+ + + พ ร ะ น ค ร + + +

                  เพิ่งเริ่มต้นงานเขียน อยากขอคำแนะนำจากทุกคน เพื่อนำไปปรับปรุง รบกวนอ่านกันหน่อยนะคะ ยินดีรับทั้งคำติและคำชมค่ะ


                  เสียงเพลงยุคเก่าดังลอดประตูกระจกบานนั้นออกมาแวบหนึ่ง  ทันทีที่หล่อนใช้มือเพียงข้างเดียวผลักมันด้วยความเร็วและแรง   พอๆ กับอาการเดินลงส้นก้าวฉับๆอย่างเร่งรีบ  ไอเย็นจากแอร์คอนดิชชั่นปะทะใบหน้าเรียวยาว   ผิวสีแทน   ดวงตาภายใต้แว่นบางใสมีแววว่าสนุกสนานกับการเดินฝ่าสายฝนยามค่ำคืนมากกว่าจะมีแววหงุดหงิดรำคาญใจ   ผมยาวเคลียไหล่หยักศกมีละอองน้ำอยู่ประปราย  เสื้อแขนกุดสีขาวยาวกรุยกรายกับกางเกงยีนส์พอดีสัดส่วนปราดเปรียวนั้น  ทำให้หญิงสาวดูชะลูดขึ้นไปอีกจากความสูงเดิมของหล่อน

    “ สวัสดีค่ะพี่จ๋าย ”  …คมฉายส่งเสียงแจ้วๆ  ยิ้มกว้างขวางระบายบนใบหน้า
    “ อ้าว…ไงจ๊ะพักนี้ไม่เห็นหน้าเลย ”   ชายวัยกลางคน  ผมบ๊อบยาวปกหัวไหล่  หน้าตี๋  สวมแว่นกรอบหนาสีดำทรงเหลี่ยม  แต่งกายด้วยเสื้อยืดคอกลม  แลสบายๆ  กล่าวรับด้วยรอยยิ้มเช่นกัน คมฉายหัวเราะเริงร่าแทนคำสนทนากลับ  หล่อนรู้สึกคุ้นเคยเสมอเมื่อมาเยือนที่นี่  และทึกทักเอาเองว่าเป็นเสน่ห์ของที่แห่งนี้   “พระนคร” บาร์&แกลอรี่

                   บรรยากาศตึกแถวแนวอนุรักษ์บนถนนราชดำเนินกลาง  ตรอกนี้เป็นย่านของแกลอรี่โชว์ผลงานนักศึกษาศิลปากร  ช่างศิลป์ และศิลปินอิสระ มีบาร์เล็กๆ ตกแต่งด้วยลักษณะที่คลับคล้ายกัน    “พระนคร”  มีคูหา 3 ชั้นรวมดาดฟ้าอีกเป็น 4  ปรับสภาพประตูแบบบานเฟี้ยมให้เป็นกระจกใสแบบผลักเข้า-ออก   ชั้นล่างนี้มีโต๊ะไม้รูปแบบง่ายๆอยู่  4-5 โต๊ะ   มีตู้เพลงยุค’80s  ที่ประดับไว้แต่ใช้การไม่ได้  เคาน์เตอร์บาร์อยู่หัวมุมซึ่ง  “พี่จ๋าย” จะสถิตอยู่ตรงนั้นเป็นนิจ  พร้อมขวดเบียร์ในมือหนึ่งและพ่นควันบุหรี่ปุ๋ยๆ ในอีกมือหนึ่ง   ปากก็คอยทักทายผู้มาเยี่ยมเยือน  ของตกแต่งร้านแบบกระจุกกระจิกโบราณๆ แต่ดูเก๋กลมกลืนไปทั้งร้านหรือกระทั่งเสียงเพลง Imagine ของ John  Lennon  ที่เปิดคลออยู่

                   คมฉายสูดกลิ่นนั้นเต็มปอดอย่างชื่นอกชื่นใจเสียหนักหนา  สองเท้าพาตัวเองเดินขึ้นบันไดเหล็กเล็กๆ สู่ชั้นสองอย่างไม่รีรอ   กลิ่นเหมือนไข่เจียวจากห้องครัวปะทะปลายจมูก  เลี้ยวขวาพบกับผนังสีขาวหม่นๆ ไม่เนียนเรียบด้วยฉาบปูนไว้อย่างหยาบ  มีรูปภาพแปลกตาใส่กรอบพลาสติกสีดำแขวนกระจัดกระจายอยู่..หากแต่ดูสมดุล   หล่อนพินิจพิเคราะห์ผลงานเหล่านั้นอยู่ครู่เดียวก็เอี้ยวตัวเดินขึ้นสู่อีกชั้น  

