หลังจากจำใจจากบ้านเกิดเมืองนอนมาทำหน้าที่ภรรยาหมาด ๆ ให้สามีต่างชาติ ความเป็นหญิงไทยครึ่ง ๆ กลาง ๆ กลับกลายเป็นน่าทึ่ง และน่าภูมิใจไปสำหรับพ่อคุณ เริ่มจากอาหารที่สามีบอกว่าเป็นอาหารประจำชาติเขา ดิฉันสามารถเรียนรู้ได้หมดทุกสูตร หลังจากที่เขาสาธิตให้ดูภายใน ๓ วัน
วันแรก เนื้อหมูแบบทีโบน โรยเกลือป่น พริกไทย ปาปรีก้า ทอดกับเนยในกระทะ กินกับมักกะโรนีรูปเกลียว
วันที่สอง เนื้อหมูแบบทีโบน โรยพริกไทย ปาปรีก้า เกลือป่น ทอดกับเนยในกระทะ กินกับมักกะโรนีท่อนสั้น ๆ
วันที่สาม เนื้อหมูแบบทีโบน โรยปาปรีก้า เกลือป่น พริกไทย ทอดกับเนยในกระทะ กินกับมักกะโรนีรูปตัวยู
วันที่สี่ดิฉันแสดงเองตามสูตรสวิสฯ เป๊ะ ๆ เลย กินกับมักกะโรนีรูปตัวหอย เราได้แต่นั่งมองหน้ากัน ไม่มีใครแตะจานเลย สามีชวนไปหาอะไรกินกันข้างนอก เราไปห้างฯ ซื้อหม้อหุงข้าวไฟฟ้ามา ๑ ลูกและของพวกที่ต้องใช้ในการดำรงชีพ ตอนนี้เราจับมือกันแก้ปัญหาเรื่องปากท้องไปได้หนึ่งเปลาะแล้ว สามีมีอาหารเช้าเป็นแซนวิช มีอาหารมื้ออร่อยกลางวันพกไปกิน มีอาหารเย็นที่ร้อน ๆ และแสนอร่อยกิน สาบานได้เลยว่า อาหารที่ดิฉันทำขึ้นมานั้นเป็นอาหารไทยแท้ ๆ ที่ฝรั่งยังชมแลยว่าอร่อยกว่าอาหารชาติเขา พระคุณแม่นี้ใหญ่หลวงนัก ยกความดีให้แม่ค่ะ
บ้านนี้เราอยู่กันแค่สองคน มียามคอยตรวจบัตรรถเข้าออก เป็นบ้านเปล่า ๆ ที่บริษัทเช่าไว้ให้อยู่ พวกเฟอร์นิเจอร์ เครื่องไฟฟ้า เครื่องใช้ในบ้าน ต้องไปหาซื้อกันเอาเองแล้วแต่ความชอบของคนที่จะเข้ามาอาศัยอยู่ โดยบริษัทมีงบให้ค่อนข้างเยอะทีเดียว มีรถที่เช่าไว้ให้ใช้บ้านละหนึ่งคัน น้ำมันรถ ค่าไฟ ค่าน้ำ บริษัทออกให้ สิ่งที่เราต้องจ่ายเองคือ ค่ากินอยู่ ค่าโทรศัพท์ และคนทำความสะอาด เงินเดือนของสามีทุกเดือน จะเข้าบัญชีที่ธนาคารสวิสฯ ส่วนค่าใช้จ่ายทางนี้เราใช้แต่เบี้ยเลี้ยงเท่านี้น ซึ่งจะได้รับใส่ซองทุกสิ้นเดือน เป็นเงินสดและเงินตราของประเทศนั้น ( NT ดอลล่าร์) เบี้ยเลี้ยงที่สามีได้รับนั้นถ้าเทียบกับหัวหน้าโรงไฟฟ้าชาวไต้หวันแล้ว มันมากกว่าถึง ๒ เท่าทีเดียว
เป็นธรรมเนียมหรืออย่างไรก็สุดจะเดา สามีจัดปาร์ตี้เพื่อแนะนำดิฉันให้รู้จักชาวสวิสฯ เพื่อนร่วมงานและครอบครัว ใคร ๆ ก็ทราบว่าเราเพิ่งแต่งงาน แต่ไม่เคยมีใครเห็นดิฉันเลย เพราะไม่เคยโผล่ออกไปไหน ชาวสวิสฯ ที่ถูกส่งตัวมาทำงานที่นี่มีประมาณ ๑๓-๑๔ คนส่วนใหญ่มีภรรยาตามมาคุม ที่โสดก็มี บางคนโสดแต่มีแฟนสาวติดมาด้วยก็มี พวกภรรยาที่ติดตามสามีมานั้น หล่อนจะไม่ยอมให้มือเปื้อน หน้ามันเป็นอันขาด พวกหล่อนซื้อหาความสบายด้วยการจ้างเหมด พวกเหมดเหล่านี้เรียกหล่อนว่า มาดาม