แต่เล่าให้เด็กข้างบ้านฟังเสร็จสดๆร้อนๆวิจารย์หน่อยค่ะมีสองตอนจบให้เลือกด้วยค่ะ
ศึกเมืองสวนผัก (มณฑิรา)
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเมืองอยู่เมืองหนึ่งชื่อเมืองสวนผัก ในเมืองสวนผักแห่งนี้ชาวเมืองอยู่กันอย่างมีความสุขมาช้านาน จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่งก็ปรากฏว่ามีฝูงหนอนผีเสื้อตัวร้ายเข้ามารุกราน รุมกัดกินประชากรผักล้มตายไปมากมาย ชาวเมืองเดือดร้อนจนทนไม่ไหวจึงพากันเดินทางเข้าไปในวังเพื่อขอความช่วยเหลือจากท่านเจ้าเมือง
ชาวเมืองผักกาด เจ้าหนอนผีเสื้อวายร้ายกัดกินชาวบ้านล้มตายไปมากเหลือเกิน ที่เหลือก็หนีกันหัวซุกหัวชุนพระเจ้าค่ะ
เจ้าเมือง ไม่ต้องห่วงเราจะส่งอัศวินที่เก่งที่สุดของเราไปปราบพวกมันเอง ว่าแล้วเจ้าเมืองสวนผักก็สั่งให้อัศวินที่เก่งที่สุดไปกำจัดฝูงหนอน
แต่ไม่ว่าพระราชาจะส่งอัศวินออกไปสักกี่คน คนแล้ว คนเล่า ก็ไม่มีอัศวินคนใดกลับมาได้เลย อัศวินผักทุกคนถูกฝูงหนอนกัดกินจนหมด สุดท้ายอัศวินในวังแทบจะไม่มีเหลือ
ชาวเมืองผักเดือดร้อนมากขึ้นทุกวัน เพราะประชากรหนอนเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เจ้าเมืองร้อนใจมากไม่รู้ว่าจะช่วยชาวเมืองผักของตนได้อย่างไร พระองค์มีสารส่งไปขอความช่วยเหลือต่างเมืองหลายครั้งแต่ไม่มีเมืองใดส่งทหารผักมาช่วยเหลือพระองค์เลย เสนาผักจึงเสนอขึ้นว่า
ข้าแต่ท่านเจ้าเมือง พระองค์ทรงมีราชธิดาผู้ศิริโฉมงดงามอยู่คือ เจ้าหญิงผักกาด เจ้าชายต่างเมืองต่างหมายปองเจ้าหญิงเลอโฉมของพระองค์หากพระองค์ประกาศออกไปว่าจะยกเจ้าหญิงให้กับเจ้าชายองค์ใดก็ตามที่ปราบฝูงหนอนผีเสื้อได้ ต้องมีเจ้าชายต่างเมืองเดินทางมาช่วยเหลือเมืองของเราแน่นอน
เมื่อเจ้าเมืองได้ยินดังนั้นก็เห็นดีด้วยพระองค์จึงประกาศยกราชธิดาผักกาดให้เจ้าชายองค์ใดก็ตามที่กำจัดฝูงหนอนให้ชาวเมืองได้
เมื่อสารถูกส่งออกไปก็มีเจ้าชายจากเมืองต่างๆ มากมายยกทัพเดินทางมาอาสาสู้รบกับเจ้าหนอนผีเสื้อให้ เวลาผ่านไปจนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครสามารถกำจัดฝูงหนอนตัวร้ายได้ เจ้าชายจากต่างเมืองต่างก็รู้สึกท้อแท้
เจ้าชาย แม้ว่าเจ้าหญิงจะมีรูปโฉมงดงามแต่ข้าก็ไม่สามารถเอาชนะพวกฝูงหนอนได้
ดังนั้นเจ้าชายหลายองค์จึงถอดใจเดินทางกลับไปอภิเษกกับเจ้าหญิงในเมืองของตน
เจ้าหนอนฝีเสื้อตัวร้ายรุกเข้ามาใกล้ตัวเมืองส่วนผักขึ้นทุกที ทุกที ใกล้เข้ามา
