กุหลาบแห้งในแจกันเก่า

    กุหลาบแห้งในแจกันเก่า


    ช่อกุหลาบเจ็ดช่อที่เวลานี้ดูไม่ออกว่าแรกเริ่มเดิมทีเป็นสีอะไรมาก่อน เพราะขณะ
    นี้มันแห้งกรอบ ดูไร้ชีวิตชีวาอยู่ในแจกันเก่า ๆ  ถูกวางอยู่บนลังใบเล็กที่เจ้าของ
    เอามาดัดแปลงเป็นที่วางแจกันและกรอบรูป ข้างที่นอนปูกับพื้นผ้าปูที่นอน
    ปลอกหมอน รวมถึงผ้าห่มผืนเล็ก มีร่องรอยการเย็บซ่อมแซมซ้ำแล้วซ้ำอีก
    ด้านข้างมีสตรีรูปงามใบหน้าเกลี้ยงเกลาเธอสวยด้วยธรรมชาติไร้การ
    แต่งแต้มเติมสีใดใด  แม้ว่าในแววตาของเธอดูเหม่อลอยว่างเปล่าก็ตาม

    เธอหยิบดินสอ ขีดเป็นวงกลมในปฏิทิน  ลงในช่องวันที่ 13 กุมภาพันธ์  
    ส่วนช่องถัดมาวันที่  14  ถูกเขียนวงกลมสีแดงเข้มอย่างหนาอยู่ก่อนแล้ว

    “พรุ่งนี้วันวาเลนไทน์  พี่วีจะมาหา ดอกกุหลาบสีแดง”  
    หญิงสาววางแจกันช่อกุหลาบแห้งไว้ที่เดิมอย่างทะนุถนอมเชิงว่ากลัวมัน
    จะบอบช้ำก่อนจะหยิบกรอบรูปภาพของเธอและวีคนรักขึ้นมากอดแนบอก
    ปากก็บ่นพึมพำ

    “พรุ่งนี้วันวาเลนไทน์  พี่วีจะมาหา ดอกกุหลาบสีแดง”  อยู่อย่างนั้น

    “ ทิพย์เอ๊ย.. ทานข้าวเถอะลูก”  ป้าดา เดินเข้ามาในห้องประคองพิทย์ให้ลุกขึ้น

    “แม่...พรุ่งนี้วันวาเลนไทน์ พี่วิจะมา  ดอกกุหลาบสีแดง”
    ทิพย์หันไปคุยกับแม่แววตาของเธอมีรอยยิ้มไม่แพ้รอยยิ้มจากริมฝีปาก

    “จ๊ะ” ป้าดา ตอบกลับสั้น ๆ
    ไม่กล้าสบตาทิพย์ลูกสาว เพราะกลัวจะอดกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว

    “พรุ่งนี้จะได้เจอพี่วีไหม” ทิพย์หันไปถามแม่ แววตามีความหวัง

    “ถ้าพี่วีเค้าว่างก็ได้เจอแต่ถ้าพี่เค้าต้องรีบไปทำงาน ทิพย์ก็จะได้ดอกกุหลาบ
    สีแดงเหมือนทุกปีนะลูก”
    ป้าดาตอบทิพย์เสียงสั่น ๆ ก้มหน้าตักข้าวในหม้อส่งให้ลูกสาว

    “ทานก่อนแม่เลยนะลูก มือแม่เลอะ เดี๋ยวแม่ขอไปล้างมือก่อน”
    นางรีบลุกขึ้นเดินหันหลังเข้าไปในห้องครัว แต่เธอไม่ได้ไปล้างมืออย่างที่ว่า
    เธอแอบเข้ามาร้องไห้ไม่อยากให้ลูกสาวของเธอเห็น

    วันวาเลนไทน์ เป็นวันที่ใคร ๆ หลายคนรอคอย แล้วจะมีสักคนไหมที่จะเหมือน
    ป้าดา คือ...ไม่อยากให้มีวันนี้ เพราะวันนี้เป็นวันที่ป้าดาเจ็บปวดในใจมากที่สุด  
    สี่ปีมาแล้วที่ป้าดาต้องแอบเอาดอกกุหลาบสีแดงมาเสียบในแจกันแต่เช้าก่อนที่
    ลูกสาวของเธอจะตื่น เธอทำเช่นนี้มาเป็นเวลา

    สี่ปีเต็มในวันวาเลนไทน์  ป้าดายังจำเหตุการณ์ในวันนั้นได้ดี ความทรงจำยังคง
    คุกรุ่นตอกย้ำอยู่ภายในใจป้าดาตลอดเวลา  

