เสียดายจังเวลามีน้อย..ต้องขี่ยามาห้อยไปธุระอะคับ

    เด็กต่างจังหวัดอย่างผม..วัน ๆ ไม่ได้ทำอะไร นอกจากจะขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยว
    มอเตอร์ไซค์ถือเป็นยานพาหนะยอดฮิตของทุกหมู่บ้านในตัวจังหวัด บ้านไหนไม่มีถือว่าเชยระเบิดเถิดเทิง..
    ของผมเพิ่งซื้อมาแหม่บ ๆ แม่ละม่อมทำปากหมุบหมิบ ๆ ตอนที่ซื้อ
    ยี่ห้อยอดฮิต..ยามาห้อย..
    เครื่องยนต์สี่จังหวะ..มีหม้อน้ำระบายความร้อน บิดได้สูงสุดร้อยแปดสิบองศา..เอ้ย..ร้อยแปดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง
    นั่นเป็นข้อมูลทางหน้าปัด เอาเข้าจริงผมบิดไม่เคยเกินแปดสิบซะที
    ก็เพราะแม่ห้าม
    และเป็นข้อตกลงระหว่างแม่กับผม
    "แม่ซื้อรถให้ลูกใช้..ไม่ใช่ซื้อรถให้ลูกขับไปตาย"
    "ถ้าลูกตายเพราะรถที่แม่ซื้อให้..แม่จะตายตามไปเห็น ๆ"
    ผมไม่อยากให้แม่ตายตามไปเห็น ๆ ผมเลยไม่ขับรถเร็ว
    และขับรถถูกกฎจราจรตลอดมา
    ......

    แต่ให้ตาย..พรรคพวกของผมไม่มีใครเหมือนอย่างผมซักคน
    พวกมันขับรถเร็วมาก..ผมตามไม่เคยทันซะที
    รถของผมคันนี้ เลยถูกเรียกชื่อว่า "คุณนายนุ่มนวล" ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
    .....

    วันนี้ นายละมุน พาคุณนายนุ่มนวล เฉียดผ่านไปบ้านหลังหนึ่งอย่างไม่ค่อยเจตนาเท่าไร
    ที่ไม่ค่อยเจตนาเท่าไรนั้น ก็เพราะแม่ใช้
    แม่ใช้ให้ไปหาป้าลำดวน
    ป้าลำดวนมีลูกสาวชื่อสุรัตน์ สุรัตน์ที่ไม่สวยเยย
    แม่ให้เอาเงินไปให้ป้าลำดวน ป้าลำดวนโทร.มาขอกู้แม่ แม่ปล่อยกู้ร้อยละห้า..
    ไม่เกินตามกำหนดหมายกำหนดแต่อย่างใด
    ......

    สุรัตน์นอกจากไม่สวยแล้ว..ยังชอบมาทำโน่นทำนี่กับผม
    ชอบห่อปากทำตาโต..ราวเก็บเห็นศรรามมาเหยียบหัวกะไดบ้าน
    หรือชอบทำหน้าแดงหน้าดำเวลาคุยกับผม เหมือนกับผมกำลังจีบเธอยังไงยังงั้น
    เปล่าเลย..ผมไม่เคยจีบเธอ
    จริงนะครับ..ผมไม่เคยจีบเธอเลย..
    "ป้าลำดวนอยู่ไหม?"
    "อยู่ข้างบน.."
    "วันนี้แต่งตัวสวยจัง.."
    "เนี่ยนะสวย.."
    "ใช่..จะออกไปไหนละครับ..มุนไปส่งมะ?"
    "ไม่เป็นไร..ฉันมีรถเหมือนกัน"
    "แต่รถมุนมันนุ่มนิ่ม..น่านั่งน่านอนหนุนเป็นยิ่งนัก..กว่าเป็นกอง.."
    "แหวะ..เชิญเหอะย่ะ..."
    ว่าแล้วเธอก็ควบรถของเธอออกไป
    เห็นไหมครับ..ผมไม่เคยจีบเธอเลย
    กึกึ..
    .......

    นั่นคือไปโดยไม่ได้เจตนา
    เสียเวลาไปประเดี๋ยวเดียวผมก็หมดธุระของแม่
    คราวนี้ถึงเจตนาที่ผมจะไป
    เป็นบ้านหลังเล็ก ๆ ซอมซ่อหลังวัด
    ในบ้านมียายแก่ ๆ อยู่คนหนึ่ง
    หูตาไม่ค่อยเห็นแล้ว..
    แกอยู่คนเดียว..ผัว..เอ้ย..สามีของแกตายไปหลายปีแล้ว
    ลูกหลานไม่มี
    อาศัยข้าวก้นบาตรพระกินประทังกันตายไปวัน ๆ
    ผมจะมาที่นี่อาทิตย์ละหน
    ขยักเงินที่เป็นดอกเบี้ยของแม่
    แบ่งมาให้แกทีละร้อยสองร้อย
    ตามสภาพจิตใจของผม
    ที่เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงตามอุณหภูมิ
    ของหัวใจ..
    .....

    หัวใจของผมจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย..
    ถ้าคราวใดมีเธอคนนั้น..ยืนให้เห็นอยู่ในบริเวณบ้านของมัคทายกวัด
    ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับบ้านยายคนนั้น
    เธอเป็นลูกสาวของมัคทายกแหวง..
    เป็นเจ้าของดวงตาแสนสวย
    เป็นเจ้าของน้ำใจเอื้ออารี
    เธอนี่แหละ..เอาข้าวปลาอาหารมาให้ยายคนนี้
    สลับการน้องชายของเธอ
    ทุก ๆ วัน
    .....

    เสียดายจังเวลามีน้อย..
    แล้วผมค่อยมาเล่าต่อนะครับ

    จากคุณ : LaMoon - [ 2 มี.ค. 47 20:14:17 A:202.57.173.118 X: ]