ไนน์ตี้ชัก คลื่นสยอง

    ดีเจแป๋ง : เราจะมาสายต่อไปเลยนะครับ สวัสดีครับคุณว่าว

    ว่าว : หวัดดีครับคุณแป๋ง หวัดดีคุณผู้ฟังทุกท่านครับ

    ดีเจแป๋ง : คุณว่าวสบายดีนะ

    ว่าว : สบายดีครับ

    ดีเจแป๋ง : เห็นบอกช่วงนี้ยุ่ง ๆ

    ว่าว : ครับ ผมต้องสอบ เวียนหัวมากเลยพี่

    ดีเจแป๋ง : ยังไงก็ขอให้สอบได้เกรดดี ๆ สมกับที่หวังไว้นะครับ .... เอาล่ะ มาเริ่มกันเลยดีกว่าเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรื่องที่จะเล่าเกิดขึ้นมานานหรือยังครับ

    ว่าว : เมื่อเดือนมีนาปีที่แล้ว

    ดีเจแป๋ง : ก็หลังจากนี่ไปเกือบปีหนึ่งพอดี

    ว่าว : ครับ

    ดีเจแป๋ง : เป็นประสบการณ์ตรงใช่ไหมครับ

    ว่าว : ใช่ครับ

    ดีเจแป๋ง : เรื่องราวเป็นยังไงเชิญครับ

    ว่าว : คือเรื่องมันก็มีอยู่ว่า ตัวผมเนี่ยเป็นนักศึกษาอยู่มหาลัยแห่งหนึ่ง ขอสงวนชื่อไว้นะครับเพราะเดี๋ยวจะกลัวกันไป รู้ไว้แค่ว่าอยู่แถวรังสิต

    ดีเจแป๋ง : พูดแค่นี้ผมก็พอจะนึกออกแล้วล่ะครับ

    ว่าว : คือผมกับเพื่อนที่มาด้วยกันเช่าห้องพักหมายเลข 704 ที่หอแห่งหนึ่งหน้ามหาลัย มันเป็นหอนักศึกษาที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ก็เลยไม่ได้เอะใจ แต่พออยู่ไปได้สักสองสามวัน มันก็เกิดเรื่องขึ้นครับ

    ดีเจแป๋ง : ยังไงครับ

    ว่าว : ตอนนั้นเป็นเวลาตี 3 ผมอาบน้ำเสร็จก็ปิดไฟล้มตัวลงนอน แต่สักพักหนึ่งก็ผมสะดุ้งตัวตื่นขึ้น

    ดีเจแป๋ง : อื้ม

    ว่าว : ผมรู้สึกว่าเหมือนมีใครคนหนึ่งอยู่กับผมในห้อง พูดไปแล้วขนลุกเลยครับเนี่ย

    ดีเจแป๋ง : เหมือนกันครับ

    ว่าว : ผมมองไปรอบ ๆ จนกระทั่งเห็นเงาดำของผู้หญิงคนหนึ่งนั่งจ้องหน้าผมอยู่ปลายเตียง โดยระหว่างนั้นผมก็ได้ยินเพลงดนตรีไทยบรรเลงดังระงมทั่วทั้งห้องเลยครับพี่

    ดีเจแป๋ง : ครับ

    ว่าว : ตอนนั้นผมขยับตัวไม่ได้ ร่างกายมันเกร็งเหมือนถูกตรึงไว้ และทันใดนั้นผมก็เห็นเงาดำอีกร่างหนึ่งเคลื่อนตัวเข้าใกล้ตัวผมเรื่อย ๆ  ผมไม่รู้จะทำยังไงเลยตัดสินใจท่องนะโมซ้ำ ๆ กันหลาย ๆ ครั้ง จนในที่สุดก็ตื่นขึ้นมา

    ดีเจแป๋ง : ตกลงมันเป็นแค่ความฝัน

    ว่าว : ถ้ามันเป็นอย่างนั้นก็ดีสิครับพี่ ผมตื่นขึ้นสภาพเหงื่อท่วมตัวเลย ทั้ง ๆ ที่ผมนอนห้องแอร์ คงเป็นเพราะความฝันที่ผมเห็นมันเหมือนเรื่องจริงเอามาก ๆ

    ดีเจแป๋ง : แล้วยังไงต่อครับ

    ว่าว : ผมตื่นขึ้นมา มองรอบ ๆ ห้อง จนเจอบางสิ่งที่ผมไม่อยากจะเห็น นั่นคือผู้หญิงใส่ชุดไทยผมยาวคนหนึ่ง ยืนหันหน้าเข้ากำแพงมุมห้อง ตัวเธอสั่น หายใจเข้าออกดังฟืดฟาด ส่งเสียงคำรามในลำคอตลอด

    ดีเจแป๋ง : นี่ไม่ใช่ความฝันแล้วใช่ไหมครับ

    ว่าว : ครับ ตั้งแต่นี้ไปเป็นเรื่องที่เกิดกับผมจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ

    ดีเจแป๋ง : ตอนนั้นเปิดไฟยังครับ

    ว่าว : ยังเลยครับ มีแค่แสงสลัว ๆ จากพระจันทร์ที่ส่องทะลุบานเกร็ดเข้ามาเองครับ ส่วนเตียงที่ผมนอนกับมุมห้องด้านนั้นมันใกล้กันมาก พี่นึกสภาพออกไหมครับ คือผมนอนอยู่มุมบนขวา ส่วนเธอยืนอยู่ด้านล่างขวา ติดกับประตูทางออกพอดี ผมจึงมองเห็นร่างเธอได้ไม่ยาก

