เงารักบังใจ บทที่ 21-22

    บทที่ ๒๑
               หญิงสาวรีบวิ่งไปทางหน้าบ้าน ถอดรองเท้าอย่างรวดเร็วจนกระจัดกระจายไปเป็นที่เป็นทางขึ้นบันไดผ่านชานพักบันไดไปอย่างรวดเร็ว   ปล่อยให้เมี่ยงนั่งอยู่ที่พื้นอย่างหมดแรงเพียงลำพังเพื่อจะรีบเข้าไปใช้โทรศัพท์ในห้องโถง
                ตอนนี้หล่อนอยากจะโทรหาพี่ชายของตัวเองเหลือเกิน
                อยากจะบอกให้รู้ว่าหล่อนพอจะรู้ตัวของฆาตกรแล้ว
                เสียก็แต่เพียงว่ายังไม่รู้ว่าหน้าตามันเป็นอย่างไร
                และยังไม่มีหลักฐานใดที่จะมัดตัวเจ้าฆาตกรจอมโหดนี้ได้เลย
                แต่ก็ช่างมันเถอะ  อย่างไรหล่อนก็ถือว่าหล่อนพอจะรู้แล้วว่าไอ้ฆาตกรบ้านนี้มันอยู่ในกลุ่มที่มีชื่อว่าอะไร
                 พี่ชายของหล่อนต้องจัดการให้ได้แน่
                 หญิงสาวคว้าหูโทรศัพท์ขึ้นมาทันทีทันใดที่เดินมาถึงโต๊ะซึ่งวางโทรศัพท์ไว้ พลางกดเลขหมายเพื่อต่อไปที่บ้านอย่างรวดเร็ว
                 หากแต่รอนานเหลือเกินก็ยังไม่มีคนรับ
                  จึงวางหูไปแล้วลองใหม่อีกรอบ  
                  คราวนี้มีคนรับสายแล้ว  ป้านวลศรีนั้นเองที่เป็นคนรับ
                  นั้นทำให้หญิงสาวละล้าละลังไม่อยากจะเอ่ยอะไรออกไปกลัวว่าจะทำให้นวลศรีแตกตื่นเดี๋ยวจะทำให้มารดารู้ตัวจนกลายเป็นเรื่องใหญ่  หล่อนเพียงแค่อยากจะคุย อยากจะบอกเรื่องนี้กับพี่ชายของหล่อนให้รู้คนเดียวเท่านั้น
                   หูโทรศัพท์จึงถูกวางลง ก่อนจะยกขึ้นมาใหม่
                   เบอร์บ้านถูกเปลี่ยนเป็นการกดเลขหมายเบอร์มือถือขึ้นมาแทน
                   เมื่อติดปลายสายก็พูดอะไรยาวเหยียดออกมาให้หล่อนฟัง  
                   อย่างน้อยมันก็เป็นเสียงของคนที่หล่อนไว้วางใจมากที่สุด  
                   เมฆา...
