เกริ่น....จากผู้แปล....
เรื่องที่จะนำมาให้อ่านต่อจากนี้
เป็นเรื่องเขียนเล่าจากคนญี่ปุ่นทั่วประเทศ ที่ส่งผลงาน
และได้รับการคัดเลือกให้ตีพิมพ์ลงในหนังสือ
เรื่องราวที่อ่านแล้วทำให้อบอุ่นจิต หัวใจอ่อนโยน
ของชมรมผู้เขียนวรรณกรรมเด็กและเยาวชนแห่งญี่ปุ่น
เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากชีวิตประจำวันและพบเห็นได้ทั่วไป
และนำมาลงในหนังสือสำหรับอ่านนอกเวลาเรียน
สำหรับเด็กในระดับชั้นประถม
ซึ่งหนังสือได้แบ่งเป็นเรื่องสำหรับเด็กแต่ละชั้น
เรื่องที่นำมาแปลนั้น
เป็นเรื่องที่พิมพ์สำหรับเด็กชั้นประถมหนึ่งของญี่ปุ่น
เป็นหนังสือที่พ่อแม่ ควรเลือกหามาให้ลูกได้อ่าน
(โรงเรียนไม่ได้บังคับ)
เพื่อให้เด็กได้รู้จักรักการอ่าน
และเรื่องราวในหนังสือนั้น
จะช่วยขัดเกลาจิตใจของเด็กที่อ่าน
ให้รู้สึกอ่อนโยนขึ้น
นอกเหนือจาก
การอบรมสั่งสอนในชีวิตประจำวันของครอบครัวแต่ละครอบครัว
คำนำในหนังสือเล่มนี้เขียนไว้ว่า
คนเราทุกคนมีความอ่อนโยนซ่อนอยู่ในจิตใจกันทุกคน
เมื่อได้อ่านเรื่องราวที่ทำให้รู้สึกดีใจ หรือตื้นตันใจ
นั่นคือสัญญาณที่บอกเราถึงความอ่อนโยนเหล่านั้น
ได้แสดงออกมา
หนังสือเล่มนี้ พิมพ์ครั้งแรกในปี 1996 เดือน มิถุนายน
และตีพิมพ์ครั้งที่ 29 ในปี 2002 เดือนพฤษภาคม
ฉันจึงคิดว่า...
เป็นหนังสือที่น่าอ่านเล่มนึง ที่ควรมีอยู่ในบ้านของพวกเรา
ฮิโระกิ....ขอโทษนะลูก.... เขียนโดย ฮะเซะกะวะ โยโกะ
แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ได้เข้าจู่โจมเมืองโกเบ
เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ระหว่างฮิโระกิกับแม่ของเขา
ที่โรงเรียนชั้นประถมแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่สำหรับลี้ภัยแผ่นดินไหวในครั้งนี้
พ่อของฮิโระกิ เป็นตำรวจดับเพลิง
พ่อต้องออกไปทำงานช่วยดับเพลิงจากแผ่นดินไหวในตัวเมือง
ตั้งแต่พ่อไปแล้วยังไม่กลับมาให้เห็นเลย
ตั้งแต่เช้า ฮิโระกิยังไม่ได้กินอะไร หิวจนท้องร้องจ๊อกๆ
ดังนั้นเขาจึงหันไปตะโกนหาแม่ "หิวข้าววววว...."
แม่ยิ้มน้อยๆกับเขา " หิวก็ไปหาน้ำกินก่อนสิลูกไป๊"
"เมื่อกี้ก็กินไปแล้วนี่แม่"
"ไปกินอีกรอบก็ได้นี่ลูก"
"กินน้ำเฉยๆ ทำไงมันก็ไม่อิ่มเลยอ่ะแม่"
"เป็นลูกผู้ชาย ต้องรู้จักอดทนสิ"
พอได้ยินอย่างนั้น ฮิโระกิเลยพูดอะไรต่อไม่ออก
อย่างช่วยไม่ได้...เขาก็เลยเดินไปที่แจกน้ำดื่ม
กว่าจะได้น้ำดื่มแต่ละแก้วนั้น ต้องเสียเวลาต่อแถวเรียงคิวยาวมาก
แต่ยังไม่ทันจะได้ดื่มน้ำ ฮิโระกิก็เหลือบไปเห็นเด็กหญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง
กำลังยืนร้องไห้อยู่ มองไปมองมา เขาเห็นร่างกายของเด็กหญิงคนนั้น
เต็มไปด้วยรอยแผลถลอกปอกเปิกอยู่หลายแห่ง
คงจะเป็นแผลที่ได้รับจากแผ่นดินไหวแน่ๆเลย
ด้วยความสงสาร ฮิโระกิจึงเข้าไปทักเด็กหญิงน้อยๆคนนั้น
"เป็นไงมั่ง"
แต่เด็กหญิงไม่พูดอะไร เอาแต่ร้องไห้ท่าเดียว
ฮิโระกิเห็นว่าไม่ช่วยอะไรได้ เลยเอาแก้วน้ำของตัวเองยื่นไป
แล้วจับเอามือของเด็กหญิงมาให้จับแก้วน้ำนั้นไว้
"กินน้ำนี่ซะ...เอ้า"
เด็กหญิงยกแก้วน้ำขึ้น ดื่มพรวดเดียวจนหมดแก้ว
สงสัยคงจะคอแห้งจริงๆ
"พ่อเธอไปอยู่ที่ไหนซะล่ะ?"
