ร้อยราตรี พันแดนดาวฯ บทที่ 17 สมรภูมิกลางทะเลเลือด!!

    เนื้อเรื่องย่อของบทที่ 1-15
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2606294/W2606294.html

    link ฉบับเต็มครับ

    บทที่ 1 กับ 2 ลางสังหรณ์ , พลิกฟ้า คว่ำดิน
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2377106/W2377106.html
    บทที่ 3 สองมุมมอง
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2384943/W2384943.html
    บทที่ 4 เจ้าชายนิทรา
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2390570/W2390570.html
    บทที่ 5 รอยราตรี พันแดนดาว
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2396815/W2396815.html
    บทที่ 6 จอมล่าเหยื่อแห่งป่าอาถรรพณ์
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2405292/W2405292.html
    บทที่ 7  หลุมพราง
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2415189/W2415189.html
    บทที่ 8 แรกพบ
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2425462/W2425462.html
    บทที่ 9 รันรารา
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2434911/W2434911.html
    บทที่ 10 ฝันประหลาด
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2443111/W2443111.html
    บทที่ 11 แผ่นดินพิโรธ
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2451877/W2451877.html
    บทที่ 12 กลับสู่เส้นทางอีกครั้ง
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2485523/W2485523.html
    บทที่ 13 ปีกนางฟ้า
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2491980/W2491980.html
    บทที่ 14 ท่าเรือมะดาเลย์กับทะเลสิกันดา
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2513322/W2513322.html
    บทที่ 15 มหาสงครามในตำนานสิกันดา
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2524196/W2524196.html
    บทที่ 16 โจรสลัดแห่งคาบสมุทรสิกันดา
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2612771/W2612771.html


    บทที่ 17      สมรภูมิกลางทะเลเลือด


    สิ่งที่เห็นได้ด้วยตาหรือภาพแต่งแต้มมายาฝัน  อะไรคือจริงอะไรคือปลอมกันแน่  ผมเฝ้าแต่ถามตัวเองเรื่อยมา  นับตั้งแต่ได้เข้ามาอยู่อนันตภพ  หากผมตายจากที่นี่ไป  แล้วผมจะได้ตื่นจากห้วงนิทรานี้หรือไม่  ตื่นจากฝันร้ายที่มีทั้งอสุรกายกินคน  ภูเขาไฟระเบิด  และก็เรือโจรสลัดกับปืนใหญ่   ที่ส่งเสียงคำรามปานฟ้าสะเทือนเลื่อนลั่น   ผ่านหมู่เมฆและระลอกคลื่น  แทรกแซงผ่านแผ่นไม้บุลำเรือ  สั่นประสาทในกายให้ลั่นเกลียวขมวดขึง  และถ้าหากผมลืมตาขึ้น  ผมจะยังคงอยู่บนเตียงนอนหลังใหญ่  ภายในบ้านอันเงียบสงบและร่มรื่นในย่านลาดพร้าว     และอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า  ผมก็พร้อมที่จะออกไปทำงานที่บริษัท  ผจญกับรถติดยามเช้า   อันเป็นกิจวัตรประจำวันของผมต่อไป  ผมหวังให้เป็นเช่นนั้น….

    แต่ก็เปล่า  เพราะทันทีที่แง้มเปลือกตาขึ้น  ทุกสิ่งทุกอย่างยังเหมือนเดิม  ภาพเหตุการณ์เลวร้ายยังคงดำเนินการหลอกหลอนผมต่อไป  

    ปืนใหญ่ลูกนั้นไม่ถูกตัวเรือ  โชคดีจริง  มันหมดแรงและทิ้งตัวลงไปในผืนน้ำตรงหน้าเสียก่อน  ก่อนจะถึงเรือเราเพียงไม่กี่ร้อยเมตร   แต่ทว่ามันก็ระเบิดตัวมันเองเสีย  ในตอนที่กระทบผืนน้ำนั่น  เพื่ออวดแสนยานุภาพที่มีอยู่ของมันจนท้องน้ำแตกกระจาย  ผลักดันให้น้ำทะเลพุ่งขึ้นสูงสู่ท้องฟ้าเป็นเสาน้ำกว่าสิบเมตร  ระลอกและท้องคลื่นกระเพื่อมไหว   และแม้เสียง  ภาพ  และเขม่าควันจางหายไป    แต่มันก็ทิ้งความน่าสะพรึงกลัวไว้ให้แก่เราเป็นอนุสรณ์  สถิตประทับอยู่ในความทรงจำส่วนลึกของผมไปตลอด

