ยายปิ๋วหญิงชราวัย 68 ปี
ผมแห้งกรอบเป็นซังข้าวโพด
ดวงตารีเล็กหยี่เหมือน
เม็ดก๋วยจี๊ส่อแววเอาแต่ใจตัวเองอย่างเด่นชัด
รูปร่างแกผอมแห้งแต่แรงแกไม่น้อย !! แกสามารถช่วยพลิกตะแคงตัวเองได้
ลุกนั่ง ( พรวดพราด ) ขี้นมาเองได้
แต่ทว่าพอแกลุกนั่งขึ้นมาครั้งใดก็จะมีเสียง
โวยวายตามมาทุกครั้ง ยายปิ๋ว
ระวังหน่อยสิคะ
สายท่อช่วยหายใจมันรั้ง
เห็นไหม...เดี่ยวก็หลุดหรอก
ถ้าท่อของยายหลุดหมอมาช่วยไม่ทัน
ยายจะปิ๋ว
สมชื่อจริง ๆ ด้วยนะ
แต่อย่านึกว่าแกจะกลัวคำพูดเหล่านั้นนะครับ
. ยายปิ๋วแกเข้า ๆ ออก ๆ โรงพยาบาลเป็นประจำด้วยโรคหอบหืด
เรื่องการใส่ท่อช่วยหายใจรวมครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่สามเข้าไปแล้ว
ดังนั้นแกจึงจัดอยู่ในกลุ่มผู้ป่วยที่เรียกว่า
แก่ward ซึ่งหมายถึงผู้ป่วยที่คุ้นเคยกับโรงพยาบาลเป็นอย่างดี....คุ้นเคยกับการรักษา
คุ้นเคยกับหน้าตาของแพทย์และพยาบาล
ความคุ้นเคยเหล่านี้ส่งผลทำให้
ยายปิ๋วมีความมั่นอกมั่นใจเกินร้อยว่าตัวของแกนั้นสามารถเข้าร่วมอยู่ใน
ทีมการรักษาได้ !!!
นี่ไม่ได้หมายถึงสิทธิในการตัดสินใจว่าจะรักษาหรือไม่ของผู้ป่วยนะครับ
ยายปิ๋วแกมาเหนือเมฆกว่านั้น...คือแกตัดสินใจแล้วว่าจะรักษา
แต่แกมีสิทธิที่จะปรับเปลี่ยนวิธีการรักษาด้วยตัวของแกเองได้ทุกเมื่อครับ !!!
สองวันหลังจากย้ายลงมาอยู่หอผู้ป่วยหนัก
.หมออานนท์เจ้าของไข้จึงเริ่มทำการหย่าเครื่องช่วยหายใจหรือที่เรียกว่า weaning ซึ่งหมายถึงวิธีการที่จะช่วยให้ผู้ป่วยเลิกใช้เครื่องช่วยหายใจไม่ต้องพึ่งเครื่องอีกต่อไปให้กับยายปิ๋ว
ดวงตาเล็กหยี่สองข้างมองตามมือของหมออานนท์ซึ่งกำลังหมุนปรับปุ่มต่าง ๆ ของเครื่องช่วยหายใจเพื่อลดการทำงานของเครื่องให้ช่วยแกได้น้อยลงทั้งนี้เพื่อฝึกให้แกหายใจด้วยตนเองทีละนิดอย่างสนอกสนใจ
แน่นอนครับว่ายายปิ๋วเคยผ่านกระบวนการฝึกหายใจมาแล้วอย่างน้อยสองครั้งจากการใส่เครื่องช่วยหายใจครั้งก่อน
รวมทั้งที่แกแอบสังเกตจากผู้ป่วยอื่น ๆ
ข้างเตียงเข้าไปด้วยอีกหลายครั้ง
.มาครั้งนี้แกจึงค่อนข้างมั่นอกมั่นใจว่า
ข้าทำได้
ไม่ยาก
วันนี้เป็นวันที่ยายจ๊อบของผมไม่ได้ขึ้นเวร
.ผมจึงรู้สึกเหงา ๆ หลังจากนั่งสังเกตลักษณะของยายปิ๋วจนหมดความสนใจแล้ว