    ดีเจแป๋ง : อื้ม

    ว่าว : ตอนนั้นผมไม่รู้จะทำยังไง กลัวก็กลัว แขนขาสั่น ขนนี่ลุกเกรียวไปทั้งตัวเลยครับพี่ พยายามจะบอกตัวเองว่าตาฝาดแต่มันทำไม่ได้จริง ๆ ครับในเมื่อเราเห็นกับตา

    ดีเจแป๋ง : ผมพอจะเข้าใจครับว่ามันเป็นยังไง เรื่องพวกนี้ต้องเจอกับตัวครับถึงจะรู้

    ว่าว : ใช่ครับพี่ ตอนนั้นผมอยู่ในอาการช็อคไม่รู้จะไปทางไหน หัวตื้อคิดอะไรไม่ออก มันสับสนไปหมด

    ดีเจแป๋ง : ครับ

    ว่าว : พอสักพักหนึ่งนะครับ โอ้โห หัวใจแทบวาย ผมเห็นเธอค่อย ๆ หันมาหาผมครับพี่

    ดีเจแป๋ง : เหรอครับ

    ว่าว : หน้าเธอและเนื้อตัวเธอซีดขาว ตาทั้งสองข้างจ้องมองผมด้วยความโกรธ นาทีหนึ่งตอนนั้นมันนานเหมือนหนึ่งชั่วโมง ผมไม่สนอะไรทั้งสิ้น กลั้นใจรีบเผ่นออกจากห้อง พอปิดประตูเท่านั้นแหละพี่ ผมก็เห็นว่าประตูหน้าห้องของผมมียันต์สีแดง และด้านล่างยันต์ก็มีรูปสองผัวเมียแปะอยู่

    ดีเจแป๋ง : แล้วก่อนหน้านี้คุณว่าเห็นรูปที่ว่าไหมครับ

    ว่าว : ไม่เห็นครับพี่ แต่พอผมเห็นเท่านั้นแหละครับ ผมแหกปากโกยหน้าตั้งวิ่งลงบันได แบบลืมไปเลยนะครับว่าหอพักที่นี่มีลิฟต์

    ดีเจแป๋ง : สติคงไม่อยู่กับตัวแล้วตอนนั้น

    ว่าว : ใช่เลยครับ ผมวิ่งออกมาเรื่อย ๆ รู้สึกตัวอีกทีก็ยืนอยู่หน้าหอพักแห่งนั้น ผมมองหลังกลับไปกลับกลายเป็นว่าเห็นหอพักร้างตั้งอยู่ตรงหน้า จากนั้นไม่นานผมก็ได้ข่าวมาว่า ที่หอเนี้ยเคยมีช่างก่อสร้างสองคนผัวเมียมีปัญหาฆ่ากันตาย ตรงห้องที่ผมนอนพอดี

    ดีเจแป๋ง : ผมเริ่มจะขนลุกแล้วครับเนี่ย

    ว่าว : ครับ คือผัวเธอเนี้ยไปมีเมียน้อย เมียหลวงคือคนที่ผมเห็นนั่นอ่ะครับเลยมาฆ่า ส่วนไอ้เงาดำที่ผมเล่าพี่จำได้ไหมครับ

    ดีเจแป๋ง : ที่ค่อย ๆ เข้ามาใกล้คุณในฝันน่ะเหรอ

    ว่าว : ครับ นั่นน่ะเป็นร่างผัวเขา ทั้งคู่ทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นเอามีดมาไล่ฟันกัน แต่สุดท้ายก็ตายทั้งคู่ ตั้งแต่นั้นมาที่หอก็มีเรื่องมาตลอด จนเจ้าของต้องตัดสินใจนิมนต์พระมาไล่แต่ก็ไม่สำเร็จ ในที่สุดก็ต้องปิดหอนั้นไป เพราะไม่มีใครกล้าอยู่

    ดีเจแป๋ง : นี่เรื่องจริงเหรอครับ

    ว่าว : ใช่ครับ

    ดีเจแป๋ง : แล้วเพื่อนคุณอีกคนล่ะครับ

    ว่าว : เพื่อนคนใหนครับ

    ดีเจแป๋ง : อ้าว ก็ที่บอกว่ามาด้วยกันไง

    ว่าว : เปล่าครับ ผมพักอยู่คนเดียว

    ดีเจแป๋ง : ผมจำได้ว่าคุณบอกว่ามีเพื่อนมาอยู่ด้วย

    ว่าว : ไม่มีนิ จะหาว่าผมโกหกเหรอครับ

    ดีเจแป๋ง : เปล่าครับ

    ว่าว : ผมสาบาญเลยว่าไม่เคยพูดเลยครับว่ามีเพื่อนมาด้วย

    ดีเจแป๋ง : ก็ผมได้ยินอ่ะครับ เนี้ยคุณโก้แพร้วที่นั่งจัดรายการกับผมยังพงกหัวนอกห้องส่งยืนยันเลยครับว่าเค้าก็ได้ยิน

    ว่าว : เออ พอแล้ว นั่งจับผิดกันอยู่ได้ไอ้เอี้ยเอ้ย

    ดีเจแป๋ง : เดี๋ยวก่........

    ตู๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เสียงสัญญาณโทรศัพท์ถูกตัด

    จากคุณ : Natthawut - [ 26 ก.พ. 47 13:40:52 A:203.148.136.67 X:203.209.48.147 ]