หลังจากเกิดอุบัติเหตุและสามีปางตายอยู่ที่โรงพยาบาลนั้น ดิฉันได้รับรู้ว่า สามีขับรถชนกับรถคอนเทนเนอร์ โดยมีโจเพื่อนร่วมงานนั่งมาข้างหน้าด้วย แต่โจนั้นไม่เป็นอะไรมากได้แต่ช็อคและได้กลับบ้านไปแล้ว ในระหว่างที่นั่งรอสามีผ่าตัดนั้น พยาบาลได้มาเรียกให้เข้าไปในห้อง ๆ หนี่ง ถ้ามองตรงไปนี้คือห้องผู้ป่วยหนัก (ไอซียู) ข้างซ้ายมือคือห้องสำหรับญาติผู้ป่วยที่มานอนเฝ้า ในห้องนั้นมีคนนอนเรียง ๆ กันเป็นแถวติด ๆ กันบนเตียงไม้ที่ทำขึ้นหยาบ ๆ ทุกคนหันหัวไปทางผนังห้องผ่าตัด มีเตียงหนี่งที่ว่างวางไว้ตรงมุมห้องใกล้หน้าต่าง ทุกคนที่นอนจะหันเท้ามาทางเตียงที่ว่างนี้ ดิฉันจับจองเตียงนั้นในใจคิดว่าคนไต้หวันคงถือเรื่องเท้าเป็นของต่ำเหมื่อนอย่างคนไทย ดิฉันไม่ถือเพราะคิดว่ามันเป็นอวัยวะสำคัญที่เกิดมาพร้อมร่างกาย และดีเสียอีกที่ไม่ต้องไปนอนหายใจรดหน้ากันกับคนอื่น พยาบาลให้ห้องผู้ป่วยหนักออกมาตะโกนเรียกนามสกุลใครไม่รู้ที่หน้าห้อง ญาติ ๆ นั้นลุกกันพรึบพรับ พยาบาลยื่นถุงยางใส่น้ำร้อนให้กับญาติผู้ป่วยคนละใบ คนพวกนั้นเดินหายกันไปสักพักก็เดินกลับกันมา เอาถุงนั่นยื่นให้พยาบาลในห้องผู้ป่วย พวกเขาเข้ามานั่งจับกลุ่มคุยกันมีหญิงชายปนกัน มีคนถามดิฉันว่าญาติเป็นอะไร ดิฉันพูดกับพวกเขาด้วยภาษาจีนที่กระท่อนกระแท่น แต่จับใจความได้ว่า ถุงนั้นพยาบาลให้เอาไปใส่น้ำแข็งสำหรับให้ญาติที่เป็นผู้ป่วยลดไข้ มีคนเอาผลไม้มายื่นให้ ดิฉันได้ขอบคุณและปฎิเสธไปเนื่องจากกินไม่ลง ดิฉันได้เพื่อนใหม่ที่ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกันหลายคน ดิฉันขอตัวเอนหลังเอากระเป๋าเงินที่คาดเอวมานอนหนุนหัว ตั้งใจระลึกถึงสามี
วันรุ่งขึ้นเมื่อถึงเวลาเยี่ยมญาติ ใคร ๆ ต่างก็กรูกันไปยืนรวมกันอยู่หน้าห้องผู้ป่วยหนัก พอประตูเปิดคนเหล่านั้นก็พากันไปหยิบเสื้อคลุมสีฟ้าซึ่งมีอยู่ไม่มากนักมาสวม ใครที่ยังไม่มีเสื่อคลุมใส่ก็ต้องรอจนกว่าจะมีคนอื่นมาผลัดให้เป็นการใช้วนกัน เพื่อนใหม่คนหนึ่งหยิบเสื้อคลุมตัวหนึ่งได้แล้วส่งมาให้ดิฉัน ปากที่แดงไปด้วยหมากนั้นก็บอกว่าให้รับเอาไป ไม่ต้องเกรงใจ ผู้ชายไต้หวันชอบเคี้ยวหมากเหมือนคนแก่บ้านเรา ตามถนนหนทางนี่จะมีรอยแดง ๆ เพราะหมากเต็มไปหมด ลูกหมากจะลูกเล็กกว่าบ้านเรามากเค้าเรียกกันว่าปิ่นนึ๋ง ดิฉันขอบคุณและสวมเสื้อเข้าไปดูสามี สภาพนี่แย่มาก ๆ อธิบายค่อนข้างลำบาก