ตัวดิฉันนั้นตอนอยู่ในเมืองไทย จะมีความรู้สึกภูมิใจและปลื้มใจในความเป็นไทย เมื่อเวลาที่นักกีฬาของไทยเราได้เหรียญ ไม่ว่าจะลำดับที่เท่าไหร่ก็ตาม โดยมากมักจะเป็นกีฬาชกมวย ซึ่งไทยเรามีโอกาสชิงแชมป์เยอะกว่ากีฬาประเภทอื่น ปกติจะไม่ชอบดูมวย แต่ถ้าหนังสือพิมพ์พาดหัวข่าวด้วยตัวยักษ์ว่า "มวยไทยลอยลำเข้ารอบชิงแชมป์" อะไรทำนองนี้ ดิฉันจะต้องรีบอ่านเป็นอันดับแรก จำขึ้นใจใส่หัวไว้เลยว่า วันนั้น เวลานี้ ชื่อนักมวยคนนี้ จะชิงแชมป์แล้ว ดิฉันจะไม่หายหัวไปไหน มานั่งรอลุ้นหน้าจอให้กำลังใจกับนักมวยของเราด้วย คนที่นั่งดูก็มีคุณพ่อ น้องชาย น้าชายคู่อริที่เวลามวยชิงฯ จะกลายเป็นคอเดียวกันและดิฉัน คุณพ่อกับน้องชายเป็นประเภทที่ดูและไม่วิจารณ์ ดิฉันและน้าชายเป็นประเภทกองเชียร์ ซ้าย...ซ้าย...น่าน..ขวา...น่าน น่าน ฮุคเข้าไป พอหมดยกก็เงียบกันไปที ถ้ามวยไม่น็อค ก็ตัดสินกันด้วยคะแนน ถ้าไทยเราถูกตัดสินให้แพ้คะแนน ซึ่งต้องได้เหรียญเงิน เราจะพูดว่ากรรมการไม่ยุติธรรมบ้างล่ะ ชกกับนักมวยเข้าถิ่นบ้างล่ะ ซึ่งหมายถึงคู่ต่อสู้ที่มาจากประเทศที่จัดการแข่งขัน คือชกในบ้านตัวเอง ตอนรับเหรียญ จะมีการเปิดทำนองเพลงชาติไทยพร้อมกับธงชาติไทยที่ชักขึ้นสู่ยอดเสา ดิฉันนั่งขนลุกซู่ มีอะไรเหมือนมาจุกอยู่ตรงคอหอย ที่ตาก็จะมีน้ำออกมาหล่อเลี้ยงมากขึ้น นั่นคือเรื่องที่ดิฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไร ความรักชาติ หรือว่าเป็นเพียงแค่อารมณ์อ่อนไหวร่วมไปกับนักมวยด้วยเท่านั้นเอง
วันที่ดิฉันต้องเดินทางจากแผ่นดินไทยไป ดิฉันไม่ให้ใครไปส่งที่สนามบิน ให้ร่ำลากันที่บ้านพอ แม่อวยพรให้เดินทางโดยปลอดภัยและเตือนเรื่องอารมณ์ ให้รู้จักอดทนและอดกลั้น ปกติดิฉันเป็นคนอารมณ์ดีและใจดีทีเดียว แต่ถ้าโกรธขึ้นมาแล้ว ความตายก็ไม่กลัว เพศ วัย น้ำหนักก็ไม่เกี่ยง เรื่องนี้เป็นที่กลัวใจของแม่และญาติพี่น้องนักหนา เพราะเคยเห็นฤทธิ์กันมาถึงสองครั้งสองครา บนเครื่องบินได้ที่นั่งตรงหน้าต่าง พอเครื่องบินทะยานขึ้นฟ้า ใจเหมือนจะขาด เป็นอะไรที่อาลัยอาวรณ์มากและไม่สามารถบรรยายความรู้สึกได้ อาการจุกคอหอย เริ่มอีกแล้ว แต่ไม่เหมือนกับตอนนักมวยไทยได้เหรียญทองเลย
ที่ไต้หวันนี้ สามีจะพกหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษกลับมาให้อ่านแทบทุกวัน ถ้าวันไหนอ่านเจอข่าวจากเมืองไทย ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามจะต้องอ่าน ไม่มีการเลือกว่า ว๊าย การเมือง หรือ แหวะ ข่าวกีฬา หรือ อ้วก ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวพวกนี้ตอนอยู่เมืองไทยดิฉันจะไม่อ่านเลย เพราะสุดจะเอียนจากการทำรายงานในตอนที่ยังเรียนอยู่ หนังสือที่ดิฉันชอบซื้ออ่านและได้เงินจากดิฉันมากที่สุดคือ เบื้องหลังการฆ่า ฆาตกรรม หรือหนังสือสิ่งลึกลับ ผี หรือพ็อคเก็ตบุคหลาย ๆ ประเภท แต่พวกนิตยสารผู้หญิง ดารา คู่รักอะไรแบบนี้จะไม่เคยซื้อเลย ตอนรู้จักสามีใหม่ ๆ ดิฉันซื้ออาชญากรรมติดมือมาด้วย สามีเปิดดูรูปแล้วถามว่าหนังสืออะไรนี่ ดิฉันตอบว่าเบื้องหลังข่าว สามีถามว่าจะอ่านทำไมเนี่ย รูปน่ากลัวจะตาย ดิฉันยิ้มตอบเขาว่า ก็อ่านเอาไว้ศึกษาวิธีการฆ่าแฟน เวลานอกใจไงเล่า ไม่รู้ว่าคำพูดนี่หรือเปล่าที่ทำให้สามีเป็นคนน่ารักจนทุกวันนี้
ดิฉันมีเพื่อนใหม่เพิ่มมาอีกหนึ่งคน เป็นคนไต้หวันชื่อเจนนี่ แต่งงานมานานแล้วกับชาวสวิสฯชื่อเอริค ไม่มีลูก อายุมากกว่าดิฉัน ๕ ปี บ้านเราอยู่ตรงข้ามกัน ที่เพิ่งมารู้จักกันเพราะก่อนที่ดิฉันจะบินมาจากเมืองไทย เธอและสามีไปพักร้อนที่สวิสฯ ตอนแรกที่ได้รู้จักกับเธอ ดิฉันค่อนข้างระวังตัวพอสมควร เพราะจิตใจคนยากแท้หยั่งถึง ดิฉันเรียกเธอว่า เจ้ ที่แปลว่าพี่สาว อาจเป็นไปได้ว่าเรามีอะไรหลาย ๆ อย่างที่เหมือนกัน เช่น ศาสนา วัฒนธรรมฯลฯ สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ทำให้เราสนิทกันมากขึ้น เจ้ จัดได้ว่าเป็นเพื่อนที่ใช้ได้และดีที่สุดที่มีอยู่ในไต้หวัน ถึงเธอจะเอาเปรียบนิดหน่อย แต่ก็เป็นเรื่องเล็กน้อย เช่นไข่ ผัก กระดาษชำระ ฯลฯ เธอชอบมายืมเอาไปแล้วลืมคืนทุกที
ถึงแม้ดิฉันจะเป็นคนลักษณะมือห่างตีนห่างอย่างแม่บอก หรือนิคเนมที่ยายเรียกแทนชื่อว่า แม่กระเฌอก้นรั่ว ดิฉันพูดได้เต็มปากเลยว่า ไม่เคยทำให้คนอื่นเดือดร้อนหรือเบียดเบียนใคร นอกจากพ่อแม่พี่น้องดิฉันเอง หลังแต่งงานอาชีพใหม่ที่สามีมอบให้คือแม่บ้าน ถึงจะทำได้อย่างไม่ค่อยสมบูรณ์นัก แต่ของใช้ในครัว ในบ้าน ถ้าใกล้หมด ดิฉันจะจดเอาไว้เลย ถึงเราอยู่กันแค่ ๒ คน เราก็มีอาหารตุนไว้กินได้ทั้งอาทิตย์โดยไม่ต้องวิ่งซื้อหา ก่อนทำกับข้าว ดิฉันจะดูในตู้เย็น ในครัวว่ามีวัตถุดิบอะไรบ้าง แล้วสามารถคิดออกมาได้เลยว่าจะทำอะไรกิน
ในจำนวนไฮโซฯ นั้นมีบางคนที่ดิฉันไม่ชอบเธอ เจ้ก็แอบสารภาพว่าเธอก็ไม่ชอบเหมือนกัน หล่อนคนนี้เป็นสวิสฯ ชื่อสิรี อายุรุ่นเดียวกับดิฉัน สามีชื่อดาเนียล (คนละคนกับที่ไปรับดิฉันที่สนามบิน) หน้าตาสามีหล่อนดิฉันก็ยังไม่เคยเห็น กับเจนนี่นั้นสิรีจะทำตัวค่อนข้างเป็นมิตรมากกว่ากับดิฉัน ซึ่งเป็นผู้หญิงมาจากเมืองไทย เนื่องจากว่าเธอต้องพึ่งพาเจนนี่ในบางเรื่อง ดิฉันในสายตาของสิรีนั้น เหมือนกับไม่มีตัวตนหรือคนละคลาสกับเธอ ถ้าเธอพูดกับดิฉันก็เหมือนอย่างเสียไม่ได้ และมีบางประโยคที่แสดงให้ดิฉันรู้ได้ถึงความเย่อหยิ่ง และไร้สมองของเธอ บางครั้งดิฉันก็เคืองเหมือนกัน แต่ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกันไป เพราะเดี๋ยวเกิดโมโหอดใจไม่ได้ ก็อาจได้เจอแม่ไม้มวยไทยของจริงได้เหมือนกัน วันหนึ่งพวกกลุ่มไฮโซ ฯ จัดโปรแกรมเที่ยวชมโรงงานเซรามิค ดิฉันได้เห็นตุ๊กตาเซรามิค เชิงเทียนฯลฯ อดใจไม่ไหวก็ขนซื้อมาเพื่อเอาไว้แต่งบ้านให้กระจุ๋มกระจิ๋มเล่นเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ ซึ่งสามีแสนดีก็ไม่เคยถามกวนใจเรื่องการใช้เงิน ถึงสิ้นเดือนก็เอาเงินเดือนที่เป็นแรงงานของเขามายื่นให้ทั้งซอง ด้วยท่าทางที่ภาคภูมิใจ ดิฉันสัมผัสได้ถึงความรักและความไว้เนื้อเชื่อใจที่สามีมีให้อย่างท่วมท้น วันรุ่งขึ้นดิฉันเดินไปบ้านเจ้ เห็นสิรีนั่งอยู่ด้วย ก็ทักทายเจ้สองสามคำ ไม่ได้ทักทายและชายตาไปมองหล่อนเลย และก็เดินกลับบ้านไปทำความสะอาดเรื่อยเปี่อย ตอนบ่ายเจ้มาชวนให้ไปช่วยอุ้มลูกหมาซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์หน่อยที่บ้านแม่เธอ ซึ่งดิฉันเคยไปอยู่หลายครั้ง เจ้ให้ดิฉันสัญญาว่าถ้าเล่าอะไรให้ฟังแล้วห้ามโกรธ และห้ามมีเรื่องด้วย ดิฉันรับคำ เจ้เล่าว่าหลังจากที่ดิฉันเดินกลับบ้าน สิรีพูดว่าดิฉันว่าดิฉันเป็นพวกสะสมขยะ ซื้อขยะเข้าบ้าน ความหมายคือ ดิฉันเป็นคนชั้นต่ำ เพราะซื้อเซรามิคที่เธอว่าราคาถูกมาแต่งบ้านนั่นเอง เจ้รู้ว่าดิฉันโกรธ เจ้ก็โกรธเพราะไต้หวันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนเธอ
เย็นนั้นสามีกลับมาบ้านเร็วเพราะเราต้องไปปาร์ตี้บ้านวีร่า(บราซิล)กับอาร์ทู เข้าไปในงานมีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาจับมือหอมซ้ายขวาซ้าย ๓ ทีแนะนำตัวว่าชื่อดาเนียล ดิฉันก็อ๋อ สามีสิรีนี่เอง หน้าตาหล่อแบบหนุ่มอิตาลี ก็หล่อดี ท่าทางแพรวพราว สมกับที่เคยได้ยินมาว่าเจ้าชู้ไม่ใช่ย่อย สามีจูงมือดิฉันเดินหนีไป พอเริ่มตึง ๆ กันแล้วมีการเล่น ปิดตาหาสามี ให้ดิฉันเล่นคนเดียวเพราะเพิ่งแต่งงานใหม่ พาไปปิดตาในครัวแล้วพาเดินออกมา มีหนุ่ม ๆ แก่ ๆ มายืนให้ดิฉันจับอยู่ ๗-๘ คน กติกาคือดิฉันสามารถจับมือจับนิ้วได้ แขนไม่ได้ จับต่ำจากเข็มขัดลงมาถึงรองเท้าได้ สูงกว่าเข็มขัดไม่ได้ ดิฉันหาสามีเจอ แต่จะไม่เล่ารายละเอียด รู้แต่ว่าหัวเราะกันท้องแข็งเลยทีเดียว