บางทีดิฉันก็ร่วมกลุ่มไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ กับพวกเธอด้วย หรือบางทีพวกเธอก็นัดกันมาดื่มน้ำชา เม้าแตกกัน เล่นไพ่ หรือบ้า ๆ ก็เปิดเพลงเบา ๆ ทำอารมณ์ไปกับเพลง เอาเฟรมรูปมาตั้งนั่งวาดไป พวกเธอเรียกมันว่า ศิลป์ ซึ่งจะไม่ขอบรรยาย เพราะศิลป์ของเธอกับดิฉันมันคนละความหมายกัน คุณเธอพวกนี้มีความหวังดีต่อฉันมาก พวกเธอรู้ว่าประสบการณ์ในการครองเรื่อนของดิฉันยังแค่เด็กหัดใหม่ พวกเธอดึงเข้ากลุ่ม สอนอะไร ๆ ให้หลายอย่าง ดิฉันก็รับได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่จะไม่ขัดคอของพวกเธอ เพราะรู้ว่าพวกเธอหวังดีจริง ๆ ที่พยายามหัดให้ดิฉันเข้าสังคมให้เป็น
คุณเธอเหล่านั้นตกใจมากที่ดิฉันยังไม่มีเหมด และรับปากว่าจะหามาให้เอง ดิฉันได้แต่ปลงและไม่ได้ขัดใจพวกเธออีกตามเคย วันหนึ่งยังนอนอยู่เกือบ ๑๐ โมงเช้ามีผู้หญิงชาวไต้หวันมากดกริ่งหน้าบ้าน บอกว่ามาสมัครเหมด อยากพบมาดามบ้านนี้ สำเนียงภาษาอังกฤษของหล่อนดีทีเดียว ดิฉันบอกหล่อนว่า ดิฉันนี่ไงเหมด มาดามเพิ่งให้บินตามมารับใช้จากเมืองไทย พูดกันนิดหน่อย เจ้าหล่อนก็เดินจากไป เหมดคนไทยคนนี้ ทำอาหารได้อร่อยถูกใจเจ้านาย เสื้อผ้าซักรีดได้ยอดเยี่ยม เนื่องจากอยู่กันแค่สองคนกับเจ้านาย เสื้อผ้าก็มีไม่มาก ก็จับรวมซักกันไปเลย เป็นการประหยัดแรงงานและเวลา หมุนปุ่มไปที่ ๙๐ องศา เพื่อฆ่าเชื้อโรค เสื้อกันหนาวของเจ้านายก็กลายมาเป็นของเหมด เสื้อสีฟ้าอ่อนก็ทำให้เป็นสีแดงกำลังสวย ดิฉันโชว์ให้สามีดู แล้วพูดติดตลกว่า ซื้อหนึ่งได้ถึงสอง เค้าไม่ว่าอะไร ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้หน้าที่ซักผ้ารีดผ้า คือหน้าที่ของเขาไปด้วยความสมัครใจและชอบธรรม
ทางกลุ่มไฮโซฯ ก็ยังคบกับดิฉันอยู่ แต่พวกหล่อนไม่เข้าใจและเอ่ยเป็นทำนองนัย ๆ ว่าขี้เหนียวไปทำไม กะอีแค่เงินจ้างเหมดถูก ๆ ดิฉันอธิบายจากใจจริงให้พวกหล่อนได้รับฟังว่า คุณแม่ของดิฉันทำมาให้มากพอแล้ว ตอนนี้เพิ่งแต่งงาน อยากลองผิดลองถูกดูเองบ้าง ถ้าทำไม่ได้จริง ๆ แล้วจะขอคำแนะนำและความช่วยเหลือจากพวกหล่อน ซึ่งก็เป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่าย เป็นอันว่าเรื่องเหมดจบไปได้อย่างสวยงาม มีอีกเรื่องที่พวกเจ้าหล่อนเตือนคืออย่าไปคบค้าสมาคมกับธันย่า และซูซาน ให้มากนัก ดิฉันก็พยักหน้าหงึก ๆ
ธันย่า อายุน้อยกว่าดิฉันสัก ๕ ปีเป็นสัญชาติอเมริกันแต่ผิวดำ ใคร ๆ บอกว่าเธอมาจากสลัม แฟนชื่อมาเซล คนสวิสฯ เธอชอบดื่มเบียร์กระป๋อง และชอบชวนดิฉันไปดู MTV ในเมือง แต่เงินติดกระเป๋าไม่ค่อยจะมี เธอชวนไปแต่ส่วนใหญ่ดิฉันจะออกค่าแท็กซี่และค่าหนัง เธอจ่ายค่าโคล่า และข้าวโพดคั่วให้ดิฉัน ดิฉันก็หยวนให้ทุกทีเพราะเล็กน้อยสำหรับความเป็นเพื่อน อ้อ บ้านเธอมีเหมดด้วย