มีสายโน่นสายนี่โยงเต็มไปหมด ในปากก็มีท่อคาอยู่ ดิฉันเช็ดตัวเอาเลือดแห้ง ๆ ที่ติดอยู่ตามตัวออกให้ ลูบไล้ตัวเค้าเบา ๆ ปากก็พูดให้กำลังใจสามีไปด้วย ถึงแม้ว่าจะยังไม่รู้สึกตัวแต่ดิฉันเชื่อว่าเค้าสามารถรับรู้ถึงความรัก ความห่วงใยจากใจที่ดิฉันได้ถ่ายทอดให้จากการกอดสัมผัสนั้น มันอาจเป็นความคิดของดิฉันที่ทำเพื่อปลอบใจและให้กำลังใจตัวเอง ผลตอบแทนในวันข้างหน้ายังไม่รู้ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด แต่ความทรงจำที่ดีมันจะอยู่กับดิฉันตลอดไป ตอนนี้เค้ายังมีลมหายใจอยู่ ดิฉันยังมีโอกาสทุ่มเทกำลังใจที่มีเต็มเปี่ยมนั้น เพื่อยื้อแย่งชีวิตสามีกับท่านมัจจุราช ถ้าท่านชนะท่านก็เอาไป แต่ถ้าท่านได้รับรู้ถึงคำอ้อนวอนจากใจดิฉันนั้นก็ขอให้ปล่อยเขาคืนมา
ตอนเย็นเปิดให้ญาติเยี่ยมผู้ป่วยอีกหนึ่งรอบ มีคนมาเยี่ยมมากมายทั้งสวิสฯและไต้หวัน อาการยังไม่ดีเหมือนเดิม ดิฉันทำได้แค่รอและส่งใจให้เท่านั้น แต่แปลกที่ว่าถึงดิฉันจะจำบทสวดมนต์อะไรไม่ได้เลยนอกจากนะโม 3 จบ ถ้าดิฉันตั้งสติสวดขึ้นต้นแค่คำว่านะโมเท่านั้น จะมีอาการขนลุกซู่ตรงแถวบ่า หัวไหล่ทันที สิ่งนี้ทำให้ดิฉันมีกำลังใจขึ้นมาได้อย่างประหลาด คืนนั้นพยาบาลมาเรียกเอาน้ำแข็ง รวมทั้งดิฉันด้วย เราไปกันที่ตู้น้ำแข็งไม่มีน้ำแข็งเลย ขึ้นไปชั้นอื่นก็ไม่มี นี่ก็ดึกมากแล้วสักประมาณตีสองตีสามได้ ดิฉันกับเพื่อนใหม่ที่เป็นผู้ชายสามสี่คนต้องเดินไปไกลกันพอสมควรเพื่อหาซื้อน้ำแข็ง เราซื้อมากันจนได้ เมื่อนำถุงน้ำแข็งให้พยาบาลแล้ว เราก็มานั่งจับกลุ่มคุยกัน โชคดีที่ดิฉันได้งีบไปได้สักหน่อยก่อนที่พยาบาลจะมาเรียกเอาน้ำแข็ง พยาบาลได้เดินเข้ามาเรียกชื่ออีกหนึ่งรอบคราวนี้เรียกแค่คนเดียว ผู้หญิงคนที่ถูกเรียกนั้นทำสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ ดิฉันพยายามจับใจความว่าให้เธอกลับไปเอาเสื้อผ้า พอพยาบาลสั่งเสร็จก็ไป ผู้หญิงคนนั้นไม่พูดไม่จากับใครสักคำรีบเก็บข้าวของแล้วก็ไปเลย ตอนเช้าเธอคนนี้กลับมาใหม่กับคนสามสี่คนที่คงจะเป็นญาติของเธอ ไปเคาะเรียกพยาบาลยื่นถุงให้ ข้างในนั้นคือเสื้อผ้าของคนที่ป่วย สักพักก็เข็นเตียงออกมาทางด้านประตูที่เปิดให้เยี่ยมญาติและเข็นเตียงนั้นผ่านหน้าห้องที่เราอยู่ มีคนอธิบายให้ดิฉันฟังวว่า ญาติของผู้หญิงนั้นเสียชีวิตแล้ว ดิฉันเกิดความหนาวขึ้นมาทันที เช้าวันนี้ได้เห็นความหดหู่แต่เช้าเชียว มันทำให้เศร้าไปกับภาพที่เห็น
รุ่งเช้าหลังเข้าไปดูสามีแล้ว เจ้กับเนลลี่ (อายุประมาณเกือบ 60)ก็ได้แวะมา เธอเอาเสื้อคอกลมและกางเกงขาสั้น หมอน ผ้าห่มมาให้ เจ้ซื้อข้าวกับฮุ้นตึ๋งมาให้เพราะเจ้รู้ว่ามันเป็นของโปรดของดิฉัน ฮุ้นตึ๋งคือไส้หมูอ่อนที่ต้มกับน้ำไม่เปื่อยมาก กินกับขิงสดซอยและน้ำจิ้มซีอิ๊ว ก่อนเจ้จะกลับหมอได้เรียกคุยด้วยว่าสามีอาการไม่น่าไว้ใจ ทรุดลงมีโอกาสรอดน้อยมาก ๆ เนลลี่กับเจ้นั่งน้ำตาซึม ดิฉันร้องไห้ไม่อายใคร เนลลี่บอกให้ดิฉันโทรทางไกลถึงแม่ น้องสาวรับสาย ทางบ้านตกใจกันมาก น้องสาวอาสาว่าจะบินมาอยู่เป็นเพื่อน ดิฉันบอกว่าไม่ต้องเพียงแต่ให้ช่วยไปทำสังฆทานให้ด้วย เธอรับคำและบอกว่าจะรีบไปทำให้ทันที เจ้กับเนลลี่กลับไปแล้ว ดิฉันมานอนหลับตากำหนดหายใจเข้าออก ตั้งสติอ้อนวอนขอชีวิตกับท่านมัจจุราชอยู่ในใจ โดยตั้งใจยกผลบุญกุศลที่ตัวเองได้ทำไว้นั้นให้แก่สามี ตั้งแต่เล็กจะไปวัดกับยายเป็นประจำ ช่วยหิ้วปิ่นโตถือดอกไม้ ช่วยยายเอาอาหารไปใส่ตามโต๊ะที่ตั้งไว้ และจำว่ายายไปนั่งอยู่ตรงไหน ยายนั่งฟังพระสวดดิฉันก็วิ่งไปหาขนมกิน ดูนกดูปลาไปตามประสา พอเบื่อก็วิ่งมาดูยายสักที เวลากรวดน้ำนี่ดิฉันจะมีหน้าที่เรียกชื่อปู่ ย่า ตา ยายทวดที่ตายไปแล้วให้มารับเอาไป เหมือนไปรษณีย์ที่ต้องส่งจดหมายให้ถูกคนอย่างไรอย่างนั้น นั่นคือความคิดของเด็กแต่พอโตขึ้นความคิดก็เปลี่ยนไปเป็นเข้าใจมากขึ้น แต่การไปทำบุญยังคงติดตัวอยู่จนโต
สามียังมีแค่ทรงกับทรุด หมอเรียกคุยว่าสามีติดเชื้อที่สมองจะทำการรักษาด้วยยาปฎิชีวนะ อาการทรุดไปอีก นี่ก็ผ่านมาได้แล้ว 7 วันยังไม่รู้สึกตัวเลย ในระหว่างนั้นทางบ้านเมืองไทยก็ทำสังฆทาน บริจาคโลงศพ ใส่บาตรให้ทุกวัน น้องชายสวดมนต์บทยาวให้ทุกเย็น ความสัมพันธ์ระหว่างดิฉันกับญาติ ๆ คนไข้นั้นก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ดิฉันซื้อกระติกใส่น้ำแข็งใบใหญ่ กับพัดลมมาหนึ่งตัวเพราะในห้องนั้นค่อนข้างอบอ้าวพอสมควร ตอนเย็นจะซื้อน้ำแข็งมาตุนไว้จนเต็ม ใครจะเอาไปใช้ก็ได้ไม่ว่ากัน ใครที่มาเฝ้าตอนเย็นบางทีก็หิ้วกันเข้ามาก็มี เราจะช่วยกันทุกคนไม่ว่าจะญาติตัวหรือใคร บางทีเราจะออกไปหาอะไรกินกันหน้าโรงพยาบาลในตอนดึก คนอื่นก็จะคอยดูสามีให้ ดิฉันจะออกเงินค่าอาหารที่กิน และอาหารที่ซื้อฝากพวกเพื่อนคนอื่นๆ รวมถึงพยาบาลด้วย ดิฉันไม่ได้อวดรวย