คนเมืองอยู่ป่า 6.1





    บทที่หกจุดหนึ่ง

    หลังพายุฝนผ่านพ้น  เราก็เอารถหน้าเยิน  ที่ยังไม่ได้แจ้งประกันมาเคลม  ตอนชนเสาไฟ  เดินทางต่อไปติดตามเป้าหมายของเราต่อไป…..

    ………………………….

    บ่ายโมง เราไปเฝ้ารอที่หน้าบ้าน  (หลังจากซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งไปสองถุงใหญ่  เพราะไม่รู้ว่าจะรอนานขนาดไหน…….และมีน้ำแร่ยี่ห้อออราอ่ารอ……เย็นสนิท……อย่างครบครันในรถของเรา…)

    จอดรถรอแบบตำรวจในหนังฝรั่งเลย  แต่ไม่มีแฮมเบอร์เกอร์ โดนัท หรือกาแฟ อะไรแบบเขา  

    เราไปแบบของเรา ……………

    “เอ็ม เมิงชาร์จแบ็ตให้กรู รึเปล่า?”  เอกถามผม ระหว่างนั่งตรวจตรากล้องวิดีโอ

    “กรูชาร์จเรียบร้อย  เผื่อไว้ให้เมิงถ่ายหนังส่วนตัวของเมิงด้วย  นี่แบ็ตสำรอง”  ผมหยิบแบ็ตเตอรรี่สำหรับกล้องวิดีโออีกอัน จากกล่องหน้ารถให้เอกมันดู

    “กรูถามดู…..เผื่อไว้น่ะ….คราวก่อนแม่มรออยู่ครึ่งวัน…….พอเอากล้องมาถ่าย……โลว์แบ็ต….”

    มันควักแบ็ตเตอรี่เข้าออกจากเครื่องแล้วเปิดเครื่องดูตรวจสอบกำลังไฟในแบ็ตฯแต่ละอัน  และผมปล่อยให้มันทำจนเป็นที่พอใจ……..ทันใดนั้น…….

    “เฮ้ยยยย…..ไปแล้ว…….ไปเร้ว……”   รถไทเจ๋อ หนุมานสามลิตรนั่น เพิ่งแล่นออกจากบ้านของเจ๊ไป

    ไอ่เอกสตาร์ทเครื่องสองที  (เพราะทีแรกมันไม่ติด)   ของเราเป็นรถไทเจ๋อเหมือนกัน  แต่คนละโมเดล  ของเราเป็นรุ่นประหยัด เครื่อง 1.5 ลิตร  รุ่นกระฎุมพี  สีเขียวเหลือง  สวยเชียแกเอ๊ย…..

    ใครไม่รู้โบกมือเรียกให้วุ่น  นึกว่าเราเป็นแท็กซี่……….เราไม่มีป้ายเขียนว่า “ว่าง”  บนคอนโซลหน้ารถซักหน่อย  ……..และไม่มีหมวกเขียน “TAXI METER” บนหลังคารถด้วย…… ไม่รู้จักดูกันมั่ง

    พอเข้าเกียร์ได้  เราก็ตะบึงตามไปทันที   กล้องวิดีโอที่มันถืออยู่ถูกโยนไปเบาะหลังโดยกระทันหัน

    ไทเจ๋อ หนุมาน 3.0 ลิตร คันสวย จอดเทียบคลีนิคแห่งหนึ่ง ในอำเภอช่างฉัน  ห่างจากที่เราขับมาประมาณ 50 กิโลเมตร

    “ทำบ้าอะไรของมันวะ…..เกือบข้ามจังหวัด……”   ไอ่เอกบ่นเลย

    “นั่นดิ……..อยากรู้เหมือนกัน…..”  ผมสงสัยอย่างยิ่งว่าเจ๊แกมาทำไมแถวนี้  ดันมาวันแรกที่เราเริ่มงานซะด้วย  เลยมีเหนื่อยเลย….

    ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา  (ไม่ใช่ยี่ห้อ nomia  อันนี้ไม่มีอักษรนูนบริเวณตัวเครื่อง…)   รายงานให้โรเบิร์ตได้รู้  

    “เฮ้ยย…..เจ๊นั่นออกจากบ้านมาแล้ว  ตอนนี้มาที่คลีนิคห้องแถวว่ะ…..”

    “เออ ดี   เมิงเก็บภาพมาให้หมดเลย  ว่าไปเจอใคร หน้าตายังไง  อย่าลืมเซ็ทตั้งวันที่ไว้ที่เครื่องล่ะ เวลากรูอธิบายกะลุงเค้าจะได้เล่าถูก….”