เด็กหญิงส่ายหน้า
"อ้าว...แล้วแม่ล่ะ?"
เหมือนเดิม...ไม่มีคำตอบ
"ว้า...ลำบากใจจริงวุ๊ย...ฉันต้องไปล่ะนะ...เดี๋ยวแม่ฉันจะเป็นห่วง"
พอฮิโระกิก้าวออกเดิน เด็กหญิงคนนั้นก็ก้าวขาเดินตามหลังเขามา
"อ้าว...เจอะเพื่อนเหรอลูกนั่นน่ะ?" พอดีกับที่แม่ถามขึ้น
"ไม่ใช่หรอกแม่...เด็กที่ไหนก็ไม่รู้ตะกี้เจอะตรงที่ดื่มน้ำโน่น
แต่ถามอะไรก็ไม่พูดสักคำ"
แม่ของฮิโระกิ จ้องมองดูเด็กหญิงอยู่ครู่หนึ่ง
อยู่ๆแม่ก็ทำหน้าเศร้า แล้วเอื้อมมือไปดึงตัวเด็กหญิงเข้ามาสวมกอดไว้
"น่าสงสารเหลือเกินลูกเอ๋ย...ท่าจะเจอะอะไรน่ากลัวมาต่อหน้าต่อตาแน่ๆเลย"
พอเด็กหญิงได้ฟังแม่ของฮิโระกิพูดเท่านั้น เธอก็เริ่มร้องไห้อีกครั้ง
"ไม่ต้องอดทนหรอกลูก...ร้องเถอะลูก...ร้องไห้ออกมาดังๆเลยลูกเอ๋ย"
แม่ของฮิโระกิลูบหลังเด็กหญิงอย่างเมตตาเบาๆ
พร้อมกับที่แม่ก็ร้องไห้กับเด็กหญิงไปด้วย
เรื่องตอนที่แผ่นดินไหวกลับเข้ามาสู่สมองของฮิโระกิ
แล้วทำให้เขาพลอยร้องไห้ไปอีกคน
ตั้งแต่นั้น...แม่ก็อุ้มเด็กหญิงคนนั้นไว้ตลอดเวลา
พอแม่จะขยับไปไหน เด็กหญิงก็จะเกาะติดแจ
ไม่ยอมห่างแม่ของฮิโระกิไปไหน
"แม่ของฉันแท้ๆนะเนี่ยะ" ฮิโระกิชักไม่ค่อยสนุกขึ้นมาแล้ว
นี่ถ้าไม่พาเด็กคนนี้มาก็จะดีหรอกนะ
ฮิโระกิคิดอะไรต่ออะไรกับตัวเอง
ในที่สุดตกเย็น พวกเขาก็ได้รับการแจกข้าวปั้นมาหนึ่งก้อน
แม่แบ่งข้าวปั้นเป็นสองส่วน
ยื่นให้ฮิโระกิกับเด็กหญิง แล้วพูด
"กินซะ...หิวกันแล้วใช่ไหมล่ะ?"
ฮิโระกิ เงยหน้าจ้องมองแม่
"แม่ไม่เป็นไรหรอกลูก"
แต่เด็กหญิงน้อยคนนั้น
บิข้าวปั้นของตัวเองที่ถูกแบ่งมาให้ครึ่งก้อน ออกเป็นอีกครึ่งหนึ่ง
แล้วเด็กหญิงยื่นส่งไปให้แม่ของฮิโระกิ
"ขอบใจนะลูก...หนูเป็นเด็กมีน้ำใจดีเหลือเกินนะ"
แม่หัวเราะไปพลางน้ำตาคลอเบ้าทั้งสอง
แล้วข้าวปั้นก้อนเดียวนั้น ก็ถูกแบ่งปันกันสำหรับคนสามคน
คืนนั้นเจ้าหน้าที่จากสถานดูแลรับปรึกษาเรื่องเด็กและเยาวชน
ก็มาและพาตัวเด็กหญิงคนนั้น
ค่อยๆเดินจากหายไปจากโรงเรียนประถมแห่งนั้น
ฮิโระกิรู้สึกโล่งอกโล่งใจ
แต่ในขณะเดียวกันเขากลับรู้สึกเหงาขึ้นมาอย่างจับจิต
"ฮิโระกิ...แม่ขอโทษนะลูก"
อยู่ๆแม่ก็พูดขอโทษเขา
"ขอโทษเรื่องอะไรอ่ะแม่จ๋า"
ฮิโระกิ ทำเป็นพูดเฉไฉไม่เข้าใจ
ความจริงเขารู้สึกอิจฉา หวงแม่ของเขา
เวลาที่อยู่กับเด็กหญิงคนนั้นจะตายไป
แต่เพราะความอายนั่นแหละ ทำให้เขาพูดไม่ออก
"เอาเถอะนะลูก...
ถึงแม้ว่า เราจะสูญเสียสิ่งของที่เราเคยมีต่างๆไปแล้วเพราะแผ่นดินไหว
แต่แม่ก็ยังมีฮิโระกิกับพ่อของลูกอยู่ทั้งสองคน
แค่นี้ก็เพียงพอแล้วใช่ไหมลูก
เรามาพยายามกันต่อไปเพื่อวันพรุ่งนี้ที่จะมาถึงกันเถอะนะ"
แม่บ่นพึมพำ...
ในขณะที่ฮิโระกิเข้าไปสวมกอดแม่อย่างกระชับแน่นสุดแรง
แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 47 14:24:57