ห้อง
ผมจำไม่ได้ว่าเข้ามาอยู่ในห้องนี้ได้อย่างไร และทำไม
ห้องสีขาวขนาดใหญ่พอๆกับห้องพักหรูหราตามโรงแรมขนาดใหญ่ เพียงแต่ห้องนี้ไม่มีเครื่องตกแต่งอะไรมากมาย ทั้งห้องมีเพียงเก้าอี้ยาวและโต๊ะเล็กๆชุดหนึ่ง กับ เตียงไม้ธรรมดาที่พอจะซุกหัวนอนได้ ไม่มีหน้าต่าง หากมีประตูปิดสนิทอยู่บานหนึ่ง
ห้องทั้งห้องจึงดูเหมือนกล่องขนาดใหญ่ที่ปิดตาย
ผมเองก็รู้สึกกลัวเหมือนกัน แต่ก็พอจะคาดเดาได้ว่า ใครก็ตามที่จับผมมายัดใหญ่กล่องสีขาวใบนี้ คงไม่มีเจตนาจะให้ตาย เพราะยังรู้สึกมีอากาศระบายเข้าออกอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่หายังไม่เจอเท่านั้นว่าอากาศผ่านมาทิศทางใดเท่านั้น เหมือนกับแสงสว่างในห้อง ที่ยังค้นไม่เจอว่ามีการซ่อนหลอดไฟไว้ที่ไหน บางทีอาจเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าจนคิดไม่ถึงก็เป็นได้
เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ก็ดูหรูหราเหมือนกำลังจะเดินทางไปงานเลี้ยงสักแห่ง แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีใครเข้ามาในห้องเพื่อเชิญผมออกไปจากห้อง
ผมพยายามหาทางออก แต่ยังไม่พบว่าจะออกจากห้องนี้ได้อย่างไร ห้องที่มีแต่ความเงียบเกือบจะแท้จริง ถ้าไม่รวมเสียงกิจกรรมต่างๆที่ผมกระทำตามประสาของคนที่พยายามหาทางออก เวลาผ่านไปเรื่อยๆ แต่ไม่สามารถระบุชัดเจนว่ามันเป็นช่วงเวลาใดหรือมากน้อยแค่ไหน
เวลาผ่านไปอย่างไม่อาจระบุได้ว่ากี่ชั่วโมงหรือกี่วัน ประตูบานนั้นยังไม่มีวี่แววว่าจะเปิดออก ไม่ว่าจะโถมกระแทกแรงปานใด เสมือนหนึ่งว่ามันเป็นรอยประตูบนผนังเท่านั้น ผมจึงใช้เวลาไปกับการสำรวจพื้นห้องทั้งสี่ด้านและพื้นด้านล่างทุกตารางนิ้ว แต่ไม่มีร่องรอยอะไรจะบอกใบ้ว่ามีกลไกลับ ซึ่งสามารถเปิดออกสู่โลกภายนอกได้
การอยู่กับตัวเองในบริเวณแคบๆแบบนี้ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพจิตแน่นอน เราไม่มีทางรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หรือมีอะไรเกิดขึ้นข้างนอกห้อง
ความทรงจำที่เหลืออยู่ของผมก็ดูเลือนลาง เหมือนกับว่ามีใครสักคน หรืออะไรสักอย่างลบความทรงจำของผมจนขาดหายเป็นช่วงๆ ความทรงจำที่เหลือก็ดูจะปะติดปะต่อจนไม่ค่อยเป็นรูปร่างแบบรุ่งริ่งแทบจะไม่มีความหมาย
บางทีผมอาจจะประสบอุบัติเหตุ จนสมองกระทบกระเทือนอย่างหนัก หรืออาจจะโดนมนุษย์ต่างดาวจับตัวมาทดลองอะไรบางอย่าง หรืออาจจะเป็นเพียงการฝันร้ายที่รอการตื่นขึ้นมาเท่านั้น หรือบางทีผมอาจจะตายไปแล้ว และวิญญาณลงมาสิงอยู่ในห้องนี้ ทุกอย่างก็มีสิทธิ์เป็นได้ทั้งนั้นในสถานการณ์แบบนี้
แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็แล้วแต่ ผมก็ยังหาคำอธิบายหรือตอบไม่ได้ว่า ห้องนี้มันอยู่ที่ไหน และมีจุดประสงค์อะไรซ่อนเร้นอยู่ของสิ่งที่อยู่เบื้องหลัง
