เงารักบังใจ บทที่ ๑๖

    บทที่ ๑๖
              ใบหน้าของหญิงสาวเรียบเฉยขาวซีดดวงตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธนั้นแดงก่ำ  ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาต้องย้ำนักกับไอ้สถานภาพของเขาที่มีต่อหล่อนว่ามันเป็นเช่นไร
                หล่อนรับรู้อยู่ขึ้นใจแล้ว นับตั้งแต่วันที่เขาเอ่ยคำพูดที่เหมือนเนื้อร้ายนี้ติดตรึงในความรู้สึกนึกคิดยามที่เขาจะเริ่มเอ่ยถึงฐานะของหล่อน
                เท้าของหล่อนกระแทกหนักขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในห้องโถง  ดวงตาที่แดงก่ำบัดนี้เอ่อไปด้วยหยาดน้ำใสๆแห่งโทสะ
                ทุกครั้งที่หล่อนพยายามจะใช้คำพูดโต้ตอบ เขาจะต้องเอ่ยอะไรที่มันดูจะร้ายกาจและสามารถเข้าไปกัดจิกภายในใจหล่อนให้โกรธแค้นดั่งไฟตอบโต้หล่อนกลับ
                 จะใช้กำลังกับเขาก็คงไม่ได้  ในเมื่อเขามีแรงมากมายจนสามารถที่จะจับหักมือใครได้ง่ายเหมือนที่หล่อนเกือบจะได้โดน
                 ดวงตาขัดเคืองของหญิงสาวจับจ้องไปที่ข้อมือช้ำๆ ซึ่งถูกมือของชายหนุ่มจับไว้จนเป็นรอยมือตั้งแต่เมื่อวานนี้
                 แล้วไหนจะสายตาที่หล่อนเคยเห็นเขาแสดงให้หล่อนรับรู้ว่าเขาจงเกลียดจงชังในตัวของหล่อนมากเพียงใดอีกเล่า
                 แม้ว่าหญิงชราจะบอกถึงเหตุที่เขาไม่ชอบใจผู้หญิงสักเท่าใด ให้หล่อนได้รับทราบแล้วก็ตามแต่การกระทำเช่นนี้กับหล่อนก็เป็นการกระทำที่ย่ำแย่มาก
                 ทำไมเมื่อวานนี้ตอนที่หล่อนจะไป  เขาจะต้องมารั้งตัวให้หล่อนอยู่
                 ก็ในเมื่อเขาไม่เคยสนใจใครเลย  กับอีแค่คำพูดของผู้เป็นย่ากับเพื่อนของเขาเท่านั้นไม่น่าจะทำให้เขาเปลี่ยนใจในเมื่ออำนาจการตัดสินใจมันอยู่ที่ตัวของเขาโดยชอบธรรม
                หรือเขาคิดจะเก็บหล่อนเอาไว้ใช้ทำงานและจะได้มีอะไรคอยกัดแก้เซ็งยามว่างเว้นจากงานมากมายก่ายกองที่ต้องทำในแต่ละวัน
                ไม่แน่เขาอาจจะมองว่าตัวของหล่อนเป็นตลกที่เอาไว้แสดงให้เขาดูว่ามันตลกเพียงใดยามที่หล่อนโกรธกระมั้ง
               ความเจ็บแค้นยิ่งทวีหนักเมื่อหล่อนไม่สามารถทำอะไรกับตัวชายหนุ่มได้เลย
                “  คุณจะไปไหน   จะไม่ทานข้าวเช้าก่อนหรือไง ” ชายหนุ่มเอ่ยไล่หลังมา
               หากแต่หญิงสาวไม่สนใจ  ไม่อยากจะได้ยินเสียงของเขา  รีบเอามือปาดน้ำตาที่เพิ่งจะรู้สึกออก
    จากใบหน้าเพื่อพยายามไม่ให้เขาเดินเข้ามาใกล้และเห็นความอ่อนแอที่หญิงสาวได้แสดงออกไป
                ก่อนจะหันกลับมาสู้กับใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มราวเทพบุตรแต่จิตใจช่างร้ายกาจคล้ายปิศาจแฝงตัวอยู่ภายในของชายหนุ่ม
