มือสังหาร
เช้าวันเสาร์ที่อากาศสดใส เสียงนกร้องดังไปทั่ว เหมือนกับจะแข่งขันกันร้องเพลง เพื่อจะบ่งบอกว่าเช้าวันใหม่ได้เริ่มต้นแล้ว มีบ้านหลังงามหลังหนึ่ง อยู่ท่ามกลางความร่มรื่นของธรรมชาติ บริเวณรอบๆบ้าน เป็นสวนที่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิด บ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าของบ้านเป็นคนที่รักธรรมชาติ ซึ่งภาพธรรมชาติอย่างนี้หาดูได้ยากแล้วในสมัยของป่าคอนกรีตในปัจจุบันนี้
แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างที่เป็นกระจกของห้องนอน แสงของอาทิตย์ในยามเช้า ทำให้ชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงนอนที่แสนจะนุ่ม ไม่สามารถที่จะนอนต่อไปได้อีกแล้ว ถึงแม้ว่าที่นอนจะนุ่มน่านอนสักเท่าใดก็ตาม ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะลุกขึ้นจากเตียงนอนก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ก๊อกๆๆ พี่วินตี่นแล้วหรือยัง อาบน้ำแล้วลงมาทานข้าวค่ะ เจ้าของเสียงบ่งบอกให้รู้ว่ามีอายุน้อยกว่า
จ๊ะตื่นแล้ว เดี๋ยวพี่จะลงไป
มาวินแปลกใจทำไมวันนี้ทานข้าวเข้าแต่เช้า ด้วยความสงสัยเขาจึงหันไปมองนาฬิกาที่หัวเตียง
เอ้า นี่มันเจ็ดโมงครึ่งแล้วหรือ
เขาจึงรีบลุกจากเตียงนอน คว้าผ้าขนหนูที่พาดอยู่ข้างเตียงนอน แล้วรีบเข้าไปอาบน้ำ
บนโต๊ะอาหารเช้า ครอบครัวอยู่กันพร้อมหกน้าพร้อมตากันกินข้าวเช้า
พี่วิน พี่ไม่ลืมใช่มั๊ย ว่าวันนี้ พี่ต้องขับรถไปส่งหมิวที่โรงเรียนน่ะ
พี่ไม่ลืมหรอกจ๊ะ สาวน้อย มาวินตอบพร้อมกับยิ้มให้น้องสาว
พี่วินไม่ลืมหรอกลูก มีน้องสาวอยู่คนเดียวที่แสนจะน่ารักอย่างนี้ พี่เขาจะลืมได้อย่างไร
ผู้เป็นแม่ตอบยืนยันให้ลูกสาวมั่นใจอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ลูกสาวมั่นใจว่า พี่ชายของเธอมีความรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่คำพูดของผู้เป็นแม่นี้แฝงด้วยควายบางอย่างอยู่ ซึ่งมาวินเข้าใจดี
เอ่อ วิน ตกลงแล้วลูกได้งานใหม่แล้วใช่มั้ยลูก
ครับ งานเกี่ยวกับอะไรหรือลูก พ่อกับแม่ถามพร้อมๆกันเหมือนกับนัดกันไว้
เป็นงานส่งเอกสารครับ
เงินเดือนเยอะมั้ยพี่วิน
ก็ไม่เยอะหรอกจ๊ะ
เงินเดือนเท่าไหร่มันไม่สำคัญหรอก อยู่ที่ว่าเราทำแล้วสบายใจก็โอเคนะ
ผู้เป็นพ่อกล่าวให้กำลังใจลูกชาย ถึงแม้ว่ามาวินจะไม่มีงานทำ ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะตำแหน่งผู้จัดการแบงค์ ลำพังเงินเดือนของเขาเองก็สามารถที่จะเลี้ยงดูครอบครัวอย่างสุขสบายได้
