หลังจากเข้าแถวเสร็จผมก็ขึ้นไปบนห้องเรียนกับเพื่อน ใหม่ของผม
บอย
มีไร
คาบแรกเราเรียนอะไรกันเหรอ
เรียนเลขอ่ะ
นี่บอยนายรู้จักเด็กผู้หญิงคนนี้ป่ะ
คนไหนอ่ะ
คนที่ตัวเตี้ยกว่าเราหน่อย น่ารักๆ อยู่ม. เดียวกับพวกเรา
คนที่ตัวเตี้ยกว่านายมีเป็นร้อย คนที่น่ารักน่ารัก ก็มีอีกเยอะ เออะนี่ บาสต์ เรามีอะไรให้แกดูด้วย
อือ อะไรเหรอผมเริ่มเปลี่ยนความสนใจแล้ว
เป็นการ์ตูน แบบผู้ใหญ่น่ะ
อะไรเหรอการ์ตูนแบบผู้ใหญ่ บอยหยิบการ์ตูนเรื่องหนึ่งออกมาจากกระเป๋า
หน้าปกถูกห่อด้วยกระดาษสีขาว ผมเปิดออกมา แล้วก็ได้เห็นภาพที่น่ากลัวที่สุดในขณะนั้น เป็น ภาพของจอมยุทธ์ หนุ่ม กับ นินจาสาว ที่กำลังต่อสู้กันอยู่ บนเวที 4 เหลี่ยม จอมยุทธ์ หนุ่มใช้ดาบซึ่งอาบไปด้วยยาพิษสีขาวๆๆ ส่วนนินจาสาว ใช้หลุมพลางซึ่งเต็มไปด้วยขมพิษและน้ำกรด ต่อสู้กันมันมาก จนน้ำกรด และยาพิากระจายอยู่บนเวที ผมรีบปิดแล้วคืนไอ้บอยมัน
ชอบใช่ไหมล่ะ
ชะ..ชอบซะที่ไหนเล่า
ให้ยืมเอาป่ะ
ใครจะเอา ของแบบนี้แต่ผมรีบเก็บใส่กระเป๋า (เพราะกลัวคนอื่นเห็นหรอกน่า ไม่มีอะไรจริงๆ)
อย่าปฏิเสธเลย ผู้ชายเค้าอ่านกันทั้งนั้นแหละ มันหัวเราะผม แต่ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะความจริงมันก็คือความจริงวันยังค่ำ ผมก็ชอบอยู่นิดๆเหมือนกัน ตลอดทั้งวัน ผมกับไอ้บอย คุยกันเรื่องสัพเพเหระอีกมากมาย จนกระทั่งเลิกเรียน
โชคดีเว้ยไอ้บาสต์ พรุ่งนี้เจอกัน อย่าหักโหมน่ะ
เออน่า อย่าพูดมาก ผมคิดในใจว่า เหอะๆโชคดีอยู่แล้ว คืนนี้ เรามีอะไรทำหนุกๆแล้ว หึๆๆ
ผมเดินไปหน้าโรงเรียน เพื่อหาของกินมาบรรจุท้องที่เริ่มว่างของผม ผมไปซื้อไส้กรอกมาจากร้านป้าคนหนึ่ง ใส้กรอกของเขาอันใหญ่มากผมเห็นแล้วยังท้อเลยกลัวกินไม่หมด เพราะสั่งไปตั้ง5ไม้ ผมนั่งลง ตั้งกระเป๋า แล้วก็เริ่มจักการกับไส้กรอกเจ้ากรรมของผม แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมต้องระงับการกินเพียงแค่นั้น
ตึก
เสียงกระเป๋าตั้งลงข้างๆๆกับกระเป๋าของผม ผมเงยหน้าขึ้นไปดู โอ้วพระเจ้าจอร์จ วันนี้อะไรมันจะโชคดีแบบนี้ว่ะเนี่ย ผมเห็นเธออีกครั้งคราวนี้แบบระยะประชิด ผมจ้องตาเธอ เธอก็มองมาที่ผม เราทั้งสองจ้องตากัน เธอยิ้มให้ผมก่อน ผมเหมือนตัวกำลังจะลอยได้ ผมกำลังจะถามชื่อเธอ
ธะ..เธอ ชื่อ
เขาหัวเราะ ทำให้ผมรู้สึกเขินไม่กล้าพูดต่อ แต่ไม่เพียงแค่เธอที่หัวเราะ คนรอบๆๆข้างแถวนั้นต่างพากันจ้องมองส่วนล่างของผมแล้วก็หัวเราะ ผมรู้สึกประหลาดใจมาก จึงก้มดู