แต่ซึ้งใจในน้ำใจของคนเหล่านี้ พวกเขาเป็นคนพื้น ๆ บางคนทำงานในโรงงาน ทำไร่ ขับแท็กซี่ มีเป็นครูหลงมาอยู่คนหนึ่ง ความเอื้ออำนวยในเรื่องเงินทองนั้นค่อนข้างจำกัด ดิฉันได้รับเงินเดือนของสามีเป็นจำนวนสูงมากกว่าหลายเท่าตัว มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเก็บมันไว้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว เอามาทำให้คนเหล่านี้มีความสุขและตัวเองก็พลอยมีความสุขในช่วงสั้น ๆ นี้ไม่ดีกว่าหรือ ดิฉันได้มิตรภาพและน้ำใจจากคนเหล่านั้น ดิฉันก็ขอตอบแทนพวกเขาด้วยมิตรภาพและน้ำใจเช่นเดียวกัน คนขับรถคอนเทนเนอร์ได้มาเยี่ยมดิฉันในสองวันแรก เค้าขอโทษขอโพยดิฉันใหญ่ ดิฉันบอกเค้าว่าดิฉันไม่โกรธ ไม่มีใครอยากให้เกิดและรู้ว่าเค้าไม่ได้ตั้งใจ เค้ามีลูก 4 คน วันหลังเค้าพาภรรยามาด้วยเอาผลไม้มาฝาก เค้าเล่าให้ฟังว่าตำรวจได้ยึดใบขับขี่ไปตั้งแต่วันนั้น ตอนนี้อยู่บ้านเฉย ๆ ดิฉันพาเค้ากับภรรยาไปหาข้าวเย็นทานกัน เค้าขอออกค่าอาหารมื้อนี้ ดิฉันบอกเค้าว่าไม่ต้องเกรงใจ ภาระที่เค้าต้องรับผิดชอบนั้นเยอะกว่าดิฉัน แค่มาเยี่ยมนี่ก็ตื้นตันใจมากแล้ว ดิฉันถือว่าเค้าเป็นคนดีคนหนึ่งทีเดียว เค้ามาเยี่ยมดิฉันเพราะสำนึกที่ดีในตัว ไม่เคยมาถามเพื่อขอรอมชอมในคดี หรือมาบอกว่าใครผิดหรือถูก สมเป็นลูกผู้ชายแท้ ๆ ที่น่านับถือคนหนึ่ง ดิฉันได้เพื่อนเพิ่มมาอีกแล้ว เค้าและภรรยาก็ยังมาเยี่ยมอยู่เสมอ ๆ วันหนึ่งนอนฝันไปว่า มีใครไม่รู้มาบอกกับดิฉันว่าสามีให้มาเอาสร้อยคอ ดิฉันบอกไปว่าไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ให้สามีมาเอาเอง เค้าบอกว่าสามีมาเองไม่ได้ แล้วก็ตกใจตื่น หมอเรียกคุยอีกรอบบอกว่ายาที่ให้สามีนั้นไม่ได้ผล ต้องลองตัวยาอันดับสองที่แรงกว่าตัวเก่า วันนั้นเจ้ก็ฟังอยู่ด้วย ไม่รู้ว่าเจ้คิดอะไร ผลุนผลันกลับบ้านไปบอกแต่เพียงว่าพรุ่งนี้จะมาใหม่ ดิฉันฝากสามีไว้กับพยาบาลและญาติคนไข้ด้วยกัน ตัวเองนั้นเดินระทดระทวยออกไปนอกโรงพยาบาลเพื่อสงบสติอารมณ์ เดินอยู่แถว ๆ โรงพยาบาลนั่นแหละ สายตาเหลือบไปเห็นร้านขายทองเล็ก ๆ ร้านหนึ่ง ไม่ทราบว่าเป็นอะไรเปิดกระจกร้านเข้าไป บอกให้คนขายหยิบสร้อยขึ้นมาเส้นหนึ่งน้ำหนักประมาณ 2 บาทจ่ายเงินและเดินขึ้นมานั่งรอเวลาเยี่ยมรอบเย็น ดิฉันแขวนพระหลวงปู่แหวนองค์เล็กนั้นกับสร้อยเส้นใหม่ที่ซื้อมา ยกมือขึ้นเหนือหัวอารธนาให้ท่านช่วยคุ้มครองด้วย พร้อมทั้งได้เอาสร้อยคอนั้นใส่ให้สามี