                   “ เรื่องที่สั่งให้ไปทำ   ทำแล้วใช่ไหม ” น้ำเสียงนั้นช่างดุดันมากแตกต่างจากตอนที่เคยคุยกับหล่อนยามอยู่ที่บ้าน
             “  ทำไมคะพี่เมฆ   พี่เมฆไปสั่งอะไรใครไว้หรือคะ” หล่อนร้องถามไปตามสายทำให้ผู้ได้ยินถึงกับอุทาน
                  ไม่ใช่เพราะความตกใจหากแต่เป็นความยินดีที่อย่างน้อยเขากำลังได้ยินเสียงของน้องสาวซึ่งเขากำลังตามหาอยู่แทบพลิกแผ่นดิน
                   “ ลมอยู่ที่เนี้ยพี่เป็นห่วงมากรู้บ้างไหม ”
              “ ตอนนี้ลมอยู่ที่ไหนไม่สำคัญหรอกคะ    ลมมีเรื่องเกี่ยวกับหยาดฝนบอกให้พี่เมฆฟังคะ   ตอนนี้ลมรู้เรื่องคนที่เป็นฆาตกรจอมเลวที่ฆ่าหยาดฝนแล้ว ”
              พี่ชายของหล่อนเงียบไปทันที  
                   ดูเหมือนเขาจะกำลังตริตรองอย่างหนักว่า  คนที่น้องสาวว่ามานั้นจะเป็นคนเดียวกันกับที่เขาได้ลายนิ้วมือมาแลหลักฐานที่มีหรือไม่
                   “ บอกพี่มาหน่อยว่ามันเป็นใคร ”
             “ รู้สึกว่าจะเป็นกลุ่มที่ชื่อว่า   พญาอินทรีอะไรสักอย่างนี้แหละคะ   มันนี้แหละที่ฉุดหยาดฝนมา และก็ยังฆ่าน้องสาวเราด้วยเลวมากไหมคะ ” หญิงสาวรีบบอกกรอกหูพี่ชายอย่างรวดเร็วด้วยน้ำเสียงเคืองแค้นไอ้พวกที่หล่อนยกเป็นเดนคนเหล่านี้
                  เมฆานิ่งไปอีกครั้งอย่างครุ่นคิด   สงสัยว่าชื่อที่ลมหนาวกำลังเอ่ยออกมานั้นช่างคุ้นหูเขาเหมือนกับเคยรู้จักมาก่อน
                  หรือว่าจะเป็น...
                  “  ไอ้นี้นะคนใกล้ตัวเราเลยลม มันทั้งผลิตและค้ายารายใหญ่ติดอันดับเชียว... ” ชายหนุ่มตะคอกจนทำให้หญิงสาวต้องเอาโทรทัศน์ออกให้พ้นหู
                  ซึ่งเริ่มจะอื้อเพราะความดังเมื่อครู่
                  พร้อมกับที่หญิงสาวคิดว่า  พี่ชายหล่อนคงจะเคยต่อสู้หรือเผชิญหน้ากับคนพวกนี้หรือ ถึงได้รู้ว่าพวกมันทำอะไรบ้าง
                 และคนใกล้ตัวนี้หมายความว่าอย่างไรกัน
                  “  ลมยังฟังพี่อยู่หรือเปล่า   บอกพี่ทีว่าตอนนี้ลมอยู่ที่ไหน   อยู่ที่ไร่ดงหมอก จังหวัดแม่ฮ่องสอนใช่ไหม   รออีกสักหน่อยพี่เคลียร์งานเสร็จจะรีบไปรับ ” เขาบอกผู้เป็นน้องสาวเป็นชุด   ก่อนจะตัดสายไป เพราะรู้ทันว่าน้องสาวเขาจะต้องค้านไม่ให้เขาไปรับแน่
                 หญิงสาวมองโทรศัพท์อย่างร้อนรุ่มและวิตกกังวล  ก่อนจะวางสายลงไป
                  พี่ชายหล่อนรู้ได้อย่างไรว่า ตอนนี้หล่อนอาศัยอยู่ที่ใด
                  สงสัยคงจะเข้าไปเจอกล่องพัสดุเข้าแล้วล่ะสิ
                  แต่ใครจะยอมล่ะในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว   เมฆาจะมาฉุดกระชาก หรือใช้สิทธิในความเป็นพี่ชายให้หล่อนกลับไปที่บ้าน
                  ยังไงหล่อนก็จะไม่มีวันกลับ  จนกว่าจะได้เรื่องหรือรู้ว่าหัวหน้ากลุ่มพญาอินทรีนี้มันหน้าตา
    เป็นอย่างไร
                  ความคิดในการจะวางแผนหลบไม่ให้พี่ชายมารับค่อยเกิดขึ้นมา
