@@@...ดาราฝั่งทะเล...@@@ (ตอนที่๓)

    ตอนที่๓..

    ซันยากาลา…ยามตะวันทอเเสงเเสดสาดส่องฟ้ารัศมีอมเเดงตัดกับผิวน้ำทะเลสีครามใส

    คลื่นละลอกน้อยสะท้อนประกายเเดดระยับยามที่เเรงลมม้วนเกลียวพัดสาดซัดเข้าหาโขดหินสีดำผุกร่อนซึ่งเต็มไปเถาสาหร่ายเขียวจัดเเกมน้ำตาลเรียงรายอยู่รอบหาดทรายขาวราวเม็ดแป้ง ซึ่งโอบล้อมด้วยชะง่อนบุกิต เชิงเขาหลังเเนวป่าดิบลึก..

    …เเสงสุดท้ายเเห่งการเดินทางในวันที่สี่ ของขบวนเรืออภิเษกจากซุนดา..กำลังจักลาลับขอบฟ้า..

    คลื่นโยนตัวเป็นละลอกริ้ว..ทำให้หมู่นาวาที่ทอดสมออยู่เลียบหาดโคลงเคลงไปตามกระเเสธาร

    เมื่อเรือหลวงถูกม้วนผ้าใบขาวขลิบทองอย่างเรียบร้อย  บุรุษหนุ่มผู้มีหน้าที่ตรวจตราอยู่ที่โคนเสากระโดงเรือจึง
    ละสายตาจากม้วนผืนผ้า  มาเพ่งพินิจบนเเผ่นแผนที่ที่ถูกจารเป็นเเผนที่อย่างคร่าวๆ ด้วยเเท่งถ่านบนแผ่นหนังฟอกขาว

    “ข้าคาดไว้ว่า…น่าจักถึงเกาะบูบัต ในเช้าวันพรุ่ง…”

    ชเลราชองครักษ์ไล่ปลายนิ้วบนเเผ่นหนัง ซึ่งวางอยู่เหนือเเท่นสูงกลางวงสนทนาของเหล่าลูกเรือ

    “จงนำคำข้าไปบอกเเก่นายเรือทุกลำที่โดยเสด็จ…ว่าคืนนี้จงตระเตรียมอาวุธให้พร้อม…อย่าได้ไว้ใจพวกมัชปาหิตโดยเด็ดขาด…เพราะถ้าหากยกพลขึ้นเกาะบูบัตเมื่อใดก็เท่ากับตกอยู่ในวงล้อมของมัชปาหิตเเล้ว..”

    ผู้กล่าวถอนใจยาว…ด้วยรู้ดีว่า อย่างไรเสียก็มิอาจจักหลีกเลี่ยงมิให้ยกทัพที่ติดตามมาขึ้นบกบนเกาะน้อยที่อยู่กลางทะเลน่านน้ำด้านทิศเหนือเเห่งมัชปาหิต

    …เมื่อการณ์เป็นไปเช่นนี้ จึงคล้ายกับว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นจักได้เปรียบในทุกทาง..เเล้วมีหรือที่ซุนดาจักมิคิดระเเวงระไว…

    …ราวกับว่ามัชปาหิตเเห่งชวามีมุ่งหมายอื่นเคลือบเเคลง…แอบแฝงมากับคำอ้างขอเชื่อมพระราชไมตรี…

    “จำไว้ ไม่ว่าจักเกิดอันใดขึ้นในวันพรุ่ง…ทั้งองค์รายาเเละราชปูตรีจักต้อง ทรงปลอดภัย..”

    คำสั่งประโยคสั้นเสียงเข้ม เด็ดขาด…หมายย้ำความสำคัญยวดยิ่งให้ผู้ฟังที่อยู่รายรอบตระหนักเเจ้งใจ ..ว่า หากครั้งนี้เกิดพลาดพลั้งไป…ก็ยากนักที่จักหลังเเก้ไขได้ดังเดิม..

    “มิมีความอันใดจักกล่าวเเล้ว..พวกเจ้าจงคืนเรือเถิด..เเต่อย่าลืมคำข้า..”

    ดวงหน้าคมคายคลี่ยิ้มบางบนริมฝีปากเรียวได้เพียงชั่วครู่ ก็พลันต้องชะงักเมื่อเสียงจังหวะฝีเท้าเร็วเร่งของนางกำนัลน้อยนางหนึ่งขององค์ปูตรี ใกล้เข้ามาประชิดตัว

    “ถึงเวลาเสวยเเล้ว เเต่องค์ปูตรีมิรู้เสด็จใด…ข้าหาจนทั่วทั้งลำเรือก็ยังมิพบ ท่านพอจักทราบหรือไม่”

    ดวงตาคู่คมเรียวเเลกวาดไปบนหาดทรายขาวซึ่งบนเนื้อเนียนละเอียดนั้น..ปรากฏเป็นรอยบาทเล็กๆ ย่ำลงไปบนเนินทราย หายลับเข้าไปในเเนวป่าใหญ่..

    เฉกนั้นผู้เป็นราชองครักษ์จึ่งตอบกลับมาเบาๆ ด้วยเเจ้งใจว่ายามนี้องค์ปูตรีคงมิได้เสด็จไปไกลนัก..

    “…ประเดี๋ยวข้าจักไปตามพระองค์เอง”

    ๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒–
    (มีต่อ)

    แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 47 15:39:38

     
     

    จากคุณ : อชันฏา - [ 15 ก.พ. 47 12:13:12 ] ส่งภาพนี้เข้ามือถือ