ผมจึงเริ่มลอยตัววนไปวนมาเล่น
รอบ ๆ หอผู้ป่วยอย่างเบื่อ ๆ
.ยายมอยออกไปทำพิธีกรรมพยาบาทผู้ป่วยใหม่
VIP ที่เพิ่งเข้ามา
นัยว่าเป็นแม่ยายทางฝ่ายภรรยาน้อยของรัฐมนตรีครับ
หอผู้ป่วยพิเศษถึงกับต้องเปิดห้องเดอร์ลุกซ์สองห้องให้ญาติท่านพักผ่อน
ยายมอยแกมีความหวังว่าจะต้องได้เครื่องเซ่นเป็นบุหรี่นอกหรือเหล้านอกนะครับคราวนี้
ช่วงหลังแกปรับปรุงการทำงานของแกเป็นระบบขึ้น
มีการแยกลูกค้าออกเป็น
กลุ่มรวยมาก
กับกลุ่มรวยน้อย
ถ้ารวยมากเครื่องเซ่นก็ต้องมากตามฐานะ... ขืนมางกหรือทำตัวขี้เหนียวยายมอยแกจะอาละวาดไม่มีหยุด
พระสงฆ์องค์เจ้าแกก็ไม่เคยเว้น ( ถ้าท่านไปเข้าข้างคนรวย )
หลังจากลอยตัววนไปวนมาด้วยความเบื่อสักพัก
ผมคิดขึ้นมาได้ว่าน่าจะออกไปเที่ยวเล่นที่ภาควิชากายวิภาคดีกว่า
ที่นั่นมีโครงกระดูกมนุษย์ที่ถูกนำขึ้นมาจัดติดแขวนโชว์ให้เห็นเป็นรูปร่าง
มีซากมนุษย์ทั้งแบบเต็มตัวหรือแบบเป็นชิ้นเป็นส่วนต่าง ๆ ให้ศึกษา
บางชิ้นส่วนยังแถมป้ายปักบอกชื่อด้วยว่าเรียกว่าอะไร
รอบ ๆ ห้องมีโถแก้วหลายขนาดทั้งเล็กและใหญ่....ภายในบรรจุซากศพของทารกในวัย
ต่าง ๆ ( แน่นอนว่าวิญญาณของทารกเหล่านี้ได้เดินขึ้นไปบนบันไดสีขาวที่ทอดยาวมาตามสายรุ้งกันหมดแล้ว )
ถ้าผมโชคดีอาจมีนักศึกษาแพทย์บางคงหลงเหลืออยู่ที่นั่น
ผมจะได้ทำให้โครงกระดูกสั่นไหวหลอกพวกนั้นให้ตกใจเล่น
เมื่อตัดสินใจแล้วผมจึงเตรียมตัวที่จะลอยออกจากห้อง
.แต่แล้วสายตาของผมก็หยุดอยู่ที่
.
มือผอมแห้งของยายปิ๋วค่อย ๆ เอื้อมไปที่ปุ่มต่าง ๆ ของเครื่องช่วยหายใจ
.แกคงรู้สึกหายใจลำบากขึ้นครับเพราะเครื่องไม่ได้ช่วยแกอย่างเต็มที่เหมือนเดิม
ดังนั้นแกจึงคิดว่าควรจะปรับเปลี่ยนการรักษาใหม่ด้วยตนเองเสียที
มือผอม ๆ ถอยกลับมาหลังจากที่แกปรับจนพอใจ
นี่ถ้าจ๊อบอยู่เวรผมคงหาทางทำอะไรให้จ๊อบสังเกตเห็นแล้ว
แต่เมื่อจ๊อบไม่ได้อยู่เวร
วันนี้ผมจึงยึดหลักอุเบกขาวางตัวเป็นกลางและแอบดูต่อไป
เอ๊ะ ! ทำไมหมออานนท์ตั้งเครื่องแบบนี้
ไม่เห็นเหมือนใน order เลย หนูโอ๋พบเห็นความผิดปกติภายในเวลา 3 นาทีต่อมา
เธอเป็นคนละเอียดมากครับ
ตากลมโตสำรวจปุ่มต่าง ๆ ตามใบคำสั่งของแพทย์อย่างถี่ถ้วน
พี่พริ้ม
หนูจะปรับตามที่หมอ order นะ