รถเบนซ์คันหรูค่อย ๆ ชลอความเร็วลงมาจอดอยู่ที่หน้าโรงเรียนสอนเปียโน บริเวณหน้าโรงเรียนเต็มไปด้วยเด็ก ๆ ที่มาเรียนเปียโน
พี่วิน ขอบคุณค่ะ
จ๊ะ ตอนเย็นพี่จะมารับนะ
ค่ะ
รถเบนซ์คันหรูเคลื่อนตัวออกไปจากหน้าโรงเรียน
คุณครูหมิว สวัสดีค่ะ
คำสวัสดีทักทายของเด็กนักเรียนบ่งบอกให้รู้ว่า หมิวเป็นครูสอนเปียโน
สวัสดีค่ะ ทุกคน
หมิวกล่าวสวัสดีตอบกับเหล่าลูกศิษย์ของเธอ
มาวินขับรถกลับบ้าน เขาย้อนคิดกลับไปในอดีตเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว สิ่งที่เขาจำได้อย่างแม่นยำก็คือ ภาพเหตุการณ์ที่พ่อกับแม่ทะเลาะกันอย่างรุนแรง ตอนนั้นเขายังเล็ก จึงยากที่จะรู้และเข้าใจได้ พ่อได้ออกไปจากบ้านโดยที่เขาไม่รู้ว่าพ่อไปไหน หลังจากเหตุการณ์วันนั้นมาจนถึงทุกวันนี้ เขาก็ไม่ได้พบกับพ่ออีก และไม่รู้ว่าพ่ออยู่ที่ไหน พ่อยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า แม่บอกแต่เพียงว่า พ่อไปทำธุระที่ต่างประเทศ ไม่นานก็จะกลับมา ตลอดเวลาเขารอพ่อกลับมา แต่ไม่มีวี่แววอะไรเลย
หลังจากที่พ่อจากไปไม่นาน แม่ก็แต่งงานใหม่ ก่อนที่แม่จะแต่งงาน แม่ได้บอกกับเขาว่า พ่อจะไม่กลับมาแล้ว ไม่ต้องคิดถึงพ่ออีก และแม่ก็บอกอีกว่า อาบุญชูเป็นคนดี อาบุญชูจะดูแลเราสองแม่ลูก เขาจะเป็นพ่อของลูกเพราะว่าเขารักแม่และลูก ใช่ซิอาบุญชูเป็นคนใจดีคนหนึ่งที่เขาเคยเจอมา เขาจะซื้อของมาฝากทุกครั้งที่มาเยี่ยมที่บ้าน อาบุญชูเป็นคนไม่พูดมาก แต่หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ไม่เคยดุด่าพูดรุนแรงเหมือนกับพ่อ ยิ่งกับเขาแล้ว อาบุญชูจะตามใจทุกอย่าง อยากได้อะไรก็จะซื้อให้หมด นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่เขารักและเคารพอาบุญชูเหมือนกับพ่อแท้ ๆ ของเขา ส่วนอาบุญชูก็รักเขาเหมือนกับลูกแท้ ๆ เหมือนกัน เขาเป็นคนที่โชคดีคนหนึ่งที่พ่อเลี้ยงรักเหมือนกับลูกแท้ๆ และมีน้องสาวต่างบิดาที่แสนจะน่ารักและรักเขา และเขาก็รักเธอด้วย เหมือนกับเป็นพี่น้องร่วมบิดาเดียวกัน
มาวินได้รับความอบอุ่นจากแม่และพ่อเลี้ยงมาตลอดตั้งแต่เป็นเด็กจนโต เขาจึงไม่รู้สึกว่าตนเองมีปมด้อยในเรื่องนี้ แต่ลึก ๆ ภายในจิตใจของเขาแล้ว มีความแค้นที่ฝังอยู่อย่างมาก ภาพของพ่อที่ทะเลาะกับแม่อย่างรุนแรงทำให้เขาเกลียดชังพ่ออย่างมาก รอการกลับมาของพ่อ เพื่อที่จะชำระความแค้นนี้ เขาเกลียดชังพ่อที่ทิ้งเขากับแม่ไป ไม่มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว