ความคิดเห็นที่ 1 เอาของเก่ามาปัดฝุ่นใหม่ค่ะ ๏ วันมาฆะสิบห้า...............ค่ำเวียน วันแห่งทุกคนเพียร.............สืบสร้าง หนทางแห่งแสงเทียน.............เว้นบาป เถิดเอย น้อมระลึกพุทธะบ้าง............จิตพร้อมเจริญกุศล ๚ จากคุณ : รสา รสา - [ 4 มี.ค. 47 17:20:44 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ๏ เดือนสามจันทร์วันเพ็ญเด่นเต็มหล้า สิบห้าค่ำจำติดมาคราสมัย ธูปเทียนพร้อมน้อมระลึกนึกในใจ สมเด็จฯ ท่านเกรียงไกรในสามแดน (สมเด็จฯ = สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า) ๏ พระพุทธคุณบุญล้นท้นประเสริฐ พระปัญญายิ่งเลิศเพริศมากแสน พระกรุณาพาชนข้ามคามเขตแคว้น พระบริสุทธิ์ดุจแก่นแกนข้อธรรม ๏ วันประชุมพระอรหันต์ตรงวันนี้ เอหิภิกขุพระคุณทวีมีอุปถัมภ์ สืบต่อซึ่งคำสอนเว้นบาปกรรม วันนี้ย้ำคือวันมาฆบูชา ๏ ประนมกรน้อมเศียรเวียนก้มกราบ ระลึกรู้บุญบาปแสนหยาบหนา หลายชาติแลหลายภพจบต่อมา ใช้ปัญญาพาสติดำริไว ๏ เบญจางคประดิษฐ์ตั้งจิตมั่น น้อมระลึกพระคุณอนันท์อสงไขย ได้พระธรรมเป็นที่พึ่งทุกชาติไป สามโลกไซร้ล้วนสรรเสริญเจริญคุณ ๚ จากคุณ : รสา รสา - [ 4 มี.ค. 47 17:28:54 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ๏ วันมาฆบูชา............................จันทร์เพ็ญเต็มนภา เมื่อครั้งเดือนสามครบเวียน ๏ ขึ้นสิบห้าค่ำอ่านเขียน................เตรียมพานธูปเทียน น้อมนบระลึกพระคุณ ๏ ทั้งพระปัญญาเกื้อหนุน..................พระกรุณาค้ำจุน พระบริสุทธิ์ผุดผ่องตั้งใจ ๏ วันนี้ประชุมครั้งใหญ่..................พระอรหันต์แดนไกล มาพร้อมกันในวันดี ๏ น้อมระลึกพระคุณทวี.....................ด้วยใจสุขขี ยึดมั่นหลักธรรมชี้นำ ๏ เลิกลดละสร้างเวรกรรม...................สานสืบพุทธธรรม อุทิศช่วยเหลือสังคม ๏ ประกอบความดีสะสม.......................จิตใจเพาะบ่ม อบรมฝึกรู้ตนตัว ๏ อบายมุขละเลิกเมามัว....................ไม่ทำความชั่ว จิตใจผ่องใสงดงาม ๚ แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 47 17:37:27 จากคุณ : รสา รสา - [ 4 มี.ค. 47 17:33:21 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จาตุรงคสันนิบาตพร้อม                  คืนเพ็ญ แสงเดือนสาดแสงเย็น                   ทั่วฟ้า โอวาทปาฏิโมกข์เป็น                     ปรากฏ เอื้อนโอษฐ์อยู่เบื้องหน้า                 มนุษย์ผู้มโนสูง มาฆมาสมุ่งแม้น                           หทัยหมาย วิเศษวิสุทธิ์สาย                            สว่างซ้ำ เปลวเทียนที่ส่องกาย                     คนเก่า หวังว่าจะกลายกล้ำ                        จิตบ้างสว่างไสว ภูวไนย ณ แว่นแคว้น                      แดนธรรม ธ ซึ่งเคยชี้นำ                                ดับแล้ว กฎเกณฑ์แห่งกฎกรรม                    กำหนด บทพระธรรมดอกแพร้ว                    พร่างฟ้ากว่าสวรรค์ มาฆะ 'วัน' เช่นนี้                            มีเสมอ บอกจิตอย่าไปเผลอ                       ว่าแท้ มาฆะ 'ละ' บำเรอ                           ละ 'วุ่น' ลดฝุ่น 'กิเลส' ดอกแก้                     จิตใกล้กระหายสวรรค์ มาฆะ "วัน" พรุ่งนี้                           แน่หรือ เดือนเด่นดวงบันลือ                         ฟากฟ้า มรรคาค่าใดคือ                              "มรรค" เล่า วันเก่า วันข้างหน้า                          ค่าแท้คือไฉน? ........................... คำโดย ..