ดูสิใครก็ไม่รู้มาปรับออกซิเจนขึ้นเป็น 100 % แน่ะ
ตลก !! น้ำเสียงที่เน้นคำว่าตลกนั้นถ้าใครได้ยินจะรู้ว่าเจ้าตัวไม่ได้ตลกจริง ๆ อย่างที่เธอพูด
ยายปิ๋วเริ่มรู้สึกเหนื่อย !! มือผอมแห้งค่อย ๆ คืบเข้าหาปุ่มต่าง ๆ ของเครื่องช่วยหายใจอีกครั้งในขณะที่พยาบาลและผู้ช่วยพยาบาลหลายคนกำลังดูดเสมหะให้
ผู้ป่วยคนอื่น ๆ ไม่มีใครสังเกตเห็นแกอีกเช่นเคย
โอ๊ย
จะบ้าตายใครมาปรับเครื่องอีกแล้ว
ตลก ๆ ๆ ๆ หนูโอ๋โวยวายตามหลังมาอีกไม่กี่นาที
เธอได้รับจ่ายงานให้ดูแลยายปิ๋วกับลุงบุญซึ่งนอนอยู่เตียงใกล้ ๆ กัน
.ลุงบุญพยายามชี้ไม้ชี้มือบอกหนูโอ๋
แต่ดวงตาเล็กหยี่ที่มองตรงไปด้วยประกายอาฆาตทำให้ลุงบุญชะงักเก็บไม้เก็บมือทันทีทันใด
ผีหรือเปล่านะ
มาปรับ ทั้งผมและยายปิ๋วสะดุ้งสุดตัวพร้อมกัน !!!!
อย่ามั่วครับหนูโอ๋
โปรดอย่ามั่ว
ผู้กระทำผิดย่อมถูกจับได้ฉันใด
..ยายปิ๋วย่อมถูกจับได้ฉันนั้น !! หนูโอ๋มองเห็นการกระทำของยายปิ๋วคาตาในครั้งที่ห้าของการปรับเครื่องช่วยหายใจ
ยายปิ๋ว !!!
. นี่ยายกลายเป็นหมอไปตั้งแต่เมื่อไหร่หาาาา
หนูโอ๋ตีมือแกดังเพี๊ยะเบา ๆ ด้วยความแค้นใจ .. ดูสิปรับออกซิเจนเป็น 100 % ยายอยากให้ปอดยายพังหรือไง...แล้วนี่หมอเค้ากำลังฝึกยายหายใจอยู่นะ
ยายเข้าใจไหม ? ยายต้องทนเหนื่อยนิดหน่อย
ยายอยากอยู่โรงพยาบาล
ไปตลอดเหรอ
ยายไม่อยากเอาท่อออกเหรอ
นี่ดีนะที่ไม่ปรับปุ่มอื่น ๆ ถ้าปรับไปโดนปุ่มที่เป็นอันตรายปอดแตกมาจะว่าไง
.หนูต้องโดนเขียนรายงานเพราะยายแน่ ๆ
โอ๊ย
ตลก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
หนูโอ๋โวยวายพูดย้ำตลกได้สักสิบครั้งก็มีผ้าผูกข้อมือหล่นตุ๊บลงมาตรงหน้า
มัดมือเลยโอ๋
.ไม่ต้องตลกหรอก เสียงน้องผู้ช่วยพยาบาลอีกคนตัดสินใจพร้อมจับมือผอมแห้งของยายปิ๋วไว้เพื่อเตรียมผูกผ้ามัดมือ
ว่าแล้ว
ในที่สุดก็ถูกจับมัดจนได้นะยาย
.ผมส่ายศีรษะอย่างปลง ๆ เมื่อคุณป่วยขอให้รู้เถอะว่าเก่งมาจากไหนก็แพ้พยาบาลครับ
.ผลั๊กกกก
.เสียงฝ่าเท้ากระทบเนื้อดังสนั่นในความเงียบพร้อมกับ .." โอ๊ยยย
น้องผู้ช่วยพยาบาลนอนลงไปกองอยู่กับพื้นในท่าเอามือกุมท้อง
ขณะที่ฝ่าเท้าผอม ๆ ดำ ๆ แตกระแหงของยายปิ๋วถูกชักกลับเข้าหาตัว
ในท่าเตรียมพร้อม
ถีบ
ครั้งต่อไป !!!
ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ แกชะงักค้างไปชั่วขณะ
" ยายปิ๋ว
ทำไมทำอย่างนี้ เสียงหนูโอ๋แหวดังขึ้นมาก่อนเพื่อน...น้องผู้ช่วยพยาบาลถูกประคองให้ลุกขึ้นจากพื้น
คิดสู้เหรอยาย
.มาเลยพวกเรา เสียงวี๊ดว๊าย
อลหม่านไปหมดของการต่อสู้
ดังขึ้นไม่นานก็สงบลงด้วยภาพ
ยายปิ๋วหน้างอดวงตาหยี่เหมือนงูกลอกกลิ้งไปมาด้วยความโกรธแค้น
.มือและเท้าทั้งสองข้างถูกจับมัดแน่นด้วยผ้าผูกข้อมืออย่างน้อยข้างละสองผืน !!
ทีหลังอย่าทำอย่างนี้นะยาย
.ยายไม่ได้มีเท้าคนเดียวนะ
หนูก็มี หนูโอ๋ปิดท้ายด้วยความโมโห ( ผมสังเกตเห็นว่าแขนของเธอมีรอยแดงจากการโดนหยิก )
ฮะแอ่ม ๆ พี่จิ๋วหัวหน้าหอผู้ป่วยกลับมาจากการประชุมเดินเข้ามาพอดี
การดูแลผู้ป่วยต้องระวังด้วยนะคะ
อย่าทำร้ายผู้ป่วยด้วยกาย
วาจา
ใจ
" ทียายล่ะพี่จิ๋ว
ถีบองุ่นจนจุกไปเลย
ยายแกไม่ได้ตั้งใจหรอก
แกคงเครียด พี่จิ๋วยังคงยิ้มอย่างใจดี ( เพราะไม่ได้โดนเอง )
เครียดอย่างนี้ใครก็เครียดได้สิ
. ไม่ได้ตั้งใจแต่ถีบถูกทุกครั้งเลยนะ หนูโอ๋ยังคงบ่นกระปอดกระแปดแต่ความแรงของอารมณ์ลดลงเนื่องด้วยความเกรงใจ
หัวหน้า
เอาเถอะ
ใจเย็น ๆ ท่องไว้
จรรยาบรรณวิชาชีพ
มัดแกแล้วก็แล้วไปอย่าไป
ดุว่าแกเลย
หลังจากนั้นเรื่อง
ฝ่าเท้าไร้เงา
.ของยายปิ๋วจึงถูกส่งต่อกันมาเป็นทอด ๆ จากเวรหนึ่งสู่เวรหนึ่งในช่วงของการส่งเวรอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งอาทิตย์จนทุกคนรับทราบถึงฤทธิ์เดชแกกันถ้วนหน้า
.เรื่องนี้ส่งผลให้อนาคตของยายปิ๋วดับวูบ
.แกไม่เคยได้รับอิสระภาพอีกเลยโดยเฉพาะในส่วนที่เรียกว่า
เท้า..!!
ฮั่นแน่
.พี่จ๊อบวันก่อนขึ้นรถไปกับใครกันน๊าาา
เสียงยายแหม่มพยาบาลผมหยิกทักขึ้นเมื่อยายจ๊อบกลับมาขึ้นเวรตามปกติ
.ผมไม่ได้เจอจ๊อบมานานพอเห็นเธอเท่านั้น
โลกแคบ ๆ ภายในห้องก็สว่างไสว
ไม่มีอะไร ยายจ๊อบทำเสียงปกติขณะเดินไปเซ็นชื่อในสมุดจ่ายงาน
" ไม่มีอะไรได้ไงหนูเห็นน๊า
ใครก็ไม่รู้หน้าตาหล่อน่ารัก ๆ
. ประโยคต่อมาทำให้ทั้งห้องอื้ออึงไปด้วยคำถาม ใครเหรอ ๆ ๆ
ผมรู้สึกตัวและจิตใจเบาโหว่ง
สับสน
จ๊อบไปกับใคร ???
อย่าทำให้เป็นเรื่องสิแม่ของพี่ป่วย...หมออภิวัฒน์เผอิญช่วยไปดูอาการให้
ก็เท่านั้น
เผอิญหรือตั้งใจก็ไม่รู้นะค๊าาา
.ที่หนูเห็นน่ะหน้าระรื่นเชียว
ความหวงแล่นเข้ามาจับขั้วหัวใจไอ้หน้าจืดไปดูแลแม่ของยายจ๊อบ !!!