เมื่อสำรวจไม่พบกลไกอะไรที่พอจะเปิดได้ ผมก็เริ่มหาทางใหม่ บางทีอาจจะพังผนังห้องออกไปได้ แต่ ทั้งในห้องไม่มีเครื่องมืออะไรสักอย่างที่จะใช้พังทะลายผนังอันแข็งแรงสู่โลกภายนอกได้
เวลาผ่านไปพร้อมกับความวิตกกังวลซึ่งเพิ่มมากขึ้นทุกที อย่างน้อยมันน่าจะมีหมาหรือคนโผล่หน้ามาพูดคุยกับผมบ้างให้มันรู้เรื่องรู้ราว
ผมจับเก้าอี้กระแทกพื้นจนขาเก้าอี้หักออก แล้วเริ่มใช้เศษไม้เคาะดูตามผนังห้อง เสียงไม้กระทบผนังดังแปลกๆ ชวนให้ขนลุก บอกไม่ถูกว่าทำไมแค่เสียงเคาะผนังจึงให้ความรู้สึกอันน่าสะพรึงกลัวแบบนั้น เสียงเคาะจะดังออกไปถึงข้างนอกหรือไม่ก็สุดจะคาดเดา ได้แต่หวังอย่างไม่แน่ใจว่าอาจจะมีใครได้ยินเสียง
เมื่อไล่เคาะไปได้สักระยะ ก็เอาหูแนบผนัง ด้วยความหวังว่าจะมีเสียงเคาะตอบกลับมา ซึ่งถ้ามีเพียงนิดเดียวของการตอบรับ ผมคงจะมีกำลังใจในการพยายามติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอก แต่หลังจากเสียงเคาะจางหาย ที่เหลือคือความเงียบเชียบ ซึ่งตอบกลับมาจากผนังอย่างเย็นชาและโหดร้าย
ภาพอันน่ากลัวเริ่มก่อตัวขึ้นในความคิด สมมุติว่าข้างนอกเกิดไฟไหม้ ห้องนี้คงจะค่อยๆร้อนขึ้นเรื่อยจนอบผมกลายเป็นเนื้ออบชิ้นโต ไม่ต้องจินตนาการก็พอจะนึกออกว่ามันเลวร้ายและทรมานขนาดไหน สมมุติว่าอากาศในห้องหายไปเฉยๆ เหมือนรถที่ปิดกระจกในวันที่ร้อนอบอ้าว ก่อนตายคงทุรนทุรายน่าดู ความคิดพวกนี้ก่อตัวประดังขึ้นมาจนแทบควบคุมไม่อยู่ และมันทำให้เริ่มหวาดกลัวจนสั่นสะท้าน
ไม่ได้...ผมพยายามบอกกับตัวเอง จะปล่อยให้ความคิดแบบนี้มันมาทำร้ายและทำลายผมไปก่อนเวลาอันควรไม่ได้ เหตุการณ์แบบนั้นยังไม่เกิดขึ้นและมันไม่ควรจะเกิดขึ้น สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คือการระงับสติอารมณ์ให้เยือกเย็นลงก่อนจะฟุ้งซ่านจนบ้าไปจริงๆ
แม้ว่าจิตใจจะเริ่มสงบลงได้ แต่ความรู้สึกเย็นยะเยียบบางอย่างเหมือนเริ่มก่อตัวขึ้นมาจากความว่างเปล่า และค่อยๆคืนคลานอย่างช้าๆไปตามแผ่นหลัง ความกลัวนั่นเองที่สร้างรูปลักษณ์น่าพรั่นพรึงขึ้นมาจากส่วนลึกของจิตใจ แสงสว่างในห้องดูเหมือนจะไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมากนักเพราะความหวาดกลัวมันฝังตัวอยู่ก้นบึ้งแห่งความคิด
ผมเริ่มใช้เศษไม้เคาะไปตามผนังอีกครั้ง อย่างน้อยเสียงของมันก็พอจะหลอกได้ ว่าไม่ได้อยู่ในความเงียบและโดดเดี่ยวอันน่าขนลุก
พระเจ้าหรือซาตานก็ได้ โปรดตอบรับด้วยเถิด ใครที่ช่วยได้ในตอนนี้ผมพร้อมที่จะอุทิศชีวิตที่เหลือรับใช้ ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของนักบุญหรือปีศาจร้าย!
สายธารแห่งเวลายังคงเลื่อนไหลไปอย่างปราศจากเป้าหมายในกล่องสีขาว เสียงเคาะยังคงปรากฏเป็นระยะบนช่วงแห่งกาลเวลาอันน่าเศร้า ในจังหวะที่เงียบไปเป็นช่วงแห่งการแนบหูชิดผนัง เพื่อฟังเสียงแห่งความเงียบ...
