ตอนที่ 3 ฝันร้าย ?
อาบน้ำเสร็จก็เป็นเวลานอนของหนูน้อยป๊อบปี้ คุณย่าจับตัวหลานน้อยซึ่งประแป้งจนแก้มนวลนอนลงบนเบาะ
เล็กๆมีหมอนนุ่มนิ่มสำหรับหนุน ที่ขาดไม่ได้คือหมอนตุ๊กตาสีฟ้ารูปหมีใส่หมวกที่ป๊อบปี้ชอบดึงพู่หมวกเล่นจน
หลุดแล้วหลุดอีกให้คุณย่าต้องซ่อมเสมอๆ
เสียงลมพัดใบไม้ในสวนของคุณย่า และเสียงนกร้องจิ๊บ จิ๊บ เป็นท่วงทำนองธรรมชาติที่เด็กหญิงคุ้นเคย เมื่อนม
ชงใกล้หมดขวด คุณย่าจึงดึงขวดนมออกจากปากและส่งขวดน้ำให้ เด็กหญิงดูดน้ำอย่างง่วงๆ จนเมื่อคุณย่าดึง
ขวดน้ำออกอีกครั้ง เธอจึงยกหัวแม่มือข้างที่กำหัวจุกหมวกตุ๊กตาขึ้นมาดูดต่อพร้อมๆกับหรี่ตาลงสู่ห้วงนิทรา
สวัสดีดวงตาวัน คืนนี้มีดาวเต็มฟ้าทอ..ปา..กาย..ภาระฉันจึงไม่มีมากมาย..พอมีเวลานั่งเขียนถึงเธอ
อยู่ซา.. บายไหม..ตาวัน
เราไม่ค่อยได้เจอะกันเลยใช่ไหม ทั้งๆที่ฟ้าเดียวกันเหมือนใกล้ แต่เพราะภาระของเราต่างกัน
เสียงมาจากไหนกันนะ เด็กหญิงป๊อบปี้คิดอย่างง่วงๆ แม้ดวงตาจะยังคงปิดสนิทแต่ก็ได้ยินเสียงเพลงที่ใครบาง
คนกำลังกระซิบร้องให้ฟัง เป็นเสียงที่คุ้นเหลือเกิน เพราะได้ยินมาตั้งแต่ยังเป็นทารก จำได้ว่าถ้าได้ยินเสียงเพลงนี้
(ที่ร้องยืดๆ)ครั้งใด หนูต้องอารมณ์ดียิ้มหวานให้คนร้องทุกทีไป แล้วถ้าคนร้องทำหน้าตาตลกๆลอยไปลอยมา
จับตัวหนูโยกไปตามจังหวะเพลง (ซึ่งบางครั้งก็แปลงเป็นเพลงเเร็พด้วย) หนูก็จะหัวร่อลงลูกคอเอิ๊กอ๊ากแบบไม่
ออมเสียงเลยทีเดียว แล้วหนูป๊อปปี้ก็นึกขึ้นมาได้ว่าชอบคนร้องเพลงนี้เหลือเกิน นานแล้วที่ไม่ได้เล่นด้วยกัน จึงฝืน
ความง่วงลืมตาตื่นขึ้นมาเพื่อจะทักทาย
แง๊
ๆๆๆๆๆ เป็นเสียงที่ร้องออกมาเพราะความตกใจของเด็กหญิง เพราะภาพที่เห็นเมื่อลืมตาขึ้นมาช่างน่า
กลัวเหลือเกิน ใครก็ไม่รู้ หน้าตาไม่คุ้น ไม่เหมือนคุณพ่อ คุณแม่ หรือใครๆที่หนูรู้จัก คนอะไรหน้าตาปุปะ มีตุ่ม
หนองเต็มไปหมด ผมเผ้ากระเซิงยุ่งเหยิง น่ากลัวเหลือเกิน หนูกำลังฝันร้ายหรือเปล่านะ?