อาร์ทู (เสียงเยอรมัน) หรืออาเธอร์เป็นสามีของวีร่า อายุราว ๖๐ ปีหน้าตายิ้มแย้มและใจดี เขาเป็นผู้จัดการกลาย ๆ ของพวกสวิสฯ ที่นี่ เขาเรียกสามีให้ไปคุยกัน ก็ไม่พ้นเรื่องงาน เจ้กลับไปแล้วกับสามีเธอ ดิฉันคิดว่าเดี๋ยวสามีออกมาก็จะลากลับเลยเหมือนกัน และไปนั่งรออยู่คนเดียวเงียบ ๆ ดาเนียลเมียเผลอไปไหนไม่ทราบ มาขอนั่งคุยเป็นเพื่อน เค้าถามว่าดิฉันเป็นคนไทยใช่ไหม เมืองไทยสวยนะ ผู้หญิงไทยก็สวยด้วย ดิฉันก็ค่ะ ๆ มีประสาทสัมผัสที่ไวบอกตัวเองว่า นายนี่กำลังขายขนมจีบเมียชาวบ้านอยู่ มีคำถามหนึ่งที่เป็นคำถามสุดท้ายว่า ทำไมผู้หญิงไทยทั้งหมดถึงเป็นผู้หญิงขายตัว ? ดิฉันโมโหมาก สติเป็นตัวคุ้มครอง ไหวพริบเป็นที่ตั้ง ยิ้มเยือกเย็น ถามว่า คุณรู้ไหมว่าประชากรในประเทศไทยมีกี่ล้านคน? คำตอบคือเงียบ ดิฉันพูดต่อไปในช่วงที่เขาเงียบว่า คุณทราบไหมว่าไอ้ความโง่เขลา และความปากพล่อยของคุณทำให้คนอื่นเสียหาย ผู้หญิงไทยไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด ถ้าความสกปรกที่มีอยู่ในใจคุณยังไม่หมดไป ขอเตือนด้วยความหวังดีว่า อย่าได้ไปเหยียบแผ่นดินเกิดของฉัน เพราะปากแบบนี้ตายกันมาเยอะแล้ว มีคนเห็นว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดีและวิ่งไปตามอาร์ทู อาร์ทูและสามีวิ่งออกมา ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ดิฉันตอบว่า ดาเนียลพูดดูหมิ่นดิฉันและผู้หญิงไทยในประเทศฉัน อาร์ทูให้ดาเนียลขอโทษ และไล่ให้กลับบ้านไป วีราและอาร์ทูได้ปลอบดิฉัน ดิฉันฟ้องเรื่องสิรีที่พูดดูหมิ่นดิฉันไว้ด้วย พวกเค้าพูดว่าสองคนผัวเมียนี่พอ ๆ กัน แม้แต่สามีดิฉันเองยังรู้เลย วีร่าเสริมว่าไม่ต้องไปใส่ใจสองคนผัวเมียนี้ ใคร ๆ ก็รู้ว่าเป็นอย่างไร แต่ไม่มีใครจะใส่ใจเอาเรื่องเอาราว เพราะเห็นแก่ความสงบในกลุ่มเดียวกัน ดิฉันเป็นคนแรกที่ไม่ยอมและโต้ตอบ ก็ดีเหมือนกันบางทีสองคนผัวเมียนี้อาจได้บทเรียนและอาจสำนึกบ้างก็ได้
สามีพากลับบ้าน เราขึ้นนอนเพราะดึกมากแล้ว แต่ดิฉันยังนอนคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อค่ำนี้อยู่ นึกย้อนไปถึงตอนนักมวยไทยชิงแชมป์ และเป็นฝ่ายน็อคคู่ต่อสู้อย่างขาวสะอาด ธงไทยกำลังขึ้นสู่ยอดเสา พร้อมด้วยทำนองเพลงชาติไทย นั่นดิฉันจำได้ว่า ที่หน้าจอทีวี ดิฉันได้ร้องเพลงคลอตามไปพร้อมกับนักมวยและพี่เลี้ยงคนไทยด้วยนี่นา มันทำให้ดิฉันขนลุกขึ้นมาเฉย ๆ เมื่อร้องถึงตอนที่ว่า " ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่ สละเลือดทุกหยาดเป็นชาติพลี เถลิงประเทศชาติไทยทวี มีชัย ไชโย "
ใช่ ดิฉันต้องสู้และเผชิญหน้ากับมัน กำลังใจที่ดิฉันมีให้ตัวเองนั้นยิ่งใหญ่มหาศาล ความภูมิใจ และความปิติแผ่ซ่านในความคิดและหัวใจของดิฉันอีกครั้งหนึ่ง ถึงดิฉันจะเป็นแค่นักมวยได้แค่ในความคิด แต่วันนี้ดิฉันก็ชนะน็อคได้อย่างขาวสะอาด ดิฉันเข้าใจความรู้สึกของนักมวยคนไทยนั่นแล้ว ขอบคุณมากนะพ่อนักมวย ที่ทำให้ดิฉันได้หลับอย่างเป็นสุขอีกครั้งหนึ่ง
จากคุณ :
NATTI
- [
14 ก.พ. 47 22:11:26
A:62.167.81.184 X:
]