    โรเบิร์ตไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเที่ยงเลย….ซักคำ   มันช่างเป็นหัวหน้าประเสริฐจริงๆ  บ้าทำแต่งาน  และไม่ใส่ใจในเรื่องไร้สาระที่ผมได้ทำไป

    เจ๊นั่นเดินเข้าไปในคลินิค  ผมลงจากรถแล้วบอกเอก   “มากะกรู…”

    มันงงๆเล็กน้อย….  “เมิงจะไปไหน…..”

    “เมื่อตอนเที่ยงกรูยังไม่ได้กินข้าว  กรูหิว……. ไปเร็วว…..”

    “ไอ่เวง…….”  เอกมันพึมพำ   แต่ผมได้ยิน

    ……………………ผมลืมข้าวเหนียวหมูปิ้งไปสนิทใจ  เพราะกลิ่นร้านลาบนั่นแท้ทีเดียว……………

    ในที่สุดเรามานั่งที่ร้านส้มตำใกล้ๆคลินิคนั้น    และรอเวลา    สายตาผมยังจับจ้องไปที่ประตูหน้าของคลินิคแห่งนั้นอย่างไม่ละวาง….

    “เอาน้ำตกหมู ลาบไก่ไข้หวัดนก….…ข้าวเหนียว…....”  

    ผมหยอดคำล้อเล่นปนเปื้อนไปกับคำที่สั่งอาหาร  พนักงานเสริฟอมยิ้มเล็กน้อย……เขาเป็นผู้ชายน่ะ  ไม่ต้องคิดมาก…….

    “เมิงเอาข้าวเหนียวมั๊ย?”  ผมหันไปถามเอก

    “กรูเรียบร้อยมาแล้ว  เมิงกินเถอะ”  ท่าทางเอกมันคงจะเซ็งน่าดู

    ผมรีบจัดการกับมื้อนั้นอย่างเร่งด่วน   เพราะไม่รู้เจ๊แกจะออกมาตอนไหน   ไอ่เอกนั่งหันไปหันมา   ดูอะไของมันไปเรื่อยเปื่อย

    “คลินิคนั่น  น้ารู้จักมั๊ย  เค้ารักษาดีรึเปล่า?”  ผมเดินไปถามเจ้าของร้าน ไม่มีปี่มีขลุ่ย

    ไอ่เอกนั่งงง

    “เพื่อนผมมันเป็นอะไรไม่รู้  อยากให้หมอลองช่วยดูมันหน่อย วันนี้มันไม่ค่อยสบาย”

    น้าเจ้าของร้านมองดูเพื่อนผม  ไอ่เอกนั่นแหละ  

      “มันเป็นไรอ่ะ…?   เห็นมันดีๆนิหว่า…”   แกสงสัย

    “มันเป็นอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้  แต่มันกินข้าวไม่ค่อยได้น่ะครับ  กินอะไรเป็นขมๆไปหมด  กินได้น้อย….”

    “ร้อนในรึเปล่า…..” แกพยายามช่วยผมวิเคราะห์

    “เอ่อๆ  …แต่ว่าลองเอาไปถามหมอดูดีกว่า….….ท่าทางแกเก่งนะ”  เจ้าของร้านแนะนำ

    “คนไข้มาเยอะเลย วันๆ“

    “ เด็กๆนักศึกษาก็เยอะ   เห็นเดินเข้าเดินออกบ่อย….”

    …………….คลินิคทำแท้งรึเปล่าวะ?????????   ………….ผมคิดเอาเอง……

    “เค้าเปิดมานานยังอ่ะ ?”   ผมถามน้าเจ้าของร้านต่อ

    “นานแล้ว…..สี่ห้าปี ได้อยู่….”

    ……….คลินิคทำแท้ง  ทำไมมันหนังเหนียวหยั่งงี้วะ…….???????   สงสัย สงสัย ?????…….

    ไอ่เอก ใช้เวลาว่างโทรหาแฟนมันอยู่ตอนนั้น….

    “เดี๋ยวผมลองไปถามหมอดูนะ   ค่าอาหารเท่าไหร่คับ”   ผมเก็บโทรศัพท์มือถือของผม กับกุญแจรถใส่กระเป๋ากางเกง  ไอ่เอกยังง่วนอยู่กับการคุยโทรศัพท์…..

     หลังจากจ่ายค่าอาหารเรียบร้อย  ผมดึงเอกออกมาจากที่นั่น  และเราตรงไปที่คลินิคนั้น……….ไอ่เอกเดินคุยโทรศัพท์ตามผมมาห่างๆ…..ง…..

    ยังไม่ทันถึงคลินิคดี เป้าหมายของเราก็เดินออกมา มีคุณหมออาวุโสคนหนึ่งเดินตามมาส่งเธอ  และยืนพูดคุยอะไรกันต่อที่หน้าคลินิค  แล้วคุณหมอก็เดินตามไปส่งเธอที่รถไทเจ๋อสีบรอนซ์เงินคันนั้น

    เอกวิ่งกลับไปที่รถของเรา ตามสัญชาติญาณ…….  เราต้องใช้กล้องวิดีโอ………  สตาร์ทรถเตรียมตัวติดตามครั้งต่อไป….  