เจ้าของเสียงเพลงยืดๆสะดุ้งสุดตัว ลุกขึ้นอย่างร้อนรน
ชู่ว์ว์..ทำอะไรน่ะ คุณย่ากระซิบดุเสียงเขียวอยู่ตรงประตูห้องครัวแล้วรีบเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว อุ้มหลานขึ้น
แนบอก มือลูบหัวกลมๆด้วยความปราณี
โอ๋..โอ๋..ขวัญมานะลูกนะ
นิ่งซะ..นิ่ง
ไม่มีอะไรหรอก
เด็กน้อยหยุดดิ้นรน แต่ยังไม่วายสะอึกสะอื้น เสียงคุณย่าร้องเพลงกล่อมเบาๆเป็นจังหวะชวนสบาย ในไม่ช้าน้อง
ป๊อปปี้ก็เริ่มหลับตาลงอีกครั้ง คุณย่าวางหลานลงบนเบาะ กางมุ้งเล็กๆสีขาวมาครอบให้
ทำไมถึงพูดไม่รู้เรื่องนะ
ชอบแอบมาเล่นนักเชียว คุณย่ากระซิบดุอย่างดุเดือดกับคนที่ยืนตัวลีบอยู่ข้างเสา
ร่างในชุดสีทึมๆ ยืนคอตก และเดินลากขากลับขึ้นไปชั้นบนอย่างเซื่องซึม
คุณย่ามองตามด้วยสีหน้าเศร้าหมองก่อนจะถอนหายใจและเดินกลับเข้าไปในครัว
ผีเสื้อนอกหน้าต่างบินว่อน ดอกไม้หอมส่งกลิ่นรวยริน เด็กหญิงป๊อบปี้ยังคงนอนหลับฝันดี
ตอนที่ 4 อาหารทิพย์
เอ้า..เสร็จแล้ว แก้วช่วยยกขึ้นไปที บอกเขาว่าให้พยายามกินให้หมด มื้อเย็นจะเอาอะไรก็สั่งมา นมกับผลไม้
อย่างเคย หรือจะกินข้าวต้ม บอกเขาด้วยว่าไม่จำเป็นอย่าลงมาข้างล่าง จะเอาอะไรก็ให้กดกริ่งเรียก เดี๋ยวย่าจะส่งขึ้น
ไปให้เอง
ค่ะ แก้วรับคำคุณย่า พร้อมกับยกถาดอาหารใบใหญ่ที่มีผัดมะกะโรนีกุ้งสีสวยน่ากินจานโต น้ำมะนาวปั่นใน
แก้วทรงสูงมีมะนาวฝานเสียบปากแก้ว และจานผลไม้ที่มีทั้งส้มสายน้ำผึ้ง องุ่นแดง และ ชมพู่ผลงาม ขึ้นไปยังชั้นบน
คุณคะ ข้าวเที่ยงมาแล้วนะคะ เปิดประตูรับหน่อยค่ะ แก้วส่งเสียงเรียกผู้ที่อยู่ในห้อง
วางไว้ เสียงเนือยๆตอบมาจากในห้อง
คุณย่าบอกว่าให้ทานให้หมดด้วยค่ะ คุณรีบออกมาทานนะคะเดี๋ยวเย็นหมด ไม่อร่อย แก้วรีบพูดตามบทที่คุณย่า
กำชับมา
อือ เป็นคำตอบแบบขอไปที
อ้อ..คุณย่าให้หนูถามคุณด้วยค่ะว่า เย็นนี้จะทานอะไร นมกับผลไม้ หรือข้าวต้ม ?
อะไรก็เอามาเถอะ..อย่าเยอะนักขี้เกียจกิน คำตอบชักยาวขึ้น..น้ำเสียงก็ขุ่นขึ้น
ทานข้าวแล้วอย่าลืมทานยานะคะ คุณย่าบอกว่าอย่าลงไปข้างล่าง มีอะไรให้กรดกริ่งเรียกหนู
หนูจะรีบเอาขึ้นมาให้ทันทีทันใดแบบติดจรวดเลยค่ะ คุณรีบออกมาทานนะคะ ผัดมะกะโรนีกุ้งของโปรดคุณ น่ากิ๊น
น่ากิน กุ้งงี้ตัวโตบักเอ๊ป
ป แก้วเริ่มเจื้อยแจ้วนอกบทตามด้วยภาษาถิ่นช่วยเพิ่มอรรถรสในการบรรยาย
รู้แล้ว..ลงไปได้แล้ว..ส่งเสียงอยู่นั่นแหละ..น่ารำคาญ คนในห้องเสียงชักจะขุ่นเขียวขึ้นมาตามระดับอารมณ์ที่
เริ่ม บูด
แก้วรีบตะลีตะลานลงบันไดไปก่อนที่คนในห้องจะออกมา ทั้งนี้เพราะเคยรู้ ฤทธิ์ กันดี ว่า คุณในห้องนี้
เวลาปกติก็ดีจนน่าใจหาย แต่เวลา ลมบ่จอย ขึ้นมาแล้วละก็..เผ่นดีกว่า..
ร่างที่นั่งงองุ้มอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ค่อยๆขยับตัวอย่างเชื่องช้า มือขวายกขึ้นเสยผมอย่างหงุดหงิดแล้วก็หยุด
ชะงัก..
โอย
เจ็บจัง เป็นเสียงพึมพำอยู่ในลำคอ..
