ระบายความลงบันทึก3

    โอว้ววววว  ช้าไปมากๆ เลยน้า ขอโทดทีคั๊พ ติดent' อยู่น่า แหะๆๆ ..
    ว่าแต่ม่ายมีใครเดาถูกเลย อุๆๆๆ ..มาเฉลยดีกว่านะ
    ..................................................................................
    .................................................


    …...”ถามจริงๆ เถอะ ชื่ออะไร”
    นั่นเป็นคำถามที่ก้องซ้ำไปมาในหัวของผมอยู่ชั่งอึดใจจนกระทั่งมีเสียงหนึ่งดังขึ้น

    “พี่เมย์ๆ“
    เด็กผู้ชายตัวเล็กตะโกนเรียกหล่อนก่อนที่จะขี่จักรยานเข้ามาประชิดตัว

    เด็กผู้ชายคนนั้นมองหน้าผมแบบงงๆ ว่าเป็นใครฟร่ะ แต่ผมไม่ปล่อยให้งง นานหรอกครับ …. ขี่หนีเลย แต่ก่อนที่จะขี่หนีก็ขอเยาะเย้ยทิ้งท้ายไว้ ด้วยความภาคภูมิใจเล็กๆว่า

    “อ้าว !! ชื่อเมย์เหรอ … ขอบใจนะที่บอก ไปละ”
    ผมยิ้มกวนให้เธอทีหนึ่งด้วย…(ผมคาดว่าไอ้เด็กนั่นคงโดนเละละครับ..แต่ไม่เป็นไรหรอกไม่ใช่เรื่องของผม)

    ผมรู้ชื่อเธอแล้วเธอชื่อเมย์…เมย์…เมย์…เมย์ ผมจะท่องให้ขึ้นใจเลย..

    หลังจากวันนั้นไม่นานผมก็เริ่มทำตัวเป็นนักสืบเฉพาะกิจ..สืบหาข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับเมย์ มีทั้งเรื่องจริงเรื่องหลอก แต่ผมก็ดีใจละครับที่ได้รู้มากกว่าแต่ก่อนที่ไม่รู้อะไรเลย
    ผมรู้มาว่า…เธอเป็นเด็กผู้หญิงรุ่นเดียวกับผม (ทีแรกมีคนบอกว่าแก่กว่าผมมากผมตกใจแทบแย่)
    บ้านของเธอผมก็รู้มาจากไอ้เพื่อนๆตัวแสบนะแหละครับ..ไม่ใกล้ไม่ไกล
    ส่วนที่สำคัญที่สุด..เบอร์โทรศัพท์บ้านของเมย์ …แต่ถึงรู้ก็ไม่กล้าโทรหรอกครับ ใจมันกลัวอะไรต่ออะไรไปสารพัด….

    …และในขณะที่ผมกำลังหลงไหลได้ปลื้มไปกับประวัติเล็กๆน้อยๆ ของเมย์ที่หามาได้นั้น..มันก็มีคนเจ๋งกว่าผมอีกครับ เป็นวิธีการของเพื่อนเจ๋งกับเพื่อนเก่ง…และยอมรับเป็นวิธีการที่ต้องใช้ความพยายาม  อดทน และความเสี่ยงสูงอย่างที่สุดเลย

    ครับ…ไอ้เจ๋งกับไอ้เก่งเพื่อนรักมันหายหัวไปไม่กี่อาทิตย์ซักพัก ผมก็เห็นมันโผล่เข้าไปอยู่ในกลุ่มของเมย์แล้วครับ ..เป็นวิธีการจีบสาวที่แนบเนียนจริงๆ ให้ตายสิ!!

    เอ้ออออ!!! ผมลืมบอกพวกคุณคนอ่านไปว่ากลุ่มของเมย์มีผู้หญิงแค่ 4 คนเองครับ นอกนั้นเป็นผู้ชายซะทั้งหมด …นี่แหละครับที่ใครต่อใครไม่ค่อยกล้ามาหือ กล้ามายุ่งวุ่นวายกับพวกเธอ…. แต่ช่างเหอะครับไม่เล่าดีกว่า (อย่าสนใจเลยนะครับ) มันไม่ใช่เรื่องของผม มาฟังเรื่องที่เกี่ยวกับผมต่อดีกว่าครับ

    ครับ…ตอนนั้นเมย์คงกำลังตกข่างหรืออย่างไรผมก็ไม่ทราบหรอกครับ..เธอยังไม่รู้เลยว่ากลุ่มเธอมีคนเพิ่มมา 2 คน แต่ช่างเถอะครับ…หลังจากนั้นช่วงหนึ่งผมก็ไม่ค่อยได้เจอเมย์จนกระทั่งวันหนึ่งที่ผมเข้าไปเล่นผอลที่สนามเหมือนเคย ผมก็เห็นเมย์ขี่จักรยานผ่านมากับเจี๊ยบดูกำลังซีเรียสๆ อะไรกันอยู่ แต่ผมก็ยังวอนโดนด่าครับผิวปากออกไปซะดังลั่น
    เมย์พูดอะไรขึ้นมาลอยๆไม่ทราบ แต่เจี๊ยบสิครับ หล่อนหันมาตะโกนด่าแทบหลบไม่ทัน

    “พ่อแม่นายเป็นนกหรือไงมา วิ๊ดวิ้ว ๆ อยู่ได้”
    น่านนนน ล่อด่ากันถึงบุพการี

    แหะๆ  จ๋อยสิครับผม เงียบไปเลยโดนหญิงด่า กะจะโชว์พาวน์ซะหน่อยเชียว…

    ซักพักดูเหมือนว่าเมย์จะพูดอะไรกับเจี๊ยบแล้วเจี๊ยบก็ขี่รถกลับจากนั้นก็ทำสัญญาณมืออะไรซักอย่าง..ประมาณว่าเดี๋ยวมาๆ

    ..ครับเมย์อยู่คนเดียวแล้วครับแต่ดูวันนี้เมย์แปลกๆ ..ผมไม่เห็นรอยยิ้มของเมย์เหมือนอย่างเคยเลย  ดูเมย์เหงาๆ หยอยๆ ผิดกับทุกที…ผมเป็นห่วงเมย์อยากจะเข้าไปถามว่าเป็นอะไร แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่เรื่องของผม..จริงมั๊ยครับไม่ใช่เรื่องของผม

    แต่ไปๆมาๆ ความคิดที่ว่าไม่ใช่เรื่องของผมมันก็ถูกสลัดไป หัวค่ำผมก็รวบรวมเอาความกล้าที่มีหยิบเบอร์โทรศัพท์ของเมย์ที่จำได้ขึ้นใจแล้วออกมามอง แล้ววาง แล้วมอง ก่อนจะตัดสินใจกดหมายเลขทีละตัว
    0
    2  
    7
    5
    …………………………………………………………………………………………………….
    …………………………………………………….
    ช่วงนี้อย่าเพิ่งต่อว่ากันนะครับที่มาทีละน้อยๆ …แหะๆวันนี้แว๊บเข้ามาเขียนนะ เหลือสอบ ent’ อีกไม่กี่ตัวผมก็มีเวลาเขียนยาววววๆๆๆ ให้อ่านกันแล้วครับ
    รอก่อนนะครับ……ชีวิตของเด็กเอ็นทรานซ์

    จากคุณ : คนเขียนบันทึก - [ 9 มี.ค. 47 20:08:29 A:203.149.46.50 X: ]