ทำให้เขาเกลียดชังทุกคนที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว คนที่เห็นแก่ตัวชอบเอารักเอาเปรียบผู้อื่น คนที่คดโกง คอรัปชั่น กินบ้านกินเมือง ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง พ่อค้ายาเสพติด ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ชั่ว ๆ ทั้งหลายแหล่ บุคคลเหล่านี้เป็นที่เกลียดชังของเขามากที่สุด เขาอยากจะฆ่าให้หมด ประเทศชาติจะได้เจริญขึ้นถ้าไม่มีคนเหล่านี้
นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขามาทำงานกับเฮียเจียง ที่จริงเขาทำงานให้กับเฮียเจียงมานานแล้ว แต่เขาไม่ได้บอกให้ทางครอบครัวได้รู้ บอกแต่เพียงว่า ยังหางานที่ถูกใจทำไม่ได้ จึงต้องย้ายที่ทำงานอยู่บ่อย ๆ มาวิน บอกกับทางครอบครัวว่าเขาทำงานส่งเอกสาร เขาไม่ได้โกหก เขาเป็นพนักงานส่งเอกสารจริง แต่เอกสารที่เขาส่งนั้นมันแตกต่างจากเอกสารของพนักงานส่งเอกสารคนอื่น ๆ เพราะเอกสารที่เขานำไปส่งนั้นคือ ความตาย ผู้ที่รับไม่เคยมีโอกาสที่จะพูดว่า ไม่รับ ไม่มีเหยื่อรายใดทีรอดพ้นจากกระสุนปืนของเขาไปได้สักคนเดียว เพราะเขาคือ มือสังหาร
มาวินกลับมาถึงบ้าน เขาคิดถึงเหยื่อที่เขาได้ส่งไปรับกรรมที่นรกนั้นรวมทั้งหมดเก้ารายแล้ว เขารู้สึกสะใจที่ได้ช่วยเหลือสังคมกำจัดคนชั่วเหล่านี้ เพราะเหยื่อแต่ละรายล้วนเป็นคนชั่วทั้งนั้น แต่ก็มีอีกความคิดหนึ่งที่เข้ามาในความคิดของเขาในคณะนี้ก็คือ ลูกของคนเหล่านี้ที่เขาฆ่าตายไปนั้นจะมีความรู้สึกอย่างไร เขาอาจจะไม่รู้เรื่องที่พ่อแม่เขาเป็นคนก่อ ก็คงจะเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องเสียพ่อแม่ไป ถ้าเขาเป็นลูกของคนชั่วเหล่านั้นก็คงจะเสียใจเหมือนกัน กรรมใดใครก่อก็ให้ผู้นั้นรับกรรมไปเถิด ความคิดของเขาตอนนี้ก็คือ ไม่อยากเป็นเพชฆาตแล้ว เพราะว่าการฆ่าคนนั้นมันก็เป็นบาป ถึงแม้ว่าคนที่เขาฆ่านั้นจะเป็นคนชั่วก็ตามทีเถอะ ปล่อยให้กฎหมายของบ้านเมืองจัดการก็แล้วกัน ให้กรรมมันตามสนองเอาเองไม่ช้าก็เร็ว เขาจึงคิดที่จะวางมือแล้วตอนนี้
หลังจากไปรับน้องสาวกลับมาจากโรงเรียนแล้ว มาวินได้ไปหาเฮียเจียง ผู้ที่รับจ้างฆ่าคนชั่วทั่วราชอาณาจักรตามใบสั่ง เพื่อขอวางมืออำลาจากวงการส่งคนลงนรก
ลื๊อคิดดีแล้วหรือ ที่จะวางมือน่ะ อาวิน
ครับเฮีย
อั๊วะพูดตรง ๆ นะ ว่าอั๊วะเสียดายลื้อ ลื้อคือมือดีของอั๊วะนา อาวิน
ถึงแม้ว่าเฮียเจียงจะพูดอย่างไรก็ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของมาวินได้แล้วในขณะนี้
เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ช่วยอั๊วะทำงานชิ้นสุดท้ายก่อนที่ลื้อจะวางมือ ตกลงมั้ย อาวิน
ตกลงครับเฮีย ผมจะช่วยเฮียเป็นครั้งสุดท้ายก็แล้วกัน
มาวิน ตอบรับข้อเสนอของเฮียเจียงที่จะรับงานเป็นครั้งสุดท้ายของเขา
ถ้างั้นก็เริ่มงานเย็นนี้เลย นี่คือเหยื่อรายสุดท้ายของลื้อ ที่ลื้อต้องจัดการ มันเป็นพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่คนหนึ่ง ที่มีตำรวจคอยให้ความช่วยเหลือมันอยู่
เฮียเจียงพูดพร้อมกับยื่นรูปถ่ายและประวัติของเหยื่อรายนี้ให้กับมาวิน
ในงานเลี้ยงฉลองวันครบรอบวันเกิดของเสี่ยสง เจ้าพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่จอมอิทธิพลที่มีตำรวจกังฉินคอยหนุนหลังอยู่ มาวินมาตามใบสั่งของเฮียเจียง เขารอจังหวะที่เหยื่อเป่าเค็ก เสียงปรบมือดังไปทั่วบริเวณงาน พร้อมกับร่างของเสี่ยสงล้มหน้าคว่ำลงไปนอนกองกับกองเลือดที่พุ่งออกมาอย่างไม่หยุด เพราะถูกกระสุนปืนของมาวินเจาะเข้าไปที่หัวใจ เสียงกรีดร้องของแขกที่มาร่วมงานด้วยความตกใจกลัว ผู้คนต่างวิ่งออกจากบริเวณงานอย่างรวดเร็ว มาวินหันหลังกลับออกมาพร้อมกับผู้คนที่กำลังวิ่งกันออกนอกบริเวณงาน งานครั้งสุดท้ายของมาวินเสร็จสิ้นลงแล้ว เหยื่อกระสุนปืนของเขาไม่มีโอกาสหายใจอีกต่อไป
ณ.บ้านของเฮียเจียง
นี่เป็นเงินสำหรับงานสุดท้ายในครั้งนี้ของลื้อ
เฮียเจียงยื่นเงินก้อนหนึ่งให้กับมาวิน
ขอบคุณครับเฮีย
เมื่อเสร็จธุระแล้ว มาวินจึงลาเอียเจียงกลับบ้าน
เฮียจะปลอ่ยมันไปจริง ๆ หรือ
ลูกน้องคนหนึ่งของเฮียเจียงถาม
ไม่หรอก ขึ้นหลังเสือแล้ว จะลงง่าย ๆ ได้อย่างไร มันลงไม่ได้หรอก เราทำงานฆ่าคนชั่วก็จริง แต่ฆ่าคนตายยังไงก็ต้องมีความผิดตามกฎหมาย ถ้ามันเปิดโปง อั๊วะก็เดือดร้อนน่ะสิ พวกลื้อเข้าใจใช่มั้ย ว่าจะต้องทำอย่างไร
ภายในบ้านครอบครัวของมาวินกำลังรับประทานอาหารกันอยู่
พ่อครับ ผมรักพ่อ ถึงแม้ว่าพ่อไม่ใช่พ่อแท้ ๆ ของผมก็ตาม
มาวินได้พูดคำนี้ออกมาเหมือนกับว่าเขาจะไม่มีโอกาสได้พูดมันอีก
ทุกคนหยุดนิ่งที่ได้ยินเขาพูดคำนี้ออกมา โดยเฉพราะหมิว ซึ่งเธอไม่รู้มาก่อนว่า มาวินไม่ใช่พี่ร่วมบิดาของเธอ มีแต่เธอเท่านั้นที่ไม่รู้เรื่องความลับนี้เพราะทุกคนปิดบังไม่อยากให้เธอรู้
วิน พ่อรู้ว่าลูกรักพ่อและพ่อก็รักลูกด้วยเช่นกัน แต่ทำไม จู่ ๆ พูดเรื่องนี้ออกมาล่ะลูก