หัวเหนียวมาก..ไม่ได้สระผมถึงปีรึยังเนี่ย ? คำถามนี้เจ้าตัวตั้งขึ้นเพื่อประชดและถามตัวเอง
จะเดินออกไปกินข้าว..ต้องผ่านกระจก..เกลียดมากๆ..ไม่อยากเห็นหน้าปิศาจ..โอ๊ย
เบื่อๆๆๆๆ นี่ก็เป็นการตีอกชก
ตัวรำพึงกับตัวเองอีกนั่นแหละ
แต่ในที่สุดภาพจินตนาการของผัดมะกะโรนีและกุ้ง บักเอ้ป.ปป ตามคำบรยายของเด็กแก้วก็เข้ามาก่อกวนในระบบ
ย่อยอาหาร
โครก..กก เสียงท้องร้องนะจ๊ะมิใช่เสียงชักโครก
อืมม์ หิวแฮะ..ไปกินดีกว่า นี่เป็นความหิวที่เกิดขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 วันทีเดียวนะเนี่ย
คนหิวที่กำลังอารมณ์ บ่จอย ค่อยๆยืนขึ้น เดินกระเผลกๆผ่านหน้ากระจกโดยมิเหลือบแลไปให้หมดกำลังใจ
เมื่อออกมาถึงโต๊ะวางอาหารหน้าห้องก็ทรุดตัวลงนั่ง ก้มลงสูดจมูกเหนือจานอาหารอย่างอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย จากนั้น
จึงหยิบอาวุธคือช้อนและส้อมขึ้นมาถือให้เหมาะมือแล้วเริ่ม จัดการ กับศัตรูตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย ในไม่ช้าจาน
มะกะโรนีก็เหลือแต่หางกุ้ง จานผลไม้มีเปลือกและเมล็ดส้ม เมล็ดองุ่น และซากชมพู่จำนวนหนึ่ง ส่วนแก้วน้ำปั่นก็มี
เพียงหลอดเหลือให้เห็นเป็นอนุสรณ์(แม้แต่เปลือกมะนาวที่ปากแก้วคุณเธอก็ยังไม่ละเว้น)
ในเวลาต่อมา เมื่อแก้วขึ้นมาเก็บถาดอาหารลงไปข้างล่าง เธอได้ยินเสียงเพลงประหลาดๆดังลอดออกมาจาก
ห้องน้ำชั้นบน มีใครคนหนึ่งกำลังแปรงฟันหลังอาหารพร้อมๆกับพยายามที่จะร้องเพลงไปด้วย
ขลุกๆๆ ส่าหวักลีดวงตาวัน..แคร่กๆๆๆ
แคร่กๆๆๆ คืนนี้มีดาวเต็มฟ้าทอปากาย
แคร่กๆๆๆ
ขลุกๆๆ..ขลุกๆๆ (เสียงออกมาทำนองแบบนี้จริงๆ..ลองทำดูสิ)
เสียงเพลงช่างน่าขันจนแก้วอดที่จะหัวเราะคิกคักไม่ได้ เธอหัวเราะอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเข้ามาในครัวที่คุณย่ากำลัง
นั่งปอกกระเทียมอยู่ เมื่อคุณย่าถามว่าขำอะไรนักหนา แก้วจึงตอบยืดยาวไปตามประสาคนช่างพูดว่า
ขำคุณข้างบนค่ะคุณย่า มีอย่างที่ไหน แปรงฟันไปร้องเพลงไป สงสัยจะอารมณ์ดี วันนี้ทานข้าวได้เยอะกว่าทุกวัน
ด้วย เอ..หรือว่าคุณย่าใส่อะไรในอาหารคะ คุณถึงอร่อยใหญ่แล้วยังอารมณ์ดีเชียว
คุณย่ายิ้มน้อยๆ โดยไม่ตอบคำถามของเด็กแก้ว
เคล็ดลับความอร่อยในอาหารทุกจานที่ออกจากครัวของคุณย่าก็ คือ ความใส่ใจ ที่ประกอบด้วยความรักและ
ความเมตตาอันไม่มีขอบเขตต่อสมาชิกทุกคนในครอบครัว และความใส่ใจนี้ยังขยายวงกว้างออกไปยังทุกคนที่คุณย่ารู้
จักอีกด้วย อาหารของคุณย่าจึงเป็นอาหารทิพย์ ที่ถึงแม้จะหน้าตาธรรมดาๆ เป็นอาหารพื้นๆที่เราเคยกินกันอยู่ทุกวัน
แต่รสชาติที่เกิดจากความ ใส่ใจ นั้น ช่วยเยียวยาโรคร้ายและความเศร้าหมองให้หมดไปจากใจคนอย่างง่ายดาย
จากคุณ :
ไม้ระแนง
- [
3 มี.ค. 47 12:38:51
A:202.57.184.78 X:
]