!!!..ไอรักยังกรุ่น..!!!

         เสียงคลื่นกระทบฝั่งฟังดูเหมือนกำลังเหงา ลมพัดแรงจนร่างบางเซเหมือนจะปลิว หากไม่มีต้นสนด้านหลังค้ำอยู่คงปลิวแน่
         พระอาทิตย์จะลาลับแล้ว คิดถึงเค้าจัง เค้าคนที่รักฉันอยู่เสมอไม่ว่าฉันจะเป็นอย่างไร เค้าคนที่ไม่เคยทำร้ายจิตใจฉัน เค้าคนที่ไม่เคยเห็นคนอื่นสำคัญกว่าฉัน ผ่านเวลามานานแล้วเค้าก็ไม่เคยลืมฉัน

          “เธอไม่รู้หรอกว่าโอ๋รักเธอมาตลอด โอ๋ไม่เคยลืมเธอ”

      ผู้ชายผิวขาว ผมยาวประบ่า ไม่สูงมากเท่าไหร่ เมื่อครั้งสมัยเป็นนักเรียนกางเกงขาสั้นเป็นคนเฉยๆไม่ค่อยพูดจา ไม่เคยพูดหวานๆกับฉันซึ่งเค้าบอกว่าเค้ารัก ไม่เคยไปดูหนัง ไปกินข้าว ไปเที่ยว หรือไปไหนๆด้วยกันอย่างคู่รักคู่อื่นๆเค้า แค่จะคุยกันยังต้องให้เพื่อนเป็นคนส่งสารเลย
         
          “แคท ไอ้โอ๋มันบอกเย็นนี้ให้รอมันด้วยมันจะไปส่ง” เหล่นกพิราบสื่อสารระหว่างเราบอกกับฉันก่อนที่ฉันจะขึ้นห้องเรียน
          “แล้วโอ๋ไปไหนทำไมไม่มาบอกเอง” ฉันถามไปอย่างนั้นแหละที่จริงก็รู้อยู่ถึงเค้าจะไม่ไปไหนเค้าก็ไม่เคยมาบอกเอง ไม่รู้ฉันจะถามทำไมให้คำตอบมันยิ่งทิ่มแทงใจ
          “ก็รู้อยู่” นกพิราบเหล่บอกพลางเดินมาตบไหล่ฉันเป็นการให้กำลังใจ
           
                ……แม้แต่จะบอกว่ารักฉันเค้ายัง.…..

          “ไอ้โอ๋ให้มาบอกว่า ‘โอ๋รักแคท’ เนี่ยเป๊ะๆตามที่มันพูดมาเลยนะโว้ย” นกพิราบเหล่อีกตามเคย
          “มันให้แกมาบอกว่ามันรักฉันเนี่ยนะ รักแบบไหนวะให้เพื่อนมาบอกแทน” ฉันชักจะฉุนกับความขี้อายไม่เข้าเรื่อง
          “ก็รักแบบของมันนั่นแหละ แต่เรารับรองได้ว่ามันรักแกจริงๆ ไปกินเหล้าด้วยกันทีไรมันก็พูดถึงแต่แก อยู่ในห้องเรียนมันก็พูดถึงแกจนเพื่อนๆล่ะเอียน เอาเป็นว่ามันน่ะรักแกจริงๆถามเพื่อนมันทุกคนในห้องได้ว่ามันรักแกแค่ไหนเค้ารู้กันทั้งนั้นแหละ” นกพิราบเหล่พยายามอธิบาย
          “เหรอ...มันรักฉันแต่มันไม่มาบอกฉันดันไปบอกเพื่อนเออดี ให้มันไปรักกับเพื่อนมันไป” ฉันพูดกับนกพิราบเหล่ด้วยความโมโหในครั้งนั้น

      ..แต่ครั้งนี้เค้าพูดกับฉันเค้าบอกว่าเค้ารักฉัน รักมาตลอด เค้าไม่เคยลืมฉัน ถ้าเค้าบอกฉันก่อนที่เราจะเรียนจบและต่างแยกย้ายกันไป ฉันคงไม่หมดกำลังใจที่จะรักเค้า

          “โอ๋รู้ว่าที่ผ่านมาโอ๋ไม่เคยใส่ใจเธอ เราเริ่มกันใหม่ได้ไหม”
     