แต่แล้ววันหนึ่งก็มีชายหนุ่มต่างถิ่นแต่งกายมอซอเดินทางเข้ามาเสนอตัวว่า ข้าชื่อเจ้าชายสะเดา ข้านี่แหละจะเป็นผู้กำจัดฝูงหนอนเหล่านั้นเอง
ชาวเมืองได้ยินดังนั้นต่างก็ไม่เชื่อว่าเจ้าสะเดาจะทำได้เพราะเจ้าสะเดาเดินทางมาเพียงคนเดียวไม่มีกองทับเหมือนเจ้าชายองค์อื่นๆ
เจ้าชายสะเดาข้าสามารถกำจัดเจ้าหนอนผีเสื้อได้ในพริบตาเดียว และเจ้าหญิงผักกาดต้องแต่งงานกับข้า ชาวเมืองได้ยินดังนั้นต่างก็ไม่พอใจ เพราะดูจากการแต่งกายแล้วพวกเขาคิดว่าเจ้าสะเดาเป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้นไม่ใช่เจ้าชายจริงๆ
เวลาผ่านไปเจ้าชายต่างเมืองไม่มีใครเอาชนะฝูงหนอนได้ ต่างก็ท้อแท้หมดหวัง เดินทางกลับไปวิวากับเจ้าหญิงเมืองของตนกันหมด เหลือเพียงเจ้าสะเดาคนเดียวเท่านั้น
ทหารเมืองสวนผักคนหนึ่งวิ่งเข้ามาบอกเจ้าเมือง แย่แล้ว แย่แล้ว ฝูงหนอนกินชาวเมืองของเราจวนจะหมดอยู่แล้ว ถ้าไม่รีบกำจัดพวกเราต้องตายกันหมดแน่
เจ้าเมืองหมดทางเลือกแล้วพระองค์ตรัสกับเจ้าสะเดาว่า เจ้าสะเดาข้ายอมทำตามความต้องการของเจ้าก็ได้ ถ้าเจ้าสามารถปราบเจ้าหนอนผีเสื้อได้ข้าจะยกลูกสาวให้เจ้า
เมื่อได้ยินดังนั้นเจ้าสะเดาจึงออกไปรบ มันเสียสละตัดกิ่งก้านของตัวเอง เพื่อนำใบสะเดามาบดผสมน้ำฉีดใส่หนอน เมื่อฝูงหนอนโดนพิษสะเดาเข้าก็บาดเจ็บล้มตายไปเป็นจำนวนมาก ส่วนหนอนที่เหลือก็เข็ดขยาดไม่กล้ามารุกราญเมืองสวนผักอีกต่อไปถือว่าเจ้าสะเดากำจัดหนอนฝีเสื้อได้อย่างสิ้นซาก หลังจากนั้นมันก็เดินทางมาทวงสัญญากับเจ้าเมือง
เจ้าเมืองจำต้องยอมยกราชธิดาให้กับเจ้าสะเดา แต่พระองค์มีข้อแม้กับเจ้าสะเดาข้อหนึ่ง
เจ้าเมือง เจ้าสะเดาข้าจะยกลูกสาวให้เจ้า แต่มีข้อแม้ว่าเจ้าต้องหาเงิน ทอง เพชร พลอย อย่างละเกวียนมาเป็นสินสอด เจ้าจึงจะแต่งงานได้
เจ้าสะเดาเสียใจมากที่เจ้าเมืองผิดคำพูด และไม่ยอมยกเจ้าหญิงให้ตน แต่มันก็คิดว่ามันต้องแต่งานกับเจ้าหญิงให้ได้เพราะมันหลงรักเจ้าหญิงหมดใจเสียแล้ว
เจ้าหญิงเองก็รักเจ้าสะเดาเช่นเดียวกันเจ้าหญิงบอกกับเจ้าสะเดาว่า ผักกาดรักสะเดา แต่ผักกาดขัดใจพ่อไม่ได้
เจ้าสะเดาจึงว่า ไม่เป็นไรหรอกเจ้าหญิง ข้าจะไปหาเงิน ทอง เพชร พลอยอย่างละ 1 เกวียนมาสู่ขอเจ้าหญิงให้จงได้ ขอให้เจ้าหญิงรอข้าก่อน
เจ้าหญิงรับปากว่า ได้สิสะเดานานเท่าไหร่ข้าก็จะรอเจ้า
แล้วเจ้าสะเดาก็เดินทางจากไปเพื่อหาเงิน ทอง เพชร พลอยอย่างละ 1 เกวียนมาเป็นสินสอดให้กับเจ้าหญิง