ความเงียบที่น่าชิงชังรังเกียจ ปราศจากการตอบรับ ไอ้ความเงียบที่ไร้หัวใจ
.......
.......
นั่นเหมือนจะได้ยินอะไรสักอย่าง
........
.......
อาจเป็นการประสาทหลอนหรือคิดไปเองก็ได้ ถ้าคิดตามเหตุผลมันก็มีสิทธิ์เป็นไปได้ คนที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบ นี้อะไรก็คิดเองจนเกิดประสาทหลอนได้ทั้งนั้น
แนบหูจนแทบจะเป็นการอัดกระโหลกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของผนัง ฟังให้แน่ใจ มันจะต้องไม่ใช่เรื่องของการประสาทฟั่นเฟือน เสียงตอบรับแผ่วเบาเมื่อครู่ต้องเป็นของจริง ความหวังไม่ว่าจะเลือนลางอย่างไรตอนนี้ก็ต้องคว้าไว้ก่อนแม้จะเป็นเพียงเส้นฟางที่ลอยมาตามน้ำ
เสียงนั้นเบาหรือเกิน แต่ไม่เบาเกินกว่าที่จะได้ยิน
ผมรู้สึกตัวชาวูบวาบด้วยความตื่นเต้น จะเสียงบ้าเสียงบออะไรก็ตาม ตอนนี้มันมีความหมายต่อชีวิตมากมายมหาศาล ต้องตั้งใจฟังให้ดี
เสียงที่แผ่วเบาเป็นเสียงเหมือนฝูงผึ้งบินอยู่ที่ใดสักแห่ง แต่ฟังให้ดีก็เหมือนเสียงผู้คนกลุ่มหนึ่งกำลังพูดคุยกระซิบกระซาบกันอย่างมีเลศนัย แต่หากจะฟังไปว่าเป็นเสียงของคนที่กำลังร่ำร้องอย่างเจ็บปวดทรมานก็เป็นไปได้ แต่ตอนนี้ผมเริ่มมั่นใจแล้วว่าไม่ได้คิดไปเอง
ลองใช้ไม้เคาะผนังสองสามครั้งก่อนจะแนบหูกับผนังอีก
ลองทำแบบนั้นอยู่นับสิบครั้ง ในที่สุดก่อนที่จะหมดความพยายามก็ได้ยินเสียงเคาะอะไรบางอย่างตอบมาจากอีกฟากหนึ่ง จะฟากหนึ่งของอะไรก็ตาม
ผมเผลอตัวร้องสุดเสียงด้วยความตื่นเต้น เอาล่ะ ... มีใครบางคน หรืออาจจะเป็นอะไรสักอย่าง รับรู้ความพยายามการติดต่อสื่อสารของผมแล้ว
ลองเคาะเป็นจังหวะช้าๆ
เมื่อแนบหูฟังอีกครั้ง มีเสียงเคาะตอบกลับมาในรูปแบบและจำนวนครั้งที่เท่ากัน มันไม่ใช่เสียงสะท้อน... เสียงเคาะนั้นปนมากับเสียงอึงอลซึ่งไม่เข้าใจความหมาย ถ้าจะเปรียบหรือคิดอย่างเข้าข้างตนเอง มันก็เหมือนกับว่าท่ามกลางความวุ่นวายเร้นลับ อะไรบางอย่างรับรู้การติดต่อ และผละจากกลุ่มมุ่งหน้าตรงมาที่นี่! แต่เพราะอะไรไม่รู้เหมือนกัน ผมรู้สึกว่าเสียงอื้ออึงแผ่วเบาหากกระหึ่มในความรู้สึก ที่อยู่ฉากหลังของการตอบรับนั้น ฟังดูน่ากลัวและชวนขนลุกอย่างบอกไม่ถูก ช่างมันเถอะ...จะเป็นเสียงนรกอะไรก็เรื่องของมัน
เสียงตอบรับทุกครั้งค่อยดังชัดเจนขึ้นทุกที ไม่ว่าจะลองเคาะกี่ครั้ง เสียงนั้นจะตอบกลับมาเท่ากันเสมอ แบบนี้ต้องเป็นคนหรือสิ่งมีชีวิตจึงจะกระทำแบบนี้ได้ เอาล่ะ.. อย่างน้อยตอนนี้ผมก็เริ่มติดต่อกับโลกภายนอกได้แล้ว ถ้าข้างนอกห้องมีโลกภายนอกจริงๆ
+++++++++++
อีกไม่เกิน 1 - 2 ตอน จบครับ
ไฟล์รูปภาพ
จากคุณ :
Psycho man
- [
5 มี.ค. 47 13:52:13
]