                   เสียงอึกทึกของเพลงยุคดิสโก้  กับควันบุหรี่ลอยตัวในอากาศคละคลุ้ง ชั้นสามนี้มีรูปลักษณ์ที่ต่างออกไป  จะเห็นโต๊ะพูล (POOL) ตั้งเด่นอยู่กลางห้องเสียงดังปุกปักๆ เมื่อลูกกลมๆสีลูกกวาดกระทบกับปลายไม้คิว บอร์ดปาเป้าสีดำสลับขาวที่มุมผนังด้านหนึ่งกับกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังขว้างปาลูกดอกอย่างเมามัน  เพลงใต้ดินแนวแปลกหูก็หาฟังได้ที่นี่  
                   “ สยาม ”  หนุ่มหัวฟูเหมือนแจ็คสันไฟฟ์ที่ยืนประจำเคาน์เตอร์ ใส่เสื้อยืดลายการ์ตูนสนูปปี้ สีเหลืองสดร่ำสุราไปพลางผงกหัวตามจังหวะเพลงไปพลาง    คมฉายยิ้มร่าเอื้อนเอ่ยคำทักทายเขาเหมือนเช่นเคยทำมา  “ หวัดดีจ้ะคุณสยาม ”… คืนนี้คนมาอออยู่ชั้นสามค่อนข้างมาก จนริมหน้าต่างฝั่งที่เคยมองเห็นยอดภูเขาทองชัดเจนนั้นถูกบดบัง  ทำให้หล่อนต้องชะเง้อสุดคอเพียงเพื่อให้เห็นแสงไฟสีทองสดใสในระยะไกล เพราะสายฝนเมื่อช่วงหัวค่ำ  นักดื่มจากชั้นดาดฟ้าต้องระเห็ดอพยพลงมาออที่ชั้นนี้   หล่อนจึงไม่ได้หยุดพักขาแต่กำลังพาตัวเองไปด้านบนอย่างมีความหวังว่าจะเหลือที่นั่งงามๆ ให้คนตัวเล็กๆ อย่างหล่อนได้นั่งจิบเบียร์สักที่สิน่า….

                         สายลมโชยหลังฝนพรำค่ำคืนนี้ ทำให้บรรยากาศบนดาดฟ้าชุ่มฉ่ำไปหมด โต๊ะและเก้าอี้ไม้สีขาวมีพราวน้ำสะท้อนแสงตะเกียงวับวามจนมองเห็นได้ ยังเหลือแขกอยู่หลายโต๊ะกวาดสายตาได้เท่านั้นคมฉายอมยิ้ม…เมื่อเหลือบไปเห็นเคาน์เตอร์นั้นยังมีที่ว่าง

                       เสียงเพลง   My Girl   ของวง   The  Temptations    กำลังขับขานความไพเราะอมตะของมันอยู่  หล่อนเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์บาร์ที่ฉาบปูนเปลือยขึ้นมาอย่างหยาบๆ  ผนังด้านในทาสีขาวสว่างๆ มีช่องหน้าต่างเป็นโพรงอยู่ 2-3 ช่อง  มีตุ๊กตา  The  Angel  และโมบายนกนางนวลสีขาว   อยู่ตรงช่องหน้าต่างนั้นตัดกับฟ้าสีดำทะมึนเบื้องหลัง  มีตู้เย็นรุ่นเก่าสีเขียวลอดช่องหม่นๆวางอยู่มุมหนึ่งและยังใช้การได้ดี….โซดาและน้ำอัดลมเย็นเฉียบถูกเรียงรายในนั้นไม่มีขาด   ตู้ไม้สีน้ำตาลเข้มเตี้ยๆมีขวดสุราทั้งไทยและเทศทั้งกลมและแบน  มีกระดาษชิ้นเล็กๆ ปะชื่อเจ้าของมันติดไว้รอการถามหา   ด้านช่องทางเข้ามีภาพถ่ายขาวดำของ   เจมส์   ดีน   ดาราผู้ล่วงลับแขวนอยู่  ทำให้คมฉายนึกถึงคำคมของเขาที่เคยอ่านเจอจากนิตยสารเล่มหนึ่ง         “ จงฝันเหมือนกับว่าคุณจะมีชีวิตอยู่ชั่วนิรันดร์   แต่จงมีชีวิตเหมือนกับว่าคุณจะตายลงในวันนี้ ” เคาน์เตอร์นี้เป็นของ  “คุณหนุ่ม”  ชายวัยสามสิบต้นๆหน้าตาคมสัน    ซ่อนกายในเสื้อยืดสีขาวคอวี  กางเกงสีกากีตัวโคร่งๆ เป็นอาจิณ  คมฉายไม่เคยเห็นเขาเปลี่ยนการแต่งตัวเลยแม้เพียงครั้ง หากวันหนึ่งหล่อนมาที่นี่และไม่เห็นเขาอย่างที่เป็น  คงไม่แน่ใจว่ามาถูกที่รึเปล่าเป็นแน่…!  

                  หล่อนยกมือไหว้เขา และสั่งเบียร์เย็นเฉียบขวดเล็กๆทันที  ที่เหลือคือช่วงเวลาแห่งความสุขที่หล่อนจะตักตวงพร้อมลิ้มรสพรายฟองเบียร์ขวดเขียวใสในมือเรียวบาง

                    ที่แห่งนี้ ต่างจากคราวที่มาเยือนเป็นครั้งแรกกับคนชายรัก  ราวๆ 3-4 ปีมาแล้ว  กระทั่งปลายปีก่อนเพื่อนคนหนึ่งพาคมฉายกลับมาที่นี่อีกครั้งด้วยความบังเอิญ  หลังจากนั้นหล่อนมักหาเวลาว่างๆ ช่วงสุดสัปดาห์มานั่งจิบเบียร์เย็นๆ  ฟังเพลง  ดูผู้คน  ชมแสงไฟบนถนนราชดำเนินและหายใจทิ้งเล่น  เมื่อมองจากดาดฟ้าสู่เบื้องล่างผ่านช่องตึกแถวเก่าๆ เป็นมุมที่สวยงามเหมาะเจาะ  ราวกับภาพวาดทอดผ่านสายตาหล่อนเป็นภาพที่คุ้นเคยในห้วงความทรงจำที่ถูกเรียกคืนกลับมาแจ่มชัดทุกๆครั้งที่มองลงไป  ระหว่างช่องตึกนั้นคมฉายเห็นภาพตัวเองกับเขาจูงมือกันวิ่งข้ามถนนที่ประดับประดาแสงไฟงดงาม  ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นช่วงเดือนธันวาคม ปลาย พ.ศ.2542……

    จากคุณ : BORN to BE.... ^-^ v - [ 10 มี.ค. 47 17:08:30 ]