ภาพหญิงวัยกลางคนท่าทางอ่อนโยนดวงหน้าประพิมพ์ประพายคล้ายบุตรสาวที่เคยยิ้มมองผมอย่างเอ็นดูแล่นวาบเข้ามาในสมอง
แล้วมาเที่ยวบ้านแม่บ่อย ๆ นะตาพี
บ้านนี้ไม่มีผู้ชาย
พอมีผู้ชายเข้ามาทำให้ดูครึกครื้นขึ้นเยอะเลย
ความเอื้ออารีของท่านผมไม่เคยลืม
ในวันงานเผาร่างของผม
ท่านแอบยืนร้องไห้เงียบ ๆ โดยไม่ยอมให้บุตรสาวเห็น
พร้อม ๆ กับความรู้สึกหวงเหมือนจะเป็นบ้า
.ความรู้สึกท้อแท้ก็ประดังโถมเข้ามา
ผมมันเป็นใคร....ผมมันก็แค่ผีที่เฝ้าวนเวียนไม่ยอมไปผุดไปเกิดในโรงพยาบาลตนหนึ่ง
ผมไม่มีปัญญาแม้กระทั่งการช่วยขับรถพาคุณแม่ของเธอมาโรงพยาบาล
ผมมันแค่ไอ้ผีหน้าโง่ที่มีความหวังลม ๆ แล้ง ๆ
.ฝังใจจมอยู่กับความทรงจำที่ไม่อาจสมหวังได้ก็เท่านั้น
ดีใจที่จ๊อบยอมรับหมออภิวัฒน์ได้นะ ยายพริ้มเดินเข้าไปแอบคุยกับยายจ๊อบเบา ๆ
แค่รู้สึกว่าเค้าใจดีก็เท่านั้นนะพริ้ม
นั่นเป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้วล่ะ
จ๊อบไม่เคยมองใครอีกเลยจนเค้าเป็นห่วงนะ
หมออภิวัฒน์มาถามเค้าเกี่ยวกับเรื่องของจ๊อบตั้งหลายอย่าง
.หมอชอบจ๊อบมากนะ
.แล้วอีกอย่างหมอเค้าเป็นคนดีด้วย ยายพริ้มทำตัวเป็นแม่สื่อแม่ชัก
จนน่าหมั่นไส้
แต่
พี่พี เสียงของยายจ๊อบลังเล
น้ำตาค่อย ๆ เอ่อคลอก่อนที่เจ้าตัว
จะกระพริบกลบเกลื่อนหายไป
จ๊อบ
พี่พีตายไปตั้งนานแล้วนะ
.จะปล่อยตัวเองให้จมอยู่กับอดีตทำไม
โอกาสดี ๆ ในชีวิตไม่ได้มีมาบ่อยนักหรอกนะ
. เค้าไม่อยากเห็นตัวเองอยู่กับความหลังจนแก่
. ป่านนี้พี่พีไปเกิดใหม่ตั้งไม่รู้กี่ครั้งแล้ว
ยายพริ้มเอ็ดยายจ๊อบเบา ๆ
ประโยคนั้นทำให้ผมโกรธมาก
.คืนนั้นผมอาละวาดครับ
ผมทำให้ไฟปิด ๆ เปิด ๆ หลายครั้งหลายหน
เฝ้ามองความวุ่นวายของเหล่าพยาบาลและผู้ช่วยพยาบาลที่ต้องวิ่งไปบีบถุงบีบลมเข้าปอดให้ผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เนื่องจากเมื่อไฟฟ้าดับเครื่องช่วยหายใจจะไม่ทำงาน
ผมรู้สึกสะใจที่เห็นผู้ป่วยบางคนเหนื่อย
สะใจที่เห็นทุกคนไม่มีความสุข
เมื่อผมไม่มีความสุขทุก ๆ คนก็ไม่ควรมีความสุขเหมือนผม !!
คืนนั้นผมไปยืนน้ำตาคลอ
. อยู่ในความฝันของยายจ๊อบ !!! จ๊อบ
ลืมพี่พีแล้ว
ใช่ไหมครับ ?
แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 47 19:53:04
แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 47 19:39:20
จากคุณ :
กอวา
- [
27 ก.พ. 47 19:28:38
]