    “คุณหนู!! ถอยออกมาจากตรงนั้น!!” มังกัสตะโกนดังลั่นจนแทบจะกลบเสียงอื้ออึง  ผมและรันราราถูกกระชากออกห่างจากหน้าต่างในทันทีที่มังกัสตั้งสติได้  “อันตรายเกินไปๆ” เขาพร่ำแต่พูดอย่างนั้น

    เสียงสลุตยิงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง  เดทคาลระดมยิงใส่เรือเรา  ดูเหมือนว่าพวกเราทำได้ดีสุดก็แค่หลบหนีถ่วงเวลาเท่านั้น   เสียงระเบิด  เสียงแหวกอากาศ  เสียงลูกกระสุนกระแทกผืนน้ำ  แม้จะแสดงถึงว่าเดทคาลยังคงยิงไม่โดนเรา  แต่เสียงนั่นก็ใกล้เข้ามาทุกขณะ  ราวกับมัจจุราชค่อยๆ เดินแกว่งเคียวคร่าชีวิตใกล้เข้ามาๆ  ส่งสัญญาณเตือนให้อกสั่นขวัญผวาเล่น

    ตูม…………..……ตูม…………...….ตูม………...…..ตูม……...ตูม…….ตูม….ตูม...ตูมตูม..ตูมตูมๆๆ

    “มันใกล้เข้ามาแล้ว!!  อีกไม่เกินฟาร์ท่อมจะเข้าสู่ระยะยิงหวังผล!!” เสียงลูกเรือคนหนึ่งตะโกนโหวกเหวก

    “นาสก้า  กางเกราะเวทมนตราเร็ว!!“

    “ข้าคลุมพระเวทไว้รอบเรือแล้วท่านรอง” นาสก้าเอ่ยเสียงเรียบ ตอบมาคาย

    เกราะเวทงั้นหรือ?  จะเหมือนของผมรึเปล่าหนอ?  แล้วนี่ผมพอจะช่วยเหลือพวกเขาได้บ้างไหมนะ?  

     “กระสุนชุดที่สี่ทางเก้านาฬิกา  ทุกคนหาที่ยึด  เตรียมรับแรงกระแทก!!” มาคายส่งเสียงร้องเตือน

    เปรี้ยง!! เปรี้ยง!! เปรี้ยง!!

    ผมหน้าคะมำกลิ้งไปบนพื้น   เรือเอียงวูบในทันทีที่สิ้นเสียงมาคาย  แต่สักพักก็กลับมาตั้งในแนวระนาบได้ตามเดิม  ผมยันตัวลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล   ส่วนรันรารา ผมเห็นเธอครางโอดโอย  พลางถูนวดตรงต้นแขน  ดูท่าทางคงกระแทกถูกอะไรซักอย่าง

    “รายงานความเสียหาย” เสียงกิโรฮะดังแทรกเข้ามาในห้อง  

    “ไม่มีครับ  ทุกอย่างปลอดภัยดี  เกราะของนาสก้ากันไว้ได้” ผมได้ยินเสียงมาคายตอบ

    “นาสก้า  เกราะของเจ้าพอจะรับการโจมตีได้แค่ไหน?” กิโรฮะถามต่อ

    “คงกันได้อีกไม่เกินครึ่งชั่วยาม  ต่อจากนั้นพลังของข้าคงต้านไว้ไม่ไหว”

    “ก็ยังดี  ข้าได้แต่หวังว่าเวลาที่เหลืออยู่คงพอจะหลบหนีจากพวกมันได้”

    “กัปตันครับ  เลยจากเขตนี้ไปประมาณสามร้อยสามสิบสามฟาร์ท่อมจะเป็นเกาะกุรุกุริ    ด้านหน้าและด้านข้างเกาะจะมีแนวหินปะการังและเขตน้ำตื้น   ผมคิดว่าถ้าดูจากความลึกแล้วเรือของเราน่าจะพอแล่นผ่านไปได้  ซึ่งอาจจะแค่เฉียดๆ ใต้ท้องเรือเท่านั้น   แต่ฝ่ายมันเป็นเรือใหญ่ระดับยี่สิบกระบอก  กินน้ำลึกถึงสี่สิบเซติฟาร์ท่อม  ไม่มีทางเลยที่จะแล่นฝ่ากองหินใต้น้ำไปได้” ผมได้ยินมาคายกล่าวกับกิโรฮะ