    …….ถ้าวันนั้นเราไม่บังเอิญไปเจอกันโอ๋จะคิดอย่างนี้ไหม…..
          “โอ๋คิดถึงเธออยู่ตลอด แต่โอ๋ไม่รู้จะติดต่อเธอยังไง วันสอบวันสุดท้ายโอ๋ตั้งใจจะไปบอกเธอว่าโอ๋รักเธอแต่โอ๋ไปไม่ทันเพราะวันนั้นโอ๋ไม่ได้ไปสอบ โอ๋ขาดสอบ โอ๋ไปแล้วไม่เจอเธอ เธอกลับไปแล้ว ที่บ้านโอ๋มีปัญหาโอ๋ย้ายไปอยู่กับพ่อที่ต่างจังหวัด ครั้งที่โอ๋รถคว่ำน้องโอ๋ไปบอกเธอแล้วเธอมาเยี่ยม โอ๋ดีใจนะดีใจมากที่ได้เจอเธอแล้วโอ๋ก็เสียใจที่ต้องออกจากโรงพยาบาลก่อนกำหนดเพราะพ่อโอ๋มารับทำให้โอ๋ต้องเสียเธอไปอีกครั้ง และครั้งนี้ที่โอ๋กลับมาโอ๋ตั้งใจมาตามหาเธอ สิ่งที่โอ๋อยากบอกกับเธอมานานโอ๋ก็บอกให้เธอรู้แล้ว เธอจะเชื่อหรือไม่มันเป็นสิทธิ์ของเธอ”
     
    ….ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นคนเดียวกับผู้ชายขี้อายเมื่อหลายปีก่อน ถ้าเป็นตอนนั้น…

          “แคทรอโอ๋ตั้งนาน มาถึงก็จะไม่พูดอะไรเลยหรือไง” ฉันถามด้วยน้ำเสียงหมั่นไส้เต็มทีเพราะเค้าบอกให้ฉันมาหาหลังจากกินข้าวกลางวัน เค้าว่ามีเรื่องจะพูดด้วย ฉันอุตส่าห์รีบกินข้าวแล้วก็รีบมาจนนี่มันหมดเวลาพักเที่ยงกินเวลาเรียนเข้าไปตั้งเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว
       “ไม่มีอะไรหรอกขึ้นเรียนเถอะ แค่อยากเห็นหน้าก่อนขึ้นเรียน” เค้าพูดพลางเดินมาเขย่าหัวฉันแล้วก็วิ่งหายขึ้นตึกเรียนไปยังไม่ทันที่ฉันจะพูดอะไรต่อ
     
         เค้าเป็นอย่างนี้ตลอดสองปีที่เราคบกันที่โรงเรียน ทุกครั้งเค้าไม่เคยใส่ใจฉัน ไม่เคยแคร์ความรู้สึกฉัน สนใจแต่ความรู้สึกของตัวเอง มันทำให้ฉันน้อยใจและหมดกำลังใจที่จะรักเค้าแต่เวลานั้นฉันทำไม่ได้ฉันไม่สามารถตัดเขาออกไปจากชีวิตฉันได้ เลยต้องจำทนอยู่กับความรักบ้าๆบอๆของเขา
     
       “แคท ทำไมยังไม่ขึ้นเรียน” เค้าเดินมาผลักหัวฉันจากข้างหลังเหมือนว่าฉันเจ็บไม่เป็น
          “รอโอ๋”
          “รอทำไมบ้าเปล่า ไปขึ้นเรียน” เค้าทำเสียงดุใส่ฉันแล้วเอื้อมมาหยิบกระเป๋าเดินนำขึ้นตึกไป
          “เค้าไม่เรียน ถ้ายังพูดกับโอ๋ไม่รู้เรื่อง” ฉันเดินไปแย่งกระเป๋าในมือเค้า
          “????”
          “เรื่องของเรา”
          “เมื่อไหร่จะเลิกพูดเรื่องนี้ซะที” เค้าทำหน้าเบื่อหน่ายขึ้นมาทุกทีที่พูดเรื่องนี้กัน
          “จะเลิกพูดได้ยังไง ก็ยังพูดกันไม่รู้เรื่อง”
          “พูดไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องพูด” เค้าทำท่าเหมือนจะเดินหนี
          “ไม่เคยได้พูดกันสักทีจะรู้เรื่องได้ยังไงเอะอะก็เดินหนีตลอด”
          “ทำไมต้องพูดด้วยดูเอาเองไม่รู้เหรอ”
          “บอกว่ารักเค้าสักคำมันคงไม่เหลือบ่ากว่าแรงนักหรอกนะ เลิกอายซะทีได้ไหม”
          “รักหรือไม่รักอยู่ที่คำพูดเหรอ ถ้าที่ทำยังไม่รู้ว่าเป็นอะไรกันต่อไปก็จะไม่ทำแล้ว” เค้าพูดจบก็เดินจากไปทิ้งฉันอยู่ตรงนั้น
     