                  สายตาของหญิงสาวเลื่อนสูงขึ้นจากเครื่องโทรศัพท์ก่อนที่ร่างบางนั้นจะสะดุ้งน้อยๆ อย่างแปลกใจระคนตกใจ
                  ภูวัตสวมชุดยีนส์ทั้งตัวกำลังยืนอยู่ที่ประตูหน้าทางเข้าห้องโถง   ใบหน้าเขาถึงจะเรียบเฉยหากหล่อนก็รู้สึกถึงความสดชื่นขึ้นมากกว่าเมื่อวานนี้ได้
                  เขาจะเห็นหรือไม่ว่าหล่อนใช้โทรศัพท์อยู่
                  และจะรู้หรือไม่ว่าหล่อนพูดคุยเรื่องอะไรกับปลายสายไปเมื่อครู่
                  “ ทานข้างหรือยัง   ลมหนาว ” เขาถามหญิงสาวห้วนๆ   ไม่ยอมเติมคุณนำหน้าให้เหมือนทุกครั้ง พลางเดินไปที่โต๊ะเพื่อจะวางดอกกุหลาบสีชมพูสดที่ถือมาเป็นกำใส่ลงในแจกันแจ
                  มันช่างไม่สวยงามเหมือนทุกครั้ง  เป็นเพียงการใส่อย่างมั่วๆไม่สนใจความประณีต
                  สงสัยว่าเขาคงจะไม่ได้ยินที่หล่อนกระทำหรือพูดคุยกันไม่งั้นเขาคงจะใช้สายตาค้นหาความจริงใส่กับหล่อนอีก
                  ชายหนุ่มหยิบสายสร้อยล็อกเก็ตเงินที่อยู่ในกองดอกไม้เป็นลวดลายดอกกุหลาบเลื้อยไขว้ทับกัน  เดินมายื่นให้กับหล่อนแล้วจึงเดินหายไปที่เคานเตอร์เพื่อจะชงอะไรดื่มแก้กระหาย
                   คิ้วของหญิงสาวเลิกขึ้นอย่างประหลาดใจ  เปิดล็อกเก็ตออกดูจนเห็นว่าข้างในมีกุหลาบดินปั้นหอมสีชมพูและขาวไว้ข้างใน
                  กุหลาบสองดอกมีความหมายว่าอย่างไรนะ
                  หล่อนถามตัวเองก่อนจะนึกย้อนไปถึงวันที่ได้พูดคุยกับเมี่ยงเรื่องภาษาของดอกไม้
                   “ ดอกกุหลาบสองดอกแสดงความรู้สึกที่ดีต่อกันคะ ”
                  คำพูดของเมี่ยงดังก้องเข้ามาในหูของหญิงสาวทันทีที่เริ่มนึก
                  หากแต่หญิงสาวไม่แน่ใจสักเท่าใดนักว่าเขาจะยอมมาแสดงความรู้สึกดีๆในการจะเป็นเพื่อนกับตัวหล่อน
                 แค่เพียงสองวันที่เขาทำสนธิสัญญากับหล่อน   เขาสามารถจะทำตัวสุภาพและเป็นมิตรกับหล่อนได้มากมายขนาดนี้เชียวหรือ
                 กลิ่นหอมจากดอกกุหลาบในล็อกเก็ตทำให้หล่อนเลิกคิดมาก ดอมดมมันอย่างไม่ยอมหยุด
                พร้อมกับคิดว่ามันช่างเหมือนกับในนมดอกไม้ที่หล่อนได้ดื่มซะเหลือเกิน
                ชายหนุ่มถือถ้วยกาแฟออกมานั่งที่ชานพักบันได  พลางหยิบหนังสือพิมพ์ต่างประเทศที่เขาชอบอ่านมาเปิดอ่านหน้าเศรษฐกิจ
                 “ เมื่อวานคุณได้นอนหรือเปล่าคะ ” หญิงสาวเอ่ยถามเมื่อตามเขามานั่งด้วย
                เขาขยับศีรษะเพื่อคลายความเครียดก่อนจะตอบหล่อนอย่างชัดถ้อยชัดคำ
                “ ไม่ได้นอน ”
               เสียงหญิงสาวกระแอมไอในลำคอดังขึ้น
               มิน่าเล่าเขาคงจะเบลอไม่งั้นหล่อนคงไม่เอาดอกไม้สวยๆจากไร่มาให้หล่อนหรอก
               “ ทำไมต้องมองผมแล้วทำหน้าเหมือนกับได้รับคำตอบอะไรยังงั้นแหละ ” เขาเอ่ยทั้งที่ยังดวง

    จากคุณ : ม่านหมอก - [ 10 มี.ค. 47 20:31:31 A:203.107.207.14 X: ]