    “อืม…ดี! ข้าเองก็เห็นด้วยหากเราเสี่ยงแล่นเรือไปทางด้านนั้น  มันอาจจะเป็นหนทางรอดเพียงทางเดียวที่เรามีอยู่ก็ได้”  ต่อจากนั้นกิโรฮะก็ตะโกนด้วยเสียงอันดัง “สมีหันหัวเรือไปทางตะวันออกอีกสิบห้าองศา!”

    “ครับผมกับปิตัน!!”

    วิวที่เห็นจากหน้าต่างเปลี่ยนแปลงไป  ผมรู้สึกได้ว่าเรือค่อยๆ หันไปทางด้านขวามากขึ้น  กระสาเสียงเหมือนวงล้อหมุนครืดๆ จากพังงาด้านบนเพดานเหนือศีรษะผมขึ้นไป   ตัวเรือสั่นสะเทือนเป็นระยะๆ จากแรงกระสุนของฝ่ายเดทคาล  ที่เฝ้าเพียรพยายามเจาะทะลุทลวงฝ่าม่านมาตราของนาสก้าเข้ามา  พวกเราสามคนยังคงคอยเงี่ยหูฟังเหตุการณ์ความเป็นไปภายนอก  และภาวนาเอาใจช่วยพวกเขาเหล่านั้น  นำนาวาลำนี้พ้นจากเดทคาลด้วยใจระทึก  

    “เห็นเกาะกุรุกุริอยู่ข้างหน้าไม่ไกลนี่แล้วกัปตัน!!” เสียงหนึ่งในลูกเรือตะโกนบอก

    “ดี…  สมีรักษาทิศทางให้มั่น  แล่นตรงเข้าไปเลย” มาคายเอ่ย

    “ไหวเปล่านาสก้า?  สีหน้าเจ้าดูซีดมากเลย  อดทนหน่อย  อีกไม่กี่ฟาร์ท่อมก็จะถึงระยะปลอดภัยแล้ว” เสียงทุ้มๆ ของกิโรฮะบอกกล่าวด้วยความเป็นห่วงและให้ความหวัง

    “ไม่เป็นไรกัปตัน  ข..ข้าคิดว่าระดับเวทในกายคงพอจะตรึงเกราะมนตราได้อีกหลายนาทีอยู่” นาสก้าตอบ  เสียงของเขาดูเนือยๆ กว่าเมื่อสักพักที่แล้วมาก    

    “นายท่าน!! กระสุนชุดใหม่ของพวกมันไม่เหมือนเดิม!!”

    “ว่าไงนะยิบรอน  ถอยไปหน่อยซิ!!” เสียงมาคายดูตื่นตระหนก  ต่อจากนั้นเสียงย่ำเท้าทางด้านบนก็กรูกันไปที่ฝั่งซ้าย  “กระสุนเวทผสาน!!”

    รันราราวิ่งไปดูกระจกทางท้ายเรือผมเลยพลอยตามเธอไปด้วย   ภาพที่ปรากฏต่อสายตาเราคือพายุหมุนทอร์นาโดสีเทาดำพุ่งเป็นแนวระนาบราวกับแท่งกระบองยักษ์  ตรงดิ่งแหวกผืนน้ำให้กระจายออกเป็นทางเหมือนโมเสสผ่าทะเลแดงด้วยแรงลม      หนูรันร้องวี้ดลั่นแล้วผงะถอยออกจากหน้าต่างจนกระแทกตัวผมที่ยืนอยู่ด้านหลัง  

    โครม!!   ตัวเรือสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเมื่อกระสุนนั่นปะทะกับม่านพลัง   ผมกับหนูรันและมังกัสกระเด้งกระดอนไปตามแรง   หลังกระแทกพื้นเรือดักอัก   ข้าวของในห้องกัปตันหล่นลงมากระจัดกระจาย ไวน์หลายขวดตกแตกเสียหาย ของเหลวสีชมพูภายในไหลนอง    และในขณะที่ผมกับหนูรันยันตัวลุกขึ้นจากพื้นอยู่นั้น  ผมก็ได้ยินเสียงนาสก้าร้องตะโกนว่า

    “เกราะเวทแตกแล้ว!!”