    …ในตอนนั้นฉันไม่เข้าใจเค้าจริงๆว่าเค้ารักฉันหรือเปล่า บางครั้งเค้าทำเหมือนรักแต่บางครั้งเค้าทำเหมือนเบื่อหน่ายซะเหลือเกิน….
         
         “แคทอย่าจริงจังกับโอ๋เลย โอ๋ไม่ดีที่สุดในชีวิตแคทหรอก”
     
    ….เค้าเคยพูดประโยคนี้กับฉัน ในตอนนั้นมันยิ่งทำให้ฉันคิดว่าเค้าไม่ต้องการฉัน…..
     
    แต่ตอนนี้เค้าเปลี่ยนไปมากเปลี่ยนความขี้อายที่เค้าเคยมีมาเป็นความกล้าทั้งหมดตอนนี้

          “ถ้าโอ๋ทำตัวเหมือนตอนนั้น โอ๋คงต้องเสียเธอไปอีก โอ๋ไม่อยากเสียเธอไปเป็นครั้งที่สาม”

      ใช่สิครั้งที่สาม นี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่เรากลับมาคบกัน ฉันถามตัวเองอยู่หลายครั้งว่าฉันยังรักเค้าหรือเปล่าคำตอบที่ได้คือ ‘ฉันไม่รู้’ ฉันไม่รู้จริงๆว่าฉันยังรักเค้าอยู่ไหมหรือเพียงแค่ฉันต้องการเอาชนะต้องการแก้แค้นเอาคืนกับสิ่งที่เค้าไม่เคยใส่ใจฉันในตอนนั้น

          “โอ๋ไม่แคร์นะว่าตอนนี้เธอจะมีใครคบใครอยู่หรือแม้แต่เธอจะรักใคร โอ๋แค่อยากให้เธอรู้ว่าโอ๋รักเธอโอ๋ยอมเป็นตัวเลือกของเธอ ถ้าใครทำเธอเจ็บกลับมาหาโอ๋นะ โอ๋สัญญาจะไม่ทำให้เธอเสียใจ“
          “แต่แคทไม่เหมือนเดิมนะ แคทผ่านอะไรมาเยอะมาก กว่าจะมาถึงวันนี้โอ๋จะทนได้เหรอ”
          “ถ้าโอ๋จะทนไม่ได้คือโอ๋ไม่มีเธอ”

      …ถ้าตอนนั้นเค้าเป็นได้สักครึ่งหรือหนึ่งในสามของตอนนี้เราคงไม่ต้องจากกัน…

                             ...อยากรักเค้าเหมือนที่เคยรักจัง...
     
         พระอาทิตย์จมหายไปกับขอบทะเลนานแล้ว ร่างบางยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มองไปรอบๆยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก แม้เวลาจะผ่านมานานหลายปี
     
             ....สนามหญ้าตรงที่เคยนั่งด้วยกันยังคงพื้นที่เท่าเดิม...
         
               “ที่ตั้งกว้าง นั่งห่างๆก็ได้” ฉันบอกเมื่อเค้านั่งติดฉันจนไม่มีช่องว่างแม้แต่จะให้มดเดิน แต่ไม่เพียงเค้าไม่เขยิบออกกลับยื่นหน้ามาล้อเลียนจนจมูกเค้ากับแก้มฉันชนกัน ฉันหันไปดุเค้าด้วยสายตา แต่ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ แทนที่จะหยุดเค้ากลับโอบกอดฉันด้วยอ้อมแขนอันอบอุ่น อ้อมกอดที่ฉันต้องการมันเมื่อหลายปีก่อน เค้าจูบเบาๆที่ผมฉัน
         
       “หอมจัง เหมือนตอนนั้นเลย”
           
                 ….ตอนนั้นของเค้า...

