ไม่มีใครแทนที่เธอ.....

    14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์

    เธอมีนัดทานอาหารมื้อค่ำกับคนที่เธอเรียกว่าคนพิเศษของเธอ
    เธอมีความสุขเล็ก ๆ กับการได้รอคอยให้ถึงเวลานั้น
    เธอเฝ้ามองดูนาฬิกาบนข้อมือบ่อยครั้ง วันนี้เธอรู้สึกว่าเข็มนาฬิกาจะหมุนช้ากว่าทุกวัน

    เสียงโทรศัพท์ซึ่งเป็นเสียงพิเศษที่เธอตั้งไว้ไม่ให้เหมือนใครดังขึ้นก่อนเวลานัดหมาย
    เธอรู้สึกแปลกใจ  เห็นบอกว่าจะขอทำงานให้เรียบร้อยก่อนแล้วจะมารับ
    นี่ยังไม่สามทุ่มเลย  เข็มสั้นบนหน้าปัดนาฬิกาชี้ไปที่เลข 7  เพิ่งจะทุ่มกว่าเอง
    หรือว่าเขาเห็นเราสำคัญกว่างาน  เธอแอบคิด อมยิ้มให้กับตัวเอง

    “ทำงานเสร็จแล้วเหรอ ไหนบอกว่าจะมารับตอนสามทุ่ม”
    เธอตั้งคำถามตามประสาคนขี้สงสัยซึ่งดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ดีเช่นกัน

    “เอ่อ.... เค้าขอเลื่อนนัดเป็นวันพรุ่งนี้แทนได้ไหม?”

    “ทำไมล่ะ” เธอนิ่งอึ้งไปพักใหญ่ ถามไปยังปลายสายน้ำเสียงแผ่วเบา ออกจะงอนนิด ๆ

    “พอดีไม่ค่อยสบาย เหนื่อย ๆ เหมือนจะเป็นไข้”  น้ำเสียงปลายสายฟังดูอ่อนล้า

    “อ้าวเหรอ เป็นอะไรมากไหม แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน ถึงบ้านหรือยัง”
    เธอรีบสอบถามกลับไปด้วยความเป็นห่วง

    “ทานข้าวอยู่ในห้างฯ ใกล้ ๆ บ้าน ทานเสร็จก็คงจะกลับไปนอนเลย รู้สึกเหนื่อยจัง”

    “ตัวร้อน มีไข้ด้วยหรือเปล่า ทานยาหรือยัง มียาไหม? ให้ซื้อไปให้ที่บ้านไหม?”
    เธอตั้งคำถามไปชุดใหญ่รู้สึกเป็นห่วงอีกฝ่าย อาการน้อยใจเมื่อสักครู่หลายไปหมดแล้ว

    “ไม่เป็นไร ที่บ้านมียาอยู่  ว่าแต่ไม่โกรธนะที่ขอเลื่อนเป็นวันพรุ่งนี้หนะ”  
    เขาถามเธอคล้ายจะแคร์ความรู้สึกของเธอ เพราะนี่เป็นครั้งแรกในรอบสามปีที่ผ่านมา
    เขาจะให้ความสำคัญกับวันนี้และเธอจะเป็นคนสำคัญสำหรับเขามากกว่าสิ่งใด

    “อือ.ไม่เป็นไรวันนี้ก็เหมือนวันธรรมดาทั่วไป พักผ่อนเยอะ ๆ นะอย่าลืมทานยาด้วยล่ะ”
    เธอตอบกลับให้เขาหายกังวล

    “พรุ่งนี้อย่าลืมแต่งตัวสวย ๆ นะ จะพาไปทานอาหารร้านอร่อย ๆ
    รับรองว่าตัวเองต้องชอบแน่ ๆ”  เขาย้ำให้เธอรู้สึกมั่นใจและกลัวว่าเธอจะน้อยใจ

    “ปรกติก็สวยอยู่แล้วนี่” เธอส่งเสียงไปยังปลายสายปนเสียงหัวเราะ

    “ก็อยากให้สวยพิเศษกว่าทุกครั้ง”  
    ถ้าเธอไม่เข้าข้างตัวเองมากเกินไป เธอรู้สึกได้ถึงน้ำเสียงของอีกฝ่ายดูจะภาคภูมิใจ
    ในตัวเธอ   หรือว่าอีกฝ่ายกำลังแสดงละครตบตา

    “แค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวจะกลับบ้านแล้ว”

    “คะ พักผ่อนเยอะ ๆ นะ ที่สำคัญอย่าลืมทานยาก่อนนอนด้วยล่ะ”
    เธอไม่ลืมย้ำเตือนให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธอเป็นห่วง

    “คร๊าบ ไม่ลึมคร๊าบ คุณหมอ” เขาเน้นเสียงลากยาวทีเล่นทีจริง ทำให้เธอยิ้ม
    และรู้ว่าเธอเตือนเขาหลายรอบแล้ว

    เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง มีบางสิ่งบางอย่างคอยวนเวียนให้เธอคิดถึงแต่อีกคนที่เธอ
    ให้เขาเป็นคนพิเศษสำหรับเธอ  เธอบอกกับตัวเองว่าน่าจะโทรถามเขาว่าถึงบ้าน
    หรือยัง และเตือนให้เขาทานยาอีกสักหน หรือว่าเธอน่าจะดูแลเขาหน่อย  บางที
    เขาอาจจะไม่สบายเอามาก ๆ แล้วไม่ยอมไปหาหมอ  แล้วเธอก็เลือกจะไม่โทร

    “ประตูบ้านล็อคกุญแจ.... หรือว่ายังกลับมาไม่ถึง” เธอก้มมองดูนาฬิกา
    เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงกว่าแล้ว  น่าจะมาถึงแล้วนี่นา เธอพึมพำในใจ หยิบ
    โทรศัพท์ขึ้นมา แต่ก็หย่อนมันลงในกระเป๋าตามเดิม   บางทีเขาอาจจะดีใจก็ได้
    ถ้ามาถึงแล้วเห็นเธอยืนคอยอยู่ตรงนี้

    เธอก้มมองดูนาฬิกาบ่อยครั้งมากขึ้นจนรู้ว่าเข็มนาฬิกาหมุนผ่านไปอีก
    หนึ่งชั่วโมงแล้ว เธอเริ่มกระวนกระวายหัวใจเต้นถี่เร็วผิดจังหวะ หรือว่า….
    เขาจะประสบอุบัติเหตุในระหว่างเดินทาง

    “ขออย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย”
    เธอภาวนาในใจ พร้อม ๆ กับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหาชื่อเขาทันที


    “หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาฝากข้อความ
    หรือหมายเลขให้โทรกลับก่อนได้ยินเสียงสัญญาณ”


    เธอยืนนิ่งให้โทรศัพท์ของเธอโทรซ้ำแล้วซ้ำอีก เธอไม่รู้ว่าหยดน้ำในตาไหล
    ออกมาเวลาไหนบางทีเธออาจจะไม่ใช่คนสำคัญของเขาอีกต่อไป พรุ่งนี้เธอ
    จะไปทานอาหารมื้อค่ำกับเขาดีไหม?     คำถามมากมายผุดขึ้นมาในสมอง

    จากคุณ : ดินสอสีน้ำ - [ 20 ก.พ. 47 13:00:44 ]