โอ้ย ซวยอีกแล้วไง ก็จะไม่ซวยได้ไงครับ เมื่อไส้กรอกที่ผมเพิ่งซื้อมา มันหกไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ แต่ที่รู้คือ ตอนนี้มันไปตั้งเด่อยู่บริเวณ อวัยวะส่วนล่างของผมพอดี ด้วยความอาย ผมรีบลุกขึ้น หยิบกระเป๋าแล้ววิ่งไป เธอพยายามเรียกผม แต่ผมไม่กล้าหันกลับไปหา ให้หันกลับไปได้ไงล่ะครับสภาพนี้ ผมรีบโบกรถเครื่องรับจ้าง กลับบ้านในทันที
กลับมาถึงบ้าน พ่อกับแม่ผมไม่อยู่ เหอะๆ ไหนๆกางเกงมันก็เปื้อนอยู่แล้วเดี๋ยวค่อยซักทีเดียวเลย มาทำอะไรหนุกๆดีก่า ผมเดินไปหยิบกระเป๋าเพื่อจะเปิดเอา หนังสือการ์ตูนแบบผู้ใหญ่ของไอ้บอยมาอ่าน
แต่ ...เอ๋ ทำไมมันไม่มีว่ะ หายไปไหนน่ะเนี่ย หรือว่าไอ้บอยมันหยิบออกไป ก็ไม่น่าจะใช่ แต่ผมต้องหยุดคิดเมื่อ มือผมไปสัมผัสกับสิ่งหนึ่ง มันนิ่มๆ นุ่มๆๆ ผมหยิบขึ้นมาเพื่อจะดูให้ชัดเจน
...โอ๊ะโอ่ อะไรกันว่ะเนี่ย สีชมพู คล้ายๆๆกางเกงใน แต่มันเขียนไว้ข้างๆๆว่าแบบมีปีก ผมนึกๆดูมันคล้ายๆเหมือนกับว่าเคยเห็นที่ไหน อ๋อ!!ที่แท้ก้อผ้าอนามัย แต่มันเป็นของผู้หญิงนี่ แล้วมาอยู่ในกระเป๋าเราได้ไงหว่า
ผมเริ่มสงสัยเลยรีบหยิบสมุดขึ้นมาดูชื่อ วรรณลักษณ์ โนอึ๋มตม
โว้ยทำไมมันซวยซ้ำซวยซ้อยอย่างนี้ว่ะ
ผมบ่นกับตัวเอง ผมลองนั่งๆนึกๆๆดู อ๋อตอนนั้นแน่เลย ที่เธอคนนั้นเอากระเป๋ามาตั้งไว้ข้างๆๆผม เห้ยถ้าอย่างนั้น เธอก็ต้องเอากระเป๋าผมไปสิ แต่ที่แย่กว่านั้นมันมีการ์ตูนแบบผผู้ใหญ่ของผมอยู่
แย่แล้ว ถ้าเธอเปิดอ่าน เธอคงจะคิดว่าผมเป็นคนลามกแอบจิต ฮือๆๆ!! จบกันแล้วความรักเรา ฮือๆๆ!! ไอ้บอย ไอ้ซวย ขณะที่ผมกำลังหมดหวัง ผมได้เดินไปนั่งที่หน้าต่าง มองออกไป
พระอาทิตย์วันนี้ช่างสวยจริงๆๆ ผมเริ่มมองไปบริเวณรอบข้าง และมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้สติอันเลื่อนลอยของผม กลับมาอีกครั้ง
เห้ย เราตาฟาดป่าวว่ะผมพูดกับตัวเอง ในขณะที่ตาผมกำลังเพ่งเล็งไปที่บ้านๆๆหนึ่ง เธอคนนั้น สวรรค์ ขอบคุณมากครับ ผมเริ่มมีกำลังใจขึ้นอีกครั้ง ถ้าไปตอนนี้ต้องทันแน่เลย เธอคงยังไม่เปิดอ่านที ผม รีบวิ่งลงไปเอากางเกงชุดนอนมาเปลี่ยน และถือกระเป๋าเธอไปด้วย ผมเร่งฝีเท้า บ้านเธอห่างจากบ้านผม ประมาณ เกือบๆๆ 18เมตร แต่อยู่กันคนล่ะซอย ผมจึงต้องวิ่งไปไกลหน่อยกดออด บ้านของเธอ
ปิ้งป๋อง ปิ้งป๋อง เ
ขาเดินลงมาเธอเห็นผมแล้วหัวเราะ
เธอหยิบกระเป๋าผิดใช่มั้ย เขาถามผม
