขึ้นเพื่อนำไปตาก

    บนโซฟา หน้าทีวี ร่าง ๆ หนึ่งนอนเอกเขนก ผิวปากอย่างสบายอารมณ์ ส่งสายตาที่รวมดวงดาวนับพันมาให้ มุมปากของเธอ ยังมีรอยยิ้มละไมปรากฏ เมื่อผมเดินผ่านไปยังราวตากผ้าที่ตั้งอยู่หน้าบ้าน

    ผมยิ้มตอบเธอไปอย่างแกน ๆ ภาพของเธอที่อยู่ในความทรงจำ ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นมาทีละน้อย ๆ เริ่มจากดวงหน้ารูปไข่ ดวงตาสีนิลกลมโตขนตางอนงาม คิ้วคมโค้งดั่งคันธนูยามโก่งยิง ปากรูปกระจับเต็มอิ่มสีชมพูเข้าชุดกับฟันขาวสะอาด จมูกโด่งเป็นสันรับใบหน้า ผมยาวดำขลับคลอเคลียอยู่กับบ่าที่เรียวมน ผิวเนื้อที่นวลเนียน อกที่ตูมตั้ง ทั่วทั้งร่างเปล่งปลั่งประกายแห่งวัยสาว ซึ่งทั้งหมดทำให้ผมเพ้อฝันเฝ้ารอเกือบสิบปีกว่าที่จะได้ครอบครอง แต่เพียงไม่นานเวลาก็ทำให้มันเปลี่ยนไป

    หลังจากสะบัดเสื้อตัวสุดท้ายตากบนราว ผมเงยหน้าขึ้นมองฟ้าที่มีแดดพอประมาณ เดินผ่านหน้าเธออีกครั้งเพื่อไปหยิบกุญแจรถ

    ผมเปิดประตู เสียบกุญแจ สตาร์ทเครื่อง ถอยรถจากที่จอดลงมาใกล้กับก็อกน้ำ เตรียมพร้อมที่จะล้าง ข้าวของที่อยู่ภายในรถดูรกรุงรังพอดู ผมหยิบถุงน่องและรองเท้าส้นสูงคู่สำรองที่เธอถอดทิ้งไว้ไปวางใกล้ ๆ ที่เก็บรองเท้าให้เธอเห็นชัด ๆ ปลดเสื้อที่แขวนไว้ด้านหลังไปแขวนไว้ที่ราวตากผ้าที่ว่าง จัดการกับขยะที่ไม่ได้สะสางมานานกว่าสามเดือน

    น้ำจากสายยางชะล้างฟองสีขาวที่ติดอยู่กับตัวรถ ทั้งน้ำทั้งฟองไหลเลาะลงมาเป็นทาง พาให้ผมนึกถึงฟองคลื่นที่สาดซัดเข้าหาฝั่งทะเล และช่วงเวลาฮันนีมูนที่แสนหวาน คำพูดที่พรรณนาไม่มีที่สิ้นสุดราวกับว่าไม่ได้เจอกันมานานแรมปีทั้งที่อยู่ด้วยกันแทบจะทุกนาที ต่างจากปัจจุบันที่พูดกันนาน ๆ ครั้งและดูเหมือนกับว่าสนทนากันเพื่อให้รู้ว่ายังมีคนอีกคนอยู่ร่วมบ้าน ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นเพียงหน้าที่ ๆ ต้องรับผิดชอบก็เท่านั้น

    น้ำยาขัดรถถูกละเลงหลังจากรถแห้งหมาด ผ้าสีหม่นในมือของผมขัดถูจนสีเคลือบรถเปล่งประกายสะท้อนแดดยามบ่าย ความคิดยังล่องลอยต่อไป

    เอื้องเป็นเลขาคนใหม่ที่บริษัทรับเข้ามาทำงาน เธอเป็นคนสวยบุคคลิกดี นิสัยเป็นกันเอง ผมคิดว่าเธอสวยพอ ๆ กับภรรยาของผมตอนสาว ๆ ทีเดียว ที่สำคัญที่สุดก็คือ ท่าทีของเธอบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าสนใจผมและก็ไม่แคร์เสียด้วยเมื่อรู้ว่าผมมีครอบครัวอยู่แล้ว

    รถถูกขัดจนเงางามราวกับเพิ่งออกใหม่ ผมนั่งพักครู่ใหญ่ก่อนที่จะหยิบสายยางเปิดน้ำเพื่อให้ความสดชื่นแก่แมกไม้รอบบริเวณบ้าน ลำน้ำพุ่งผ่านหัวแม่มือที่บดบังบริเวณปากทางออกของสาย กระจายออกเป็นฝอย ใบไม้ขยับโบกไหวตามแรงกระทบของกระแสน้ำ ความสดชื่นแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณ

    เราต้องร่วมงานกันบ่อย ๆ ความใกล้ชิดทำให้หัวใจของผมเริ่มสั่นคลอน จนเริ่มคิดว่าชีวิตในปัจจุบันนี้ผมมีความสุขแล้วหรือ ผมอยู่เพื่อใครและเพื่ออะไรกัน

    เสียงเรียกดังขึ้นมาจากด้านหลังของผม ผมเหลือบมองนาฬิกาข้อมือก็พบว่าได้เวลา ปฏิบัติตามหน้าที่อีกแล้ว เมื่อเดินเข้าครัวไปอาหารถูกจัดเรียงอย่างเรียบร้อยอยู่บนโต๊ะ อย่างน้อยเธอก็ยังจำอาหารที่ผมชอบได้ เรานั่งทานกันเงียบ ๆ ถามตอบคำถามตามมารยาทสามสี่ข้อ เธอเริ่มเล่าเรื่องเพื่อนบ้าน ในขณะที่ผมเก็บจานและลุกขึ้นไปล้างใกล้ ๆ