วาวา.. วันก่อนมาฆบูชา จาก http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2697664/W2697664.html แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 47 08:26:36 จากคุณ : ..วาวา.. - [ 4 มี.ค. 47 22:40:14 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ๏ คืนเพ็ญมาฆะครั้ง...............ครองลัคน์ ล่วงหนึ่งพุทธศัก-....................ราชคล้อย เอหิภิกขุสมัคร.......................สมานหมู่ เสมอหนึ่งพันสองร้อย.............และห้าสิบสงฆ์ ฯ ๏ ลงวิหารเวฬุล้อม.................บรมศาส-...ดาแฮ ห้อมสดับพุทโธวาท................ระหว่างหั้น ปาติโมกข์ประกาศ.................ประการกอปร เกื้อประกฤตประกันกั้น...........กร่อนกล้อนกิเลสเขลา ฯ ๏ พึงเว้นวางชั่วกลั้ว................กุมกมล พึงประกอบกุศลดล................ดับร้อน พึงชะจิตจนผล......................ผุดผ่อง พ้นทุกข์สะท้อนข้อน...............เข่นสะท้านสทุมทรวง ฯ ๏ ครั้งเพ็ญมาฆะคล้อย...........ครบฉนำ น้อมจิตในพระธรรม...............ที่แท้ พิธีพลีกรรม...........................การประกอบ กระพี้ห่อหากรู้แล้...................หลุดพ้นโมหันธ์ ๚ะ ๒ มีนาคม ๒๕๔๗ แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 47 08:15:12 จากคุณ : วฤก (วฤก) - [ 5 มี.ค. 47 08:13:57 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขออนุโมทนาด้วยครับ จากคุณ : ไดเซอร์ - [ 5 มี.ค. 47 10:05:32 A:202.5.88.158 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 ๏ เดือนมาฆมาสพริ้ง              พรายฉาย จาตุรงคสันนิบาตหมาย           สี่พ้อง เทียนธูปประทักษ์ราย             บูชิต พระศาสน์เอย โอวาทปาฏิโมกข์ก้อง              กระจ่างแจ้งใจชน ๚ะ ๏ พันสองร้อยห้าสิบ               พระอรหันต์ เอหิภิกขุอุปสัมบัน                  มนัสน้อม จาริกสู่พระเวฬุวัน                   มินัด หมายนอ มาฆฤกษ์เพ็ญพร้อม               ครบถ้วนจาตุรงค์ ๚ะ ขนฺตี ปรมํ ตโป ตีติกฺขา       ขันตี คือความอดกลั้น เป็นธรรมเครื่องเผากิเลสอย่างยิ่ง นิพฺพานํ ปรมํ วทนฺติ พุทฺธา    ผู้รู้ทั้งหลาย กล่าวพระนิพพานว่าเป็นธรรมอันยิ่ง   น หิ ปพฺพชิโต ปรูปฆาตี        ผู้กำจัดสัตว์อื่นอยู่ ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิตเลย   สมโณ โหติ ปรํ วิเหธยนฺโต    ผู้ทำสัตว์อื่นให้ลำบากอยู่ ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะเลย   สพฺพปาปสฺส  อกรณํ            การไม่ทำความชั่วทั้งปวง กุสลสฺสุปสมฺปทา                การทำความดีให้ถึงพร้อม   สจิตฺต ปริโยทปนํ                การทำใจให้สะอาดบริสุทธิ์   เอตํ พุทฺธานสาสนํ              นี้เป็นคำสอนของพระพุทธศาสนา   อนูปวาโท อนูปฆาโต           การไม่พูดร้าย การไม่ทำร้าย   ปาติโมกฺเข จ สํวโร               การสำรวมในปาติโมกข์   มตฺตญฺญุตา จ ภตฺตสฺมึ           ความเป็นผู้รู้ประมาณในการบริโภค   ปนฺตญฺจ สยนาสนํ                การนอน การนั่ง ในที่อันสงัด   อธิ จิตฺเต จ อาโยโค             ความหมั่นประกอบในการทำจิตให้ยิ่ง   เอตํ พุทฺธานสาสนนฺติ            นี้เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย   ๏ สามคาถากึ่งข้อ                    ธรรมะ ความชั่วพึงลดละ                     เลิกเว้น ดีกระทำชำระ                          จิตสะอาด สามสิ่งพระศาสน์เน้น                 แก่นแท้พุทธธรรม ๚ะ๛ * พระบาลีและคำแปลคัดมาจาก http://www.heritage.thaigov.net/religion/daytime/index2.htm#mak จากคุณ : โมโน - [ 5 มี.