ศพคนตายที่เข็นผ่านหน้าห้องไปนั้นมีให้เห็นแทบทุกวัน เจ้มาหาในมือเธอมีเสื้อสามีดิฉันติดมาด้วย เธอชวนให้ดิฉันไปกับเธอ ดิฉันฝากสามีไว้กับพยาบาลและเพื่อนร่วมห้องอีกครั้งหนึ่ง เจ้บอกว่าดิฉันจะเชื่อหรือไม่ แต่ขอร้องให้เชื่อ เธอบอกว่าเสื้อนี้จะใช้แทนตัวสามีได้ ต้องเอาเสื้อไปให้พระสวด 3 วัน ลักษณะเหมือนกับว่า สามีบวชขอต่ออายุ ต่อชีวิตกับมัจจุราช อะไรทำนองนี้ เจ้พาไปที่ศาลเจ้าแห่งหนึ่งมีคนมากราบไหว้มากมาย ในศาลนั้นจะมีจานข้าวสารวางไว้เต็มไปหมด แล้วเจ้ก็พาไปวัดแห่งหนึ่งเราไปนั่งรอ สักครู่มีพระเดินออกมา 1 รูปห่มจีวรเหมือนพวกพระเส้าหลิน เจ้บอกให้เอาเงินใส่ซอง ดิฉันทำตามทุกอย่างแล้วเราก็กลับกัน ครบ 3 วันเจ้ก็มารับให้ไปด้วยกันอีก พาไปศาลเจ้าคุยกับคุณยายแก่ ๆ คนหนึ่ง ในมือของยายนั้นมีจานข้าวสาร ยายชี้ให้ดูตามเม็ดข้าวที่เป็นรอยดำเป็นหย่อม ๆ เจ้เล่าว่า คุณยายนั้นชี้สถานที่ที่สามีรถชนได้ถูกต้องและมีวิญญาณจะมาเอาสามีไป อะไรทำนองนี้แหละ เจ้ดูเลื่อมใสมาก แต่สิ่งที่ทำให้ดิฉันดีใจขึ้นมาคือเจ้บอกว่า สามีดิฉันไม่ตายแน่นอน เราพากันไปวัด พระเอากระดาษเขียนภาษาจีนแผ่นแล็กยาวให้มา 1 แผ่น เจ้พากลับโรงพยาบาล จัดการเอาแก้วมาใส่กระดาษเผาแล้วเอาน้ำดื่มใส่ไว้จนเกือบเต็ม กำชับนักหนาให้ดิฉันทาปากให้สามีทุกครั้งที่เข้าไปเยี่ยม ดิฉันรับคำแล้วเจ้ก็กลับไป สามีไม่รู้สึกตัวมาได้ 13 วันนี้แล้ว ดิฉันทำตามเจ้สั่ง เอาแก้วน้ำวางไว้บนด้านหัวเตียงของสามี และวานให้พยาบาลช่วยทาให้สามีด้วยถ้ามีเวลาและนึกได้ พวกเธอก็ดีมากเอาใจช่วยสามีกันเต็มที่ เช้าวันหนึ่งดิฉันเข้าไปเยี่ยมตามปกติ เอาน้ำมนต์ทาปากให้ เช็ดเนื้อตัวให้ อยู่ดี ๆ เค้าก็ลืมตาขึ้นมา แต่ตายังเลื่อนลอยเหมือนไม่รับรู้อะไร ดิฉันดีใจมากเรียกพยาบาลมาดู พวกเธอพลอยดีใจไปกับดิฉันด้วย ท่านพญายมท่านคงเห็นความตั้งใจและรับฟังคำขอร้องจากพวกเราที่ช่วยกันคนละไม้ละมือจากครอบครัวดิฉัน จากเพื่อนอย่างเจ้ หรือแม้แต่ตัวดิฉันเอง ไม่ว่าจะวิธีไหนก็ตามแต่มีใจที่เป็นอันหนึ่งเดียวกัน 16 วันเต็ม ๆ ที่ดิฉันรอคอยอย่างทรมาน กำลังใจเพิ่มขึ้นมาอีกเป็นกอง ดิฉันก้มลงหอมสามีที่ตรงหน้าผาก อยากบอกให้เค้ารับรู้ว่า วันนี้ดิฉันมีความสุขที่สุดในโลก
จากคุณ :
NATTI
- [
2 มี.ค. 47 02:17:27
A:62.167.59.1 X:
]