    ส่วนผมหยุดเดินและกลับหลังหัน  เอามือเกาหัวแกรกๆ…….เอาไงดีวะเนี่ย…….

    ในที่สุด ผมเดินตรงไปที่คลินิคเหมือนเดิม   ผมถึงประตูทางเข้า  ห่างจากคุณหมออาวุโส ประมาณหนึ่งก้าว  

    “คุณหมอครับ  ผมไม่จะบายยย…..อ่ะครับ…..”  ผมทักทายคุณหมอคนนั้น  และมองแกอย่างสงสัย…..

    ……………..ถ้าหมอนี่เป็นชู้รักเจ๊นั่นจริง  แกต้องมีทีเด็ดอย่างยิ่งยวด  อย่างซุปเปอร์ทีเด็ดเลยเชียว  เพราะคาดเดาจากอายุคุณหมอไม่น่าจะต่ำกว่าหกสิบ  คิ้วหงอก และบนหัวไม่มีผมให้ดูสีแล้วด้วย……คิดถึงลุงส.ส. นายจ้างพวกเรา   …………ถ้ารู้แกคงจะช้ำใจน่าดู …….เสี่ยเหลี่ยมเสียฟอร์มอย่างยิ่งเล๊ยยย……  

    “เอ่อ….ไม่สบายเป็นอะไรล่ะ  เข้าไปข้างในสิพ่อหนุ่ม…..”  แกเชื้อเชิญอย่างมีอัธยาศัย

    “ครับๆ…..คุณหมอใจดีจังนะครับ……เห็นคุณหมอเดินมาส่งคนไข้ถึงรถเลย….. ”  ผมเริ่มต้นถอดรหัสทีละนิด….

    “อ๋อ……คนนั่งรถสีบรอนซ์นั่นเหรอ…….”

    “ครับๆ…..ไม่เห็นเค้าป่วยไข้  เดินเหินก็สะดวกสบายดี…  เค้าเป็นอะไรเหรอครับ..…”  ผมตามล่าหาความจริงไปเรื่อยๆ

    “เค้าไม่ได้ป่วยได้ไข้หรอก.…..เค้าไม่ได้มาหาหมอ”  คุณหมอตอบคำถามตรงไปตรงมา

    “เอ่า….ไม่ได้ป่วยแล้วมาหาหมอทำไม……เอ่ออ…..มาทำไมน่ะครับ…..ผมหมายความอย่างนั้น…”  ผมยังพยายามดำเนินการค้นคนไปอย่างเจาะลึก   คุณหมออาวุโสหันมามองผมตาขวางๆ

    “เรื่องอะไรของเมิงล่ะ…….เค้าเป็นเจ้าของคลินิคเนี่ย…..เค้าจะไปจะมาต้องรายงา….….”   ผมไม่รอให้หมอพูดจบ  รีบวิ่งกลับมาที่รถ………..อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้………ก่อนแกจะยัวะมากไปกว่านี้….

    ผมรู้สึกยังไงเหรอ….

    รู้สึกว่าระยะทางจากหน้าคลินิคนั้นกับรถของเรา ทำไมมันโคตรไกล……..

    “ไ ห น บ อ ก ไ ม่ ส บ า ย. . . . . . “  เสียงคุณหมอแว่วตามหลังมาไกลๆ

    เอกยืนกอดอก พิงประตูรถรอท่าผมอยู่………..ผมไปหยุดหอบอยู่ที่รถ แฮ่ก…แฮ่ก…แฮ่ก….

    “รอเอี้ยอะไรอยู่เมิง…..แฮ่ก…แฮ่ก… รีบออกรถเด่ะ…แฮ่ก…แฮ่ก…”

    “เมิงเอากุญแจรถมาเด่ะ……..กรูเข้ารถไม่ได้…….”  เอกยืนหน้าบูดอยู่ข้างรถ  เหงื่อแตกเพราะแดดตอนบ่าย  สายตาบ่งบอกว่าหากโลกระเบิดในวันนี้…..ความผิดทั้งหมดทั้งปวงผมต้องรับผิดชอบคนเดียว..….

    …………….โห้ยยยยย…….ซวยๆๆ……กุญแจรถ………….


    บ่ายสาม สี่สิบ  

    พวกเราออกมาจากตรงนั้น  และพยายามตามเป้าหมายไป……..ไป……ไปไหนแล้วอ่ะ…..????….






    จากคุณ : สมชาย - [ 6 มี.ค. 47 02:47:47 A:203.156.28.87 X: ]