    ตอนที่เค้าแอบย่องมาจูบเรือนผมฉันข้างหลังแล้ววิ่งหนีขึ้นตึกเรียนไป
       
       “จำได้ด้วยเหรอ” ฉันถามไม่แน่ใจ
       “จำได้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ” แววตาเค้าตอนนั้นดูจริงจังมาก

    มะพร้าวต้นนี้ที่เคยนั่งเอนหลังคนละข้างไม่โตขึ้นจากเดิมมากนัก เก้าอี้ตัวนั้นยังไม่เปลี่ยนที่อยู่จากหลายปีก่อน...

       “ตักเธอนิ่มจัง รู้อย่างนี้นอนมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว” เค้าพูดเสียงอ้อนเมื่อตอนมานั่งเล่นบนเก้าอี้ตัวนั้น

    ศาลารกๆโทรมๆนั่นยังไม่พัฒนาขึ้นเลย แต่ก็มีคนมาอาศัยหลบแดดฝนอยู่เรื่อยๆ

       ..ตื๊ด...ตื๊ด...ตื๊ด...
    เสียงโทรศัพท์เข้า คงเป็นที่บ้านฉันหยิบขึ้นมาดูแต่ไม่รับ เสียงเรียกหยุดไปแล้ว นี่ถ้าฉันยังใช้เบอร์เก่าอยู่บางทีเค้าอาจจะโทรมาหาฉันอีกก็ได้

       “แคท โอ๋รักแคทมากนะ” เค้าพูดมาตามสายโทรศัพท์
       “อืมม์ รู้แล้ว”
       “เธอไม่รู้หรอก เธอไม่เคยเห็นโอ๋อยู่ในสายตา” เสียงคนพูดอู้อี้เต็มที
       “เมาเหรอ”
       “เปล่า”
       “เปล่าอะไร พูดจาไม่รู้เรื่องอย่างนี้เนี่ยนะ”
       “ไม่รู้เรื่องตรงไหน เธอไม่รู้เรื่องหรือไม่อยากรู้เรื่องกันแน่”
       “หายเมาแล้วค่อยโทรมาแล้วกัน”
       “ไม่โทรแล้ว ถ้าครั้งนี้เธอไม่พูดกับโอ๋ โอ๋ก็ไม่โทรมาแล้ว”
       “เออ ตามใจแล้วกัน” ฉันพูดไปด้วยความโมโหและไม่คิดว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆอย่างที่เค้าบอก

    นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้เค้าไม่เคยติดต่อมาหาฉันอีกเลย และไม่มีใครรู้ข่าวว่าเค้าไปอยู่ที่ไหนกับใคร

    แสงจันทร์ส่อง สะท้อนผิวน้ำระยิบระยับดั่งกำลังหยอกล้อกัน กลุ่มดาวน้อยใหญ่อวดเบ่งรัศมีแสงกับจันทร์นวล แม้จะเป็นคืนเดือนแรมแสงจันทร์ก็ยังคงส่องสว่างกว่าดาวทั่วทั้งฟ้า

    หากมีแต่จันทร์แล้วไม่มีดาวล่ะ นั่นสินะจันทร์เจ้าคงเหงาน่าดู แม้จะมีทะเลกับฟ้ากว้างเป็นเพื่อน หากแต่คงไม่เหมือนเพื่อนดาวที่แข่งกันส่องแสงอยู่ทุกวัน

    อากาศเริ่มเย็น ลมพัดแรงขึ้นจากเดิมหลายเท่า ทิวสนลู่เอนไปตามแรงลม ร่างบางนั้นสั่นสะท้านไปทั้งตัว ร่างกายที่เย็นเยือกหากแต่ว่าค้านกับขอบตาร้อนผ่าว

    ….....หากได้ไออุ่นสักนิดคงดี……….

    จากคุณ : ยาหยี - [ 9 ก.พ. 47 15:59:07 A:203.113.80.16 X: ]