ค. 47 12:23:52 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มาคะ  มาค่ะ  มานะจ๊ะ มานะคะ มะมามา จะจัดให้ มานะ มานี มานี่ไง มาไวไว มานะมา-ฆบูชา เข้าให้ตรา มาให้ตรึก นึกให้คิด เข้าให้ติด เสพให้โปร่ง โล่งใจหนา เข้าให้ลึก ฝึกจริต ด้วยปัญญา เข้าใจค่า แห่งวัน สำคัญยิ่ง วัดอะไร ใหญ่จริง วัดโคตรใหญ่ วัดที่ไหน ใครอยากไป ทั้งชายหญิง วัดใดเล่า เจ้าเข้าใจ วัดได้จริง วัดให้นิ่ง วัดที่ใจ  ให้ใฝ่ดี กันได้ไซร้ กันไว้สิ ดีกว่าแก้ กันได้แท้ หากทำใจ ไม่หน่ายหนี กันชวนมา ใฝ่ธรรม ลองดูที กันหวังดี ชวนกันมา เข้าวัดกัน จากคุณ : สมชาย - [ 6 มี.ค. 47 03:33:08 A:203.156.28.87 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 แห่ะๆ จำไม่ได้แระว่าไปเวียนเทียนล่าสุดปีไหน ไม่ค่อยได้ทำบุญเลย จากคุณ : priss - [ 8 มี.ค. 47 18:21:30 A:203.154.153.60 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 คำสอนเมื่อวันมาฆบูชา "พระพุทธโอวาทในโอวาทปาฏิโมกข์   คือ  หัวใจพระพุทธศาสนา ๑. การไม่ทำชั่วทั้งปวง (สพฺพปาปสฺส อกรณํ) ๑.๑ การละความโลภ ๑.๒ การละความโกรธ ๑.๓ การละความหลง ความหลง คือความไม่รู้ตามจริง ความเขลา ความมืดของดวงจิต ที่ว่าไม่รู้ตามเป็นจริงนั้น คือรู้ไปเสียอีกอย่างหนึ่งจากความเป็นจริง โลภ โกรธ หลง ทั้ง ๓ ประการนี้ พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ในฐานเป็นอกุศลมูล คือ รากเหง้าของอกุศล ต้นเค้าของความชั่ว เมื่อโลภ โกรธ หรือหลงเกิดขึ้น อกุศลอื่นที่ยังไม่เกิดก็เกิดขึ้น ที่เกิดแล้วก็เจริญมากขึ้น ๒. การทำกุศลคือความดีให้พรั่งพร้อม (กุสลสฺสูปสมฺปทา) คนเราทุกคนเกิดมาพร้อมด้วยหนี้บุญคุณของผู้อื่น มีมารดาบิดา ๓. การทำจิตให้ผ่องแผ้ว (สจิตฺตปริโยทปนํ) กิเลสเป็นสิ่งเศร้าหมองของจิตใจ จิตผ่องใสอยู่ตามธรรมชาติ   จิตนี้ผ่องใส แต่เศร้าหมองไปเพราะกิเลสที่จรมา ความโลภ ความโกรธ และความหลง เป็นกิเลสสำคัญที่เป็นอกุศลมูล คือ รากเหง้าของอกุศล เพราะเมื่อ ๓ อย่างนี้ อย่างใดอย่างหนึ่งมีแล้ว ก็จะทำให้อกุศลอื่น ๆ ที่ยังไม่เกิดเกิดขึ้น ที่เกิดแล้วก็เจริญมากขึ้น การทำจิตให้สงบนั้นมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน เช่น * การเป็นคนไม่จู้จี้ขี้เอาเรื่อง ไม่ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่, * ไม่มักวิตกกังวลเรื่องที่ล่วงมาแล้ว และเรื่องอันยังไม่เกิดขึ้น. * การทำงานด้วยความขยันขันแข็ง ใช้เวลาให้หมดไปกับการทำงานอย่างใดอย่างหนึ่ง การเป็นผู้มีเหตุผล * การเล็งเห็นทั้งคุณและโทษของสิ่งที่ตนเข้าไปเกี่ยวข้อง * การพยายามมองบุคคลและเหตุการณ์ต่าง ๆ ในแง่ดีตามสมควร * การทำจิตให้สงบด้วยวิธีการบำเพ็ญสมาธิหรือสมถภาวนา * การอบรมจิตใจให้มีปัญญาที่เรียกว่า "วิปัสสนาภาวนา หลักสำคัญ  คือ  การควบคุมจิตให้อยู่เหนืออารมณ์ปัจจุบัน ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.dharma-gateway.com/ubasok/wasin/wasin-04.htm เพื่อน ๆ เข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้นะคะ จากคุณ : วังวน - [ 9 มี.ค. 47 10:01:27 A:203.152.33.190 X:192.168.0.2 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ชื่นชมคุณแมวอ่อนแอที่น่ารักติดตามอ่าน นานแล้วดีใจที่ได้อ่านผลงานของคุณเสมอ ทั้งภาค แจมกระทู้ และตั้งกระทู้เอง ... ขอเวลาไปฝึกวิทยายุทธมาลงสนามบ้าง สักวันหนึ่ง และคงไม่นานเกินไปค่ะ จากคุณ : ครูเอง - [ 17 มี.ค. 47 12:05:10 A:202.133.166.11 X: ]