                      ช่วงสามปีแรกคนที่ให้ดอกกุหลาบทิพย์ ก็คือวีคนรัก  
    ทั้งสองรักกันมากได้สัญญากันว่าจะแต่งงานกันในปีหน้าซึ่งวันเดียวกับวันที่วี
    กับทิพย์บอกรักและขอเธอแต่งงาน คือวันวาเลนไทน์ ในปีที่สี่ก่อนจะถึงวัน
    วาเลนไทน์เพียง 1 วัน  ขณะที่ วี และ ทิพย์  กลับมาจากตลาดหาซื้อของ
    เพิ่มเติมที่ยังขาด ในวันพรุ่งนี้เพื่อเตรียมงานแต่งงานเล็ก ๆ พอเป็นพิธีของเขา
    ทั้งสอง ในระหว่างเดินกลับบ้าน  มีผู้ร้ายสามคน ไม่รู้โผล่มาจากไหน เดินเข้า
    มาฉุดลาก ทิพย์เพื่อจะข่มขืนเธอ โดยไม่สนใจว่ามี วี อยู่ด้วย  วี รีบเข้าช่วย
    เหลือคนรักอย่างกล้าหาญ ไม่ได้กลัวอาวุธในมือของพวกผู้ร้ายการต่อสู้
    เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาทิพย์  ใบหน้าวีถูกต่อยบวมช้ำริมฝีปากแตกเลือดไหล
    เป็นทางในเวลาอันใกล้วีถูกมีดสั้นจ้วงแทงหน้าท้องซ้ำแล้วซ้ำอีก ก่อนที่วีจะเป็น
    อย่างไรต่อไป ทิพย์ก็เป็นลมล้มลงตรงนั้น


               เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงทิพย์ตื่นขึ้นมาเห็นภาพคนรักนอนตายตรงหน้า
    เลือดท่วมตัวทิพย์เกิดอาการช็อก เธอถูกพรากความรักไปอย่างไม่ตั้งใจ กรีดร้อง
    ด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง  จนเป็นลมล้มทับร่างคนรักไปอีกรอบ



    ในช่วงบ่ายวันต่อมา

    “ พี่วี  พี่วีอยู่ไหน  วันวาเลนไทน์ กุหลาบแดง ” ทิพย์ตื่นขึ้นมาพร้อมประโยคแรก

    “ทิพย์นี่แม่เองลูก  พี่วีเขาไม่อยู่แล้ว ทิพย์ทำใจดีดีไว้นะลูก”  
    ป้าดาเข้าสวมกอดลูกสาว

    “ใคร...ไม่จริง พี่วีจะเอาดอกกุหลาบสีแดงมาให้  ดอกกุหลาบสีแดง”
    ทิพย์ผลักป้าดาออกห่างอย่างคนไม่รู้จักกัน

    “วันวาเลนไทน์   กุหลาบแดง    พี่วี  วันวาเลนไทน์  กุหลาบแดง   พี่วี”  
    ทิพย์หยับแจกันที่มีดอกกุหลาบแห้งอยู่สามดอกขึ้นมาเชยชมสูดดมหา
    ความหอมในดอกไม้แห้ง

    “ทิพย์ฟังแม่นะ พี่วีเขาตายแล้ว พี่เขาจะไม่มาหาลูกอีกแล้ว เข้าใจไหมลูก”
    ป้าดาพยามอธิบายทั้งน้ำตา สงสารลูกสาวตัวเองที่เป็นแบบนี้

    “พี่วีตายแล้ว   ตาย..อะไร”
    ทิพย์ถามกลับสายตายังชื่นชมดอกกุหลาบใจแจกันประดุจว่านั่นเป็น
    ดอกกุหลาบที่สวยงามที่สุดสำหรับเธอ

    “พี่วีเขาไปสวรรค์แล้วลูก พี่วีอยู่บนฟ้านู่น”
    นางชี้มือลอดผ่านหน้าต่างขึ้นไปบนฟ้าไกล

    “ไม่จริง  พี่วีจะมาหา  ดอกกุหลาบสีแดง  วันนี้ ดอกกุหลาบสีแดง  
    พี่วีจะมาหา ดอกกุหลาบสีแดง ไม่จริง”
    หยดน้ำใส ๆ เอ่อท้วมดวงตาสองข้างแล้วไหลเป็นทางท่วมสองแก้ม
    แววตาหวั่นวิตก ถอยกรูดไปติดฝาผนังบ้าน  แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น  
    ทิพย์ดิ้นพล่านทุรนทุรายพร้อมกับเสียงกรีดร้องร่างเล็กล้มลงพับกองกับพื้น  
    เกิดการอาการช็อก ป้าดารีบเข้าไปประคองร่างลูกสาว สวมกอดไว้แน่น
    ปล่อยโฮร่ำไห้น้ำตาเป็นเผาเต่า หัวอกของผู้เป็นแม่หากแลกเปลี่ยนกัน
    ได้ป้าดาคงจะขอเจ็บปวดแทนลูกสาวของเธอ
    V
    V
    ต่อ

    แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 47 16:25:20

    จากคุณ : ดินสอสีน้ำ - [ 13 ก.พ. 47 16:13:08 ]