                 “ ดิฉันจะกลับห้อง   แล้วจะไม่ออกมามาเหยียบย่างบนพื้นบ้านของคุณยกเว้นแต่ตอนเข้าห้องน้ำเท่านั้น   อีกอย่างดิฉันก็ไม่ขอทานอาหารเช้าร่วมโต๊ะกับผู้ชายที่หวาดระแวงผู้หญิงวันๆก็เอาแต่ก่ออิฐสร้างป้อมปราการแข็งแรงขึ้นมาปกป้องตัวเองเพราะเรื่องราวอดีตของมารดาและผู้หญิงที่ทำลายคุณหรอกคะ ” หล่อนตะโกนบอกชายหนุ่มพร้อมกับที่หยาดน้ำที่เอ่ออยู่ที่ดวงตาซึ่งหญิงสาวพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะกระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่มันออกไป
                นัตย์ตาของชายหนุ่มวาวขึ้นเป็นประกายที่หล่อนจับไม่ได้ว่าเขารู้สึกว่าอย่าง  หากแต่หล่อนคาดเอาว่าเขาคงจะเจ็บปวดอยู่ไม่น้อย
                 “ คุณรู้เรื่องนี้มาจากไหน ” เขาตะคอกถามหล่อน   สายตาของเขาคมกริบจ้องมองพลางยกมือขึ้นมากอดอก
                หญิงสาวหยักไหล่น้อยๆ ปาดน้ำตาออกจากใบหน้าอีกครั้ง
                 “ คุณย่าของคุณบอกดิฉัน   แล้วยังไงล่ะคะ   จี้จุดใจดำไหมคะ   ดิฉันจะบอกอะไรให้คุณรู้ไว้นะคะ   ถ้าขืนคุณยังเป็นอย่างนี้อยู่คุณก็คงจะต้องจมอยู่กับอดีตไปตลอดกาล   ไม่มีวันที่จะได้พบกับคู่ชีวิตของคุณแน่   เพราะพอมีผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้คุณก็จะพยายามกันให้ห่างตัวไว้เนื่องจากนึกว่าคนเหล่านั้นเขามาด้วยจุดประสงค์ร้ายๆ  ” หล่อนบอกด้วยดวงตาที่แข็งกร้าวพลางเชิดคางขึ้นเมื่อน้ำตาทำท่าว่าจะหลุดลอดออกมาอีกครั้งหนึ่ง
                ดวงหน้าและแววตาของชายหนุ่มวาวก่อนจะจางหายกลายเป็นอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด  เขาหยัก
    ไหล่น้อยๆก่อนจะล้วงลงไปหยิบผ้าเช็ดหน้าสีน้ำตาล  เนื้อดีส่งกลิ่นหอมกุหลาบออกมายื่นให้ต่อหน้า
    ของหญิงสาว
                แต่หญิงสาวไม่แม้แต่จะมองและไม่ยอมรับมัน ด้วยความไม่ชอบใจที่เขาทำเหมือนกับกำลังตบหัวแล้วลูบหลังหล่อนอยู่
                พยายามหยุดยั้งไม่ให้หยาดน้ำอุ่นใสหลั่งรินเพราะความโกรธและอะไรหลายสิ่งหลายอย่างที่หล่อนรู้สึกกำลังถาโถมใส่ตัวหล่อนด้วยความอัดอั้นหลั่งรินออกมาจากดวงตา
                 “ ดิฉันไม่ขอรับผ้าเช็ดหน้าของคนที่ตั้งแง่จงเกลียดจงชังผู้หญิงแบบดิฉันตลอดเวลาหรอกคะ ” หล่อนบอกเขาเสียงสั่นพลางโยนผ้าเช็ดหน้าคืนให้เขาก่อนจะหันหลังให้เขาเพื่อจะเดินให้พ้นจากตรงนี้ก่อนที่
    หล่อนจะหยุดยืนนิ่ง
                “ ผมไม่เคยเกลียดคุณแม้แต่ครั้งเดียว ” เขาเอ่ยเน้นย้ำมันอย่างชัดถ้อยชัดคำ
                   ทำให้หญิงสาวต้องหันไปสบตาเขาอย่างไม่เข้าใจ