    ผมถลันตัวไปหาหน้าต่างบานกลมไร้กระจกอีกครั้ง  เพื่อต้องการดูความเป็นไปนอกห้องสี่เหลี่ยมท้ายเรือ   ม่านบางๆ สีฟ้าที่กางกั้นรอบลำเรือค่อยๆ สลายไป  พร้อมกับกระสุนเวทผสานชุดใหม่ที่พุ่งตรงเข้ามาแทนที่อย่างไม่ให้พวกเราได้ทันหายใจหายคอสะดวก  ผมเบิกตากว้างจนรูม่านตาขยายใหญ่ จ้องมองไอ้เจ้าแท่งพายุเกลียวสีเทาดำหมุนติ้วที่กำลังตรงมาหาเราราวกับเจ็ตครอสเตอร์!!

    เฟี้ยวววว~~~~~~~~~~

    ผมรีบหันกลับไปกดหนูรันแนบพื้นห้องอีกครั้ง   ทันใดผมก็ได้ยินเสียงระเบิดดังกึกก้องกัมปนาท    และตามมาด้วยแรงอัดอากาศอย่างรุนแรง!!!

    ตูม!!!

    หูผมอื้อหนวกไปชั่วขณะ    ได้ยินแต่เสียงแห่งความว่างเปล่าอยู่ข้างในหู  ฝาผนังเรือด้านหนึ่งระเบิดแตกออก  เศษไม้ปลิวว่อน  รู้สึกได้ถึงแรงลมที่เข้ามาปะทะใบหน้า  ทำให้ดวงตาพร่ามัวเพราะฝุ่นผง   สะเก็ดระเบิดเฉียดศีรษะไปแค่ไม่กี่นิ้ว  หรือพูดให้ถูก  มันแทบจะสะกิดใบหูผมเลยทีเดียว  

    เสียงต่างๆ เริ่มกลับมาสู่โสตประสาทอีกครั้ง  ผมเงยหน้าขึ้นมองรอบด้าน  เศษไม้ตกอยู่รอบตัวรวมถึงบนศีรษะของหนูรันและก็ของผม  เธอไอโคลกเขลกสำลักกลุ่มควันและกลิ่นดินปืนที่คลุ้งกระจายจนฉุนกึก   ประตูห้องและผนังด้านซ้ายพังทลาย  แสงแดดส่องเป็นลำยาวทะลุทะลวงเข้ามาในห้องกัปตัน    ลมหนาวพัดโกรกกรูมาบาดผิว    ภาพที่ผมเห็นภายนอกคือลูกเรือต่างล้มกลิ้งกันระเนระนาด  

    “ยิงต้านพวกมันไว้ก่อน  เร็วๆ เข้าเจ้าพวกขี้เกียจทั้งหลาย” กิโรฮะตั้งสติลุกขึ้นยืน  พร้อมกับผลักพวกกะลาสีที่ยังงงๆ ทำอะไรไม่ถูก

    “ปืนช่องที่หนึ่งถึงห้าระดมยิงสกัด!!” มาคายถ่ายทอดคำสั่ง  ในมือกวัดแกว่งดาบเล่มโต  

    “ทุกกระบอกบรรจุกระสุนแล้วครับ!!” เสียงกะลาสีบอกออกมาจากห้องใต้ดาดฟ้า  

    “ยิง!!!” มาคายตะโกนก้องสั่งการ  พลางวาดดาบลง

    ตูม!!… ตูม!!… ตูม!!… ตูม!!… ตูม!!…

    พื้นเรือสั่นสะเทือนจนเศษไม้กระดอนขึ้นมา  ผมเห็นประกายไฟวูบวาบตรงกราบซ้ายพร้อมกับเสียงเปรี้ยงป้าง  กระสุนดินดำพุ่งออกจากแหล่ง  เรียงจากซ้ายไปขวาห้าลูกติดๆ กัน  ควันขาวโพยพุ่งเป็นลำออกมาจากปากกระบอกปืน

    “บรรจุกระสุนใหม่  ยิงออกไปให้เร็วที่สุด  อย่าหยุด  มีกระสุนเท่าไหร่  ยิงไปให้หมด!!”



    จากคุณ : ใบชา กล้าอ่อน (ณัฐกร) - [ 12 มี.ค. 47 11:31:28 ]