ตอนที่ 1 เขตต้องห้าม
"หยุดนะ....อย่าขึ้นไป"
เสียงร้องอย่างตกใจสุดขีดของยะหยา หรือคุณย่าของหนูป๊อบปี้ดังขึ้น ทันทีที่เหลือบไปเห็นว่าหลานสาววัยขวบครึ่งกำลังกึ่งเดินกึ่งคลานขึ้นบันได
เด็กน้อยหันหลังกลับไปยังที่มาของเสียง ปากสีชมพูเล็กๆบิดเบ้ไปมา น้ำตาร่วงรินจากดวงตากลมโต
"ฮือๆๆๆๆ"
"โอ๋..เสียใจ..เสียใจ..คุณย่าขอโทษ"
คุณย่ารีบวางมือจากการพับเสื้อผ้ามารับขวัญหลานสาวตัวน้อย
"นิ่งซะนะลูกนะ...โอ๋..อย่าร้องเดี๋ยวคุณย่าพาออกไปเดินเล่นข้างนอกดีกว่านะจ๊ะ ไปใส่รองเท้ากัน"
ผู้เป็นย่าจูงมือเด็กหญิงซึ่งแสดงท่าทางยินดีที่จะได้ออกนอกบ้าน มาสวมรองเท้าและหยิบหมวกที่มีหูกระต่ายสีชมพูมาครอบศรีษะหลาน
"ไป..กระต่ายน้อยไปเที่ยวกัน "
ก่อนที่จะลับตัวออกจากประตู คุณย่าหันไปทางบันไดจุดเกิดเหตุ พร้อมกับส่งเสียงดุๆกับใครสักคนที่มองไม่เห็นตัวว่า
"เอ้า..จะทำอะไรก็รีบๆทำเข้า "
ทันทีที่สองย่าหลานพ้นประตูบ้าน เงาร่างๆหนึ่งก็วิ่งลงบันไดมาอย่างรวดเร็ว เมื่อลงมาถึงประตูที่กั้นระหว่างห้องนั่งเล่นและบันไดที่ขึ้นสู่ตัวบ้านด้านบน ก็กระชากประตูเปิดอย่างแรงโดยไม่สนใจว่าเมื่อผ่านมาแล้วประตูจะตีกลับเสียงดังเพียงไร
ปัง..โครม..เพล้ง
เสียงประตูกระแทกดังตามมาด้วยเสียงอะไรสักอย่างที่มีน้ำหนักมากกระทบพื้นและตามมาติดๆด้วยเสียงแก้วแตกดังออกมาถึงนอกรั้ว อานุภาพของเสียงดังกล่าวทำให้คุณย่าต้องออกปากฝากหลานไว้กับคุณยายข้างบ้านที่กำลังยืนคุยกันอยู่ แล้วรีบเดินเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว
ภาพที่เห็นปรากฎในสายตาของคุณย่าจนทำให้ต้องยกมือขึ้นทาบอกอย่างลืมตัวคือ เงาไหวๆของใครคนหนึ่งที่ตะลีตะลานวิ่งกระเผลกๆกลับขึ้นไปยังชั้นบน โดยทิ้งร่องรอยของตู้เย็นที่เปิดทิ้งไว้ กองของเล่นที่มีร่องรอยกระเซ็นของนมเปรี้ยวรสสตรอเบอรี่ และรอยเปียกบนพื้นที่เช็ดไว้อย่างลวกๆ ในถังขยะใบเล็กๆใกล้ๆตู้เย็นมีเศษแก้วแตกกองอยู่
ปัง
เสียงประตูที่ตีกลับ
ดังสะท้อนก้องเข้าไปในหัวใจของคุณย่า
ตอนที่ 2 เด็กดื้อ
สิบโมงเช้าของทุกๆวัน เป็นเวลาที่หนูป๊อปปี้ต้องอาบน้ำ
ในวันที่อากาศดีหนูป๊อปปี้จะได้อาบน้ำในสวนดอกไม้ของคุณย่าซึ่งอยู่ติดกับห้องนั่งเล่นของครอบครัว
แก้วเอ๊ย..มารองน้ำให้น้องอาบหน่อย
เสียงคุณย่าร้องบอกพี่แก้ว ผู้ซึ่งคุณพ่อคุณแม่บอกว่าเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้กับทุกคนในบ้าน
พี่แก้วยกกะละมังสีฟ้ามาวางบนพื้นกระเบื้องใต้ต้นแก้ว รองน้ำใส่จนเกือบเต็มจากนั้นจึงอุ้มเด็กหญิงลงกะละมัง
หนูป๊อปปี้ชอบอาบน้ำมากที่สุด แม้จะรำคาญอยู่บ้างเวลาที่ผู้ใหญ่เอาแชมพูมาละเลงบนผม หรือจับถูสบู่
แต่เมื่อกระบวนการเหล่านี้เสร็จสิ้น หนูก็จะได้เพลิดเพลินกับของเล่นลอยน้ำทั้งหลายที่พี่เลี้ยงนำมาให้อยู่ท่ามกลางสวนไม้ดอกที่ส่งกลิ่นหอมเย็นชื่นใจ มีผีเสื้อสีสวยๆบินไปบินมาให้ดู หนูป๊อปปี้จึงเล่นน้ำอย่างเพลิดเพลินจนไม่อยากจะขึ้นเสมอๆ
ขึ้นได้แล้วมั๊ง..ลูก
เสียงคุณย่าซึ่งกำลังนั่งจิบชาอ่านหลังสือพิมพ์อยู่ข้างหน้าต่างที่เปิดถึงสวนดอกไม้ มองลอดแว่นออกมาคุยด้วย
ม่าย..ยยๆๆๆๆ เป็นเสียงสื่อสารที่แปลว่าไม่ยอมขึ้นเด็ดขาดตามมาด้วยเสียงร้องโยเย และการวักน้ำใส่พี่เลี้ยงพัลวัน
ตามใจ..ตามใจ..ให้เล่นอีซักพักก็ได้แก้ว ประโยคหลังคุณย่าหันไปบอกกับพี่เลี้ยง
เวลาผ่านไปอีกครู่ใหญ่ คุณย่าถือผ้าเช็ดตัวเดินออกมาที่ลานร่มไม้
คุณหลานเห็นดังนั้นก็เริ่มแผลงฤทธิ์ด้วยการทิ้งตัวลงไปในกะละมังที่พี่เลี้ยงแอบตักน้ำออกเกือบหมด
(พี่เลี้ยงรู้งานดีมาก ทำงานอย่างรวดเร็วเพราะต้องเจอกับสงครามย่อยเช่นนี้ทุกวัน)
เสียงร้องแปดหลอดของคนตัวเล็กที่กำลังเอาแต่ใจได้ยินไปสามบ้านแปดบ้าน ส่งผลให้ใครคนหนึ่งในเครื่องแต่งกายสีหม่นปรากฏตัวขึ้นที่ระเบียงชั้นบนซึ่งยื่นออกมาเหนือสวนดอกไม้นั้น
ดื้อนักนะ
ขึ้นมาเดี๋ยวนี้ เสียงแหบต่ำแต่ทรงพลังดังขึ้นมาแทรกเสียงแปดหลอดของเด็กดื้อ สะกดให้ความดื้อค่อยๆหงอจนกลายมาเป็นความสงบนิ่ง
ป๊อบปี้กางแขนยอมให้คุณย่าเอาผ้าห่อตัวขึ้นจากกะละมังโดยดี
จากคุณ :
ไม้ระแนง
- [
29 ก.พ. 47 21:35:53
A:202.57.184.168 X:
]