    น้ำเย็นไหลผ่านจานที่ให้ความรู้สึกเยือกเย็นและแข็งกระด้างยามสัมผัส น้ำเสียไหลกรูลงท่อส่งเสียงดังเป็นช่วง ๆ สลับเสียงบอกเล่าความเป็นไปของเพื่อนของเธอซึ่งบางคนก็เป็นเพื่อนสนิทของเขาด้วย สิ่งที่ผมรับรู้ต่อมาก็คือ เพื่อนของผมเกือบทุกคนกลายเป็นเพื่อนของเธอไปแล้ว เครือข่ายของเธอกระจายครอบคลุมรอบกายผม ราวกับแหที่รัดติดตัวปลา

    สายน้ำสิ้นเสียงลงพร้อมคำพูด เราแยกย้ายกันออกจากห้องครัวที่ใช้เป็นห้องอาหาร เธอเดินเข้าห้องนั่งเล่นเพื่อดูละครโทรทัศน์ ส่วนผมตรงไปสู่ห้องทำงานเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นเพื่อเคลียร์งานที่ค้างคา

    งานเสร็จหลังสองชั่วโมงต่อมา เธอคงจะหลับไปแล้ว ผมเดินเข้าห้องนอนอย่างแผ่วเบา โคมไฟหัวเตียงทางด้านเธอดับสนิท แต่ทางผมยังสว่างอยู่ ร่างของเธอนอนสงบนิ่งใต้เงามืดที่แบ่งฝากของเตียง ผมมุ่งสู่ห้องน้ำเพื่อที่จะพบว่า บนพื้นมีคราบของความสกปรกจับอยู่ทั่วไป แปรงทองเหลืองที่อยู่ในชั้นวางของพลาสติกใต้อ่างล้างหน้าเข้ามาอยู่ในมืออย่างอัติโนมัติ ผมก้มลงและเริ่มขัดขจัดคราบ

    ห้องน้ำสะอาดสะอ้านปรากฏขึ้นเบื้องหน้า ผมวางแปรงขัดพื้นลงที่เดิม ล้างเนื้อล้างตัวและเริ่มการชำระตัวเอง

    หลายคนพูดว่าเมื่อใดก็ตามที่แฟนของคุณทำตัวดีขึ้นผิดปกติ เมื่อนั้นให้เตรียมตัวรับมือกับเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นต่อไปได้เลย ไม่รู้ว่าเธอจะสังเกตเห็นหรือไม่ สำหรับผมแล้วทั้งหมดที่ทำในวันนี้อาจจะเป็นเพียงแค่การหาข้ออ้างให้ตัวเอง  ด้วยรู้สึกว่าในอนาคตอันใกล้จะทำผิดต่อเธอ แท้ที่จริงผมอยากขจัดคราบที่อยู่ในใจแต่ทำได้เพียงชำระล้างคราบที่อยู่ติดกับสิ่งของเท่านั้น

    ผมรอจนผมแห้งจึงแทรกตัวลงบนเตียง ขยับดึงผ้านวมมาจนถึงระดับอก หันข้างออกด้านนอกมองดูดวงไฟที่หรี่ความสว่างลง มือกอดอกแนบแน่นทั้งที่อยู่ในท่านอน ใจยังนึกถึงปัญหาที่แคลงใจ

    ในช่วงที่ความคิดเริ่มล่องลอยอีกครั้ง พลันเสียงเตียงขยับเคลื่อนไหวก็ดังขึ้น ที่นอนยุบยวบลงเล็กน้อย แล้วมือที่เย็นเฉียบข้างหนึ่งก็ตีวงโอบลงมาบนตัวของผม ร่างหอมกรุ่นของเธอแนบชิดกับแผ่นหลัง ความอบอุ่นแผ่กระจายจากร่างสู่ร่าง ลมละมุนแผ่วเบาพริ้วพัดมากระทบใบหู ก่อนที่เสียงนุ่มนวลอ่อนโยนจะถูกเปล่งออกมา

    “…รักพี่จริง ๆ”

    ผมคลายมือที่กอดอกออก เอื้อมไปสัมผัสแขนเธอและตบเบา ๆ สอดมือประสานกระชับแน่น หลับตาลงซึมซับกับความรู้สึกเก่า ๆ ที่กลับมา อย่างกระทันหัน ความผูกพันที่ร่วมกันสร้างขึ้นมา ความรัก ความสุข ความทุกข์ ประเดประดังขึ้นมา

    ความจริงแล้วเธอไม่เคยเปลี่ยน แต่ผมสิที่กำลังจะเปลี่ยนไปและพร้อมที่จะทดแทนความรู้สึกผิดของตัวเองด้วยการโยนความผิดให้เธอ ถ้าเธอไม่ได้ให้คำตอบของคำถามที่ผมเฝ้าคิดในหลายวันนี้ขึ้นมาโดยบังเอิญ

    ในเวลานี้คราบในใจของผมถูกชำระจนหมดสิ้น รอยยิ้มปรากฏขึ้นพร้อมน้ำใสที่ไหลออกมาจากดวงตา ด้วยรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่โชคดีจริง ๆ

    …………………………………………………

    จากคุณ : ริสรน (biblio) - [ 8 ก.พ. 47 17:59:41 ]