อือ ใช่ครับผมตอบและพูดไปอีกว่า ขอโทษทีน่ะครับผมยื่นกระเป๋าไปให้เธอ เธอก้มมองดูกระเป๋าแล้วหัวเราะ ผมเริ่มรู้สึกเขินอายนิดๆๆ เธอ ชวนผมเข้าไปนั่งในบ้าน แล้วเอากระเป๋ามาคืนผม
ผมได้กระเป๋าเสร็จแล้วก็กำลังจะรีบกลับเลย เพราะสภาพตอนนี้ใส่กางเกงนอนมาเสื้อนักเรียน แต่เขาเรียกผม
นี่เธอ ชื่ออะไรเหรอ ผมหันไปตอบ
บาสต์ ครับ
อือดีจ๊ะบาสต์ เราชื่ออึ๋มน่ะ เขาตอบพลางยิ้มให้
ผมรู้สึกตลกในใจเพราะ นอกจากนามสกุลของเขาแล้ว ยังมีชื่อของเขาอีกที่ทำให้ผม รู้ถึงสัดส่วนของเขา แต่นั่นมันไม่ได้หมายความว่า เขาจะน่ารักน้อยลงไปเลยในความรู้สึกผม แต่มันกลับทำให้เธอดูมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด
ผมจ้องหน้าเธออยู่นานเพราะเผลอตัว เธอหลบจากสายตาผม แล้วยิ้มนิดๆๆ ผมได้สติอีกครั้ง
อึ๋มเราไปก่อนนะผมพยายามยิ้มให้ แต่รู้สึกว่าจะยิ้มไม่ออกซะแล้วโรคเก่ามันกำเริบ ผมเป็นโรคแพ้ผู้หญิง อย่างแรง โดยเฉพาะอยู่ใกล้ๆๆ แล้วไม่กล้าสบตา ปากก็ไม่กล้าพูด เหอะๆๆ ผมรีบเดินกลับ บ้านโดยไม่กล้าหันกลับไปหาเธออีก ผมเดินกลับบ้านไปอย่างมีความสุข ในที่สุดผมก็ได้รู้จักชื่อเธอ แล้วยังได้รู้จักที่อยู่เธอ และที่สำคัญที่สุด ยังได้เห็นรอยยิ้มเธอ ผมกลับถึงบ้านรีบวิ่งขึ้นไปบนห้องนอน ผมมองกระจก เหอะๆๆ ไอ้เรานี่ก็หล่อใช่เล่นน่ะ ทำให้เธอหัวเราะได้เลย แต่เมื่อผมก้มดูข้างล่าง เหมือนความมั่นใจในตัวผมได้หายไปอีกครั้งหนึ่ง เพราะกางเกงที่ผมใส่ ผมใส่มันกลับด้าน และยังเห็นเป็นคราบ ขาวๆๆจากการสู้รบเมื่อวานนี้อีก ใครไม่หัวเราะก็บ้าแล้ว ซวยๆๆ ทำไมเราซวยอย่างนี้ทุกทีเลยว่ะ ฮือ!! เมื่อซวยจนถึงที่สุดผมเลยตัดสินใจ ในเมื่อมันเรอะ ผมจะจัดการให้มันเลอะยิ่งกว่า ผมวิ่งไปเอากระเป๋าเพื่อจะเอาแบบเรียนทางเพศขึ้นมา ผมหาอยุ่นานแต่ไม่เจอ สงสัยไอ้บอยมันเอาไปจริงๆ แต่ดูเหมือน ความซวย ของผมยังไม่หมด นั่นมันกางเกงในเเบบมีปีกของเธอนี่น่า ผมยังไม่ได้เอาใส่คืนให้เธอทีเหรอเนี่ย เวรเเล้วไงตู ผมลังเลใจ ถ้าพุ่งนี้ผมไม่เอาไปคืน เขาก็จะเห็นว่าผมเป็นคนขี้โขมย แต่ถ้าผมเอาไปคืน เขาก็จะเห็นว่าผมเป็นคนลากมกแอบจิตอีก แต่ในที่สุดผมก็เลือกที่จะเอาไปคืน เพราะ ผมไม่อยากให้ใครเห็นว่าผมเป็นเด็กขี้โขมย โขมยแม้แต่กางเกงใน ผมยอมเป็นคนลามกดีกว่า อย่างน้อยมันก็เป็นเรื่องค่อนข้างธรรมดาในผู้ชาย
จากคุณ :
นินจาเอ็ม
- [
6 มี.ค. 47 20:18:19
A:203.156.76.86 X:
]