                   “   ทำไมจะไม่ล่ะคะ    คุณมองดิฉันแบบนั้น   พูดคุยอย่างดูถูกว่าดิฉันเป็นแค่ลูกจ้างของคุณไม่มีอิสรเสรีที่จะแสดงความรู้สึก   ออกสิทธิออกเสียงหรือขัดคำสั่งของคุณซึ่งเป็นนายจ้างที่แสนประเสริฐสุดในโลก ” หญิงสาวว่าด้วยน้ำเสียงประชดประชันเขาอย่างชัดเจน
                  ชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะยัดผ้าเช็ดหน้าจากมือเขาใส่กลับเข้าไปในมือของหญิงสาว
                  โดยไม่เอ่ยอะไรออกมาแม้แต่น้อยหญิงสาวจึงหยิบมันขึ้นมาเช็ดไปที่ดวงตาที่แดงก่ำซึ่งบัดนี้แห้งสนิทมีเพียงหยดน้ำเล็กๆเกาะพราวไปบนขนตางอนเท่านั้น
                  เมื่อเช็ดเสร็จหญิงสาวก็กำผ้าเช็ดหน้าของชายหนุ่มไว้แน่นอย่างนิ่งเงียบ  เพื่อรอว่าเขาจะพูดถากถางอะไรหล่อนหรือไม่ที่เกิดแสดงท่าทางแบบนั้นออกไป
                เขาคงจะคิดว่าหล่อนเป็นพวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ   เป็นพวกอ่อนแอแค่เขาพูดจาเพียงไม่มากก็สามารถทำให้หล่อนมันความอดทนได้มากขนาดนี้
                  แต่คำพูดที่เขาคิดว่าเล็กน้อยนี้แหละมันช่างเลวร้ายยิ่งกว่าหล่อนโดนคัตเตอร์หรือมีดใดๆที่กรีดลงไปกลางใจเสียด้วยซ้ำ
               “ จริงๆ   ถ้าคุณฝืนใจและไม่ต้องการให้ดิฉันอยู่ก็ควรจะให้ดิฉันกลับบ้านไป   แล้วก็ไม่ต้องห่วงถ้าคุณย่าคุณถามก็บอกท่านไปว่าดิฉันคิดถึงบ้าน ” หล่อนบอกประสานสายตาที่ดูอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดของชายหนุ่มพร้อมกับทรุดตัวลงไปนั่งที่พื้นไม้อย่างเหนื่อยอ่อน
               ภูวัตถอนหายใจน้อยๆ แล้วจึงลุกขึ้นเดินไปหาหญิงสาวที่กำลังนั่งก้มหน้ามองไม้นิ่งเป็นรอยจากหยดน้ำเล็กๆเมื่อครู่อยู่ที่พื้นด้วยดวงตาที่อ่อนโยน
               จนร่างที่นั่งอยู่ต้องคิดหนัก อยากรู้ว่าเขาต้องการจะแสร้งทำอะไรให้หล่อนดูกันอีกหรือไหม
                “ ผมขอโทษ   มันเป็นความผมผิดของเอง ผมขอสารภาพนะว่าตอนแรกผมคิดว่าคุณมาที่นี้เพื่อผลประโยชน์ผมถึงได้ทำตัวแย่ๆใส่คุณ ” เขาค่อยๆนั่งลงไปบนพื้นบ้างโดยหันหน้าของตนไปเผชิญกับหญิงสาว
              ลมหนาวเงยหน้าขึ้นมองคิ้วของชายหนุ่มที่เลิกขึ้นรอคำตอบจากริมฝีปากของหล่อน
              ใบหน้านั้นดูละมุนและอ่อนโยนลง ดวงตาแสนสวยคู่ที่เคยเหมือนเพลิงไฟบัดนี้แปรเปลี่ยนกลับเป็นปกติเช่นเดิม
              ไม่สิ มันเหมือนจะมีความอบอุ่นอะไรบ้างอย่างซ่อนอยู่  ความรู้สึกสำนึกผิดที่อยู่ลึกๆเข้าไปภายในตัวของอีกฝ่าย
               ไม่แน่  หล่อนอาจจะรู้สึกไปเองก็ได้
                คนเช่นเขาหรือจะสำนึกผิดอะไร  

    จากคุณ : ม่านหมอก - [ 23 ก.พ. 47 17:06:00 A:203.107.159.111 X: ]