ผมเกรงว่า ผมจะไม่มีโอกาสได้พูดกับพ่ออีก ขอบคุณพ่อมากครับ ที่ดูแลแม่และเลี้ยงดูผมมาจนโต พ่อดีกว่าพ่อแท้ ๆ ของผมเป็นพันเท่า ผมดีใจที่ได้เป็นลูกของพ่อ ถึงแม้จะไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของพ่อก็ตาม
บรรยากาศของอาหารเย็นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แม่โผเข้ามากอดมาวิน พร้อมกับเสียงร้องไห้
พ่อเลี้ยงของเขาเองก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เหมือนกัน สามพ่อแม่ลูกกอดกันร้องไห้ทิ้งให้หมิวต้องงงอยู่คนเดียวว่า นี่มันเกิดอะไรขึ้น
เช้าวันใหม่ที่อากาศสดใส เสียงกริ่งดังขึ้น หมิวจึงเดินไปดูที่ประตูบ้าน
น้อง มาวินอยู่มั้ย พี่เป็นเพื่อนของเขามีธุระจะคุยกันหน่อย
หมิวหันไปจะเรียกมาวิน ซึ่งกำลังเดินออกมาจากประตูบ้านอยู่พอดี
ปัง ปัง
เสียงปืนดังขึ้นก่อนสองนัดก่อนที่หมิวจะเรียกมาวิน ร่างของมาวินล้มลงที่หน้าประตูบ้าน หมิวแทบจะช๊อค เมื่อเห็นพี่ชายถูกยิง
กรี๊ด
เสียงร้องตกใจอย่างสุดขีดของหมิว ดังไปถึงห้องชั้นบนของบ้าน ทำให้พ่อกับแม่ตกใจ วิ่งลงมาดู
พวกเขาแทบจะช๊อก เมื่อเห็นร่างของลูชายนอนอยู่ที่หน้าระตูบ้าน มีเลือดเต็มตัวไปหมด ผู้เป็นแม่วิ่งไปกอดลูกชายไว้ พรอ้มกับเสียงสะอื้นร้องออกมาแทบจะขาดใจ
ช่วยด้วยพ่อ ช่วยพาลูกไปส่งโรงบาลที ฮือ ฮือ ฮือ ลูกแม่ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้
ผู้เป็นพ่อรีบอุ้มร่างของลูกชายขึ้นรถ พร้อมกับขับตรงไปยังโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว แต่ดูเหมือนว่าจะสายเกินไปเสียแล้ว มาวินทนพิษของบาดแผลไม่ไหว เขาสิ้นใจก่อนจะไปถึงโรงพยาบาล
หลังจากการตายของมาวิน ทุกคนในครอบครัวของเขาต่างเศร้าโศกเสียเป็นอย่างมาก ทางตำรวจได้สอบสวนในคดีนี้ แล้วได้บอกความจริงกับครอบครัวของมาวินได้รับรู้ว่า มาวินเป็นมือปืนรับจ้าง ที่อยู่ในบัญชีดำของทางตำรวจ ทุกคนต่างตกใจและไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตำรวจบอก แต่ทางตำรวจก็มีหลักฐานยืนยันได้ว่าเป็นความจริง จากการสอบสวนตำรวจสันนิฐานว่า เกิดจากการขัดแย้งกันระหว่างมาวินกับผู้จ้างวาน เพราะกลัวว่าจะถูกมาวินเปิดโปง จึงฆ่าปิดปาก
นี่เป็นความจริง ผู้ที่ขึ้นขี่บนหลังเสือแล้ว จะลงมาไม่ได้อย่างเด็ดขาด ถ้าลงมาแล้วก็จะเป็นเหมือน มาวิน
มนุษย์ไม่มีสิทธิ์ที่จะตัดสินชี้เป็นชี้ตายให้กับมนุษย์ด้วยกัน พระเจ้าเป็นผู้ตัดสินแต่เพียงผู้เดียว กฎหมายของบ้านเมืองเป็นเครื่องมือของพระเจ้าที่จะลงโทษผู้กระทำผิด
จากคุณ :
ซูนิโอะ
- [
27 ก.พ. 47 13:47:52
A:203.121.147.122 X:
]