เวลาผ่านไป หนึ่งปีก็แล้ว สองปีก็แล้วเจ้าสะเดายังไม่กลับมา มีเจ้าชายมาขออภิเษกกับเจ้าหลายครั้งแต่เจ้าหญิงก็ไม่ยินยอม ยังรอเจ้าสะเดาต่อไป
(มีตอนจบให้เลือกสองแบบค่ะ)
จบแบบเด็กๆ
จนอยู่มาวันหนึ่งมีขบวนขันหมากใหญ่โตของเจ้าชายองค์หนึ่งเดินทางเข้ามาในเมือง เจ้าชายองค์นี้ได้นำเงิน ทอง เพชร พลอยอย่างละ 5 เกวียนมาเพื่อสู่ขอเจ้าหญิงเจ้าชายองค์นี้
เจ้าเมือง เจ้าชายองค์นี้ท่าทางจะร่ำรวยมาก พ่ออยากให้ลูกแต่งงานกับเขา
เจ้าเมืองพูดกับเจ้าหญิงหลายต่อหลายครั้งแต่เจ้าหญิงยังดื้อรั้นจะรอเจ้าสะเดาของเธอ ในที่สุดเจ้าเมืองจึงสั่งให้ทหารนำข่าวการปฏิเสธของเธอไปแจ้งให้เจ้าชายทราบ
เจ้าชายเมื่อรู้ข่าวก็ให้คนมาบอกกับเจ้าหญิงว่าเขาจะยอมกับไป แต่ขอพบหน้าเจ้าหญิงก่อนหนึ่งครั้ง
เจ้าหญิงยอมตกลง เมื่อพบกันเจ้าหญิงจึงรู้ว่าเจ้าชายคือเจ้าสะเดาของเธอนั่นเอง เจ้าหญิงดีใจมาก สะเดาเป็นเจ้าชายจริงๆ อย่างที่เคยบอกไว้ เมืองของสะเดาอยู่ห่างออกไปไกลมาทำให้กลับมาหาเจ้าหญิงช้า
หลังจากนั้นเมืองสวนผักก็มีงานวิวาใหญ่โต เจ้าชายกับเจ้าหญิงได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่ามองคนแค่ภายนอก
จบแบบผู้ใหญ่(ต่อจากที่ให้เลือกนะ)
เจ้าหญิงไม่รู้หรอกว่าจริงๆ แล้วเจ้าสะเดาไม่ใช่เจ้าชายมันเป็นเพียงคนเฝ้าสวนที่มีความรู้เรื่องกำจัดหนอนดีเท่านั้น มันแอบมอง และหลงรักเจ้าหญิงมาแสนนาน แต่มันก็รู้ว่าไม่มีวาสนาจะได้เคียงคู่กับเจ้าหญิงแน่นอน หลังจากที่เจ้าเมืองสั่งให้มันไปหาเงิน ทอง เพชร พลอยอย่างละ 1 เกวียนมาสู่ขอเจ้าหญิงมันก็ออกเดินทางไปหาเงินเพื่อเจ้าหญิงที่มันรัก
มันเดินทางไปตามเมืองต่างๆ ที่มีหนอนผีเสื้อมารุกรานปราบหนอนแลกกับเงินทอง มันสะสมเงินไปเรื่อยๆ จนเกือบจะครบแล้วจนมาถึงเมืองสุดท้าย ถ้ามันสามารถปราบหนอนผีเสื้อเมืองนี้ได้มันก็จะมีเงินไปแต่งงานกับเจ้าหญิง
หากแต่
ในเมืองเมืองนี้ก็มีราชธิดาที่งดงามไม่แพ้เจ้าหญิงผักกาดและเจ้าเมืองก็ชื่นชอบความเก่งกาจของเจ้าสะเดามาก เจ้าเมืองยินดีจะยกลูกสาวให้ และให้ครองเมืองแทนเมื่อมันรบชนะ
วันนี้เจ้าสะเดาเดินทางมาไกลเกินกว่าจะกลับไปแล้ว เจ้าหญิงทั้งสองก็งดงามไม่แพ้กัน และอยู่ที่นี่มันจะได้เป็นเจ้าเมืองแทนองค์เก่าอีกด้วย
เจ้าสะเดาเลือกเป็นเจ้าเมืองอยู่ที่นี่ ทิ้งให้เจ้าหญิงผักกาดรอคอยต่อไป
ส่วนนิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ผู้ชายก็งี้แหละไปคิดเอาเอง
จากคุณ :
มณฑิรา
- [
29 ก.พ. 47 23:30:50
A:203.113.44.7 X:
]