ซูซาน เธอชอบบอกใคร ๆ ว่าเธอเป็นอเมริกันแต่หน้าจีน พวกไฮโซฯ เคยเล่าให้ฟังว่าเธอโกหก เพราะในพาสปอร์ตที่ต้องส่งให้โรแลนด์ (สวิสฯ) จัดการเรื่องวีซ่านั้นระบุว่าเธอเคยแต่งงานกับอเมริกันแล้วหย่า แต่เธอมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ ตอนนั้นเธอได้รู้จักกับไมค์ แล้วก็ติดตามเขามาอยู่นี่ เธอเป็นคนชอบคุยและชอบแต่งตัว เธอบอกใคร ๆ ว่าเธอพูดภาษาจีนไม่ได้ วันหนึ่งเธอชวนดิฉันไปตลาดหยกกันสองคน ดิฉันอยากได้หยกเจ้าแม่กวนอิมกับกำไลหยก กะว่าจะซื้อมาฝากน้า ๆ คนละองค์ ต่อราคาคนขายไม่ได้ ซูซานเดินมาถามว่าจะซื้ออะไร กี่อัน ดิฉันบอกเธอว่า ๖ องค์กำไล ๔ อัน เธอพูดภาษาจีนเร็วปรื๋อ ต่อราคาให้และดิฉันก็จ่ายเงินไป ดิฉันเก็บความรู้ใหม่ในใจว่าเธอพูดจีนได้ แต่ไม่อยากทำร้ายจิดใจเธอด้วยการถาม เราจึงยังคบกันได้ต่อไป ซูซานนี้ก็เป็นมาดาม เพราะเธอมีเหมดที่เรียกเธอว่า มาดาม
วันหนึ่งตอนเย็นสามีนัดไมค์กับมาเซลไว้เพื่อไปเล่นโบว์ลิ่งกัน ดิฉันได้เจอซูซานและธันย่าที่โน่นด้วย ทักทายเธอทั้งสองคนและก็นั่งดูเค้าเล่นกัน โดยที่ไม่รู้มาก่อนว่าทั้งสองคนนี้เป็นขมิ้นกับปูนกันตอนไหน คืนนี้ธันย่าดื่มเบียร์ไปหลายกระป๋อง พอเลิกเล่นเราก็ออกมาข้างนอก พวกผู้ชายยืนคุยกัน ดิฉันก็ยืนคุยกับซูซาน รันย่าไม่ร่วมวงด้วย เธอเดินไปที่พ่อค้าขายข้าวโพดย่าง แบบที่บ้านเราย่างขายตามตลาด คนขายก็ย่างไม่ทันธันย่าก็ต้องรอ เธอหันมาตะโกนถามอะไร ดิฉันส่ายหัวเพราะไม่ทันได้ฟังเธอ เธอเลยเดินตรงมาที่ดิฉันยืนอยู่ ซูซานก็เดินผละไปในทันทีเหมือนกัน ตรงไปที่พ่อค้าข้าวโพดย่าง สักพักซูซานเดินถือข้าวโพดแทะกินมาอันหนึ่ง ธันย่ารีบเดินไปทวงถามพ่อค้าบ้าง เพราะเธอสั่งไว้ก่อน แต่เธอกลับไม่ได้ เธอเดินโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงมาต่อว่าซูซาน แล้วเกิดตบตีกันขึ้น อาจเป็นโมโหบวกเมาเบียร์ด้วยก็ได้ แฟนของทั้งสองมาดามเดินมาจับแยก แต่ถ้าเปรียบมวยแล้วธันย่าชนะขาดลอย เพราะเธอเล่นจิกหัวซูซานไว้อย่างเหนียวแน่นแถมดึงลากเหมือนถลกหนังหัวอีกด้วย สามีดิฉันต้องเข้าไปช่วยจับนิ้วมืองัดออกทีละนิ้วให้หลุดจากหัวซูซาน พอหลุดจากกันได้ แฟนหนุ่มก็ลากแฟนสาวของตัวไป ขึ้นรถใครรถมัน ตอนนั่งมาในรถดิฉันถามสามีเล่น ๆ ว่า คุณอยากให้ฉันป็นมาดามไหม ? สามีเบ้ปากแล้วส่ายหัวตอบว่า ไว้เล่นเป็นมาดามกับเขาสองคนที่บ้านก็พอ
จากคุณ :
NATTI
- [
11 ก.พ. 47 18:43:24
A:62.167.195.118 X:
]